ดาวเทียม Metop-SG: ยุคใหม่ของการพยากรณ์อากาศเพื่อชีวิต

ในช่วง 15 ปีข้างหน้า ยุโรปจะส่งดาวเทียม Metop Second Generation ขึ้นสู่วงโคจรต่ำของโลกจำนวน 6 ดวง เพื่อยกระดับการพยากรณ์อากาศให้แม่นยำขึ้น และเตือนภัยล่วงหน้าได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะเหตุการณ์สุดขั้ว เช่น พายุรุนแรง คลื่นความร้อน และไฟป่า

ดาวเทียมดวงแรก Metop-SG A1 ถูกปล่อยจากเฟรนช์เกียนาเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2025 และจะเริ่มเก็บข้อมูลในปีหน้า โดยมีภารกิจร่วมกับ Copernicus Sentinel-5 เพื่อวัดคุณภาพอากาศและติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ดาวเทียมจะโคจรรอบโลกทุก 100 นาทีที่ระดับความสูงประมาณ 800 กม. ครอบคลุมภาพทั่วโลกวันละหลายรอบ พร้อมเครื่องมือวัดอุณหภูมิ ปริมาณฝน เมฆ ลม และมลพิษ ซึ่งจะส่งข้อมูลกลับไปยังสถานีภาคพื้น เช่น จานรับสัญญาณใหม่ที่ Met Office ในอังกฤษ

ข้อมูลจากดาวเทียมเหล่านี้จะช่วยให้พยากรณ์อากาศล่วงหน้าได้ถึง 10 วัน และตรวจจับสัญญาณเริ่มต้นของพายุหรือภัยพิบัติได้เร็วขึ้น ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในยุคที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและรุนแรง

รายละเอียดโครงการ Metop Second Generation
ดาวเทียม Metop-SG จำนวน 6 ดวงจะถูกส่งขึ้นใน 15 ปีข้างหน้า
ดาวเทียมดวงแรก Metop-SG A1 ถูกปล่อยเมื่อ 13 ส.ค. 2025 จากเฟรนช์เกียนา
โคจรที่ระดับ 800 กม. รอบโลกทุก 100 นาที ครอบคลุมภาพทั่วโลก
ใช้เครื่องมือวัดอุณหภูมิ ฝน เมฆ ลม มลพิษ และคุณภาพอากาศ
ข้อมูลจะส่งกลับไปยังสถานีภาคพื้น เช่น Met Office ในอังกฤษ
ช่วยพยากรณ์อากาศล่วงหน้าได้ถึง 10 วัน และตรวจจับภัยพิบัติได้เร็วขึ้น
เป็นความร่วมมือระหว่าง EUMetSat, ESA, EU, NOAA และองค์กรอวกาศยุโรป

ข้อมูลเสริมจากภายนอก
Sentinel-5 บนดาวเทียมจะวัดก๊าซเรือนกระจกและมลพิษในอากาศ
ดาวเทียมแบบคู่ (A-type และ B-type) ใช้เครื่องมือที่เสริมกันเพื่อเพิ่มความแม่นยำ
ข้อมูลจากดาวเทียมช่วยเกษตรกรวางแผนการเพาะปลูก และช่วยนักบินนำทาง
ระบบนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Joint Polar System ร่วมกับ NOAA สหรัฐฯ
การพยากรณ์ที่แม่นยำช่วยลดความเสียหายทางเศรษฐกิจและชีวิต
คาดว่าโครงการนี้จะให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจมากกว่า 20 เท่า

https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/17/satellite-project-could-save-lives-give-extreme-weather-warnings
🌪️ ดาวเทียม Metop-SG: ยุคใหม่ของการพยากรณ์อากาศเพื่อชีวิต ในช่วง 15 ปีข้างหน้า ยุโรปจะส่งดาวเทียม Metop Second Generation ขึ้นสู่วงโคจรต่ำของโลกจำนวน 6 ดวง เพื่อยกระดับการพยากรณ์อากาศให้แม่นยำขึ้น และเตือนภัยล่วงหน้าได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะเหตุการณ์สุดขั้ว เช่น พายุรุนแรง คลื่นความร้อน และไฟป่า ดาวเทียมดวงแรก Metop-SG A1 ถูกปล่อยจากเฟรนช์เกียนาเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2025 และจะเริ่มเก็บข้อมูลในปีหน้า โดยมีภารกิจร่วมกับ Copernicus Sentinel-5 เพื่อวัดคุณภาพอากาศและติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ดาวเทียมจะโคจรรอบโลกทุก 100 นาทีที่ระดับความสูงประมาณ 800 กม. ครอบคลุมภาพทั่วโลกวันละหลายรอบ พร้อมเครื่องมือวัดอุณหภูมิ ปริมาณฝน เมฆ ลม และมลพิษ ซึ่งจะส่งข้อมูลกลับไปยังสถานีภาคพื้น เช่น จานรับสัญญาณใหม่ที่ Met Office ในอังกฤษ ข้อมูลจากดาวเทียมเหล่านี้จะช่วยให้พยากรณ์อากาศล่วงหน้าได้ถึง 10 วัน และตรวจจับสัญญาณเริ่มต้นของพายุหรือภัยพิบัติได้เร็วขึ้น ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในยุคที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและรุนแรง ✅ รายละเอียดโครงการ Metop Second Generation ➡️ ดาวเทียม Metop-SG จำนวน 6 ดวงจะถูกส่งขึ้นใน 15 ปีข้างหน้า ➡️ ดาวเทียมดวงแรก Metop-SG A1 ถูกปล่อยเมื่อ 13 ส.ค. 2025 จากเฟรนช์เกียนา ➡️ โคจรที่ระดับ 800 กม. รอบโลกทุก 100 นาที ครอบคลุมภาพทั่วโลก ➡️ ใช้เครื่องมือวัดอุณหภูมิ ฝน เมฆ ลม มลพิษ และคุณภาพอากาศ ➡️ ข้อมูลจะส่งกลับไปยังสถานีภาคพื้น เช่น Met Office ในอังกฤษ ➡️ ช่วยพยากรณ์อากาศล่วงหน้าได้ถึง 10 วัน และตรวจจับภัยพิบัติได้เร็วขึ้น ➡️ เป็นความร่วมมือระหว่าง EUMetSat, ESA, EU, NOAA และองค์กรอวกาศยุโรป ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Sentinel-5 บนดาวเทียมจะวัดก๊าซเรือนกระจกและมลพิษในอากาศ ➡️ ดาวเทียมแบบคู่ (A-type และ B-type) ใช้เครื่องมือที่เสริมกันเพื่อเพิ่มความแม่นยำ ➡️ ข้อมูลจากดาวเทียมช่วยเกษตรกรวางแผนการเพาะปลูก และช่วยนักบินนำทาง ➡️ ระบบนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Joint Polar System ร่วมกับ NOAA สหรัฐฯ ➡️ การพยากรณ์ที่แม่นยำช่วยลดความเสียหายทางเศรษฐกิจและชีวิต ➡️ คาดว่าโครงการนี้จะให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจมากกว่า 20 เท่า https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/17/satellite-project-could-save-lives-give-extreme-weather-warnings
WWW.THESTAR.COM.MY
Satellite project could save lives, give extreme weather warnings
A series of satellites are set to be launched into space over the next 15 years to help "save lives" and give early warning of increasingly extreme weather, British experts have said.
0 Comments 0 Shares 40 Views 0 Reviews