เรื่องเล่าจาก DuckDuckGo ถึง Grok: เมื่อ AI ไม่ได้แค่จำคำพูดคุณ แต่เรียนรู้วิธีโน้มน้าวคุณจากมัน
Gabriel Weinberg ผู้ก่อตั้ง DuckDuckGo เขียนบทความเตือนว่า AI surveillance กำลังกลายเป็นภัยเงียบที่รุนแรงกว่าการติดตามออนไลน์แบบเดิม เพราะแชตบอทไม่ได้แค่รับข้อมูล แต่สามารถ “เข้าใจ” และ “ปรับตัว” เพื่อโน้มน้าวคุณได้อย่างแม่นยำ
ต่างจากการค้นหาบน Google ที่เผยให้เห็นความสนใจหรือปัญหาเฉพาะหน้า การสนทนากับแชตบอทเผยให้เห็นกระบวนการคิด สไตล์การสื่อสาร และแม้แต่จุดอ่อนทางอารมณ์ของผู้ใช้ ซึ่งสามารถนำไปสร้างโปรไฟล์ที่ละเอียดมาก—และใช้เพื่อการโฆษณาเชิงพฤติกรรมหรือการชักจูงทางการเมือง
Weinberg ยกตัวอย่างว่า แชตบอทสามารถเสนอ “ข้อเท็จจริง” ที่ไม่ได้รับการตรวจสอบ หรือแนะนำผลิตภัณฑ์อย่างแนบเนียน โดยอิงจากรูปแบบการพูดของคุณเอง และยิ่งแชตบอทมีระบบความจำ (memory) ก็ยิ่งสามารถ fine-tune การโน้มน้าวให้ตรงจุดมากขึ้น
DuckDuckGo จึงเปิดตัว Duck.ai ซึ่งเป็นแชตบอทที่เน้นความเป็นส่วนตัว โดยไม่เก็บข้อมูลการสนทนา และให้ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะใช้ AI หรือไม่ในการค้นหา
แต่ในโลกจริง กลับมีเหตุการณ์ที่สวนทางกับแนวคิดนี้ เช่น Grok ของ X ที่รั่วข้อมูลการสนทนาหลายแสนรายการ, Perplexity ที่ถูกแฮกจนข้อมูลผู้ใช้หลุด, Anthropic ที่เปลี่ยนนโยบายให้เก็บข้อมูลการแชตเป็นค่าเริ่มต้น และ OpenAI ที่ประกาศวิสัยทัศน์ “super assistant” ที่ติดตามทุกการกระทำของผู้ใช้ แม้แต่ในโลกออฟไลน์
Weinberg เรียกร้องให้สภาคองเกรสเร่งออกกฎหมายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของ AI ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป เพราะสหรัฐฯ ยังไม่มีแม้แต่กฎหมายความเป็นส่วนตัวออนไลน์ทั่วไป และเวลาในการแก้ไขกำลังหมดลง
ความแตกต่างของ AI กับการติดตามออนไลน์แบบเดิม
แชตบอทเผยให้เห็นกระบวนการคิดและสไตล์การสื่อสาร
สร้างโปรไฟล์ที่ละเอียดกว่าการติดตามผ่าน search query
ใช้เพื่อการโน้มน้าวเชิงพฤติกรรมและการเมืองได้อย่างแนบเนียน
ตัวอย่างการละเมิดความเป็นส่วนตัว
Grok รั่วข้อมูลการสนทนาหลายแสนรายการ
Perplexity ถูกแฮกจนข้อมูลผู้ใช้หลุด
Anthropic เปลี่ยนนโยบายให้เก็บข้อมูลการแชตเป็นค่าเริ่มต้น
OpenAI วางแผนสร้าง “super assistant” ที่ติดตามทุกการกระทำของผู้ใช้
แนวทางของ DuckDuckGo
เปิดตัว Duck.ai ที่ไม่เก็บข้อมูลการสนทนา
ให้ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะใช้ AI หรือไม่
แสดงให้เห็นว่า AI ที่เคารพความเป็นส่วนตัวสามารถทำได้จริง
ข้อเรียกร้องด้านนโยบาย
เรียกร้องให้สภาคองเกรสออกกฎหมายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของ AI
ชี้ว่าสหรัฐฯ ยังไม่มีแม้แต่กฎหมายความเป็นส่วนตัวออนไลน์ทั่วไป
เตือนว่าเวลาในการแก้ไขกำลังหมดลง
https://gabrielweinberg.com/p/ai-surveillance-should-be-banned
Gabriel Weinberg ผู้ก่อตั้ง DuckDuckGo เขียนบทความเตือนว่า AI surveillance กำลังกลายเป็นภัยเงียบที่รุนแรงกว่าการติดตามออนไลน์แบบเดิม เพราะแชตบอทไม่ได้แค่รับข้อมูล แต่สามารถ “เข้าใจ” และ “ปรับตัว” เพื่อโน้มน้าวคุณได้อย่างแม่นยำ
ต่างจากการค้นหาบน Google ที่เผยให้เห็นความสนใจหรือปัญหาเฉพาะหน้า การสนทนากับแชตบอทเผยให้เห็นกระบวนการคิด สไตล์การสื่อสาร และแม้แต่จุดอ่อนทางอารมณ์ของผู้ใช้ ซึ่งสามารถนำไปสร้างโปรไฟล์ที่ละเอียดมาก—และใช้เพื่อการโฆษณาเชิงพฤติกรรมหรือการชักจูงทางการเมือง
Weinberg ยกตัวอย่างว่า แชตบอทสามารถเสนอ “ข้อเท็จจริง” ที่ไม่ได้รับการตรวจสอบ หรือแนะนำผลิตภัณฑ์อย่างแนบเนียน โดยอิงจากรูปแบบการพูดของคุณเอง และยิ่งแชตบอทมีระบบความจำ (memory) ก็ยิ่งสามารถ fine-tune การโน้มน้าวให้ตรงจุดมากขึ้น
DuckDuckGo จึงเปิดตัว Duck.ai ซึ่งเป็นแชตบอทที่เน้นความเป็นส่วนตัว โดยไม่เก็บข้อมูลการสนทนา และให้ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะใช้ AI หรือไม่ในการค้นหา
แต่ในโลกจริง กลับมีเหตุการณ์ที่สวนทางกับแนวคิดนี้ เช่น Grok ของ X ที่รั่วข้อมูลการสนทนาหลายแสนรายการ, Perplexity ที่ถูกแฮกจนข้อมูลผู้ใช้หลุด, Anthropic ที่เปลี่ยนนโยบายให้เก็บข้อมูลการแชตเป็นค่าเริ่มต้น และ OpenAI ที่ประกาศวิสัยทัศน์ “super assistant” ที่ติดตามทุกการกระทำของผู้ใช้ แม้แต่ในโลกออฟไลน์
Weinberg เรียกร้องให้สภาคองเกรสเร่งออกกฎหมายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของ AI ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป เพราะสหรัฐฯ ยังไม่มีแม้แต่กฎหมายความเป็นส่วนตัวออนไลน์ทั่วไป และเวลาในการแก้ไขกำลังหมดลง
ความแตกต่างของ AI กับการติดตามออนไลน์แบบเดิม
แชตบอทเผยให้เห็นกระบวนการคิดและสไตล์การสื่อสาร
สร้างโปรไฟล์ที่ละเอียดกว่าการติดตามผ่าน search query
ใช้เพื่อการโน้มน้าวเชิงพฤติกรรมและการเมืองได้อย่างแนบเนียน
ตัวอย่างการละเมิดความเป็นส่วนตัว
Grok รั่วข้อมูลการสนทนาหลายแสนรายการ
Perplexity ถูกแฮกจนข้อมูลผู้ใช้หลุด
Anthropic เปลี่ยนนโยบายให้เก็บข้อมูลการแชตเป็นค่าเริ่มต้น
OpenAI วางแผนสร้าง “super assistant” ที่ติดตามทุกการกระทำของผู้ใช้
แนวทางของ DuckDuckGo
เปิดตัว Duck.ai ที่ไม่เก็บข้อมูลการสนทนา
ให้ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะใช้ AI หรือไม่
แสดงให้เห็นว่า AI ที่เคารพความเป็นส่วนตัวสามารถทำได้จริง
ข้อเรียกร้องด้านนโยบาย
เรียกร้องให้สภาคองเกรสออกกฎหมายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของ AI
ชี้ว่าสหรัฐฯ ยังไม่มีแม้แต่กฎหมายความเป็นส่วนตัวออนไลน์ทั่วไป
เตือนว่าเวลาในการแก้ไขกำลังหมดลง
https://gabrielweinberg.com/p/ai-surveillance-should-be-banned
🎙️ เรื่องเล่าจาก DuckDuckGo ถึง Grok: เมื่อ AI ไม่ได้แค่จำคำพูดคุณ แต่เรียนรู้วิธีโน้มน้าวคุณจากมัน
Gabriel Weinberg ผู้ก่อตั้ง DuckDuckGo เขียนบทความเตือนว่า AI surveillance กำลังกลายเป็นภัยเงียบที่รุนแรงกว่าการติดตามออนไลน์แบบเดิม เพราะแชตบอทไม่ได้แค่รับข้อมูล แต่สามารถ “เข้าใจ” และ “ปรับตัว” เพื่อโน้มน้าวคุณได้อย่างแม่นยำ
ต่างจากการค้นหาบน Google ที่เผยให้เห็นความสนใจหรือปัญหาเฉพาะหน้า การสนทนากับแชตบอทเผยให้เห็นกระบวนการคิด สไตล์การสื่อสาร และแม้แต่จุดอ่อนทางอารมณ์ของผู้ใช้ ซึ่งสามารถนำไปสร้างโปรไฟล์ที่ละเอียดมาก—และใช้เพื่อการโฆษณาเชิงพฤติกรรมหรือการชักจูงทางการเมือง
Weinberg ยกตัวอย่างว่า แชตบอทสามารถเสนอ “ข้อเท็จจริง” ที่ไม่ได้รับการตรวจสอบ หรือแนะนำผลิตภัณฑ์อย่างแนบเนียน โดยอิงจากรูปแบบการพูดของคุณเอง และยิ่งแชตบอทมีระบบความจำ (memory) ก็ยิ่งสามารถ fine-tune การโน้มน้าวให้ตรงจุดมากขึ้น
DuckDuckGo จึงเปิดตัว Duck.ai ซึ่งเป็นแชตบอทที่เน้นความเป็นส่วนตัว โดยไม่เก็บข้อมูลการสนทนา และให้ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะใช้ AI หรือไม่ในการค้นหา
แต่ในโลกจริง กลับมีเหตุการณ์ที่สวนทางกับแนวคิดนี้ เช่น Grok ของ X ที่รั่วข้อมูลการสนทนาหลายแสนรายการ, Perplexity ที่ถูกแฮกจนข้อมูลผู้ใช้หลุด, Anthropic ที่เปลี่ยนนโยบายให้เก็บข้อมูลการแชตเป็นค่าเริ่มต้น และ OpenAI ที่ประกาศวิสัยทัศน์ “super assistant” ที่ติดตามทุกการกระทำของผู้ใช้ แม้แต่ในโลกออฟไลน์
Weinberg เรียกร้องให้สภาคองเกรสเร่งออกกฎหมายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของ AI ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป เพราะสหรัฐฯ ยังไม่มีแม้แต่กฎหมายความเป็นส่วนตัวออนไลน์ทั่วไป และเวลาในการแก้ไขกำลังหมดลง
✅ ความแตกต่างของ AI กับการติดตามออนไลน์แบบเดิม
➡️ แชตบอทเผยให้เห็นกระบวนการคิดและสไตล์การสื่อสาร
➡️ สร้างโปรไฟล์ที่ละเอียดกว่าการติดตามผ่าน search query
➡️ ใช้เพื่อการโน้มน้าวเชิงพฤติกรรมและการเมืองได้อย่างแนบเนียน
✅ ตัวอย่างการละเมิดความเป็นส่วนตัว
➡️ Grok รั่วข้อมูลการสนทนาหลายแสนรายการ
➡️ Perplexity ถูกแฮกจนข้อมูลผู้ใช้หลุด
➡️ Anthropic เปลี่ยนนโยบายให้เก็บข้อมูลการแชตเป็นค่าเริ่มต้น
➡️ OpenAI วางแผนสร้าง “super assistant” ที่ติดตามทุกการกระทำของผู้ใช้
✅ แนวทางของ DuckDuckGo
➡️ เปิดตัว Duck.ai ที่ไม่เก็บข้อมูลการสนทนา
➡️ ให้ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะใช้ AI หรือไม่
➡️ แสดงให้เห็นว่า AI ที่เคารพความเป็นส่วนตัวสามารถทำได้จริง
✅ ข้อเรียกร้องด้านนโยบาย
➡️ เรียกร้องให้สภาคองเกรสออกกฎหมายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของ AI
➡️ ชี้ว่าสหรัฐฯ ยังไม่มีแม้แต่กฎหมายความเป็นส่วนตัวออนไลน์ทั่วไป
➡️ เตือนว่าเวลาในการแก้ไขกำลังหมดลง
https://gabrielweinberg.com/p/ai-surveillance-should-be-banned
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
77 มุมมอง
0 รีวิว