เรื่องเล่าจากเบื้องหลัง Coinbase: เมื่อภัยไซเบอร์มาในรูปแบบ “สินบน”
ในเดือนพฤษภาคม 2025 บริษัทคริปโตยักษ์ใหญ่ Coinbase ได้รับอีเมลจากแฮกเกอร์นิรนาม แจ้งว่าพวกเขาได้ข้อมูลลูกค้าจำนวนหนึ่ง พร้อมเอกสารภายในของบริษัท โดยขู่เรียกค่าไถ่ถึง 20 ล้านดอลลาร์เพื่อไม่ให้เผยแพร่ข้อมูล
แต่สิ่งที่น่าตกใจไม่ใช่แค่การขโมยข้อมูล — แต่เป็น “วิธีการ” ที่แฮกเกอร์ใช้: พวกเขาเสนอสินบนให้พนักงาน outsource ที่ศูนย์บริการลูกค้าในอินเดีย (TaskUs) เพื่อให้เข้าถึงระบบภายใน โดยมีการจ่ายเงินสูงถึง 2,500 ดอลลาร์ต่อคนเพื่อให้คัดลอกข้อมูลจากระบบสนับสนุนลูกค้า
ข้อมูลที่ถูกขโมยมีทั้งชื่อ เบอร์โทร อีเมล หมายเลขประกันสังคม และข้อมูลบัญชีธนาคารแบบ masked รวมถึงข้อมูลการใช้งานของลูกค้ากว่า 70,000 ราย — คิดเป็น 1% ของผู้ใช้งานรายเดือนของ Coinbase
Coinbase ปฏิเสธที่จะจ่ายค่าไถ่ และสวนกลับด้วยการตั้งค่าหัวแฮกเกอร์ 20 ล้านดอลลาร์ พร้อมให้คำมั่นว่าจะชดเชยลูกค้าที่ตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงผ่าน social engineering และปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยให้เข้มแข็งขึ้น
นอกจากนี้ Coinbase ยังไล่พนักงานที่รับสินบนออกทันที และแจ้งหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศให้ดำเนินคดี ส่วน TaskUs ก็หยุดให้บริการ Coinbase ที่ศูนย์ในอินเดีย และปลดพนักงานกว่า 226 คน
สิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญชี้คือ “การติดสินบน” กำลังกลายเป็นช่องทางใหม่ของแฮกเกอร์ในการเจาะระบบองค์กร โดยเฉพาะเมื่อการโจมตีแบบเดิม เช่น phishing เริ่มถูกป้องกันได้ดีขึ้น
สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
Coinbase ถูกแฮกเกอร์ขู่เรียกค่าไถ่ 20 ล้านดอลลาร์จากข้อมูลลูกค้าและเอกสารภายใน
แฮกเกอร์ใช้วิธีติดสินบนพนักงาน outsource ที่บริษัท TaskUs ในอินเดีย
มีการเสนอเงินสูงถึง $2,500 ต่อคนเพื่อให้คัดลอกข้อมูลจากระบบสนับสนุนลูกค้า
ข้อมูลที่ถูกขโมยรวมถึงชื่อ เบอร์โทร อีเมล หมายเลขประกันสังคม และข้อมูลบัญชี
Coinbase ปฏิเสธการจ่ายค่าไถ่ และตั้งค่าหัวแฮกเกอร์เป็นเงินเท่ากัน
บริษัทให้คำมั่นว่าจะชดเชยลูกค้าที่ตกเป็นเหยื่อ social engineering
พนักงานที่รับสินบนถูกไล่ออกทันที และถูกแจ้งความดำเนินคดี
TaskUs หยุดให้บริการ Coinbase ที่ศูนย์ในอินเดีย และปลดพนักงาน 226 คน
Coinbase ประเมินค่าเสียหายและค่าชดเชยอยู่ระหว่าง $180M ถึง $400M
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ฝึกอบรมพนักงานเรื่องการรับมือกับการติดสินบน
ข้อมูลเสริมจากภายนอก
กลุ่มแฮกเกอร์ “The Com” อ้างว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตี แต่ยังไม่มีการยืนยัน
การติดสินบนพนักงานเพื่อเข้าถึงข้อมูลภายในเคยเกิดขึ้นกับ Tesla ในปี 2020
การใช้สินบนเป็นช่องทางโจมตีองค์กรกำลังเพิ่มขึ้นในหลายอุตสาหกรรม
การฝึกอบรมพนักงานให้รู้เท่าทันการติดสินบนควรเป็นส่วนหนึ่งของแผนความปลอดภัย
การตั้งศูนย์บริการใหม่ในสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในมาตรการป้องกันของ Coinbase
https://www.csoonline.com/article/4042522/behind-the-coinbase-breach-bribery-is-an-emerging-enterprise-threat.html
ในเดือนพฤษภาคม 2025 บริษัทคริปโตยักษ์ใหญ่ Coinbase ได้รับอีเมลจากแฮกเกอร์นิรนาม แจ้งว่าพวกเขาได้ข้อมูลลูกค้าจำนวนหนึ่ง พร้อมเอกสารภายในของบริษัท โดยขู่เรียกค่าไถ่ถึง 20 ล้านดอลลาร์เพื่อไม่ให้เผยแพร่ข้อมูล
แต่สิ่งที่น่าตกใจไม่ใช่แค่การขโมยข้อมูล — แต่เป็น “วิธีการ” ที่แฮกเกอร์ใช้: พวกเขาเสนอสินบนให้พนักงาน outsource ที่ศูนย์บริการลูกค้าในอินเดีย (TaskUs) เพื่อให้เข้าถึงระบบภายใน โดยมีการจ่ายเงินสูงถึง 2,500 ดอลลาร์ต่อคนเพื่อให้คัดลอกข้อมูลจากระบบสนับสนุนลูกค้า
ข้อมูลที่ถูกขโมยมีทั้งชื่อ เบอร์โทร อีเมล หมายเลขประกันสังคม และข้อมูลบัญชีธนาคารแบบ masked รวมถึงข้อมูลการใช้งานของลูกค้ากว่า 70,000 ราย — คิดเป็น 1% ของผู้ใช้งานรายเดือนของ Coinbase
Coinbase ปฏิเสธที่จะจ่ายค่าไถ่ และสวนกลับด้วยการตั้งค่าหัวแฮกเกอร์ 20 ล้านดอลลาร์ พร้อมให้คำมั่นว่าจะชดเชยลูกค้าที่ตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงผ่าน social engineering และปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยให้เข้มแข็งขึ้น
นอกจากนี้ Coinbase ยังไล่พนักงานที่รับสินบนออกทันที และแจ้งหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศให้ดำเนินคดี ส่วน TaskUs ก็หยุดให้บริการ Coinbase ที่ศูนย์ในอินเดีย และปลดพนักงานกว่า 226 คน
สิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญชี้คือ “การติดสินบน” กำลังกลายเป็นช่องทางใหม่ของแฮกเกอร์ในการเจาะระบบองค์กร โดยเฉพาะเมื่อการโจมตีแบบเดิม เช่น phishing เริ่มถูกป้องกันได้ดีขึ้น
สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
Coinbase ถูกแฮกเกอร์ขู่เรียกค่าไถ่ 20 ล้านดอลลาร์จากข้อมูลลูกค้าและเอกสารภายใน
แฮกเกอร์ใช้วิธีติดสินบนพนักงาน outsource ที่บริษัท TaskUs ในอินเดีย
มีการเสนอเงินสูงถึง $2,500 ต่อคนเพื่อให้คัดลอกข้อมูลจากระบบสนับสนุนลูกค้า
ข้อมูลที่ถูกขโมยรวมถึงชื่อ เบอร์โทร อีเมล หมายเลขประกันสังคม และข้อมูลบัญชี
Coinbase ปฏิเสธการจ่ายค่าไถ่ และตั้งค่าหัวแฮกเกอร์เป็นเงินเท่ากัน
บริษัทให้คำมั่นว่าจะชดเชยลูกค้าที่ตกเป็นเหยื่อ social engineering
พนักงานที่รับสินบนถูกไล่ออกทันที และถูกแจ้งความดำเนินคดี
TaskUs หยุดให้บริการ Coinbase ที่ศูนย์ในอินเดีย และปลดพนักงาน 226 คน
Coinbase ประเมินค่าเสียหายและค่าชดเชยอยู่ระหว่าง $180M ถึง $400M
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ฝึกอบรมพนักงานเรื่องการรับมือกับการติดสินบน
ข้อมูลเสริมจากภายนอก
กลุ่มแฮกเกอร์ “The Com” อ้างว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตี แต่ยังไม่มีการยืนยัน
การติดสินบนพนักงานเพื่อเข้าถึงข้อมูลภายในเคยเกิดขึ้นกับ Tesla ในปี 2020
การใช้สินบนเป็นช่องทางโจมตีองค์กรกำลังเพิ่มขึ้นในหลายอุตสาหกรรม
การฝึกอบรมพนักงานให้รู้เท่าทันการติดสินบนควรเป็นส่วนหนึ่งของแผนความปลอดภัย
การตั้งศูนย์บริการใหม่ในสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในมาตรการป้องกันของ Coinbase
https://www.csoonline.com/article/4042522/behind-the-coinbase-breach-bribery-is-an-emerging-enterprise-threat.html
💸 เรื่องเล่าจากเบื้องหลัง Coinbase: เมื่อภัยไซเบอร์มาในรูปแบบ “สินบน”
ในเดือนพฤษภาคม 2025 บริษัทคริปโตยักษ์ใหญ่ Coinbase ได้รับอีเมลจากแฮกเกอร์นิรนาม แจ้งว่าพวกเขาได้ข้อมูลลูกค้าจำนวนหนึ่ง พร้อมเอกสารภายในของบริษัท โดยขู่เรียกค่าไถ่ถึง 20 ล้านดอลลาร์เพื่อไม่ให้เผยแพร่ข้อมูล
แต่สิ่งที่น่าตกใจไม่ใช่แค่การขโมยข้อมูล — แต่เป็น “วิธีการ” ที่แฮกเกอร์ใช้: พวกเขาเสนอสินบนให้พนักงาน outsource ที่ศูนย์บริการลูกค้าในอินเดีย (TaskUs) เพื่อให้เข้าถึงระบบภายใน โดยมีการจ่ายเงินสูงถึง 2,500 ดอลลาร์ต่อคนเพื่อให้คัดลอกข้อมูลจากระบบสนับสนุนลูกค้า
ข้อมูลที่ถูกขโมยมีทั้งชื่อ เบอร์โทร อีเมล หมายเลขประกันสังคม และข้อมูลบัญชีธนาคารแบบ masked รวมถึงข้อมูลการใช้งานของลูกค้ากว่า 70,000 ราย — คิดเป็น 1% ของผู้ใช้งานรายเดือนของ Coinbase
Coinbase ปฏิเสธที่จะจ่ายค่าไถ่ และสวนกลับด้วยการตั้งค่าหัวแฮกเกอร์ 20 ล้านดอลลาร์ พร้อมให้คำมั่นว่าจะชดเชยลูกค้าที่ตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงผ่าน social engineering และปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยให้เข้มแข็งขึ้น
นอกจากนี้ Coinbase ยังไล่พนักงานที่รับสินบนออกทันที และแจ้งหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศให้ดำเนินคดี ส่วน TaskUs ก็หยุดให้บริการ Coinbase ที่ศูนย์ในอินเดีย และปลดพนักงานกว่า 226 คน
สิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญชี้คือ “การติดสินบน” กำลังกลายเป็นช่องทางใหม่ของแฮกเกอร์ในการเจาะระบบองค์กร โดยเฉพาะเมื่อการโจมตีแบบเดิม เช่น phishing เริ่มถูกป้องกันได้ดีขึ้น
📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
➡️ Coinbase ถูกแฮกเกอร์ขู่เรียกค่าไถ่ 20 ล้านดอลลาร์จากข้อมูลลูกค้าและเอกสารภายใน
➡️ แฮกเกอร์ใช้วิธีติดสินบนพนักงาน outsource ที่บริษัท TaskUs ในอินเดีย
➡️ มีการเสนอเงินสูงถึง $2,500 ต่อคนเพื่อให้คัดลอกข้อมูลจากระบบสนับสนุนลูกค้า
➡️ ข้อมูลที่ถูกขโมยรวมถึงชื่อ เบอร์โทร อีเมล หมายเลขประกันสังคม และข้อมูลบัญชี
➡️ Coinbase ปฏิเสธการจ่ายค่าไถ่ และตั้งค่าหัวแฮกเกอร์เป็นเงินเท่ากัน
➡️ บริษัทให้คำมั่นว่าจะชดเชยลูกค้าที่ตกเป็นเหยื่อ social engineering
➡️ พนักงานที่รับสินบนถูกไล่ออกทันที และถูกแจ้งความดำเนินคดี
➡️ TaskUs หยุดให้บริการ Coinbase ที่ศูนย์ในอินเดีย และปลดพนักงาน 226 คน
➡️ Coinbase ประเมินค่าเสียหายและค่าชดเชยอยู่ระหว่าง $180M ถึง $400M
➡️ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ฝึกอบรมพนักงานเรื่องการรับมือกับการติดสินบน
✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก
➡️ กลุ่มแฮกเกอร์ “The Com” อ้างว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตี แต่ยังไม่มีการยืนยัน
➡️ การติดสินบนพนักงานเพื่อเข้าถึงข้อมูลภายในเคยเกิดขึ้นกับ Tesla ในปี 2020
➡️ การใช้สินบนเป็นช่องทางโจมตีองค์กรกำลังเพิ่มขึ้นในหลายอุตสาหกรรม
➡️ การฝึกอบรมพนักงานให้รู้เท่าทันการติดสินบนควรเป็นส่วนหนึ่งของแผนความปลอดภัย
➡️ การตั้งศูนย์บริการใหม่ในสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในมาตรการป้องกันของ Coinbase
https://www.csoonline.com/article/4042522/behind-the-coinbase-breach-bribery-is-an-emerging-enterprise-threat.html
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
32 มุมมอง
0 รีวิว