ลาก่อนแล็ปท็อป? เมื่อ DaaS กลายเป็นตัวเลือกหลักขององค์กรยุคใหม่
ลองนึกภาพว่าแทนที่พนักงานจะต้องพกแล็ปท็อปไปทำงาน พวกเขาแค่ล็อกอินผ่านเบราว์เซอร์ แล้วเข้าถึงเดสก์ท็อปเสมือนที่อยู่บนคลาวด์—นี่คือแนวคิดของ Desktop as a Service หรือ DaaS ที่กำลังมาแรง
จากรายงานของ Gartner พบว่า DaaS จะคุ้มค่ากับ 95% ของแรงงานภายในปี 2027 เพิ่มขึ้นจาก 40% ในปี 2019 และการใช้งานจริงก็เพิ่มขึ้นเป็น 20% แล้วในปีนี้ โดยเฉพาะในองค์กรที่มีพนักงานทำงานระยะไกลหรือจ้างงานภายนอก
Microsoft ถูกจัดอันดับเป็นผู้นำในตลาดนี้ ด้วยผลิตภัณฑ์อย่าง Azure Virtual Desktop และ Windows 365 ที่ตอบโจทย์องค์กรขนาดกลางถึงใหญ่
นอกจากความคุ้มค่าแล้ว DaaS ยังช่วยลดภาระการดูแลอุปกรณ์ ลดต้นทุนล่วงหน้า และเพิ่มความปลอดภัย เพราะข้อมูลทั้งหมดอยู่บนคลาวด์ ไม่ใช่ในเครื่องของพนักงาน
อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อกังวลเรื่อง vendor lock-in และความซับซ้อนของการจัดการลิขสิทธิ์ ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้งานต้องเผชิญกับความยุ่งยากในช่วงแรก
แนวโน้มการใช้งาน DaaS
Gartner คาดว่า DaaS จะคุ้มค่ากับ 95% ของแรงงานภายในปี 2027
การใช้งานจริงเพิ่มขึ้นเป็น 20% จาก 10% ในปี 2019
องค์กรเริ่มใช้ DaaS เพื่อรองรับงานระยะไกลและงานภายนอก
ข้อดีของ DaaS
ลดต้นทุนการดูแลอุปกรณ์และการอัปเดตซอฟต์แวร์
เพิ่มความปลอดภัย เพราะข้อมูลอยู่บนคลาวด์
รองรับการขยายทีมงานแบบยืดหยุ่น เช่น พนักงานชั่วคราวหรือฟรีแลนซ์
ลดค่าใช้จ่ายล่วงหน้า ด้วยโมเดลจ่ายตามการใช้งาน
ผู้เล่นหลักในตลาด
Microsoft เป็นผู้นำด้วย Azure Virtual Desktop และ Windows 365
60% ของลูกค้า DaaS ของ Microsoft เป็นองค์กรขนาดกลาง
Gartner ระบุว่าองค์กรใหม่แทบไม่ใช้ VDI แบบ on-prem อีกแล้ว
ข้อมูลเสริมจากผู้ให้บริการ
DaaS ช่วยให้การจัดการซอฟต์แวร์เป็นแบบรวมศูนย์
ลดความซับซ้อนในการดูแลระบบ IT
เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการความต่อเนื่องและความปลอดภัยสูง
DaaS ยังเป็นตลาดใหม่ที่มีการกำกับดูแลน้อย
อาจเกิด vendor lock-in หากเลือกผู้ให้บริการไม่รอบคอบ
การจัดการลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์อาจซับซ้อนในระบบคลาวด์
ผู้ใช้งานต้องมีอินเทอร์เน็ตที่เสถียรเพื่อเข้าถึงเดสก์ท็อป
องค์กรที่มีข้อจำกัดด้านข้อมูลอาจไม่สามารถใช้ DaaS ได้เต็มรูปแบบ
https://www.techradar.com/pro/the-end-of-laptops-at-work-desktop-as-a-service-is-now-cheaper-and-easier-to-run-reports-claim
ลองนึกภาพว่าแทนที่พนักงานจะต้องพกแล็ปท็อปไปทำงาน พวกเขาแค่ล็อกอินผ่านเบราว์เซอร์ แล้วเข้าถึงเดสก์ท็อปเสมือนที่อยู่บนคลาวด์—นี่คือแนวคิดของ Desktop as a Service หรือ DaaS ที่กำลังมาแรง
จากรายงานของ Gartner พบว่า DaaS จะคุ้มค่ากับ 95% ของแรงงานภายในปี 2027 เพิ่มขึ้นจาก 40% ในปี 2019 และการใช้งานจริงก็เพิ่มขึ้นเป็น 20% แล้วในปีนี้ โดยเฉพาะในองค์กรที่มีพนักงานทำงานระยะไกลหรือจ้างงานภายนอก
Microsoft ถูกจัดอันดับเป็นผู้นำในตลาดนี้ ด้วยผลิตภัณฑ์อย่าง Azure Virtual Desktop และ Windows 365 ที่ตอบโจทย์องค์กรขนาดกลางถึงใหญ่
นอกจากความคุ้มค่าแล้ว DaaS ยังช่วยลดภาระการดูแลอุปกรณ์ ลดต้นทุนล่วงหน้า และเพิ่มความปลอดภัย เพราะข้อมูลทั้งหมดอยู่บนคลาวด์ ไม่ใช่ในเครื่องของพนักงาน
อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อกังวลเรื่อง vendor lock-in และความซับซ้อนของการจัดการลิขสิทธิ์ ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้งานต้องเผชิญกับความยุ่งยากในช่วงแรก
แนวโน้มการใช้งาน DaaS
Gartner คาดว่า DaaS จะคุ้มค่ากับ 95% ของแรงงานภายในปี 2027
การใช้งานจริงเพิ่มขึ้นเป็น 20% จาก 10% ในปี 2019
องค์กรเริ่มใช้ DaaS เพื่อรองรับงานระยะไกลและงานภายนอก
ข้อดีของ DaaS
ลดต้นทุนการดูแลอุปกรณ์และการอัปเดตซอฟต์แวร์
เพิ่มความปลอดภัย เพราะข้อมูลอยู่บนคลาวด์
รองรับการขยายทีมงานแบบยืดหยุ่น เช่น พนักงานชั่วคราวหรือฟรีแลนซ์
ลดค่าใช้จ่ายล่วงหน้า ด้วยโมเดลจ่ายตามการใช้งาน
ผู้เล่นหลักในตลาด
Microsoft เป็นผู้นำด้วย Azure Virtual Desktop และ Windows 365
60% ของลูกค้า DaaS ของ Microsoft เป็นองค์กรขนาดกลาง
Gartner ระบุว่าองค์กรใหม่แทบไม่ใช้ VDI แบบ on-prem อีกแล้ว
ข้อมูลเสริมจากผู้ให้บริการ
DaaS ช่วยให้การจัดการซอฟต์แวร์เป็นแบบรวมศูนย์
ลดความซับซ้อนในการดูแลระบบ IT
เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการความต่อเนื่องและความปลอดภัยสูง
DaaS ยังเป็นตลาดใหม่ที่มีการกำกับดูแลน้อย
อาจเกิด vendor lock-in หากเลือกผู้ให้บริการไม่รอบคอบ
การจัดการลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์อาจซับซ้อนในระบบคลาวด์
ผู้ใช้งานต้องมีอินเทอร์เน็ตที่เสถียรเพื่อเข้าถึงเดสก์ท็อป
องค์กรที่มีข้อจำกัดด้านข้อมูลอาจไม่สามารถใช้ DaaS ได้เต็มรูปแบบ
https://www.techradar.com/pro/the-end-of-laptops-at-work-desktop-as-a-service-is-now-cheaper-and-easier-to-run-reports-claim
🧠 ลาก่อนแล็ปท็อป? เมื่อ DaaS กลายเป็นตัวเลือกหลักขององค์กรยุคใหม่
ลองนึกภาพว่าแทนที่พนักงานจะต้องพกแล็ปท็อปไปทำงาน พวกเขาแค่ล็อกอินผ่านเบราว์เซอร์ แล้วเข้าถึงเดสก์ท็อปเสมือนที่อยู่บนคลาวด์—นี่คือแนวคิดของ Desktop as a Service หรือ DaaS ที่กำลังมาแรง
จากรายงานของ Gartner พบว่า DaaS จะคุ้มค่ากับ 95% ของแรงงานภายในปี 2027 เพิ่มขึ้นจาก 40% ในปี 2019 และการใช้งานจริงก็เพิ่มขึ้นเป็น 20% แล้วในปีนี้ โดยเฉพาะในองค์กรที่มีพนักงานทำงานระยะไกลหรือจ้างงานภายนอก
Microsoft ถูกจัดอันดับเป็นผู้นำในตลาดนี้ ด้วยผลิตภัณฑ์อย่าง Azure Virtual Desktop และ Windows 365 ที่ตอบโจทย์องค์กรขนาดกลางถึงใหญ่
นอกจากความคุ้มค่าแล้ว DaaS ยังช่วยลดภาระการดูแลอุปกรณ์ ลดต้นทุนล่วงหน้า และเพิ่มความปลอดภัย เพราะข้อมูลทั้งหมดอยู่บนคลาวด์ ไม่ใช่ในเครื่องของพนักงาน
อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อกังวลเรื่อง vendor lock-in และความซับซ้อนของการจัดการลิขสิทธิ์ ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้งานต้องเผชิญกับความยุ่งยากในช่วงแรก
✅ แนวโน้มการใช้งาน DaaS
➡️ Gartner คาดว่า DaaS จะคุ้มค่ากับ 95% ของแรงงานภายในปี 2027
➡️ การใช้งานจริงเพิ่มขึ้นเป็น 20% จาก 10% ในปี 2019
➡️ องค์กรเริ่มใช้ DaaS เพื่อรองรับงานระยะไกลและงานภายนอก
✅ ข้อดีของ DaaS
➡️ ลดต้นทุนการดูแลอุปกรณ์และการอัปเดตซอฟต์แวร์
➡️ เพิ่มความปลอดภัย เพราะข้อมูลอยู่บนคลาวด์
➡️ รองรับการขยายทีมงานแบบยืดหยุ่น เช่น พนักงานชั่วคราวหรือฟรีแลนซ์
➡️ ลดค่าใช้จ่ายล่วงหน้า ด้วยโมเดลจ่ายตามการใช้งาน
✅ ผู้เล่นหลักในตลาด
➡️ Microsoft เป็นผู้นำด้วย Azure Virtual Desktop และ Windows 365
➡️ 60% ของลูกค้า DaaS ของ Microsoft เป็นองค์กรขนาดกลาง
➡️ Gartner ระบุว่าองค์กรใหม่แทบไม่ใช้ VDI แบบ on-prem อีกแล้ว
✅ ข้อมูลเสริมจากผู้ให้บริการ
➡️ DaaS ช่วยให้การจัดการซอฟต์แวร์เป็นแบบรวมศูนย์
➡️ ลดความซับซ้อนในการดูแลระบบ IT
➡️ เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการความต่อเนื่องและความปลอดภัยสูง
⛔ DaaS ยังเป็นตลาดใหม่ที่มีการกำกับดูแลน้อย
⛔ อาจเกิด vendor lock-in หากเลือกผู้ให้บริการไม่รอบคอบ
⛔ การจัดการลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์อาจซับซ้อนในระบบคลาวด์
⛔ ผู้ใช้งานต้องมีอินเทอร์เน็ตที่เสถียรเพื่อเข้าถึงเดสก์ท็อป
⛔ องค์กรที่มีข้อจำกัดด้านข้อมูลอาจไม่สามารถใช้ DaaS ได้เต็มรูปแบบ
https://www.techradar.com/pro/the-end-of-laptops-at-work-desktop-as-a-service-is-now-cheaper-and-easier-to-run-reports-claim
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
55 มุมมอง
0 รีวิว