Microsoft Entra Private Access – เปลี่ยนการเข้าถึง Active Directory แบบเดิมให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น
ในยุคที่องค์กรกำลังเปลี่ยนผ่านสู่ระบบคลาวด์ ความปลอดภัยของระบบภายในองค์กรก็ยังคงเป็นเป้าหมายของแฮกเกอร์ โดยเฉพาะ Active Directory ที่ยังคงถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในหน่วยงานรัฐและองค์กรขนาดใหญ่
Microsoft จึงเปิดตัว “Entra Private Access” ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่นำความสามารถด้าน Conditional Access และ Multi-Factor Authentication (MFA) จากระบบคลาวด์ มาสู่ระบบ Active Directory ที่อยู่ภายในองค์กร (on-premises) โดยใช้แนวคิด Zero Trust Network Access (ZTNA)
แต่ก่อนจะใช้งานได้ องค์กรต้อง “ล้าง NTLM” ออกจากระบบให้หมด และเปลี่ยนมาใช้ Kerberos แทน เพราะ NTLM เป็นโปรโตคอลเก่าที่มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยสูง
การติดตั้ง Entra Private Access ต้องมีการกำหนดค่าเครือข่าย เช่น เปิดพอร์ต TCP 1337 บน Firewall, ระบุ Service Principal Name (SPN) ของแอปภายใน และติดตั้ง Private Access Sensor บน Domain Controller รวมถึงต้องใช้เครื่องลูกข่ายที่เป็น Windows 10 ขึ้นไป และเชื่อมต่อกับ Microsoft Entra ID
แม้จะดูซับซ้อน แต่การเปลี่ยนผ่านนี้จะช่วยให้องค์กรสามารถควบคุมการเข้าถึงระบบภายในได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น ลดการพึ่งพา VPN แบบเดิม และเตรียมพร้อมสู่การป้องกันภัยไซเบอร์ในระดับสูง
Microsoft เปิดตัว Entra Private Access สำหรับ Active Directory ภายในองค์กร
ฟีเจอร์นี้นำ Conditional Access และ MFA จากคลาวด์มาใช้กับระบบ on-premises
ใช้แนวคิด Zero Trust Network Access (ZTNA) เพื่อควบคุมการเข้าถึง
ต้องลบ NTLM ออกจากระบบและใช้ Kerberos แทนเพื่อใช้งานฟีเจอร์นี้
เปิดพอร์ต TCP 1337 บน Firewall และกำหนด SPN ของแอปภายใน
ต้องใช้เครื่องลูกข่าย Windows 10+ ที่เชื่อมต่อกับ Microsoft Entra ID
รองรับ Windows 10, 11 และ Android ส่วน macOS/iOS ยังอยู่ในช่วงทดลอง
เอกสารการติดตั้งฉบับเต็มเผยแพร่เมื่อเดือนกรกฎาคม 2025
สามารถใช้ trial license ทดสอบการติดตั้งแบบ proof of concept ได้
NTLM เป็นโปรโตคอลเก่าที่มีช่องโหว่ เช่น relay attack และ credential theft
Kerberos ใช้ระบบ ticket-based authentication ที่ปลอดภัยกว่า
Zero Trust เป็นแนวคิดที่ไม่เชื่อถืออัตโนมัติแม้จะอยู่ในเครือข่ายองค์กร
VPN แบบเดิมมีความเสี่ยงจากการถูกเจาะระบบและไม่รองรับการควบคุมแบบละเอียด
การใช้ SPN ช่วยระบุแอปภายในที่ต้องการป้องกันได้อย่างแม่นยำ
การบังคับใช้ MFA ช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีด้วยรหัสผ่านที่รั่วไหล
https://www.csoonline.com/article/4041752/microsoft-entra-private-access-brings-conditional-access-to-on-prem-active-directory.html
ในยุคที่องค์กรกำลังเปลี่ยนผ่านสู่ระบบคลาวด์ ความปลอดภัยของระบบภายในองค์กรก็ยังคงเป็นเป้าหมายของแฮกเกอร์ โดยเฉพาะ Active Directory ที่ยังคงถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในหน่วยงานรัฐและองค์กรขนาดใหญ่
Microsoft จึงเปิดตัว “Entra Private Access” ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่นำความสามารถด้าน Conditional Access และ Multi-Factor Authentication (MFA) จากระบบคลาวด์ มาสู่ระบบ Active Directory ที่อยู่ภายในองค์กร (on-premises) โดยใช้แนวคิด Zero Trust Network Access (ZTNA)
แต่ก่อนจะใช้งานได้ องค์กรต้อง “ล้าง NTLM” ออกจากระบบให้หมด และเปลี่ยนมาใช้ Kerberos แทน เพราะ NTLM เป็นโปรโตคอลเก่าที่มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยสูง
การติดตั้ง Entra Private Access ต้องมีการกำหนดค่าเครือข่าย เช่น เปิดพอร์ต TCP 1337 บน Firewall, ระบุ Service Principal Name (SPN) ของแอปภายใน และติดตั้ง Private Access Sensor บน Domain Controller รวมถึงต้องใช้เครื่องลูกข่ายที่เป็น Windows 10 ขึ้นไป และเชื่อมต่อกับ Microsoft Entra ID
แม้จะดูซับซ้อน แต่การเปลี่ยนผ่านนี้จะช่วยให้องค์กรสามารถควบคุมการเข้าถึงระบบภายในได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น ลดการพึ่งพา VPN แบบเดิม และเตรียมพร้อมสู่การป้องกันภัยไซเบอร์ในระดับสูง
Microsoft เปิดตัว Entra Private Access สำหรับ Active Directory ภายในองค์กร
ฟีเจอร์นี้นำ Conditional Access และ MFA จากคลาวด์มาใช้กับระบบ on-premises
ใช้แนวคิด Zero Trust Network Access (ZTNA) เพื่อควบคุมการเข้าถึง
ต้องลบ NTLM ออกจากระบบและใช้ Kerberos แทนเพื่อใช้งานฟีเจอร์นี้
เปิดพอร์ต TCP 1337 บน Firewall และกำหนด SPN ของแอปภายใน
ต้องใช้เครื่องลูกข่าย Windows 10+ ที่เชื่อมต่อกับ Microsoft Entra ID
รองรับ Windows 10, 11 และ Android ส่วน macOS/iOS ยังอยู่ในช่วงทดลอง
เอกสารการติดตั้งฉบับเต็มเผยแพร่เมื่อเดือนกรกฎาคม 2025
สามารถใช้ trial license ทดสอบการติดตั้งแบบ proof of concept ได้
NTLM เป็นโปรโตคอลเก่าที่มีช่องโหว่ เช่น relay attack และ credential theft
Kerberos ใช้ระบบ ticket-based authentication ที่ปลอดภัยกว่า
Zero Trust เป็นแนวคิดที่ไม่เชื่อถืออัตโนมัติแม้จะอยู่ในเครือข่ายองค์กร
VPN แบบเดิมมีความเสี่ยงจากการถูกเจาะระบบและไม่รองรับการควบคุมแบบละเอียด
การใช้ SPN ช่วยระบุแอปภายในที่ต้องการป้องกันได้อย่างแม่นยำ
การบังคับใช้ MFA ช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีด้วยรหัสผ่านที่รั่วไหล
https://www.csoonline.com/article/4041752/microsoft-entra-private-access-brings-conditional-access-to-on-prem-active-directory.html
🧠 Microsoft Entra Private Access – เปลี่ยนการเข้าถึง Active Directory แบบเดิมให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น
ในยุคที่องค์กรกำลังเปลี่ยนผ่านสู่ระบบคลาวด์ ความปลอดภัยของระบบภายในองค์กรก็ยังคงเป็นเป้าหมายของแฮกเกอร์ โดยเฉพาะ Active Directory ที่ยังคงถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในหน่วยงานรัฐและองค์กรขนาดใหญ่
Microsoft จึงเปิดตัว “Entra Private Access” ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่นำความสามารถด้าน Conditional Access และ Multi-Factor Authentication (MFA) จากระบบคลาวด์ มาสู่ระบบ Active Directory ที่อยู่ภายในองค์กร (on-premises) โดยใช้แนวคิด Zero Trust Network Access (ZTNA)
แต่ก่อนจะใช้งานได้ องค์กรต้อง “ล้าง NTLM” ออกจากระบบให้หมด และเปลี่ยนมาใช้ Kerberos แทน เพราะ NTLM เป็นโปรโตคอลเก่าที่มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยสูง
การติดตั้ง Entra Private Access ต้องมีการกำหนดค่าเครือข่าย เช่น เปิดพอร์ต TCP 1337 บน Firewall, ระบุ Service Principal Name (SPN) ของแอปภายใน และติดตั้ง Private Access Sensor บน Domain Controller รวมถึงต้องใช้เครื่องลูกข่ายที่เป็น Windows 10 ขึ้นไป และเชื่อมต่อกับ Microsoft Entra ID
แม้จะดูซับซ้อน แต่การเปลี่ยนผ่านนี้จะช่วยให้องค์กรสามารถควบคุมการเข้าถึงระบบภายในได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น ลดการพึ่งพา VPN แบบเดิม และเตรียมพร้อมสู่การป้องกันภัยไซเบอร์ในระดับสูง
➡️ Microsoft เปิดตัว Entra Private Access สำหรับ Active Directory ภายในองค์กร
➡️ ฟีเจอร์นี้นำ Conditional Access และ MFA จากคลาวด์มาใช้กับระบบ on-premises
➡️ ใช้แนวคิด Zero Trust Network Access (ZTNA) เพื่อควบคุมการเข้าถึง
➡️ ต้องลบ NTLM ออกจากระบบและใช้ Kerberos แทนเพื่อใช้งานฟีเจอร์นี้
➡️ เปิดพอร์ต TCP 1337 บน Firewall และกำหนด SPN ของแอปภายใน
➡️ ต้องใช้เครื่องลูกข่าย Windows 10+ ที่เชื่อมต่อกับ Microsoft Entra ID
➡️ รองรับ Windows 10, 11 และ Android ส่วน macOS/iOS ยังอยู่ในช่วงทดลอง
➡️ เอกสารการติดตั้งฉบับเต็มเผยแพร่เมื่อเดือนกรกฎาคม 2025
➡️ สามารถใช้ trial license ทดสอบการติดตั้งแบบ proof of concept ได้
➡️ NTLM เป็นโปรโตคอลเก่าที่มีช่องโหว่ เช่น relay attack และ credential theft
➡️ Kerberos ใช้ระบบ ticket-based authentication ที่ปลอดภัยกว่า
➡️ Zero Trust เป็นแนวคิดที่ไม่เชื่อถืออัตโนมัติแม้จะอยู่ในเครือข่ายองค์กร
➡️ VPN แบบเดิมมีความเสี่ยงจากการถูกเจาะระบบและไม่รองรับการควบคุมแบบละเอียด
➡️ การใช้ SPN ช่วยระบุแอปภายในที่ต้องการป้องกันได้อย่างแม่นยำ
➡️ การบังคับใช้ MFA ช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีด้วยรหัสผ่านที่รั่วไหล
https://www.csoonline.com/article/4041752/microsoft-entra-private-access-brings-conditional-access-to-on-prem-active-directory.html
0 Comments
0 Shares
37 Views
0 Reviews