อ่านนิทานกันมาแล้ว 18 ตอน คนเล่านิทาน ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่าน ที่มีความอุตสาหะ อดทน ติดตามอ่าน และให้กำลังใจ รวมทั้ง ห่วงใยสวัสดิภาพคนเล่านิทาน
แต่ที่สำคัญสำหรับคนเล่านิทาน รวมทั้งท่านผู่อ่านทั้งหลาย คือ ท่านที่ส่งความคิดเห็น (comment) มาถึงคนเล่านิทาน และแลกเปลี่ยนข้อมูล ความเห็นระหว่างผู้อ่านนิทานด้วยกันเอง ทำให้นิทานน่าติดตามมากขึ้นและวงกว้างขี้น
จิ๊กโก๋๋จะเลือกประทับทรงใคร จะใช้วิธี ตรงไปตรงมา ตะบิดตะแบงไป กลบไปฝังมาหรือใช้ ” วิธีการอื่น” อย่างที่นายคิสซิงเจอร์ คุยกับนายลีกวนยู เมื่อก่อนเหตุการณ์ 14 ตุลา พ.ศ.2516 เชื่อว่า ท่านผู้อ่านนิทาน คงพอมองออก ตามทันสันดานจิ๊กโก๋๋กันแล้ว
ดังนั้นโปรดถามตัวเอง เราจำเป็นต้องมีจิ๊กโก๋๋คุมซอยไหม
หากทุกบ้านในซอย รู้จักดูแลตัวเอง เริ่มด้วยการหัดศึกษา หน้าตา เล่ห์เหลี่ยม วิธีคิด วิธีต้มตุ๋นของจิ๊กโก๋๋ ว่า จะมาไม้ไหน แล้วถ้าทุกบ้านในซอย รู้จักสามัคคีกัน ช่วยเหลือเจือจุนกัน ร่วมแรงร่วมใจกัน ไม่ใช่บ้านใครบ้านมัน เอาเปรียบกัน เอาแต่ทะเลาะกัน ถ้าเราอยู่อย่างมี สติ ใช้ปัญญา จิ๊กโก๋๋หน้าไหน ไม่ว่าผมทอง ผมดำ อาเฮียกระเป๋าหนัก หรือ ไอ้พวกเลียนแบบจิ๊กโก๋๋ หรือขี้ข้าพันธุ์ไทย พันทางของ จิ๊กโก๋๋ ก็จะมาเบ่งกล้ามใส่เราไม่ได้ง่าย
ที่สำคัญ อย่าติดนิสัยอ่อนแอ ถนัดแต่แบมือขอ หรือรออัศวินขี่ม้าขาว เดี๋ยวก็ได้อัศวินควายดำมาอีกตัวหรอก นิสัยคนไทยใจดีมีอัธยาศัย ไม่ขี้เกียจ ไม่ขี้โกง ไม่โง่ และกล้าสู้ แบบบรรพบุรุษเราน่ะ เอากลับมาใช้กันบ้าง
แล้วอย่าลืม ต้องมีความอดทน มีความเพียร พระมหาชนกท่านสอนอะไรเราไว้บ้าง จำมาใช้กันด้วย
แบบนี้ก็ไม่น่ามีจิ๊กโก๋๋หน้าไหน มายึดซอยของเรา ไปเป็นซอยของมัน ซอยของเรา เราอยากอยู่แบบไหนก็เรื่องของ เรา เราคุยกันเอง กำหนดกันเองได้ ไม่ใช่ให้จิ๊กโก๋๋มันมากำหนด ใครมาทำกร่าง ไม่ว่าหัวซอย กลางซอย ท้ายซอย ถ้าเราทุกบ้านพร้อมใจกันถือมีดถือไม้ ออกไปสู้กับมันพร้อมๆกัน
ถามหน่อยเถอะ จิ๊กโก๋๋หน้าไหนจะกล้าแหยม ?!?
สวัสดีครับ
หมายเหตุ : โพสต์ลงเพจนิทานเรื่องจริงฯ เมื่อวันที่ 17 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2556
อ่านนิทานกันมาแล้ว 18 ตอน คนเล่านิทาน ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่าน ที่มีความอุตสาหะ อดทน ติดตามอ่าน และให้กำลังใจ รวมทั้ง ห่วงใยสวัสดิภาพคนเล่านิทาน
แต่ที่สำคัญสำหรับคนเล่านิทาน รวมทั้งท่านผู่อ่านทั้งหลาย คือ ท่านที่ส่งความคิดเห็น (comment) มาถึงคนเล่านิทาน และแลกเปลี่ยนข้อมูล ความเห็นระหว่างผู้อ่านนิทานด้วยกันเอง ทำให้นิทานน่าติดตามมากขึ้นและวงกว้างขี้น
จิ๊กโก๋๋จะเลือกประทับทรงใคร จะใช้วิธี ตรงไปตรงมา ตะบิดตะแบงไป กลบไปฝังมาหรือใช้ ” วิธีการอื่น” อย่างที่นายคิสซิงเจอร์ คุยกับนายลีกวนยู เมื่อก่อนเหตุการณ์ 14 ตุลา พ.ศ.2516 เชื่อว่า ท่านผู้อ่านนิทาน คงพอมองออก ตามทันสันดานจิ๊กโก๋๋กันแล้ว
ดังนั้นโปรดถามตัวเอง เราจำเป็นต้องมีจิ๊กโก๋๋คุมซอยไหม
หากทุกบ้านในซอย รู้จักดูแลตัวเอง เริ่มด้วยการหัดศึกษา หน้าตา เล่ห์เหลี่ยม วิธีคิด วิธีต้มตุ๋นของจิ๊กโก๋๋ ว่า จะมาไม้ไหน แล้วถ้าทุกบ้านในซอย รู้จักสามัคคีกัน ช่วยเหลือเจือจุนกัน ร่วมแรงร่วมใจกัน ไม่ใช่บ้านใครบ้านมัน เอาเปรียบกัน เอาแต่ทะเลาะกัน ถ้าเราอยู่อย่างมี สติ ใช้ปัญญา จิ๊กโก๋๋หน้าไหน ไม่ว่าผมทอง ผมดำ อาเฮียกระเป๋าหนัก หรือ ไอ้พวกเลียนแบบจิ๊กโก๋๋ หรือขี้ข้าพันธุ์ไทย พันทางของ จิ๊กโก๋๋ ก็จะมาเบ่งกล้ามใส่เราไม่ได้ง่าย
ที่สำคัญ อย่าติดนิสัยอ่อนแอ ถนัดแต่แบมือขอ หรือรออัศวินขี่ม้าขาว เดี๋ยวก็ได้อัศวินควายดำมาอีกตัวหรอก นิสัยคนไทยใจดีมีอัธยาศัย ไม่ขี้เกียจ ไม่ขี้โกง ไม่โง่ และกล้าสู้ แบบบรรพบุรุษเราน่ะ เอากลับมาใช้กันบ้าง
แล้วอย่าลืม ต้องมีความอดทน มีความเพียร พระมหาชนกท่านสอนอะไรเราไว้บ้าง จำมาใช้กันด้วย
แบบนี้ก็ไม่น่ามีจิ๊กโก๋๋หน้าไหน มายึดซอยของเรา ไปเป็นซอยของมัน ซอยของเรา เราอยากอยู่แบบไหนก็เรื่องของ เรา เราคุยกันเอง กำหนดกันเองได้ ไม่ใช่ให้จิ๊กโก๋๋มันมากำหนด ใครมาทำกร่าง ไม่ว่าหัวซอย กลางซอย ท้ายซอย ถ้าเราทุกบ้านพร้อมใจกันถือมีดถือไม้ ออกไปสู้กับมันพร้อมๆกัน
ถามหน่อยเถอะ จิ๊กโก๋๋หน้าไหนจะกล้าแหยม ?!?
สวัสดีครับ
หมายเหตุ : โพสต์ลงเพจนิทานเรื่องจริงฯ เมื่อวันที่ 17 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2556
1 Comments
0 Shares
13 Views
0 Reviews