เรื่องเล่าจาก 11.5 Tbps: เมื่อ DDoS ไม่ใช่แค่การโจมตี แต่คือการทดสอบโครงสร้างพื้นฐานของโลกออนไลน์
ในเดือนกันยายน 2025 Cloudflare ประกาศว่าได้ป้องกันการโจมตีแบบ DDoS (Distributed Denial-of-Service) ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยบันทึกไว้ โดยมีความแรงถึง 11.5 Tbps และกินเวลาราว 35 วินาที แม้จะสั้น แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้โครงสร้างพื้นฐานของอินเทอร์เน็ต “สะเทือน” หากไม่มีระบบป้องกันที่แข็งแกร่ง
การโจมตีครั้งนี้มาในรูปแบบ UDP flood ซึ่งเป็นการส่งข้อมูลแบบไร้การเชื่อมต่อจากอุปกรณ์ที่ถูกแฮ็ก เช่น IoT และ cloud VM จากหลายผู้ให้บริการ โดยในช่วงแรกมีการระบุว่า Google Cloud เป็นแหล่งหลักของทราฟฟิก แต่ภายหลังพบว่าเป็นการรวมกันจากหลายแหล่งที่ถูกควบคุมโดย botnet
เพื่อให้เห็นภาพ—11.5 Tbps เทียบเท่ากับการสตรีมภาพยนตร์ HD หลายพันเรื่องพร้อมกัน หรือการดาวน์โหลดข้อมูลหลายสิบเทราไบต์ในเวลาไม่ถึงนาที
แม้จะเป็นการโจมตีที่ใหญ่ที่สุด แต่ Cloudflare ระบุว่า “ขนาด” ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด การโจมตีที่อันตรายจริงคือแบบ multi-vector ที่มีความซับซ้อนและต่อเนื่อง ซึ่งสามารถทำให้ API ล่ม, เว็บไซต์ไม่ตอบสนอง หรือธุรกิจหยุดชะงักได้
RETN ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายระดับโลกเสริมว่า สิ่งที่วัดผลได้จริงคือ “ระบบยังออนไลน์อยู่หรือไม่” และพวกเขาได้เพิ่มความสามารถในการกรองข้อมูล (scrubbing capacity) มากกว่า 5000% เพื่อรับมือกับการโจมตีระดับนี้
รายละเอียดของการโจมตี
เป็น DDoS แบบ UDP flood ที่มีความแรงสูงสุด 11.5 Tbps
กินเวลาประมาณ 35 วินาทีโดยไม่มีผลกระทบต่อบริการของ Cloudflare
ทราฟฟิกมาจากอุปกรณ์ IoT และ cloud VM ที่ถูกควบคุมโดย botnet
ความหมายของขนาดการโจมตี
เทียบเท่าการสตรีมภาพยนตร์ HD หลายพันเรื่องพร้อมกัน
เป็นการทดสอบความสามารถของระบบอินเทอร์เน็ตระดับโลก
Cloudflare เคยรับมือกับการโจมตี 7.3 Tbps ในเดือนมิถุนายน และ 5.6 Tbps ในปี 2024
มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ
William Manzione จาก RETN ระบุว่า “ขนาดไม่ใช่ทุกอย่าง”
การโจมตีที่อันตรายคือแบบ multi-vector ที่มีความซับซ้อนและต่อเนื่อง
RETN เพิ่ม scrubbing capacity มากกว่า 5000% เพื่อรับมือกับ multi-terabit flood
ประสิทธิภาพของระบบป้องกัน
Cloudflare ใช้ระบบอัตโนมัติในการตรวจจับและบล็อกการโจมตี
ไม่มีการหยุดชะงักของเว็บไซต์หรือ API ของลูกค้า
แสดงถึงความสามารถในการป้องกันแบบ real-time ที่มีประสิทธิภาพสูง
https://hackread.com/cloudflare-mitigates-largest-ddos-attack-11-5-tbps/
ในเดือนกันยายน 2025 Cloudflare ประกาศว่าได้ป้องกันการโจมตีแบบ DDoS (Distributed Denial-of-Service) ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยบันทึกไว้ โดยมีความแรงถึง 11.5 Tbps และกินเวลาราว 35 วินาที แม้จะสั้น แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้โครงสร้างพื้นฐานของอินเทอร์เน็ต “สะเทือน” หากไม่มีระบบป้องกันที่แข็งแกร่ง
การโจมตีครั้งนี้มาในรูปแบบ UDP flood ซึ่งเป็นการส่งข้อมูลแบบไร้การเชื่อมต่อจากอุปกรณ์ที่ถูกแฮ็ก เช่น IoT และ cloud VM จากหลายผู้ให้บริการ โดยในช่วงแรกมีการระบุว่า Google Cloud เป็นแหล่งหลักของทราฟฟิก แต่ภายหลังพบว่าเป็นการรวมกันจากหลายแหล่งที่ถูกควบคุมโดย botnet
เพื่อให้เห็นภาพ—11.5 Tbps เทียบเท่ากับการสตรีมภาพยนตร์ HD หลายพันเรื่องพร้อมกัน หรือการดาวน์โหลดข้อมูลหลายสิบเทราไบต์ในเวลาไม่ถึงนาที
แม้จะเป็นการโจมตีที่ใหญ่ที่สุด แต่ Cloudflare ระบุว่า “ขนาด” ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด การโจมตีที่อันตรายจริงคือแบบ multi-vector ที่มีความซับซ้อนและต่อเนื่อง ซึ่งสามารถทำให้ API ล่ม, เว็บไซต์ไม่ตอบสนอง หรือธุรกิจหยุดชะงักได้
RETN ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายระดับโลกเสริมว่า สิ่งที่วัดผลได้จริงคือ “ระบบยังออนไลน์อยู่หรือไม่” และพวกเขาได้เพิ่มความสามารถในการกรองข้อมูล (scrubbing capacity) มากกว่า 5000% เพื่อรับมือกับการโจมตีระดับนี้
รายละเอียดของการโจมตี
เป็น DDoS แบบ UDP flood ที่มีความแรงสูงสุด 11.5 Tbps
กินเวลาประมาณ 35 วินาทีโดยไม่มีผลกระทบต่อบริการของ Cloudflare
ทราฟฟิกมาจากอุปกรณ์ IoT และ cloud VM ที่ถูกควบคุมโดย botnet
ความหมายของขนาดการโจมตี
เทียบเท่าการสตรีมภาพยนตร์ HD หลายพันเรื่องพร้อมกัน
เป็นการทดสอบความสามารถของระบบอินเทอร์เน็ตระดับโลก
Cloudflare เคยรับมือกับการโจมตี 7.3 Tbps ในเดือนมิถุนายน และ 5.6 Tbps ในปี 2024
มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ
William Manzione จาก RETN ระบุว่า “ขนาดไม่ใช่ทุกอย่าง”
การโจมตีที่อันตรายคือแบบ multi-vector ที่มีความซับซ้อนและต่อเนื่อง
RETN เพิ่ม scrubbing capacity มากกว่า 5000% เพื่อรับมือกับ multi-terabit flood
ประสิทธิภาพของระบบป้องกัน
Cloudflare ใช้ระบบอัตโนมัติในการตรวจจับและบล็อกการโจมตี
ไม่มีการหยุดชะงักของเว็บไซต์หรือ API ของลูกค้า
แสดงถึงความสามารถในการป้องกันแบบ real-time ที่มีประสิทธิภาพสูง
https://hackread.com/cloudflare-mitigates-largest-ddos-attack-11-5-tbps/
🎙️ เรื่องเล่าจาก 11.5 Tbps: เมื่อ DDoS ไม่ใช่แค่การโจมตี แต่คือการทดสอบโครงสร้างพื้นฐานของโลกออนไลน์
ในเดือนกันยายน 2025 Cloudflare ประกาศว่าได้ป้องกันการโจมตีแบบ DDoS (Distributed Denial-of-Service) ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยบันทึกไว้ โดยมีความแรงถึง 11.5 Tbps และกินเวลาราว 35 วินาที แม้จะสั้น แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้โครงสร้างพื้นฐานของอินเทอร์เน็ต “สะเทือน” หากไม่มีระบบป้องกันที่แข็งแกร่ง
การโจมตีครั้งนี้มาในรูปแบบ UDP flood ซึ่งเป็นการส่งข้อมูลแบบไร้การเชื่อมต่อจากอุปกรณ์ที่ถูกแฮ็ก เช่น IoT และ cloud VM จากหลายผู้ให้บริการ โดยในช่วงแรกมีการระบุว่า Google Cloud เป็นแหล่งหลักของทราฟฟิก แต่ภายหลังพบว่าเป็นการรวมกันจากหลายแหล่งที่ถูกควบคุมโดย botnet
เพื่อให้เห็นภาพ—11.5 Tbps เทียบเท่ากับการสตรีมภาพยนตร์ HD หลายพันเรื่องพร้อมกัน หรือการดาวน์โหลดข้อมูลหลายสิบเทราไบต์ในเวลาไม่ถึงนาที
แม้จะเป็นการโจมตีที่ใหญ่ที่สุด แต่ Cloudflare ระบุว่า “ขนาด” ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด การโจมตีที่อันตรายจริงคือแบบ multi-vector ที่มีความซับซ้อนและต่อเนื่อง ซึ่งสามารถทำให้ API ล่ม, เว็บไซต์ไม่ตอบสนอง หรือธุรกิจหยุดชะงักได้
RETN ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายระดับโลกเสริมว่า สิ่งที่วัดผลได้จริงคือ “ระบบยังออนไลน์อยู่หรือไม่” และพวกเขาได้เพิ่มความสามารถในการกรองข้อมูล (scrubbing capacity) มากกว่า 5000% เพื่อรับมือกับการโจมตีระดับนี้
✅ รายละเอียดของการโจมตี
➡️ เป็น DDoS แบบ UDP flood ที่มีความแรงสูงสุด 11.5 Tbps
➡️ กินเวลาประมาณ 35 วินาทีโดยไม่มีผลกระทบต่อบริการของ Cloudflare
➡️ ทราฟฟิกมาจากอุปกรณ์ IoT และ cloud VM ที่ถูกควบคุมโดย botnet
✅ ความหมายของขนาดการโจมตี
➡️ เทียบเท่าการสตรีมภาพยนตร์ HD หลายพันเรื่องพร้อมกัน
➡️ เป็นการทดสอบความสามารถของระบบอินเทอร์เน็ตระดับโลก
➡️ Cloudflare เคยรับมือกับการโจมตี 7.3 Tbps ในเดือนมิถุนายน และ 5.6 Tbps ในปี 2024
✅ มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ
➡️ William Manzione จาก RETN ระบุว่า “ขนาดไม่ใช่ทุกอย่าง”
➡️ การโจมตีที่อันตรายคือแบบ multi-vector ที่มีความซับซ้อนและต่อเนื่อง
➡️ RETN เพิ่ม scrubbing capacity มากกว่า 5000% เพื่อรับมือกับ multi-terabit flood
✅ ประสิทธิภาพของระบบป้องกัน
➡️ Cloudflare ใช้ระบบอัตโนมัติในการตรวจจับและบล็อกการโจมตี
➡️ ไม่มีการหยุดชะงักของเว็บไซต์หรือ API ของลูกค้า
➡️ แสดงถึงความสามารถในการป้องกันแบบ real-time ที่มีประสิทธิภาพสูง
https://hackread.com/cloudflare-mitigates-largest-ddos-attack-11-5-tbps/
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
43 มุมมอง
0 รีวิว