เรื่องเล่าจากการตั้งค่าที่ดูดีแต่ไม่จำเป็น: เมื่อการปิดบางฟีเจอร์ทำให้ Windows 11 เร็วขึ้นและปลอดภัยขึ้น
เมื่อคุณซื้อแล็ปท็อปใหม่ที่มาพร้อม Windows 11 ไม่ว่าจะเป็นรุ่น Home หรือ Pro คุณจะได้รับฟีเจอร์มากมายที่เปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ เพื่อให้ระบบดู “สมบูรณ์” แต่ในความเป็นจริง หลายฟีเจอร์เหล่านี้กลับทำให้เครื่องช้าลงโดยไม่จำเป็น และบางส่วนยังส่งข้อมูลกลับไปยัง Microsoft โดยที่คุณไม่ได้อนุญาตอย่างชัดเจน
ฟีเจอร์อย่าง Diagnostic Data, Targeted Ads, Widgets, Search Highlights และการแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็น ล้วนเป็นสิ่งที่ควรปิดทันทีหลังตั้งค่าเครื่อง เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นและลดการละเมิดความเป็นส่วนตัว
การปิดฟีเจอร์เหล่านี้ไม่ทำให้ระบบเสียหาย และสามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่านเมนู Settings โดย Microsoft ก็เปิดให้ผู้ใช้ควบคุมได้มากขึ้นในเวอร์ชันล่าสุด
Diagnostic Data (ข้อมูลการวินิจฉัย)
Windows 11 ส่งข้อมูลทั้งแบบจำเป็นและแบบเพิ่มเติมไปยัง Microsoft โดยอัตโนมัติ
สามารถปิดการส่งข้อมูลเพิ่มเติมได้ และลบข้อมูลที่เคยส่งไปแล้ว
ปิดการใช้ข้อมูลเพื่อแสดงคำแนะนำและโฆษณาแบบเฉพาะบุคคลได้
Targeted Ads (โฆษณาแบบเจาะจง)
ใช้ Advertising ID เพื่อแสดงโฆษณาตามพฤติกรรมของผู้ใช้
สามารถปิดการใช้ Advertising ID ได้ในเมนู Privacy & Security
ปิดการติดตามการเปิดแอปเพื่อปรับปรุง Start และ Search
Annoying Notifications (การแจ้งเตือนที่รบกวน)
Windows ส่งการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการอัปเดต, คำแนะนำ, และฟีเจอร์ใหม่
สามารถปิดการแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็นได้ในเมนู System > Notifications
ปรับแต่งการแจ้งเตือนจากแอปแต่ละตัวได้อย่างละเอียด
Widgets (วิดเจ็ต)
วิดเจ็ตแสดงข้อมูลแบบเรียลไทม์ เช่น ข่าว, สภาพอากาศ, หุ้น
ใช้ทรัพยากรระบบสูงเพราะอัปเดตตลอดเวลา
สามารถปิดวิดเจ็ตทั้งหมด หรือเลือกปิดเฉพาะบางตัวได้
Search Highlights (ไฮไลต์การค้นหา)
แสดงข้อมูลเช่นวันสำคัญ, ข่าว, เทรนด์ ในแถบค้นหา
ทำให้การค้นหาช้าลงและกินทรัพยากร
ปิดได้ในเมนู Privacy & Security > Search Permissions
https://www.slashgear.com/1962302/settings-to-disable-on-windows-11-laptop/
เมื่อคุณซื้อแล็ปท็อปใหม่ที่มาพร้อม Windows 11 ไม่ว่าจะเป็นรุ่น Home หรือ Pro คุณจะได้รับฟีเจอร์มากมายที่เปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ เพื่อให้ระบบดู “สมบูรณ์” แต่ในความเป็นจริง หลายฟีเจอร์เหล่านี้กลับทำให้เครื่องช้าลงโดยไม่จำเป็น และบางส่วนยังส่งข้อมูลกลับไปยัง Microsoft โดยที่คุณไม่ได้อนุญาตอย่างชัดเจน
ฟีเจอร์อย่าง Diagnostic Data, Targeted Ads, Widgets, Search Highlights และการแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็น ล้วนเป็นสิ่งที่ควรปิดทันทีหลังตั้งค่าเครื่อง เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นและลดการละเมิดความเป็นส่วนตัว
การปิดฟีเจอร์เหล่านี้ไม่ทำให้ระบบเสียหาย และสามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่านเมนู Settings โดย Microsoft ก็เปิดให้ผู้ใช้ควบคุมได้มากขึ้นในเวอร์ชันล่าสุด
Diagnostic Data (ข้อมูลการวินิจฉัย)
Windows 11 ส่งข้อมูลทั้งแบบจำเป็นและแบบเพิ่มเติมไปยัง Microsoft โดยอัตโนมัติ
สามารถปิดการส่งข้อมูลเพิ่มเติมได้ และลบข้อมูลที่เคยส่งไปแล้ว
ปิดการใช้ข้อมูลเพื่อแสดงคำแนะนำและโฆษณาแบบเฉพาะบุคคลได้
Targeted Ads (โฆษณาแบบเจาะจง)
ใช้ Advertising ID เพื่อแสดงโฆษณาตามพฤติกรรมของผู้ใช้
สามารถปิดการใช้ Advertising ID ได้ในเมนู Privacy & Security
ปิดการติดตามการเปิดแอปเพื่อปรับปรุง Start และ Search
Annoying Notifications (การแจ้งเตือนที่รบกวน)
Windows ส่งการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการอัปเดต, คำแนะนำ, และฟีเจอร์ใหม่
สามารถปิดการแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็นได้ในเมนู System > Notifications
ปรับแต่งการแจ้งเตือนจากแอปแต่ละตัวได้อย่างละเอียด
Widgets (วิดเจ็ต)
วิดเจ็ตแสดงข้อมูลแบบเรียลไทม์ เช่น ข่าว, สภาพอากาศ, หุ้น
ใช้ทรัพยากรระบบสูงเพราะอัปเดตตลอดเวลา
สามารถปิดวิดเจ็ตทั้งหมด หรือเลือกปิดเฉพาะบางตัวได้
Search Highlights (ไฮไลต์การค้นหา)
แสดงข้อมูลเช่นวันสำคัญ, ข่าว, เทรนด์ ในแถบค้นหา
ทำให้การค้นหาช้าลงและกินทรัพยากร
ปิดได้ในเมนู Privacy & Security > Search Permissions
https://www.slashgear.com/1962302/settings-to-disable-on-windows-11-laptop/
🎙️ เรื่องเล่าจากการตั้งค่าที่ดูดีแต่ไม่จำเป็น: เมื่อการปิดบางฟีเจอร์ทำให้ Windows 11 เร็วขึ้นและปลอดภัยขึ้น
เมื่อคุณซื้อแล็ปท็อปใหม่ที่มาพร้อม Windows 11 ไม่ว่าจะเป็นรุ่น Home หรือ Pro คุณจะได้รับฟีเจอร์มากมายที่เปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ เพื่อให้ระบบดู “สมบูรณ์” แต่ในความเป็นจริง หลายฟีเจอร์เหล่านี้กลับทำให้เครื่องช้าลงโดยไม่จำเป็น และบางส่วนยังส่งข้อมูลกลับไปยัง Microsoft โดยที่คุณไม่ได้อนุญาตอย่างชัดเจน
ฟีเจอร์อย่าง Diagnostic Data, Targeted Ads, Widgets, Search Highlights และการแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็น ล้วนเป็นสิ่งที่ควรปิดทันทีหลังตั้งค่าเครื่อง เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นและลดการละเมิดความเป็นส่วนตัว
การปิดฟีเจอร์เหล่านี้ไม่ทำให้ระบบเสียหาย และสามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่านเมนู Settings โดย Microsoft ก็เปิดให้ผู้ใช้ควบคุมได้มากขึ้นในเวอร์ชันล่าสุด
✅ Diagnostic Data (ข้อมูลการวินิจฉัย)
➡️ Windows 11 ส่งข้อมูลทั้งแบบจำเป็นและแบบเพิ่มเติมไปยัง Microsoft โดยอัตโนมัติ
➡️ สามารถปิดการส่งข้อมูลเพิ่มเติมได้ และลบข้อมูลที่เคยส่งไปแล้ว
➡️ ปิดการใช้ข้อมูลเพื่อแสดงคำแนะนำและโฆษณาแบบเฉพาะบุคคลได้
✅ Targeted Ads (โฆษณาแบบเจาะจง)
➡️ ใช้ Advertising ID เพื่อแสดงโฆษณาตามพฤติกรรมของผู้ใช้
➡️ สามารถปิดการใช้ Advertising ID ได้ในเมนู Privacy & Security
➡️ ปิดการติดตามการเปิดแอปเพื่อปรับปรุง Start และ Search
✅ Annoying Notifications (การแจ้งเตือนที่รบกวน)
➡️ Windows ส่งการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการอัปเดต, คำแนะนำ, และฟีเจอร์ใหม่
➡️ สามารถปิดการแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็นได้ในเมนู System > Notifications
➡️ ปรับแต่งการแจ้งเตือนจากแอปแต่ละตัวได้อย่างละเอียด
✅ Widgets (วิดเจ็ต)
➡️ วิดเจ็ตแสดงข้อมูลแบบเรียลไทม์ เช่น ข่าว, สภาพอากาศ, หุ้น
➡️ ใช้ทรัพยากรระบบสูงเพราะอัปเดตตลอดเวลา
➡️ สามารถปิดวิดเจ็ตทั้งหมด หรือเลือกปิดเฉพาะบางตัวได้
✅ Search Highlights (ไฮไลต์การค้นหา)
➡️ แสดงข้อมูลเช่นวันสำคัญ, ข่าว, เทรนด์ ในแถบค้นหา
➡️ ทำให้การค้นหาช้าลงและกินทรัพยากร
➡️ ปิดได้ในเมนู Privacy & Security > Search Permissions
https://www.slashgear.com/1962302/settings-to-disable-on-windows-11-laptop/
0 Comments
0 Shares
27 Views
0 Reviews