เรื่องเล่าจากอวกาศ: เมื่อแสงอาทิตย์ถูก “ขาย” หลังพระอาทิตย์ตก
Reflect Orbital วางแผนส่งดาวเทียม 57 ดวงขึ้นสู่วงโคจรต่ำ (600 กม.) โดยแต่ละดวงจะกางแผ่นฟิล์ม Mylar ขนาด 33x33 ฟุต ซึ่งมีน้ำหนักเบา ทนทาน และสะท้อนแสงได้ดี จุดประสงค์คือสะท้อนแสงอาทิตย์ไปยังฟาร์มโซลาร์หรือพื้นที่ที่ต้องการแสงสว่างในเวลากลางคืน
ผู้ใช้งานสามารถระบุพิกัดเป้าหมายผ่านเว็บไซต์ และระบบจะปรับทิศทางของกระจกให้สะท้อนแสงไปยังจุดนั้นโดยอัตโนมัติ โดยใช้ระบบควบคุมทิศทางขั้นสูง เช่น reaction wheels เพื่อให้แสงตกกระทบอย่างแม่นยำ
แม้แนวคิดนี้จะน่าตื่นเต้น แต่ก็เผชิญกับความท้าทายทางวิศวกรรม เช่น การปรับตำแหน่งให้ตรงกับการเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์และการหมุนของโลก รวมถึงผลกระทบจากเมฆและการกระเจิงของแสงในชั้นบรรยากาศ
Reflect Orbital พัฒนาเครือข่ายดาวเทียมพร้อมกระจก Mylar เพื่อสะท้อนแสงอาทิตย์กลับมายังโลกในเวลากลางคืน
ดาวเทียมแต่ละดวงมีน้ำหนักประมาณ 35 ปอนด์ ทำให้ต้นทุนการส่งต่ำ
กระจก Mylar ขนาด 33x33 ฟุต มีคุณสมบัติสะท้อนแสงสูงและน้ำหนักเบา
ระบบสามารถปรับทิศทางแสงได้ตามพิกัดที่ผู้ใช้ระบุผ่านเว็บไซต์
ใช้ระบบควบคุมทิศทางขั้นสูงเพื่อติดตามดวงอาทิตย์และเป้าหมายบนโลก
แสงจะตกกระทบเฉพาะพื้นที่เป้าหมายในแนวแคบ ลดผลกระทบต่อพื้นที่โดยรอบ
มีการทดสอบเบื้องต้นด้วยบอลลูนและกระจกขนาดเล็ก
ผลการทดลองสามารถผลิตพลังงานได้ถึง 500 วัตต์ต่อตารางเมตร
ประมาณครึ่งหนึ่งของความสว่างจากดวงอาทิตย์จริง
บริษัทวางแผนปฏิบัติตามกฎการกำจัดขยะอวกาศอย่างเคร่งครัด
ดาวเทียมต้องถูกนำออกจากวงโคจรภายใน 25 ปีหลังสิ้นสุดภารกิจ
ลดความเสี่ยงในการเพิ่มขยะอวกาศในระยะยาว
โครงการได้รับความสนใจจากนักลงทุนและผู้ใช้งานทั่วโลก
มีผู้ลงทะเบียน “ขอแสง” ผ่านเว็บไซต์แล้วหลายหมื่นราย
เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาแหล่งพลังงานสะอาดแบบต่อเนื่อง
การสะท้อนแสงจากอวกาศอาจเพิ่มปัญหา “มลภาวะทางแสง” ในเวลากลางคืน
ส่งผลกระทบต่อการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์
อาจรบกวนพฤติกรรมของสัตว์กลางคืนและวงจรชีวภาพของมนุษย์
ความแม่นยำในการเล็งแสงต้องใช้เทคโนโลยีควบคุมระดับสูง
การเบี่ยงเบนเล็กน้อยอาจทำให้แสงไม่ตกตรงเป้าหมาย
เมฆและชั้นบรรยากาศอาจลดประสิทธิภาพของแสงสะท้อน
การเพิ่มจำนวนดาวเทียมอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อขยะอวกาศ
หากไม่มีการกำจัดอย่างเหมาะสม อาจรบกวนดาวเทียมอื่น
ต้องมีระบบติดตามและควบคุมการเคลื่อนที่อย่างเข้มงวด
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมยังอยู่ระหว่างการประเมิน
อาจส่งผลต่อระบบนิเวศที่พึ่งพาวงจรแสงธรรมชาติ
ต้องมีการร่วมมือกับนักวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมก่อนการใช้งานเต็มรูปแบบ
https://www.techspot.com/news/108849-startup-aims-beam-sunlight-space-using-mirrors.html
Reflect Orbital วางแผนส่งดาวเทียม 57 ดวงขึ้นสู่วงโคจรต่ำ (600 กม.) โดยแต่ละดวงจะกางแผ่นฟิล์ม Mylar ขนาด 33x33 ฟุต ซึ่งมีน้ำหนักเบา ทนทาน และสะท้อนแสงได้ดี จุดประสงค์คือสะท้อนแสงอาทิตย์ไปยังฟาร์มโซลาร์หรือพื้นที่ที่ต้องการแสงสว่างในเวลากลางคืน
ผู้ใช้งานสามารถระบุพิกัดเป้าหมายผ่านเว็บไซต์ และระบบจะปรับทิศทางของกระจกให้สะท้อนแสงไปยังจุดนั้นโดยอัตโนมัติ โดยใช้ระบบควบคุมทิศทางขั้นสูง เช่น reaction wheels เพื่อให้แสงตกกระทบอย่างแม่นยำ
แม้แนวคิดนี้จะน่าตื่นเต้น แต่ก็เผชิญกับความท้าทายทางวิศวกรรม เช่น การปรับตำแหน่งให้ตรงกับการเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์และการหมุนของโลก รวมถึงผลกระทบจากเมฆและการกระเจิงของแสงในชั้นบรรยากาศ
Reflect Orbital พัฒนาเครือข่ายดาวเทียมพร้อมกระจก Mylar เพื่อสะท้อนแสงอาทิตย์กลับมายังโลกในเวลากลางคืน
ดาวเทียมแต่ละดวงมีน้ำหนักประมาณ 35 ปอนด์ ทำให้ต้นทุนการส่งต่ำ
กระจก Mylar ขนาด 33x33 ฟุต มีคุณสมบัติสะท้อนแสงสูงและน้ำหนักเบา
ระบบสามารถปรับทิศทางแสงได้ตามพิกัดที่ผู้ใช้ระบุผ่านเว็บไซต์
ใช้ระบบควบคุมทิศทางขั้นสูงเพื่อติดตามดวงอาทิตย์และเป้าหมายบนโลก
แสงจะตกกระทบเฉพาะพื้นที่เป้าหมายในแนวแคบ ลดผลกระทบต่อพื้นที่โดยรอบ
มีการทดสอบเบื้องต้นด้วยบอลลูนและกระจกขนาดเล็ก
ผลการทดลองสามารถผลิตพลังงานได้ถึง 500 วัตต์ต่อตารางเมตร
ประมาณครึ่งหนึ่งของความสว่างจากดวงอาทิตย์จริง
บริษัทวางแผนปฏิบัติตามกฎการกำจัดขยะอวกาศอย่างเคร่งครัด
ดาวเทียมต้องถูกนำออกจากวงโคจรภายใน 25 ปีหลังสิ้นสุดภารกิจ
ลดความเสี่ยงในการเพิ่มขยะอวกาศในระยะยาว
โครงการได้รับความสนใจจากนักลงทุนและผู้ใช้งานทั่วโลก
มีผู้ลงทะเบียน “ขอแสง” ผ่านเว็บไซต์แล้วหลายหมื่นราย
เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาแหล่งพลังงานสะอาดแบบต่อเนื่อง
การสะท้อนแสงจากอวกาศอาจเพิ่มปัญหา “มลภาวะทางแสง” ในเวลากลางคืน
ส่งผลกระทบต่อการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์
อาจรบกวนพฤติกรรมของสัตว์กลางคืนและวงจรชีวภาพของมนุษย์
ความแม่นยำในการเล็งแสงต้องใช้เทคโนโลยีควบคุมระดับสูง
การเบี่ยงเบนเล็กน้อยอาจทำให้แสงไม่ตกตรงเป้าหมาย
เมฆและชั้นบรรยากาศอาจลดประสิทธิภาพของแสงสะท้อน
การเพิ่มจำนวนดาวเทียมอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อขยะอวกาศ
หากไม่มีการกำจัดอย่างเหมาะสม อาจรบกวนดาวเทียมอื่น
ต้องมีระบบติดตามและควบคุมการเคลื่อนที่อย่างเข้มงวด
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมยังอยู่ระหว่างการประเมิน
อาจส่งผลต่อระบบนิเวศที่พึ่งพาวงจรแสงธรรมชาติ
ต้องมีการร่วมมือกับนักวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมก่อนการใช้งานเต็มรูปแบบ
https://www.techspot.com/news/108849-startup-aims-beam-sunlight-space-using-mirrors.html
☀️ เรื่องเล่าจากอวกาศ: เมื่อแสงอาทิตย์ถูก “ขาย” หลังพระอาทิตย์ตก
Reflect Orbital วางแผนส่งดาวเทียม 57 ดวงขึ้นสู่วงโคจรต่ำ (600 กม.) โดยแต่ละดวงจะกางแผ่นฟิล์ม Mylar ขนาด 33x33 ฟุต ซึ่งมีน้ำหนักเบา ทนทาน และสะท้อนแสงได้ดี จุดประสงค์คือสะท้อนแสงอาทิตย์ไปยังฟาร์มโซลาร์หรือพื้นที่ที่ต้องการแสงสว่างในเวลากลางคืน
ผู้ใช้งานสามารถระบุพิกัดเป้าหมายผ่านเว็บไซต์ และระบบจะปรับทิศทางของกระจกให้สะท้อนแสงไปยังจุดนั้นโดยอัตโนมัติ โดยใช้ระบบควบคุมทิศทางขั้นสูง เช่น reaction wheels เพื่อให้แสงตกกระทบอย่างแม่นยำ
แม้แนวคิดนี้จะน่าตื่นเต้น แต่ก็เผชิญกับความท้าทายทางวิศวกรรม เช่น การปรับตำแหน่งให้ตรงกับการเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์และการหมุนของโลก รวมถึงผลกระทบจากเมฆและการกระเจิงของแสงในชั้นบรรยากาศ
✅ Reflect Orbital พัฒนาเครือข่ายดาวเทียมพร้อมกระจก Mylar เพื่อสะท้อนแสงอาทิตย์กลับมายังโลกในเวลากลางคืน
➡️ ดาวเทียมแต่ละดวงมีน้ำหนักประมาณ 35 ปอนด์ ทำให้ต้นทุนการส่งต่ำ
➡️ กระจก Mylar ขนาด 33x33 ฟุต มีคุณสมบัติสะท้อนแสงสูงและน้ำหนักเบา
✅ ระบบสามารถปรับทิศทางแสงได้ตามพิกัดที่ผู้ใช้ระบุผ่านเว็บไซต์
➡️ ใช้ระบบควบคุมทิศทางขั้นสูงเพื่อติดตามดวงอาทิตย์และเป้าหมายบนโลก
➡️ แสงจะตกกระทบเฉพาะพื้นที่เป้าหมายในแนวแคบ ลดผลกระทบต่อพื้นที่โดยรอบ
✅ มีการทดสอบเบื้องต้นด้วยบอลลูนและกระจกขนาดเล็ก
➡️ ผลการทดลองสามารถผลิตพลังงานได้ถึง 500 วัตต์ต่อตารางเมตร
➡️ ประมาณครึ่งหนึ่งของความสว่างจากดวงอาทิตย์จริง
✅ บริษัทวางแผนปฏิบัติตามกฎการกำจัดขยะอวกาศอย่างเคร่งครัด
➡️ ดาวเทียมต้องถูกนำออกจากวงโคจรภายใน 25 ปีหลังสิ้นสุดภารกิจ
➡️ ลดความเสี่ยงในการเพิ่มขยะอวกาศในระยะยาว
✅ โครงการได้รับความสนใจจากนักลงทุนและผู้ใช้งานทั่วโลก
➡️ มีผู้ลงทะเบียน “ขอแสง” ผ่านเว็บไซต์แล้วหลายหมื่นราย
➡️ เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาแหล่งพลังงานสะอาดแบบต่อเนื่อง
‼️ การสะท้อนแสงจากอวกาศอาจเพิ่มปัญหา “มลภาวะทางแสง” ในเวลากลางคืน
⛔ ส่งผลกระทบต่อการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์
⛔ อาจรบกวนพฤติกรรมของสัตว์กลางคืนและวงจรชีวภาพของมนุษย์
‼️ ความแม่นยำในการเล็งแสงต้องใช้เทคโนโลยีควบคุมระดับสูง
⛔ การเบี่ยงเบนเล็กน้อยอาจทำให้แสงไม่ตกตรงเป้าหมาย
⛔ เมฆและชั้นบรรยากาศอาจลดประสิทธิภาพของแสงสะท้อน
‼️ การเพิ่มจำนวนดาวเทียมอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อขยะอวกาศ
⛔ หากไม่มีการกำจัดอย่างเหมาะสม อาจรบกวนดาวเทียมอื่น
⛔ ต้องมีระบบติดตามและควบคุมการเคลื่อนที่อย่างเข้มงวด
‼️ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมยังอยู่ระหว่างการประเมิน
⛔ อาจส่งผลต่อระบบนิเวศที่พึ่งพาวงจรแสงธรรมชาติ
⛔ ต้องมีการร่วมมือกับนักวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมก่อนการใช้งานเต็มรูปแบบ
https://www.techspot.com/news/108849-startup-aims-beam-sunlight-space-using-mirrors.html
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
49 มุมมอง
0 รีวิว