เรื่องเล่าจากการวัดเวลา: เมื่อหนึ่งวินาทีอาจไม่ใช่สิ่งที่เราเคยรู้จัก

นาฬิกาอะตอมแบบซีเซียม (cesium atomic clocks) ถูกใช้เป็นมาตรฐานสากลในการกำหนด “หนึ่งวินาที” มาตั้งแต่ปี 1967 โดยอิงจากการสั่นของอะตอมซีเซียมที่ระดับพลังงานเฉพาะ แต่เทคโนโลยีใหม่อย่าง optical clocks ซึ่งใช้เลเซอร์วัดการกระโดดของอะตอมระหว่างระดับพลังงาน — มีความแม่นยำสูงกว่ามาก

- Optical clocks อาจคลาดเคลื่อนน้อยกว่า 1 วินาทีในช่วงเวลาหลายพันล้านปี
- การเปรียบเทียบครั้งนี้ใช้การวัดแบบ frequency ratio 38 ครั้ง โดย 4 ครั้งไม่เคยทำมาก่อน
- ใช้การเชื่อมต่อผ่าน GPS และสายไฟเบอร์ออปติกพิเศษระหว่างประเทศ เช่นฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี

ผลลัพธ์ช่วยให้:
- ตรวจสอบความสอดคล้องระหว่างนาฬิกาแต่ละเรือน
- ลดความไม่แน่นอนในการวัด
- เตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนมาตรฐาน “หนึ่งวินาที” จากซีเซียมเป็น optical

นักวิจัยยังชี้ว่าเครือข่ายนาฬิกาเหล่านี้สามารถใช้ในการวิจัยฟิสิกส์ขั้นสูง เช่น:
- การค้นหา dark matter
- การทดสอบทฤษฎีพื้นฐานของฟิสิกส์
- การวัดการเปลี่ยนแปลงของแรงโน้มถ่วงในระดับนาโน

นักวิจัยจาก 6 ประเทศในยุโรปเปรียบเทียบนาฬิกาแสง 10 เรือนพร้อมกัน
เป็นการทดลองที่ใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับการวัดเวลาแบบ optical

Optical clocks ใช้เลเซอร์วัดการกระโดดของอะตอมระหว่างระดับพลังงาน
มีความแม่นยำสูงกว่านาฬิกาอะตอมซีเซียมหลายเท่า

การทดลองใช้การวัด frequency ratio 38 ครั้ง โดย 4 ครั้งไม่เคยทำมาก่อน
ช่วยตรวจสอบความสอดคล้องและลดความไม่แน่นอน

ใช้การเชื่อมต่อผ่าน GPS และสายไฟเบอร์ออปติกพิเศษระหว่างประเทศ
สายไฟเบอร์ให้ความแม่นยำสูงกว่า GPS ถึง 100 เท่า แต่ครอบคลุมระยะสั้น

ผลลัพธ์ตีพิมพ์ในวารสาร Optica และได้รับการยอมรับในวงการวิทยาศาสตร์
เป็นก้าวสำคัญสู่การนิยามใหม่ของ “หนึ่งวินาที” ในอนาคต

เครือข่ายนาฬิกาเหล่านี้สามารถใช้ในการวิจัยฟิสิกส์ขั้นสูง เช่น dark matter และแรงโน้มถ่วง
ทำให้ระบบวัดเวลากลายเป็นเครื่องมือวิทยาศาสตร์ระดับลึก

https://www.neowin.net/news/science-is-almost-ready-to-redefine-the-second-with-this-new-research/
🎙️ เรื่องเล่าจากการวัดเวลา: เมื่อหนึ่งวินาทีอาจไม่ใช่สิ่งที่เราเคยรู้จัก นาฬิกาอะตอมแบบซีเซียม (cesium atomic clocks) ถูกใช้เป็นมาตรฐานสากลในการกำหนด “หนึ่งวินาที” มาตั้งแต่ปี 1967 โดยอิงจากการสั่นของอะตอมซีเซียมที่ระดับพลังงานเฉพาะ แต่เทคโนโลยีใหม่อย่าง optical clocks ซึ่งใช้เลเซอร์วัดการกระโดดของอะตอมระหว่างระดับพลังงาน — มีความแม่นยำสูงกว่ามาก - Optical clocks อาจคลาดเคลื่อนน้อยกว่า 1 วินาทีในช่วงเวลาหลายพันล้านปี - การเปรียบเทียบครั้งนี้ใช้การวัดแบบ frequency ratio 38 ครั้ง โดย 4 ครั้งไม่เคยทำมาก่อน - ใช้การเชื่อมต่อผ่าน GPS และสายไฟเบอร์ออปติกพิเศษระหว่างประเทศ เช่นฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ผลลัพธ์ช่วยให้: - ตรวจสอบความสอดคล้องระหว่างนาฬิกาแต่ละเรือน - ลดความไม่แน่นอนในการวัด - เตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนมาตรฐาน “หนึ่งวินาที” จากซีเซียมเป็น optical นักวิจัยยังชี้ว่าเครือข่ายนาฬิกาเหล่านี้สามารถใช้ในการวิจัยฟิสิกส์ขั้นสูง เช่น: - การค้นหา dark matter - การทดสอบทฤษฎีพื้นฐานของฟิสิกส์ - การวัดการเปลี่ยนแปลงของแรงโน้มถ่วงในระดับนาโน ✅ นักวิจัยจาก 6 ประเทศในยุโรปเปรียบเทียบนาฬิกาแสง 10 เรือนพร้อมกัน ➡️ เป็นการทดลองที่ใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับการวัดเวลาแบบ optical ✅ Optical clocks ใช้เลเซอร์วัดการกระโดดของอะตอมระหว่างระดับพลังงาน ➡️ มีความแม่นยำสูงกว่านาฬิกาอะตอมซีเซียมหลายเท่า ✅ การทดลองใช้การวัด frequency ratio 38 ครั้ง โดย 4 ครั้งไม่เคยทำมาก่อน ➡️ ช่วยตรวจสอบความสอดคล้องและลดความไม่แน่นอน ✅ ใช้การเชื่อมต่อผ่าน GPS และสายไฟเบอร์ออปติกพิเศษระหว่างประเทศ ➡️ สายไฟเบอร์ให้ความแม่นยำสูงกว่า GPS ถึง 100 เท่า แต่ครอบคลุมระยะสั้น ✅ ผลลัพธ์ตีพิมพ์ในวารสาร Optica และได้รับการยอมรับในวงการวิทยาศาสตร์ ➡️ เป็นก้าวสำคัญสู่การนิยามใหม่ของ “หนึ่งวินาที” ในอนาคต ✅ เครือข่ายนาฬิกาเหล่านี้สามารถใช้ในการวิจัยฟิสิกส์ขั้นสูง เช่น dark matter และแรงโน้มถ่วง ➡️ ทำให้ระบบวัดเวลากลายเป็นเครื่องมือวิทยาศาสตร์ระดับลึก https://www.neowin.net/news/science-is-almost-ready-to-redefine-the-second-with-this-new-research/
WWW.NEOWIN.NET
Science is almost ready to "redefine the second" with this new research
Scientists have been researching how to measure time even more accurately and with this new study, they are getting ready to "redefine the seconds."
0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว