ข่าวนี้พูดถึงสองประเด็นที่ผู้ใช้ Windows 10 ควรรู้ในช่วงใกล้หมดซัพพอร์ตปี 2025 — คือ
1) วิธีเช็กว่าเครื่องของคุณพร้อมอัปเกรดเป็น Windows 11 หรือไม่ และ
2) ทางเลือก “แก้ขัด” หากไม่สามารถอัปเกรดได้ ด้วยซอฟต์แวร์ของบริษัทภายนอกอย่าง 0patch ที่ให้แพตช์ความปลอดภัยต่อแม้ Microsoft หยุดอัปเดต
เรื่องแรก — ถ้าอยากรู้ว่าเครื่องคุณสามารถอัปเกรดเป็น Windows 11 ได้หรือไม่ วิธีง่ายที่สุดคือไปที่หน้า Windows 11 ของ Microsoft แล้วเลื่อนลงด้านล่างจนเจอปุ่ม “Check for compatibility” ซึ่งจะโหลดแอป PC Health Check มาให้คุณเช็กสเปกของเครื่อง เช่น CPU, TPM, RAM, ฯลฯ พร้อมบอกเลยว่า “ผ่าน” หรือ “ไม่ผ่าน”
ส่วนเรื่องที่สอง — ถ้าเครื่องของคุณใช้ Windows 10 แต่ไม่สามารถอัปเกรดได้ (เพราะไม่ผ่าน TPM หรือ CPU รุ่นเก่า) คุณอาจลองใช้ ซอฟต์แวร์ชื่อ “0patch” ซึ่งเป็นบริการจากบริษัท Acros Security ที่แจก “ไมโครแพตช์” ขนาดเล็กเพื่อปิดช่องโหว่ด้านความปลอดภัย แม้ Microsoft จะเลิกปล่อยแพตช์ให้ Windows 10 ไปแล้วก็ตาม
0patch เวอร์ชันฟรีให้ผู้ใช้ทั่วไปติดตั้งได้ทันที และมีเวอร์ชันเสียเงินสำหรับภาคธุรกิจด้วย โดยจุดเด่นของมันคือแพตช์มีขนาดเล็ก ติดตั้งเร็ว ไม่ต้องรีบูตเครื่อง และเน้น “แก้เฉพาะจุด” โดยไม่เปลี่ยนโค้ดระบบจำนวนมาก — ช่วยให้ Windows 10 มีความปลอดภัยในช่วงระยะยาวได้ดีในระดับหนึ่ง
✅ วิธีเช็กว่าเครื่องอัปเกรดเป็น Windows 11 ได้หรือไม่ ใช้แอป PC Health Check จาก Microsoft
• ดาวน์โหลดจากหน้า Windows 11 แล้วกดปุ่ม “check now”
• จะแสดงผล “ผ่าน / ไม่ผ่าน” พร้อมสรุปรายการสเปกที่ทดสอบ
✅ แอป PC Health Check ยังให้ข้อมูลระบบพื้นฐาน เช่น hostname, RAM, พื้นที่ว่าง, สถานะการ backup และเวลาบูตเครื่อง
✅ หากเครื่องอัปเกรดได้ วิธีแนะนำคือใช้ Windows Update จาก Settings เพื่ออัปเกรดโดยตรง
• ควร backup ข้อมูลไว้ก่อนเสมอ
✅ หากอัปเกรดไม่ได้ ผู้ใช้สามารถลองใช้ 0patch เพื่อรับ micropatch จากบริษัท Acros Security
• แพตช์ขนาดเล็ก ติดตั้งง่าย
• มีเวอร์ชันฟรีสำหรับผู้ใช้ทั่วไป และแบบเชิงพาณิชย์เสียเงิน
✅ 0patch เน้นอุดช่องโหว่ด้านความปลอดภัยหลัง Microsoft หยุดอัปเดต Windows 10
https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/22/opinion-more-questions-about-the-end-of-windows-10-and-third-party-patching
1) วิธีเช็กว่าเครื่องของคุณพร้อมอัปเกรดเป็น Windows 11 หรือไม่ และ
2) ทางเลือก “แก้ขัด” หากไม่สามารถอัปเกรดได้ ด้วยซอฟต์แวร์ของบริษัทภายนอกอย่าง 0patch ที่ให้แพตช์ความปลอดภัยต่อแม้ Microsoft หยุดอัปเดต
เรื่องแรก — ถ้าอยากรู้ว่าเครื่องคุณสามารถอัปเกรดเป็น Windows 11 ได้หรือไม่ วิธีง่ายที่สุดคือไปที่หน้า Windows 11 ของ Microsoft แล้วเลื่อนลงด้านล่างจนเจอปุ่ม “Check for compatibility” ซึ่งจะโหลดแอป PC Health Check มาให้คุณเช็กสเปกของเครื่อง เช่น CPU, TPM, RAM, ฯลฯ พร้อมบอกเลยว่า “ผ่าน” หรือ “ไม่ผ่าน”
ส่วนเรื่องที่สอง — ถ้าเครื่องของคุณใช้ Windows 10 แต่ไม่สามารถอัปเกรดได้ (เพราะไม่ผ่าน TPM หรือ CPU รุ่นเก่า) คุณอาจลองใช้ ซอฟต์แวร์ชื่อ “0patch” ซึ่งเป็นบริการจากบริษัท Acros Security ที่แจก “ไมโครแพตช์” ขนาดเล็กเพื่อปิดช่องโหว่ด้านความปลอดภัย แม้ Microsoft จะเลิกปล่อยแพตช์ให้ Windows 10 ไปแล้วก็ตาม
0patch เวอร์ชันฟรีให้ผู้ใช้ทั่วไปติดตั้งได้ทันที และมีเวอร์ชันเสียเงินสำหรับภาคธุรกิจด้วย โดยจุดเด่นของมันคือแพตช์มีขนาดเล็ก ติดตั้งเร็ว ไม่ต้องรีบูตเครื่อง และเน้น “แก้เฉพาะจุด” โดยไม่เปลี่ยนโค้ดระบบจำนวนมาก — ช่วยให้ Windows 10 มีความปลอดภัยในช่วงระยะยาวได้ดีในระดับหนึ่ง
✅ วิธีเช็กว่าเครื่องอัปเกรดเป็น Windows 11 ได้หรือไม่ ใช้แอป PC Health Check จาก Microsoft
• ดาวน์โหลดจากหน้า Windows 11 แล้วกดปุ่ม “check now”
• จะแสดงผล “ผ่าน / ไม่ผ่าน” พร้อมสรุปรายการสเปกที่ทดสอบ
✅ แอป PC Health Check ยังให้ข้อมูลระบบพื้นฐาน เช่น hostname, RAM, พื้นที่ว่าง, สถานะการ backup และเวลาบูตเครื่อง
✅ หากเครื่องอัปเกรดได้ วิธีแนะนำคือใช้ Windows Update จาก Settings เพื่ออัปเกรดโดยตรง
• ควร backup ข้อมูลไว้ก่อนเสมอ
✅ หากอัปเกรดไม่ได้ ผู้ใช้สามารถลองใช้ 0patch เพื่อรับ micropatch จากบริษัท Acros Security
• แพตช์ขนาดเล็ก ติดตั้งง่าย
• มีเวอร์ชันฟรีสำหรับผู้ใช้ทั่วไป และแบบเชิงพาณิชย์เสียเงิน
✅ 0patch เน้นอุดช่องโหว่ด้านความปลอดภัยหลัง Microsoft หยุดอัปเดต Windows 10
https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/22/opinion-more-questions-about-the-end-of-windows-10-and-third-party-patching
ข่าวนี้พูดถึงสองประเด็นที่ผู้ใช้ Windows 10 ควรรู้ในช่วงใกล้หมดซัพพอร์ตปี 2025 — คือ
1) วิธีเช็กว่าเครื่องของคุณพร้อมอัปเกรดเป็น Windows 11 หรือไม่ และ
2) ทางเลือก “แก้ขัด” หากไม่สามารถอัปเกรดได้ ด้วยซอฟต์แวร์ของบริษัทภายนอกอย่าง 0patch ที่ให้แพตช์ความปลอดภัยต่อแม้ Microsoft หยุดอัปเดต
เรื่องแรก — ถ้าอยากรู้ว่าเครื่องคุณสามารถอัปเกรดเป็น Windows 11 ได้หรือไม่ วิธีง่ายที่สุดคือไปที่หน้า Windows 11 ของ Microsoft แล้วเลื่อนลงด้านล่างจนเจอปุ่ม “Check for compatibility” ซึ่งจะโหลดแอป PC Health Check มาให้คุณเช็กสเปกของเครื่อง เช่น CPU, TPM, RAM, ฯลฯ พร้อมบอกเลยว่า “ผ่าน” หรือ “ไม่ผ่าน”
ส่วนเรื่องที่สอง — ถ้าเครื่องของคุณใช้ Windows 10 แต่ไม่สามารถอัปเกรดได้ (เพราะไม่ผ่าน TPM หรือ CPU รุ่นเก่า) คุณอาจลองใช้ ซอฟต์แวร์ชื่อ “0patch” ซึ่งเป็นบริการจากบริษัท Acros Security ที่แจก “ไมโครแพตช์” ขนาดเล็กเพื่อปิดช่องโหว่ด้านความปลอดภัย แม้ Microsoft จะเลิกปล่อยแพตช์ให้ Windows 10 ไปแล้วก็ตาม
0patch เวอร์ชันฟรีให้ผู้ใช้ทั่วไปติดตั้งได้ทันที และมีเวอร์ชันเสียเงินสำหรับภาคธุรกิจด้วย โดยจุดเด่นของมันคือแพตช์มีขนาดเล็ก ติดตั้งเร็ว ไม่ต้องรีบูตเครื่อง และเน้น “แก้เฉพาะจุด” โดยไม่เปลี่ยนโค้ดระบบจำนวนมาก — ช่วยให้ Windows 10 มีความปลอดภัยในช่วงระยะยาวได้ดีในระดับหนึ่ง
✅ วิธีเช็กว่าเครื่องอัปเกรดเป็น Windows 11 ได้หรือไม่ ใช้แอป PC Health Check จาก Microsoft
• ดาวน์โหลดจากหน้า Windows 11 แล้วกดปุ่ม “check now”
• จะแสดงผล “ผ่าน / ไม่ผ่าน” พร้อมสรุปรายการสเปกที่ทดสอบ
✅ แอป PC Health Check ยังให้ข้อมูลระบบพื้นฐาน เช่น hostname, RAM, พื้นที่ว่าง, สถานะการ backup และเวลาบูตเครื่อง
✅ หากเครื่องอัปเกรดได้ วิธีแนะนำคือใช้ Windows Update จาก Settings เพื่ออัปเกรดโดยตรง
• ควร backup ข้อมูลไว้ก่อนเสมอ
✅ หากอัปเกรดไม่ได้ ผู้ใช้สามารถลองใช้ 0patch เพื่อรับ micropatch จากบริษัท Acros Security
• แพตช์ขนาดเล็ก ติดตั้งง่าย
• มีเวอร์ชันฟรีสำหรับผู้ใช้ทั่วไป และแบบเชิงพาณิชย์เสียเงิน
✅ 0patch เน้นอุดช่องโหว่ด้านความปลอดภัยหลัง Microsoft หยุดอัปเดต Windows 10
https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/22/opinion-more-questions-about-the-end-of-windows-10-and-third-party-patching
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
27 มุมมอง
0 รีวิว