เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อ Intel ลดพนักงาน ส่งผลสะเทือนถึงโลกของ Linux
ในปี 2025 Intel ได้ประกาศลดจำนวนพนักงานครั้งใหญ่ภายใต้การนำของ CEO คนใหม่ Lip-Bu Tan ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการพัฒนาไดรเวอร์ใน Linux kernel โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับฮาร์ดแวร์ของ Intel เช่น GPU, Ethernet, และ CPU microcode ที่เคยมีทีมงานเฉพาะดูแลอย่างใกล้ชิด
การลดทีมงานทำให้เกิดความล่าช้าในการแก้บั๊ก การทดสอบฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่ และการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ของ Intel ที่จะรองรับใน Linux kernel รุ่นถัดไป นอกจากนี้ยังมีไดรเวอร์บางตัวที่ถูกประกาศว่า “orphaned” หรือไม่มีผู้ดูแลแล้ว เช่น Slim Bootloader firmware update driver ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการอัปเดตเฟิร์มแวร์ของแพลตฟอร์ม Intel x86
แม้จะมีความกังวล แต่ชุมชน Linux ก็ยังคงมีความแข็งแกร่ง โดยมีนักพัฒนาอิสระและบริษัทอื่น ๆ เช่น Red Hat, SUSE, Canonical เข้ามาช่วยดูแลไดรเวอร์ที่ขาดผู้ดูแล พร้อมทั้งใช้โครงสร้างแบบ modular และ framework ที่ช่วยลดการพึ่งพาไดรเวอร์เฉพาะจากผู้ผลิต
Intel ลดจำนวนพนักงานในปี 2025 ส่งผลต่อการพัฒนา Linux kernel driver
ส่งผลให้การแก้บั๊กและการรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่ล่าช้า
กระทบต่อการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ของ Intel ใน Linux
ไดรเวอร์บางตัวถูกประกาศว่า orphaned เช่น Slim Bootloader firmware update driver
ไม่มีผู้ดูแลที่มีความเชี่ยวชาญเหลืออยู่ในทีม
อาจส่งผลต่อการอัปเดตเฟิร์มแวร์ของแพลตฟอร์ม Intel x86
ชุมชน Linux และบริษัทอื่น ๆ เข้ามาช่วยดูแลไดรเวอร์ที่ขาดผู้ดูแล
ใช้กระบวนการ maintainer transition เพื่อเปลี่ยนผู้ดูแล
บริษัทเช่น Red Hat, SUSE, Canonical มีทีม kernel ของตัวเอง
Linux kernel มีโครงสร้างแบบ modular ที่ช่วยให้การพัฒนาไม่หยุดชะงัก
สามารถเปลี่ยนผู้ดูแลหรือปรับโครงสร้างได้ตามสถานการณ์
มี framework ที่ช่วยลดการพึ่งพาไดรเวอร์เฉพาะจากผู้ผลิต
ผู้ใช้ควรติดตามการเปลี่ยนแปลงใน MAINTAINERS file และ kernel mailing list
เพื่อรู้ว่าไดรเวอร์ใดเปลี่ยนผู้ดูแล
ควรทดสอบฮาร์ดแวร์ของตนเองเมื่ออัปเดต kernel
การลดทีมงานของ Intel อาจทำให้การรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่ล่าช้า
ผู้ใช้ที่ใช้ฮาร์ดแวร์ Intel รุ่นใหม่อาจต้องรอนานกว่าจะมีไดรเวอร์ใน kernel
อาจต้องใช้ kernel รุ่นพิเศษหรือ patch เองในบางกรณี
ไดรเวอร์ที่ไม่มีผู้ดูแลอาจมีช่องโหว่หรือไม่รองรับ kernel รุ่นใหม่
เสี่ยงต่อความไม่เสถียรหรือปัญหาด้านความปลอดภัย
ต้องพึ่งพาชุมชนหรือบริษัทอื่นในการดูแล
การถอนตัวจากโครงการ Clear Linux แสดงถึงการลดบทบาทของ Intel ในโลก open-source
อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักพัฒนาและผู้ใช้
ลดโอกาสในการพัฒนาเทคโนโลยีที่เน้น Linux โดยเฉพาะ
องค์กรที่ใช้ฮาร์ดแวร์ Intel ควรพิจารณาการ compile kernel เองเพื่อควบคุมไดรเวอร์
โดยเฉพาะในระบบ enterprise ที่ต้องการความเสถียรสูง
ต้องมีทีมเทคนิคที่เข้าใจการจัดการ kernel และ driver
https://linuxconfig.org/intel-layoffs-impact-linux-kernel-driver-development-what-you-need-to-know
ในปี 2025 Intel ได้ประกาศลดจำนวนพนักงานครั้งใหญ่ภายใต้การนำของ CEO คนใหม่ Lip-Bu Tan ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการพัฒนาไดรเวอร์ใน Linux kernel โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับฮาร์ดแวร์ของ Intel เช่น GPU, Ethernet, และ CPU microcode ที่เคยมีทีมงานเฉพาะดูแลอย่างใกล้ชิด
การลดทีมงานทำให้เกิดความล่าช้าในการแก้บั๊ก การทดสอบฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่ และการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ของ Intel ที่จะรองรับใน Linux kernel รุ่นถัดไป นอกจากนี้ยังมีไดรเวอร์บางตัวที่ถูกประกาศว่า “orphaned” หรือไม่มีผู้ดูแลแล้ว เช่น Slim Bootloader firmware update driver ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการอัปเดตเฟิร์มแวร์ของแพลตฟอร์ม Intel x86
แม้จะมีความกังวล แต่ชุมชน Linux ก็ยังคงมีความแข็งแกร่ง โดยมีนักพัฒนาอิสระและบริษัทอื่น ๆ เช่น Red Hat, SUSE, Canonical เข้ามาช่วยดูแลไดรเวอร์ที่ขาดผู้ดูแล พร้อมทั้งใช้โครงสร้างแบบ modular และ framework ที่ช่วยลดการพึ่งพาไดรเวอร์เฉพาะจากผู้ผลิต
Intel ลดจำนวนพนักงานในปี 2025 ส่งผลต่อการพัฒนา Linux kernel driver
ส่งผลให้การแก้บั๊กและการรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่ล่าช้า
กระทบต่อการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ของ Intel ใน Linux
ไดรเวอร์บางตัวถูกประกาศว่า orphaned เช่น Slim Bootloader firmware update driver
ไม่มีผู้ดูแลที่มีความเชี่ยวชาญเหลืออยู่ในทีม
อาจส่งผลต่อการอัปเดตเฟิร์มแวร์ของแพลตฟอร์ม Intel x86
ชุมชน Linux และบริษัทอื่น ๆ เข้ามาช่วยดูแลไดรเวอร์ที่ขาดผู้ดูแล
ใช้กระบวนการ maintainer transition เพื่อเปลี่ยนผู้ดูแล
บริษัทเช่น Red Hat, SUSE, Canonical มีทีม kernel ของตัวเอง
Linux kernel มีโครงสร้างแบบ modular ที่ช่วยให้การพัฒนาไม่หยุดชะงัก
สามารถเปลี่ยนผู้ดูแลหรือปรับโครงสร้างได้ตามสถานการณ์
มี framework ที่ช่วยลดการพึ่งพาไดรเวอร์เฉพาะจากผู้ผลิต
ผู้ใช้ควรติดตามการเปลี่ยนแปลงใน MAINTAINERS file และ kernel mailing list
เพื่อรู้ว่าไดรเวอร์ใดเปลี่ยนผู้ดูแล
ควรทดสอบฮาร์ดแวร์ของตนเองเมื่ออัปเดต kernel
การลดทีมงานของ Intel อาจทำให้การรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่ล่าช้า
ผู้ใช้ที่ใช้ฮาร์ดแวร์ Intel รุ่นใหม่อาจต้องรอนานกว่าจะมีไดรเวอร์ใน kernel
อาจต้องใช้ kernel รุ่นพิเศษหรือ patch เองในบางกรณี
ไดรเวอร์ที่ไม่มีผู้ดูแลอาจมีช่องโหว่หรือไม่รองรับ kernel รุ่นใหม่
เสี่ยงต่อความไม่เสถียรหรือปัญหาด้านความปลอดภัย
ต้องพึ่งพาชุมชนหรือบริษัทอื่นในการดูแล
การถอนตัวจากโครงการ Clear Linux แสดงถึงการลดบทบาทของ Intel ในโลก open-source
อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักพัฒนาและผู้ใช้
ลดโอกาสในการพัฒนาเทคโนโลยีที่เน้น Linux โดยเฉพาะ
องค์กรที่ใช้ฮาร์ดแวร์ Intel ควรพิจารณาการ compile kernel เองเพื่อควบคุมไดรเวอร์
โดยเฉพาะในระบบ enterprise ที่ต้องการความเสถียรสูง
ต้องมีทีมเทคนิคที่เข้าใจการจัดการ kernel และ driver
https://linuxconfig.org/intel-layoffs-impact-linux-kernel-driver-development-what-you-need-to-know
🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อ Intel ลดพนักงาน ส่งผลสะเทือนถึงโลกของ Linux
ในปี 2025 Intel ได้ประกาศลดจำนวนพนักงานครั้งใหญ่ภายใต้การนำของ CEO คนใหม่ Lip-Bu Tan ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการพัฒนาไดรเวอร์ใน Linux kernel โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับฮาร์ดแวร์ของ Intel เช่น GPU, Ethernet, และ CPU microcode ที่เคยมีทีมงานเฉพาะดูแลอย่างใกล้ชิด
การลดทีมงานทำให้เกิดความล่าช้าในการแก้บั๊ก การทดสอบฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่ และการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ของ Intel ที่จะรองรับใน Linux kernel รุ่นถัดไป นอกจากนี้ยังมีไดรเวอร์บางตัวที่ถูกประกาศว่า “orphaned” หรือไม่มีผู้ดูแลแล้ว เช่น Slim Bootloader firmware update driver ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการอัปเดตเฟิร์มแวร์ของแพลตฟอร์ม Intel x86
แม้จะมีความกังวล แต่ชุมชน Linux ก็ยังคงมีความแข็งแกร่ง โดยมีนักพัฒนาอิสระและบริษัทอื่น ๆ เช่น Red Hat, SUSE, Canonical เข้ามาช่วยดูแลไดรเวอร์ที่ขาดผู้ดูแล พร้อมทั้งใช้โครงสร้างแบบ modular และ framework ที่ช่วยลดการพึ่งพาไดรเวอร์เฉพาะจากผู้ผลิต
✅ Intel ลดจำนวนพนักงานในปี 2025 ส่งผลต่อการพัฒนา Linux kernel driver
➡️ ส่งผลให้การแก้บั๊กและการรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่ล่าช้า
➡️ กระทบต่อการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ของ Intel ใน Linux
✅ ไดรเวอร์บางตัวถูกประกาศว่า orphaned เช่น Slim Bootloader firmware update driver
➡️ ไม่มีผู้ดูแลที่มีความเชี่ยวชาญเหลืออยู่ในทีม
➡️ อาจส่งผลต่อการอัปเดตเฟิร์มแวร์ของแพลตฟอร์ม Intel x86
✅ ชุมชน Linux และบริษัทอื่น ๆ เข้ามาช่วยดูแลไดรเวอร์ที่ขาดผู้ดูแล
➡️ ใช้กระบวนการ maintainer transition เพื่อเปลี่ยนผู้ดูแล
➡️ บริษัทเช่น Red Hat, SUSE, Canonical มีทีม kernel ของตัวเอง
✅ Linux kernel มีโครงสร้างแบบ modular ที่ช่วยให้การพัฒนาไม่หยุดชะงัก
➡️ สามารถเปลี่ยนผู้ดูแลหรือปรับโครงสร้างได้ตามสถานการณ์
➡️ มี framework ที่ช่วยลดการพึ่งพาไดรเวอร์เฉพาะจากผู้ผลิต
✅ ผู้ใช้ควรติดตามการเปลี่ยนแปลงใน MAINTAINERS file และ kernel mailing list
➡️ เพื่อรู้ว่าไดรเวอร์ใดเปลี่ยนผู้ดูแล
➡️ ควรทดสอบฮาร์ดแวร์ของตนเองเมื่ออัปเดต kernel
‼️ การลดทีมงานของ Intel อาจทำให้การรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่ล่าช้า
⛔ ผู้ใช้ที่ใช้ฮาร์ดแวร์ Intel รุ่นใหม่อาจต้องรอนานกว่าจะมีไดรเวอร์ใน kernel
⛔ อาจต้องใช้ kernel รุ่นพิเศษหรือ patch เองในบางกรณี
‼️ ไดรเวอร์ที่ไม่มีผู้ดูแลอาจมีช่องโหว่หรือไม่รองรับ kernel รุ่นใหม่
⛔ เสี่ยงต่อความไม่เสถียรหรือปัญหาด้านความปลอดภัย
⛔ ต้องพึ่งพาชุมชนหรือบริษัทอื่นในการดูแล
‼️ การถอนตัวจากโครงการ Clear Linux แสดงถึงการลดบทบาทของ Intel ในโลก open-source
⛔ อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักพัฒนาและผู้ใช้
⛔ ลดโอกาสในการพัฒนาเทคโนโลยีที่เน้น Linux โดยเฉพาะ
‼️ องค์กรที่ใช้ฮาร์ดแวร์ Intel ควรพิจารณาการ compile kernel เองเพื่อควบคุมไดรเวอร์
⛔ โดยเฉพาะในระบบ enterprise ที่ต้องการความเสถียรสูง
⛔ ต้องมีทีมเทคนิคที่เข้าใจการจัดการ kernel และ driver
https://linuxconfig.org/intel-layoffs-impact-linux-kernel-driver-development-what-you-need-to-know
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
17 มุมมอง
0 รีวิว