หลายองค์กรยังมอง CISO เป็น “ฝ่าย IT” ที่คอยกันภัยอยู่ท้ายขบวน แต่วันนี้ CISO ต้องเปลี่ยนบทบาทเป็น พาร์ตเนอร์ธุรกิจ ที่ตอบคำถาม CEO ได้ว่า “เราปลอดภัยพอจะเดินหน้าต่อหรือยัง?”
ไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิคอีกต่อไป — คำถามสำคัญกลายเป็นเรื่องแบบนี้:
- ทีมเราทำให้ธุรกิจคล่องตัวขึ้น หรือแค่เป็นตัวถ่วง?
- ดาต้าอยู่ตรงไหนจริง ๆ กันแน่ (รวม shadow IT ด้วยไหม)?
- สิ่งที่เราทำ ถูกมองว่า "ช่วย" หรือ "ขวาง" คนอื่น?
- เราเล่าเรื่องความเสี่ยงให้ผู้บริหารเข้าใจได้ หรือยังพูดแบบเทคนิคจ๋าจนไม่มีใครฟัง?
และที่น่าสนใจคือ… AI เองก็เปลี่ยนบทบาททีม Cyber แล้ว — จากคนทำ log analysis → กลายเป็นผู้ช่วยหาช่องโหว่แบบอัตโนมัติ ดังนั้นคำถามที่เพิ่มขึ้นคือ “เราจะใช้ AI เสริมทีม หรือโดนแทนที่?”
คำถามสำคัญ:
✅ CISO ควรถามตัวเองว่าเป็น “ผู้ขับเคลื่อนธุรกิจ” หรือ “ตัวถ่วง”
• ถ้าทีมอื่นไม่อยากชวนเราเข้าประชุมช่วงวางแผน อาจมีปัญหาเรื่อง perception
• ควรเปลี่ยนบทบาทจาก “ตำรวจ” เป็น “ที่ปรึกษา”
✅ กลยุทธ์รักษาความปลอดภัยต้องสมดุลกับระดับความเสี่ยงที่ธุรกิจยอมรับได้
• ปิดทุกอย่างไม่ได้ = ธุรกิจหยุด
• เปิดหมด = เสี่ยงเกินไป
• ต้อง “รู้จังหวะว่าเสี่ยงแค่ไหนถึงพอเหมาะ”
✅ ข้อมูลประเภทไหนอยู่ที่ไหน = หัวใจของแผน Cyber
• หลายองค์กรมี “ข้อมูลลับ” ที่หลุดอยู่นอกระบบหลัก เช่น shared drive, shadow IT
• รวมถึงดาต้าจากบริษัทที่ควบรวมมา
✅ วัดผลแบบไหนถึงจะสื่อสารกับบอร์ดได้ดี?
• อย่าวัดแค่ patch กี่เครื่อง หรือ alert เยอะแค่ไหน
• ควรวัดว่า “สิ่งที่ทำ” ส่งผลยังไงกับ KPI ธุรกิจ เช่น revenue loss prevented
✅ พูดแบบ technical จ๋าเกินไป = ผู้บริหารไม่เข้าใจความเสี่ยงจริง
• ต้องฝึกเล่าเรื่อง “ความเสี่ยงทางธุรกิจ” ไม่ใช่แค่ “config ผิด”
✅ วัฒนธรรมทีมก็สำคัญ: ทีมเรากล้าท้าทายความเห็น CISO ไหม?
• ถ้าไม่มี dissent = ผู้นำอาจมองไม่เห็น blind spot ตัวเอง
✅ ลูกค้าต้องการให้เราทำอะไรด้านความปลอดภัยบ้าง?
• วิเคราะห์จาก security questionnaire ที่ลูกค้าส่ง
• ใช้เป็น data สร้าง business case ได้ว่า “ถ้าไม่ทำ = เสียรายได้กลุ่มนี้”
✅ AI จะเปลี่ยนวิธีจัดทีม Cyber อย่างไร?
• ลดความต้องการคน entry-level (SOC Tier 1)
• ต้องเน้นฝึก analyst ที่เก่งขึ้น (Tier 2+) ที่รู้จัก “ทำงานร่วมกับ AI”
✅ ความเสี่ยงใหม่ไม่ได้มาจาก Zero-day เสมอไป — แต่มาจาก “สิ่งที่เราไม่รู้ว่ามีอยู่”
• เช่น ระบบเก่า, S3 bucket ที่ลืมปิด, API ใหม่ที่ไม่มีคนดู
✅ CISO ควรถามว่า: “ศัตรูเราเป็นใคร และเขาจะมาโจมตีช่องไหน?”
• วางแผนจาก threat model และจัด stack ให้พร้อมต่ออนาคต เช่น Quantum-resistant crypto
https://www.csoonline.com/article/4009212/10-tough-cybersecurity-questions-every-ciso-must-answer.html
ไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิคอีกต่อไป — คำถามสำคัญกลายเป็นเรื่องแบบนี้:
- ทีมเราทำให้ธุรกิจคล่องตัวขึ้น หรือแค่เป็นตัวถ่วง?
- ดาต้าอยู่ตรงไหนจริง ๆ กันแน่ (รวม shadow IT ด้วยไหม)?
- สิ่งที่เราทำ ถูกมองว่า "ช่วย" หรือ "ขวาง" คนอื่น?
- เราเล่าเรื่องความเสี่ยงให้ผู้บริหารเข้าใจได้ หรือยังพูดแบบเทคนิคจ๋าจนไม่มีใครฟัง?
และที่น่าสนใจคือ… AI เองก็เปลี่ยนบทบาททีม Cyber แล้ว — จากคนทำ log analysis → กลายเป็นผู้ช่วยหาช่องโหว่แบบอัตโนมัติ ดังนั้นคำถามที่เพิ่มขึ้นคือ “เราจะใช้ AI เสริมทีม หรือโดนแทนที่?”
คำถามสำคัญ:
✅ CISO ควรถามตัวเองว่าเป็น “ผู้ขับเคลื่อนธุรกิจ” หรือ “ตัวถ่วง”
• ถ้าทีมอื่นไม่อยากชวนเราเข้าประชุมช่วงวางแผน อาจมีปัญหาเรื่อง perception
• ควรเปลี่ยนบทบาทจาก “ตำรวจ” เป็น “ที่ปรึกษา”
✅ กลยุทธ์รักษาความปลอดภัยต้องสมดุลกับระดับความเสี่ยงที่ธุรกิจยอมรับได้
• ปิดทุกอย่างไม่ได้ = ธุรกิจหยุด
• เปิดหมด = เสี่ยงเกินไป
• ต้อง “รู้จังหวะว่าเสี่ยงแค่ไหนถึงพอเหมาะ”
✅ ข้อมูลประเภทไหนอยู่ที่ไหน = หัวใจของแผน Cyber
• หลายองค์กรมี “ข้อมูลลับ” ที่หลุดอยู่นอกระบบหลัก เช่น shared drive, shadow IT
• รวมถึงดาต้าจากบริษัทที่ควบรวมมา
✅ วัดผลแบบไหนถึงจะสื่อสารกับบอร์ดได้ดี?
• อย่าวัดแค่ patch กี่เครื่อง หรือ alert เยอะแค่ไหน
• ควรวัดว่า “สิ่งที่ทำ” ส่งผลยังไงกับ KPI ธุรกิจ เช่น revenue loss prevented
✅ พูดแบบ technical จ๋าเกินไป = ผู้บริหารไม่เข้าใจความเสี่ยงจริง
• ต้องฝึกเล่าเรื่อง “ความเสี่ยงทางธุรกิจ” ไม่ใช่แค่ “config ผิด”
✅ วัฒนธรรมทีมก็สำคัญ: ทีมเรากล้าท้าทายความเห็น CISO ไหม?
• ถ้าไม่มี dissent = ผู้นำอาจมองไม่เห็น blind spot ตัวเอง
✅ ลูกค้าต้องการให้เราทำอะไรด้านความปลอดภัยบ้าง?
• วิเคราะห์จาก security questionnaire ที่ลูกค้าส่ง
• ใช้เป็น data สร้าง business case ได้ว่า “ถ้าไม่ทำ = เสียรายได้กลุ่มนี้”
✅ AI จะเปลี่ยนวิธีจัดทีม Cyber อย่างไร?
• ลดความต้องการคน entry-level (SOC Tier 1)
• ต้องเน้นฝึก analyst ที่เก่งขึ้น (Tier 2+) ที่รู้จัก “ทำงานร่วมกับ AI”
✅ ความเสี่ยงใหม่ไม่ได้มาจาก Zero-day เสมอไป — แต่มาจาก “สิ่งที่เราไม่รู้ว่ามีอยู่”
• เช่น ระบบเก่า, S3 bucket ที่ลืมปิด, API ใหม่ที่ไม่มีคนดู
✅ CISO ควรถามว่า: “ศัตรูเราเป็นใคร และเขาจะมาโจมตีช่องไหน?”
• วางแผนจาก threat model และจัด stack ให้พร้อมต่ออนาคต เช่น Quantum-resistant crypto
https://www.csoonline.com/article/4009212/10-tough-cybersecurity-questions-every-ciso-must-answer.html
หลายองค์กรยังมอง CISO เป็น “ฝ่าย IT” ที่คอยกันภัยอยู่ท้ายขบวน แต่วันนี้ CISO ต้องเปลี่ยนบทบาทเป็น พาร์ตเนอร์ธุรกิจ ที่ตอบคำถาม CEO ได้ว่า “เราปลอดภัยพอจะเดินหน้าต่อหรือยัง?”
ไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิคอีกต่อไป — คำถามสำคัญกลายเป็นเรื่องแบบนี้:
- ทีมเราทำให้ธุรกิจคล่องตัวขึ้น หรือแค่เป็นตัวถ่วง?
- ดาต้าอยู่ตรงไหนจริง ๆ กันแน่ (รวม shadow IT ด้วยไหม)?
- สิ่งที่เราทำ ถูกมองว่า "ช่วย" หรือ "ขวาง" คนอื่น?
- เราเล่าเรื่องความเสี่ยงให้ผู้บริหารเข้าใจได้ หรือยังพูดแบบเทคนิคจ๋าจนไม่มีใครฟัง?
และที่น่าสนใจคือ… AI เองก็เปลี่ยนบทบาททีม Cyber แล้ว — จากคนทำ log analysis → กลายเป็นผู้ช่วยหาช่องโหว่แบบอัตโนมัติ ดังนั้นคำถามที่เพิ่มขึ้นคือ “เราจะใช้ AI เสริมทีม หรือโดนแทนที่?”
คำถามสำคัญ:
✅ CISO ควรถามตัวเองว่าเป็น “ผู้ขับเคลื่อนธุรกิจ” หรือ “ตัวถ่วง”
• ถ้าทีมอื่นไม่อยากชวนเราเข้าประชุมช่วงวางแผน อาจมีปัญหาเรื่อง perception
• ควรเปลี่ยนบทบาทจาก “ตำรวจ” เป็น “ที่ปรึกษา”
✅ กลยุทธ์รักษาความปลอดภัยต้องสมดุลกับระดับความเสี่ยงที่ธุรกิจยอมรับได้
• ปิดทุกอย่างไม่ได้ = ธุรกิจหยุด
• เปิดหมด = เสี่ยงเกินไป
• ต้อง “รู้จังหวะว่าเสี่ยงแค่ไหนถึงพอเหมาะ”
✅ ข้อมูลประเภทไหนอยู่ที่ไหน = หัวใจของแผน Cyber
• หลายองค์กรมี “ข้อมูลลับ” ที่หลุดอยู่นอกระบบหลัก เช่น shared drive, shadow IT
• รวมถึงดาต้าจากบริษัทที่ควบรวมมา
✅ วัดผลแบบไหนถึงจะสื่อสารกับบอร์ดได้ดี?
• อย่าวัดแค่ patch กี่เครื่อง หรือ alert เยอะแค่ไหน
• ควรวัดว่า “สิ่งที่ทำ” ส่งผลยังไงกับ KPI ธุรกิจ เช่น revenue loss prevented
✅ พูดแบบ technical จ๋าเกินไป = ผู้บริหารไม่เข้าใจความเสี่ยงจริง
• ต้องฝึกเล่าเรื่อง “ความเสี่ยงทางธุรกิจ” ไม่ใช่แค่ “config ผิด”
✅ วัฒนธรรมทีมก็สำคัญ: ทีมเรากล้าท้าทายความเห็น CISO ไหม?
• ถ้าไม่มี dissent = ผู้นำอาจมองไม่เห็น blind spot ตัวเอง
✅ ลูกค้าต้องการให้เราทำอะไรด้านความปลอดภัยบ้าง?
• วิเคราะห์จาก security questionnaire ที่ลูกค้าส่ง
• ใช้เป็น data สร้าง business case ได้ว่า “ถ้าไม่ทำ = เสียรายได้กลุ่มนี้”
✅ AI จะเปลี่ยนวิธีจัดทีม Cyber อย่างไร?
• ลดความต้องการคน entry-level (SOC Tier 1)
• ต้องเน้นฝึก analyst ที่เก่งขึ้น (Tier 2+) ที่รู้จัก “ทำงานร่วมกับ AI”
✅ ความเสี่ยงใหม่ไม่ได้มาจาก Zero-day เสมอไป — แต่มาจาก “สิ่งที่เราไม่รู้ว่ามีอยู่”
• เช่น ระบบเก่า, S3 bucket ที่ลืมปิด, API ใหม่ที่ไม่มีคนดู
✅ CISO ควรถามว่า: “ศัตรูเราเป็นใคร และเขาจะมาโจมตีช่องไหน?”
• วางแผนจาก threat model และจัด stack ให้พร้อมต่ออนาคต เช่น Quantum-resistant crypto
https://www.csoonline.com/article/4009212/10-tough-cybersecurity-questions-every-ciso-must-answer.html
0 Comments
0 Shares
13 Views
0 Reviews