เดิมทีเรามักคิดว่า “ดาต้าเซ็นเตอร์ = อาหารของ AI = โรงไฟฟ้าขนาดย่อม” เพราะมันกินไฟมหาศาล โดยเฉพาะเมื่อ AI ต้องเรนเดอร์และประมวลผลแบบ real-time — นี่แหละครับคือปัญหาที่โลกกำลังปวดหัวอยู่
แต่ Crusoe ไม่รอให้ปัญหาขยาย พวกเขาร่วมมือกับ Redwood Materials (บริษัทที่ก่อตั้งโดย JB Straubel — ผู้ร่วมก่อตั้ง Tesla) เพื่อแก้ปัญหาให้ครบวงจร:
- ใช้แบตเตอรี่จากรถ EV เก่าที่ยังเหลือความจุ ~50% มารวมเป็นระบบแบตสำรองขนาดยักษ์
- ผสานเข้ากับแผงโซลาร์เซลล์ สร้างเป็น microgrid ขนาด 12 เมกะวัตต์ + ความจุไฟ 63 MWh
- ใช้เวลาสร้างแค่ 4 เดือนเท่านั้น — ไวกว่าสร้างโรงไฟฟ้าหรือเดินสายส่งหลายปี!
- ปัจจุบัน ศูนย์ข้อมูลที่รันด้วยแบตพวกนี้ ใช้ GPU กว่า 2,000 ตัว สำหรับงาน AI โดยไม่แตะไฟจากสายส่งเลย
และที่เจ๋งคือ เมื่อแบตหมดอายุลงไปอีก…ก็ส่งกลับไปรีไซเคิลเพื่อดึงแร่ลิเธียม โคบอลต์ นิกเกิล กลับเข้าสายพานการผลิตอีก — ครบลูปแบบ zero-waste!
✅ Redwood Materials นำแบตรถ EV เก่าที่มีประจุเหลือเกินครึ่ง มาทำเป็นระบบกักเก็บพลังงานแบบอยู่กับที่
• ช่วยให้ไม่ต้องรีไซเคิลทันที
• ต่ออายุการใช้งานก่อนนำไปสกัดแร่กลับมาหมุนเวียน
✅ Crusoe ใช้ microgrid ที่ประกอบด้วยแบต EV มือสอง + พลังแสงอาทิตย์ รันศูนย์ข้อมูล AI เต็มรูปแบบ
• ให้พลังงาน 12 เมกะวัตต์ เก็บได้ 63 MWh
• ใหญ่สุดในอเมริกาเหนือในด้านแบตรีไซเคิล
• ใช้ GPU 2,000 ตัวประมวลผล AI โดยไม่พึ่งกริดกลาง
✅ ระบบ microgrid ใช้งานแบตในลักษณะ “ไม่เร่ง” มากเท่ารถ EV
• แบต EV ต้องรับแรงเร่ง–ชาร์จเร็ว แต่ศูนย์ข้อมูล discharge ช้า → แบตอยู่ได้นาน
• ต้นทุนถูกกว่าซื้อแบตใหม่ครึ่งหนึ่ง
✅ Redwood มีเครือข่ายเก็บแบตใช้แล้วจากทั่วอเมริกาเหนือ (มากกว่า 70%)
• ประเมินว่าบรรดาแบต EV มือสองเหล่านี้อาจกลายเป็น 50% ของตลาดแบตสำรองในอนาคต
✅ เมื่อแบตหมดอายุลงอีกครั้ง → นำไปรีไซเคิลเพื่อคืนแร่หายากกลับสู่อุตสาหกรรม
✅ โครงการนี้เกิดขึ้นภายใน 4 เดือน เร็วกว่าโครงการพลังงานทั่วไปหลายเท่า
https://www.techspot.com/news/108487-data-center-nevada-runs-solar-power-reused-ev.html
แต่ Crusoe ไม่รอให้ปัญหาขยาย พวกเขาร่วมมือกับ Redwood Materials (บริษัทที่ก่อตั้งโดย JB Straubel — ผู้ร่วมก่อตั้ง Tesla) เพื่อแก้ปัญหาให้ครบวงจร:
- ใช้แบตเตอรี่จากรถ EV เก่าที่ยังเหลือความจุ ~50% มารวมเป็นระบบแบตสำรองขนาดยักษ์
- ผสานเข้ากับแผงโซลาร์เซลล์ สร้างเป็น microgrid ขนาด 12 เมกะวัตต์ + ความจุไฟ 63 MWh
- ใช้เวลาสร้างแค่ 4 เดือนเท่านั้น — ไวกว่าสร้างโรงไฟฟ้าหรือเดินสายส่งหลายปี!
- ปัจจุบัน ศูนย์ข้อมูลที่รันด้วยแบตพวกนี้ ใช้ GPU กว่า 2,000 ตัว สำหรับงาน AI โดยไม่แตะไฟจากสายส่งเลย
และที่เจ๋งคือ เมื่อแบตหมดอายุลงไปอีก…ก็ส่งกลับไปรีไซเคิลเพื่อดึงแร่ลิเธียม โคบอลต์ นิกเกิล กลับเข้าสายพานการผลิตอีก — ครบลูปแบบ zero-waste!
✅ Redwood Materials นำแบตรถ EV เก่าที่มีประจุเหลือเกินครึ่ง มาทำเป็นระบบกักเก็บพลังงานแบบอยู่กับที่
• ช่วยให้ไม่ต้องรีไซเคิลทันที
• ต่ออายุการใช้งานก่อนนำไปสกัดแร่กลับมาหมุนเวียน
✅ Crusoe ใช้ microgrid ที่ประกอบด้วยแบต EV มือสอง + พลังแสงอาทิตย์ รันศูนย์ข้อมูล AI เต็มรูปแบบ
• ให้พลังงาน 12 เมกะวัตต์ เก็บได้ 63 MWh
• ใหญ่สุดในอเมริกาเหนือในด้านแบตรีไซเคิล
• ใช้ GPU 2,000 ตัวประมวลผล AI โดยไม่พึ่งกริดกลาง
✅ ระบบ microgrid ใช้งานแบตในลักษณะ “ไม่เร่ง” มากเท่ารถ EV
• แบต EV ต้องรับแรงเร่ง–ชาร์จเร็ว แต่ศูนย์ข้อมูล discharge ช้า → แบตอยู่ได้นาน
• ต้นทุนถูกกว่าซื้อแบตใหม่ครึ่งหนึ่ง
✅ Redwood มีเครือข่ายเก็บแบตใช้แล้วจากทั่วอเมริกาเหนือ (มากกว่า 70%)
• ประเมินว่าบรรดาแบต EV มือสองเหล่านี้อาจกลายเป็น 50% ของตลาดแบตสำรองในอนาคต
✅ เมื่อแบตหมดอายุลงอีกครั้ง → นำไปรีไซเคิลเพื่อคืนแร่หายากกลับสู่อุตสาหกรรม
✅ โครงการนี้เกิดขึ้นภายใน 4 เดือน เร็วกว่าโครงการพลังงานทั่วไปหลายเท่า
https://www.techspot.com/news/108487-data-center-nevada-runs-solar-power-reused-ev.html
เดิมทีเรามักคิดว่า “ดาต้าเซ็นเตอร์ = อาหารของ AI = โรงไฟฟ้าขนาดย่อม” เพราะมันกินไฟมหาศาล โดยเฉพาะเมื่อ AI ต้องเรนเดอร์และประมวลผลแบบ real-time — นี่แหละครับคือปัญหาที่โลกกำลังปวดหัวอยู่
แต่ Crusoe ไม่รอให้ปัญหาขยาย พวกเขาร่วมมือกับ Redwood Materials (บริษัทที่ก่อตั้งโดย JB Straubel — ผู้ร่วมก่อตั้ง Tesla) เพื่อแก้ปัญหาให้ครบวงจร:
- ใช้แบตเตอรี่จากรถ EV เก่าที่ยังเหลือความจุ ~50% มารวมเป็นระบบแบตสำรองขนาดยักษ์
- ผสานเข้ากับแผงโซลาร์เซลล์ สร้างเป็น microgrid ขนาด 12 เมกะวัตต์ + ความจุไฟ 63 MWh
- ใช้เวลาสร้างแค่ 4 เดือนเท่านั้น — ไวกว่าสร้างโรงไฟฟ้าหรือเดินสายส่งหลายปี!
- ปัจจุบัน ศูนย์ข้อมูลที่รันด้วยแบตพวกนี้ ใช้ GPU กว่า 2,000 ตัว สำหรับงาน AI โดยไม่แตะไฟจากสายส่งเลย
และที่เจ๋งคือ เมื่อแบตหมดอายุลงไปอีก…ก็ส่งกลับไปรีไซเคิลเพื่อดึงแร่ลิเธียม โคบอลต์ นิกเกิล กลับเข้าสายพานการผลิตอีก — ครบลูปแบบ zero-waste!
✅ Redwood Materials นำแบตรถ EV เก่าที่มีประจุเหลือเกินครึ่ง มาทำเป็นระบบกักเก็บพลังงานแบบอยู่กับที่
• ช่วยให้ไม่ต้องรีไซเคิลทันที
• ต่ออายุการใช้งานก่อนนำไปสกัดแร่กลับมาหมุนเวียน
✅ Crusoe ใช้ microgrid ที่ประกอบด้วยแบต EV มือสอง + พลังแสงอาทิตย์ รันศูนย์ข้อมูล AI เต็มรูปแบบ
• ให้พลังงาน 12 เมกะวัตต์ เก็บได้ 63 MWh
• ใหญ่สุดในอเมริกาเหนือในด้านแบตรีไซเคิล
• ใช้ GPU 2,000 ตัวประมวลผล AI โดยไม่พึ่งกริดกลาง
✅ ระบบ microgrid ใช้งานแบตในลักษณะ “ไม่เร่ง” มากเท่ารถ EV
• แบต EV ต้องรับแรงเร่ง–ชาร์จเร็ว แต่ศูนย์ข้อมูล discharge ช้า → แบตอยู่ได้นาน
• ต้นทุนถูกกว่าซื้อแบตใหม่ครึ่งหนึ่ง
✅ Redwood มีเครือข่ายเก็บแบตใช้แล้วจากทั่วอเมริกาเหนือ (มากกว่า 70%)
• ประเมินว่าบรรดาแบต EV มือสองเหล่านี้อาจกลายเป็น 50% ของตลาดแบตสำรองในอนาคต
✅ เมื่อแบตหมดอายุลงอีกครั้ง → นำไปรีไซเคิลเพื่อคืนแร่หายากกลับสู่อุตสาหกรรม
✅ โครงการนี้เกิดขึ้นภายใน 4 เดือน เร็วกว่าโครงการพลังงานทั่วไปหลายเท่า
https://www.techspot.com/news/108487-data-center-nevada-runs-solar-power-reused-ev.html
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
29 มุมมอง
0 รีวิว