เรื่องเล่าจากคดีผูกขาด: เมื่อ Google รอดจากการถูกแยกบริษัท แต่ต้องยอมปล่อยข้อมูลให้คู่แข่ง
ย้อนกลับไปในปี 2024 ศาลแขวงสหรัฐฯ ตัดสินว่า Google มีพฤติกรรมผูกขาดในตลาดการค้นหาออนไลน์ โดยใช้สัญญาแบบผูกขาดกับ Apple, Samsung และผู้ให้บริการมือถือ เพื่อให้ Google Search เป็นค่าเริ่มต้นบนอุปกรณ์ต่าง ๆ ซึ่งทำให้คู่แข่งไม่มีโอกาสเข้าถึงผู้ใช้
ล่าสุดในเดือนกันยายน 2025 ผู้พิพากษา Amit Mehta ได้ออกคำตัดสินเกี่ยวกับ “บทลงโทษ” ที่ Google ต้องรับผิดชอบ โดยปฏิเสธข้อเสนอของกระทรวงยุติธรรมที่ต้องการให้ Google ขาย Chrome และ Android ออกไป โดยระบุว่า “เป็นการลงโทษเกินขอบเขต” และอาจทำให้ผู้บริโภคเสียประโยชน์
แต่ Google ก็ไม่ได้รอดทั้งหมด—ศาลสั่งให้บริษัทต้องเปิดเผยข้อมูลบางส่วนจากระบบค้นหา เช่น index และข้อมูลการคลิกของผู้ใช้ ให้กับคู่แข่งภายใต้เงื่อนไขทางการค้าแบบปกติ เพื่อเปิดตลาดให้มีการแข่งขันมากขึ้น และห้ามทำสัญญาแบบ exclusive ที่ผูกการจ่ายเงินกับการติดตั้ง Search, Chrome หรือ Gemini บนอุปกรณ์
ที่น่าสนใจคือ ศาลยังระบุว่า “Generative AI” เช่น Gemini ก็อยู่ภายใต้ข้อจำกัดเดียวกัน เพราะถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่อาจใช้กลยุทธ์ผูกขาดแบบเดียวกับ Search ได้ในอนาคต
ผลการตัดสินของศาลกลางสหรัฐฯ
Google ไม่ต้องขาย Chrome หรือ Android ออกไป
ศาลเห็นว่าการบังคับขายจะส่งผลเสียต่อผู้บริโภคและคู่ค้า
แต่ Google ต้องเปิดเผยข้อมูล index และ user interaction ให้คู่แข่ง
ข้อจำกัดใหม่ที่ Google ต้องปฏิบัติตาม
ห้ามทำสัญญาแบบ exclusive ที่ผูกการจ่ายเงินกับการติดตั้ง Search หรือ Chrome
ห้ามผูกการติดตั้ง Gemini หรือ GenAI กับการเข้าถึง Play Store หรือแอปอื่น
ข้อจำกัดเหล่านี้มีผลบังคับใช้เป็นเวลา 6 ปี
ผลกระทบต่อตลาดและหุ้น
หุ้น Alphabet พุ่งขึ้น 7–8% หลังข่าวออก
หุ้น Apple ก็ขึ้น 3–4% เพราะดีลกับ Google ยังอยู่
นักลงทุนมองว่าคำตัดสินนี้เป็น “ชัยชนะเชิงกลยุทธ์” สำหรับทั้งสองบริษัท
การขยายผลไปยัง GenAI
ศาลระบุว่า GenAI เช่น Gemini ต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัดเดียวกับ Search
ป้องกันไม่ให้ Google ใช้กลยุทธ์ผูกขาดแบบเดิมในตลาด AI
เป็นครั้งแรกที่ GenAI ถูกพิจารณาในบริบทของกฎหมายผูกขาด
https://www.cnbc.com/2025/09/02/google-antitrust-search-ruling.html
ย้อนกลับไปในปี 2024 ศาลแขวงสหรัฐฯ ตัดสินว่า Google มีพฤติกรรมผูกขาดในตลาดการค้นหาออนไลน์ โดยใช้สัญญาแบบผูกขาดกับ Apple, Samsung และผู้ให้บริการมือถือ เพื่อให้ Google Search เป็นค่าเริ่มต้นบนอุปกรณ์ต่าง ๆ ซึ่งทำให้คู่แข่งไม่มีโอกาสเข้าถึงผู้ใช้
ล่าสุดในเดือนกันยายน 2025 ผู้พิพากษา Amit Mehta ได้ออกคำตัดสินเกี่ยวกับ “บทลงโทษ” ที่ Google ต้องรับผิดชอบ โดยปฏิเสธข้อเสนอของกระทรวงยุติธรรมที่ต้องการให้ Google ขาย Chrome และ Android ออกไป โดยระบุว่า “เป็นการลงโทษเกินขอบเขต” และอาจทำให้ผู้บริโภคเสียประโยชน์
แต่ Google ก็ไม่ได้รอดทั้งหมด—ศาลสั่งให้บริษัทต้องเปิดเผยข้อมูลบางส่วนจากระบบค้นหา เช่น index และข้อมูลการคลิกของผู้ใช้ ให้กับคู่แข่งภายใต้เงื่อนไขทางการค้าแบบปกติ เพื่อเปิดตลาดให้มีการแข่งขันมากขึ้น และห้ามทำสัญญาแบบ exclusive ที่ผูกการจ่ายเงินกับการติดตั้ง Search, Chrome หรือ Gemini บนอุปกรณ์
ที่น่าสนใจคือ ศาลยังระบุว่า “Generative AI” เช่น Gemini ก็อยู่ภายใต้ข้อจำกัดเดียวกัน เพราะถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่อาจใช้กลยุทธ์ผูกขาดแบบเดียวกับ Search ได้ในอนาคต
ผลการตัดสินของศาลกลางสหรัฐฯ
Google ไม่ต้องขาย Chrome หรือ Android ออกไป
ศาลเห็นว่าการบังคับขายจะส่งผลเสียต่อผู้บริโภคและคู่ค้า
แต่ Google ต้องเปิดเผยข้อมูล index และ user interaction ให้คู่แข่ง
ข้อจำกัดใหม่ที่ Google ต้องปฏิบัติตาม
ห้ามทำสัญญาแบบ exclusive ที่ผูกการจ่ายเงินกับการติดตั้ง Search หรือ Chrome
ห้ามผูกการติดตั้ง Gemini หรือ GenAI กับการเข้าถึง Play Store หรือแอปอื่น
ข้อจำกัดเหล่านี้มีผลบังคับใช้เป็นเวลา 6 ปี
ผลกระทบต่อตลาดและหุ้น
หุ้น Alphabet พุ่งขึ้น 7–8% หลังข่าวออก
หุ้น Apple ก็ขึ้น 3–4% เพราะดีลกับ Google ยังอยู่
นักลงทุนมองว่าคำตัดสินนี้เป็น “ชัยชนะเชิงกลยุทธ์” สำหรับทั้งสองบริษัท
การขยายผลไปยัง GenAI
ศาลระบุว่า GenAI เช่น Gemini ต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัดเดียวกับ Search
ป้องกันไม่ให้ Google ใช้กลยุทธ์ผูกขาดแบบเดิมในตลาด AI
เป็นครั้งแรกที่ GenAI ถูกพิจารณาในบริบทของกฎหมายผูกขาด
https://www.cnbc.com/2025/09/02/google-antitrust-search-ruling.html
🎙️ เรื่องเล่าจากคดีผูกขาด: เมื่อ Google รอดจากการถูกแยกบริษัท แต่ต้องยอมปล่อยข้อมูลให้คู่แข่ง
ย้อนกลับไปในปี 2024 ศาลแขวงสหรัฐฯ ตัดสินว่า Google มีพฤติกรรมผูกขาดในตลาดการค้นหาออนไลน์ โดยใช้สัญญาแบบผูกขาดกับ Apple, Samsung และผู้ให้บริการมือถือ เพื่อให้ Google Search เป็นค่าเริ่มต้นบนอุปกรณ์ต่าง ๆ ซึ่งทำให้คู่แข่งไม่มีโอกาสเข้าถึงผู้ใช้
ล่าสุดในเดือนกันยายน 2025 ผู้พิพากษา Amit Mehta ได้ออกคำตัดสินเกี่ยวกับ “บทลงโทษ” ที่ Google ต้องรับผิดชอบ โดยปฏิเสธข้อเสนอของกระทรวงยุติธรรมที่ต้องการให้ Google ขาย Chrome และ Android ออกไป โดยระบุว่า “เป็นการลงโทษเกินขอบเขต” และอาจทำให้ผู้บริโภคเสียประโยชน์
แต่ Google ก็ไม่ได้รอดทั้งหมด—ศาลสั่งให้บริษัทต้องเปิดเผยข้อมูลบางส่วนจากระบบค้นหา เช่น index และข้อมูลการคลิกของผู้ใช้ ให้กับคู่แข่งภายใต้เงื่อนไขทางการค้าแบบปกติ เพื่อเปิดตลาดให้มีการแข่งขันมากขึ้น และห้ามทำสัญญาแบบ exclusive ที่ผูกการจ่ายเงินกับการติดตั้ง Search, Chrome หรือ Gemini บนอุปกรณ์
ที่น่าสนใจคือ ศาลยังระบุว่า “Generative AI” เช่น Gemini ก็อยู่ภายใต้ข้อจำกัดเดียวกัน เพราะถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่อาจใช้กลยุทธ์ผูกขาดแบบเดียวกับ Search ได้ในอนาคต
✅ ผลการตัดสินของศาลกลางสหรัฐฯ
➡️ Google ไม่ต้องขาย Chrome หรือ Android ออกไป
➡️ ศาลเห็นว่าการบังคับขายจะส่งผลเสียต่อผู้บริโภคและคู่ค้า
➡️ แต่ Google ต้องเปิดเผยข้อมูล index และ user interaction ให้คู่แข่ง
✅ ข้อจำกัดใหม่ที่ Google ต้องปฏิบัติตาม
➡️ ห้ามทำสัญญาแบบ exclusive ที่ผูกการจ่ายเงินกับการติดตั้ง Search หรือ Chrome
➡️ ห้ามผูกการติดตั้ง Gemini หรือ GenAI กับการเข้าถึง Play Store หรือแอปอื่น
➡️ ข้อจำกัดเหล่านี้มีผลบังคับใช้เป็นเวลา 6 ปี
✅ ผลกระทบต่อตลาดและหุ้น
➡️ หุ้น Alphabet พุ่งขึ้น 7–8% หลังข่าวออก
➡️ หุ้น Apple ก็ขึ้น 3–4% เพราะดีลกับ Google ยังอยู่
➡️ นักลงทุนมองว่าคำตัดสินนี้เป็น “ชัยชนะเชิงกลยุทธ์” สำหรับทั้งสองบริษัท
✅ การขยายผลไปยัง GenAI
➡️ ศาลระบุว่า GenAI เช่น Gemini ต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัดเดียวกับ Search
➡️ ป้องกันไม่ให้ Google ใช้กลยุทธ์ผูกขาดแบบเดิมในตลาด AI
➡️ เป็นครั้งแรกที่ GenAI ถูกพิจารณาในบริบทของกฎหมายผูกขาด
https://www.cnbc.com/2025/09/02/google-antitrust-search-ruling.html
0 Comments
0 Shares
42 Views
0 Reviews