“สวิตช์แสง” ที่อาจเปลี่ยนโลกของดาต้าเซ็นเตอร์และ AI ไปตลอดกาล
ลองจินตนาการว่าเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์ที่เราพึ่งพาอยู่ทุกวันนี้สามารถเร็วขึ้นได้ถึง 1,000 เท่า และใช้พลังงานน้อยลงอย่างมหาศาล — นั่นคือสิ่งที่ Finchetto บริษัทสตาร์ทอัพด้านโฟโตนิกส์กำลังพัฒนาอยู่
ปัญหาใหญ่ของการสวิตช์ข้อมูลในเครือข่ายคือการต้องแปลงสัญญาณแสงเป็นไฟฟ้าเพื่ออ่านหัวแพ็กเก็ต แล้วค่อยส่งต่อไปยังปลายทาง ซึ่งกระบวนการนี้ช้าและกินไฟมาก Finchetto เสนอวิธีใหม่โดยใช้ “สองความยาวคลื่น” — หนึ่งสำหรับข้อมูล และอีกหนึ่งสำหรับหัวแพ็กเก็ต — เพื่อให้สามารถสวิตช์ข้อมูลได้โดยไม่ต้องใช้วงจรไฟฟ้าเลย
ผลลัพธ์คือการสวิตช์ข้อมูลด้วยแสงล้วน ที่เร็วระดับนาโนวินาที และใช้พลังงานเพียง 38 วัตต์ ซึ่งน้อยกว่าสวิตช์แบบเดิมถึง 26–53 เท่า! ที่สำคัญคือมันยัง “future-proof” เพราะสามารถรองรับความเร็วเครือข่ายในอนาคตได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนฮาร์ดแวร์
เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในช่วงต้น แต่ Finchetto คาดว่าจะมีผลิตภัณฑ์พร้อมใช้งานในห้องแล็บภายใน 12–18 เดือนข้างหน้า หากสำเร็จ มันอาจกลายเป็นหัวใจใหม่ของเครือข่าย AI และ AGI ที่กำลังจะมาถึง
สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
Finchetto พัฒนา optical packet switch ที่ใช้แสงล้วนในการสวิตช์ข้อมูล
ใช้เทคนิค “dual-wavelength” โดยส่งข้อมูลและหัวแพ็กเก็ตผ่านคลื่นแสงต่างกัน
ลดเวลาในการสวิตช์เหลือระดับนาโนวินาที โดยไม่ต้องใช้สัญญาณควบคุมแบบไฟฟ้า
ใช้พลังงานเพียง 38 วัตต์ ลดลงถึง 26–53 เท่าเมื่อเทียบกับสวิตช์แบบเดิม
รองรับโปรโตคอล Ethernet และ Infiniband โดยไม่ต้องแปลงข้อมูล
สถาปัตยกรรมแบบ passive optics ทำให้รองรับความเร็วเครือข่ายในอนาคตได้
คาดว่าจะมีผลิตภัณฑ์พร้อมใช้งานในห้องแล็บภายใน 12–18 เดือน
ได้รับรางวัลจากหลายเวที เช่น TechWorks และ Data Centre World Awards
ข้อมูลเสริมจากภายนอก
ดาต้าเซ็นเตอร์ใช้พลังงานมากกว่า 2% ของพลังงานโลก และสวิตช์เครือข่ายกินไฟถึง 20% ของดาต้าเซ็นเตอร์
เทคโนโลยี photonic switch ถูกมองว่าเป็นกุญแจสำคัญในการเร่งความเร็ว AI และลด carbon footprint
การใช้ passive optics ช่วยลดความซับซ้อนของระบบระบายความร้อนและการจัดการพลังงาน
การสวิตช์ด้วยแสงล้วนช่วยลด latency และเพิ่ม throughput ได้พร้อมกัน
https://www.techradar.com/pro/clever-light-switch-breakthrough-could-make-hyperscale-networks-1000x-faster-just-in-time-for-agi-and-superintelligence
ลองจินตนาการว่าเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์ที่เราพึ่งพาอยู่ทุกวันนี้สามารถเร็วขึ้นได้ถึง 1,000 เท่า และใช้พลังงานน้อยลงอย่างมหาศาล — นั่นคือสิ่งที่ Finchetto บริษัทสตาร์ทอัพด้านโฟโตนิกส์กำลังพัฒนาอยู่
ปัญหาใหญ่ของการสวิตช์ข้อมูลในเครือข่ายคือการต้องแปลงสัญญาณแสงเป็นไฟฟ้าเพื่ออ่านหัวแพ็กเก็ต แล้วค่อยส่งต่อไปยังปลายทาง ซึ่งกระบวนการนี้ช้าและกินไฟมาก Finchetto เสนอวิธีใหม่โดยใช้ “สองความยาวคลื่น” — หนึ่งสำหรับข้อมูล และอีกหนึ่งสำหรับหัวแพ็กเก็ต — เพื่อให้สามารถสวิตช์ข้อมูลได้โดยไม่ต้องใช้วงจรไฟฟ้าเลย
ผลลัพธ์คือการสวิตช์ข้อมูลด้วยแสงล้วน ที่เร็วระดับนาโนวินาที และใช้พลังงานเพียง 38 วัตต์ ซึ่งน้อยกว่าสวิตช์แบบเดิมถึง 26–53 เท่า! ที่สำคัญคือมันยัง “future-proof” เพราะสามารถรองรับความเร็วเครือข่ายในอนาคตได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนฮาร์ดแวร์
เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในช่วงต้น แต่ Finchetto คาดว่าจะมีผลิตภัณฑ์พร้อมใช้งานในห้องแล็บภายใน 12–18 เดือนข้างหน้า หากสำเร็จ มันอาจกลายเป็นหัวใจใหม่ของเครือข่าย AI และ AGI ที่กำลังจะมาถึง
สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
Finchetto พัฒนา optical packet switch ที่ใช้แสงล้วนในการสวิตช์ข้อมูล
ใช้เทคนิค “dual-wavelength” โดยส่งข้อมูลและหัวแพ็กเก็ตผ่านคลื่นแสงต่างกัน
ลดเวลาในการสวิตช์เหลือระดับนาโนวินาที โดยไม่ต้องใช้สัญญาณควบคุมแบบไฟฟ้า
ใช้พลังงานเพียง 38 วัตต์ ลดลงถึง 26–53 เท่าเมื่อเทียบกับสวิตช์แบบเดิม
รองรับโปรโตคอล Ethernet และ Infiniband โดยไม่ต้องแปลงข้อมูล
สถาปัตยกรรมแบบ passive optics ทำให้รองรับความเร็วเครือข่ายในอนาคตได้
คาดว่าจะมีผลิตภัณฑ์พร้อมใช้งานในห้องแล็บภายใน 12–18 เดือน
ได้รับรางวัลจากหลายเวที เช่น TechWorks และ Data Centre World Awards
ข้อมูลเสริมจากภายนอก
ดาต้าเซ็นเตอร์ใช้พลังงานมากกว่า 2% ของพลังงานโลก และสวิตช์เครือข่ายกินไฟถึง 20% ของดาต้าเซ็นเตอร์
เทคโนโลยี photonic switch ถูกมองว่าเป็นกุญแจสำคัญในการเร่งความเร็ว AI และลด carbon footprint
การใช้ passive optics ช่วยลดความซับซ้อนของระบบระบายความร้อนและการจัดการพลังงาน
การสวิตช์ด้วยแสงล้วนช่วยลด latency และเพิ่ม throughput ได้พร้อมกัน
https://www.techradar.com/pro/clever-light-switch-breakthrough-could-make-hyperscale-networks-1000x-faster-just-in-time-for-agi-and-superintelligence
🎙️ “สวิตช์แสง” ที่อาจเปลี่ยนโลกของดาต้าเซ็นเตอร์และ AI ไปตลอดกาล
ลองจินตนาการว่าเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์ที่เราพึ่งพาอยู่ทุกวันนี้สามารถเร็วขึ้นได้ถึง 1,000 เท่า และใช้พลังงานน้อยลงอย่างมหาศาล — นั่นคือสิ่งที่ Finchetto บริษัทสตาร์ทอัพด้านโฟโตนิกส์กำลังพัฒนาอยู่
ปัญหาใหญ่ของการสวิตช์ข้อมูลในเครือข่ายคือการต้องแปลงสัญญาณแสงเป็นไฟฟ้าเพื่ออ่านหัวแพ็กเก็ต แล้วค่อยส่งต่อไปยังปลายทาง ซึ่งกระบวนการนี้ช้าและกินไฟมาก Finchetto เสนอวิธีใหม่โดยใช้ “สองความยาวคลื่น” — หนึ่งสำหรับข้อมูล และอีกหนึ่งสำหรับหัวแพ็กเก็ต — เพื่อให้สามารถสวิตช์ข้อมูลได้โดยไม่ต้องใช้วงจรไฟฟ้าเลย
ผลลัพธ์คือการสวิตช์ข้อมูลด้วยแสงล้วน ที่เร็วระดับนาโนวินาที และใช้พลังงานเพียง 38 วัตต์ ซึ่งน้อยกว่าสวิตช์แบบเดิมถึง 26–53 เท่า! ที่สำคัญคือมันยัง “future-proof” เพราะสามารถรองรับความเร็วเครือข่ายในอนาคตได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนฮาร์ดแวร์
เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในช่วงต้น แต่ Finchetto คาดว่าจะมีผลิตภัณฑ์พร้อมใช้งานในห้องแล็บภายใน 12–18 เดือนข้างหน้า หากสำเร็จ มันอาจกลายเป็นหัวใจใหม่ของเครือข่าย AI และ AGI ที่กำลังจะมาถึง
📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
➡️ Finchetto พัฒนา optical packet switch ที่ใช้แสงล้วนในการสวิตช์ข้อมูล
➡️ ใช้เทคนิค “dual-wavelength” โดยส่งข้อมูลและหัวแพ็กเก็ตผ่านคลื่นแสงต่างกัน
➡️ ลดเวลาในการสวิตช์เหลือระดับนาโนวินาที โดยไม่ต้องใช้สัญญาณควบคุมแบบไฟฟ้า
➡️ ใช้พลังงานเพียง 38 วัตต์ ลดลงถึง 26–53 เท่าเมื่อเทียบกับสวิตช์แบบเดิม
➡️ รองรับโปรโตคอล Ethernet และ Infiniband โดยไม่ต้องแปลงข้อมูล
➡️ สถาปัตยกรรมแบบ passive optics ทำให้รองรับความเร็วเครือข่ายในอนาคตได้
➡️ คาดว่าจะมีผลิตภัณฑ์พร้อมใช้งานในห้องแล็บภายใน 12–18 เดือน
➡️ ได้รับรางวัลจากหลายเวที เช่น TechWorks และ Data Centre World Awards
✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก
➡️ ดาต้าเซ็นเตอร์ใช้พลังงานมากกว่า 2% ของพลังงานโลก และสวิตช์เครือข่ายกินไฟถึง 20% ของดาต้าเซ็นเตอร์
➡️ เทคโนโลยี photonic switch ถูกมองว่าเป็นกุญแจสำคัญในการเร่งความเร็ว AI และลด carbon footprint
➡️ การใช้ passive optics ช่วยลดความซับซ้อนของระบบระบายความร้อนและการจัดการพลังงาน
➡️ การสวิตช์ด้วยแสงล้วนช่วยลด latency และเพิ่ม throughput ได้พร้อมกัน
https://www.techradar.com/pro/clever-light-switch-breakthrough-could-make-hyperscale-networks-1000x-faster-just-in-time-for-agi-and-superintelligence
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
46 มุมมอง
0 รีวิว