Keylogger คือมัลแวร์ที่คอยแอบบันทึกสิ่งที่เราพิมพ์—โดยเฉพาะ “ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน” ที่กรอกตอนล็อกอินเข้าเว็บ ระบบอีเมล หรือหน้า admin ต่าง ๆ ล่าสุด นักวิจัยจาก Positive Technologies พบว่า มีกลุ่มแฮกเกอร์ใช้ JavaScript keylogger ฝังเข้าไปในหน้า Outlook on the Web (OWA) ของ Microsoft Exchange Server ที่ถูกเจาะเข้าไปแล้ว

พวกเขาไม่ได้ใช้มัลแวร์ขั้นสูงหรือ zero-day อะไรเลย แค่ใช้ช่องโหว่ที่ “รู้กันมานานแล้ว” แต่หลายองค์กรไม่ได้อัปเดตแพตช์ Keylogger เหล่านี้ทำงานเงียบ ๆ บันทึกสิ่งที่ผู้ใช้พิมพ์ แล้วส่งออกผ่านช่องทางอย่าง DNS tunnel หรือ Telegram bot ให้แฮกเกอร์เอาไปใช้ภายหลัง

ที่น่ากลัวคือ เหยื่อกว่า 65 รายจาก 26 ประเทศ ทั้งหน่วยงานรัฐบาล อุตสาหกรรม และโลจิสติกส์—รวมถึงมีหลายรายในรัสเซีย เวียดนาม และไต้หวัน

และที่ยิ่งอันตรายคือ keylogger แบบนี้ “ฝังตัวอยู่นานหลายเดือนโดยไม่ถูกจับได้” เพราะมันซ่อนอยู่ในสคริปต์ของหน้าเว็บที่ดูปกติมาก

✅ พบแคมเปญ keylogger ฝังใน Microsoft Outlook Web Access (OWA)  
• แฮกเกอร์เจาะ Exchange Server แล้วฝัง JavaScript เพื่อดักพิมพ์

✅ รูปแบบมัลแวร์มี 2 แบบหลัก  • แบบเก็บข้อมูลในไฟล์ local เพื่อดึงไปอ่านภายหลัง  
• แบบส่งข้อมูลผ่าน DNS tunnel หรือ Telegram bot

✅ ฝังตัวอย่างแนบเนียนบนเซิร์ฟเวอร์ของเหยื่อหลายประเทศ (26 ประเทศ)  
• เหยื่อหลักคือหน่วยงานภาครัฐ, IT, อุตสาหกรรม และโลจิสติกส์  
• พบมากในรัสเซีย เวียดนาม และไต้หวัน

✅ มัลแวร์สามารถอยู่ได้นานหลายเดือนโดยไม่ถูกตรวจจับ  
• มีการจัดโครงสร้างไฟล์ให้แฮกเกอร์สามารถระบุตัวตนเหยื่อได้ง่าย

✅ ช่องทางเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ส่วนใหญ่เกิดจากช่องโหว่ที่เคยแจ้งแล้ว แต่ไม่ได้อัปเดตแพตช์  
• สะท้อนปัญหาการจัดการความเสี่ยงในองค์กรที่ไม่ต่อเนื่อง

✅ นักวิจัยแนะนำองค์กรให้หันมาใช้ web app รุ่นใหม่ และระบบตรวจจับพฤติกรรมเครือข่าย  
• รวมถึงสแกนโค้ดหน้า login อย่างสม่ำเสมอ

‼️ องค์กรที่ยังใช้ Exchange Server รุ่นเก่าหรือไม่ได้อัปเดตแพตช์มีความเสี่ยงสูงมาก  
• ช่องโหว่เก่า ๆ กลายเป็นทางเข้าที่แฮกเกอร์ใช้ซ้ำได้เรื่อย ๆ

‼️ Keylogger แบบ JavaScript ฝังตัวในหน้าล็อกอินได้โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมอะไรเลย  
• ทำให้ยากต่อการตรวจจับหากไม่มีระบบแยกแยะพฤติกรรมแปลก ๆ ของเว็บ

‼️ การส่งข้อมูลผ่านช่องทางที่ตรวจจับยาก เช่น DNS tunnel หรือ Telegram bot เพิ่มความซับซ้อนในการติดตาม  
• แฮกเกอร์สามารถดึงข้อมูลโดยไม่ถูกบล็อกจากไฟร์วอลล์มาตรฐาน

‼️ แอดมินหรือผู้ดูแลระบบอาจไม่สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลง เพราะ keylogger ไม่เปลี่ยนหน้าตาเว็บเลย  
• องค์กรควรใช้ระบบ file integrity monitoring ตรวจจับความเปลี่ยนแปลงในสคริปต์

https://www.techspot.com/news/108355-keylogger-campaign-hitting-microsoft-exchange-servers-goes-global.html
Keylogger คือมัลแวร์ที่คอยแอบบันทึกสิ่งที่เราพิมพ์—โดยเฉพาะ “ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน” ที่กรอกตอนล็อกอินเข้าเว็บ ระบบอีเมล หรือหน้า admin ต่าง ๆ ล่าสุด นักวิจัยจาก Positive Technologies พบว่า มีกลุ่มแฮกเกอร์ใช้ JavaScript keylogger ฝังเข้าไปในหน้า Outlook on the Web (OWA) ของ Microsoft Exchange Server ที่ถูกเจาะเข้าไปแล้ว พวกเขาไม่ได้ใช้มัลแวร์ขั้นสูงหรือ zero-day อะไรเลย แค่ใช้ช่องโหว่ที่ “รู้กันมานานแล้ว” แต่หลายองค์กรไม่ได้อัปเดตแพตช์ Keylogger เหล่านี้ทำงานเงียบ ๆ บันทึกสิ่งที่ผู้ใช้พิมพ์ แล้วส่งออกผ่านช่องทางอย่าง DNS tunnel หรือ Telegram bot ให้แฮกเกอร์เอาไปใช้ภายหลัง ที่น่ากลัวคือ เหยื่อกว่า 65 รายจาก 26 ประเทศ ทั้งหน่วยงานรัฐบาล อุตสาหกรรม และโลจิสติกส์—รวมถึงมีหลายรายในรัสเซีย เวียดนาม และไต้หวัน และที่ยิ่งอันตรายคือ keylogger แบบนี้ “ฝังตัวอยู่นานหลายเดือนโดยไม่ถูกจับได้” เพราะมันซ่อนอยู่ในสคริปต์ของหน้าเว็บที่ดูปกติมาก ✅ พบแคมเปญ keylogger ฝังใน Microsoft Outlook Web Access (OWA)   • แฮกเกอร์เจาะ Exchange Server แล้วฝัง JavaScript เพื่อดักพิมพ์ ✅ รูปแบบมัลแวร์มี 2 แบบหลัก  • แบบเก็บข้อมูลในไฟล์ local เพื่อดึงไปอ่านภายหลัง   • แบบส่งข้อมูลผ่าน DNS tunnel หรือ Telegram bot ✅ ฝังตัวอย่างแนบเนียนบนเซิร์ฟเวอร์ของเหยื่อหลายประเทศ (26 ประเทศ)   • เหยื่อหลักคือหน่วยงานภาครัฐ, IT, อุตสาหกรรม และโลจิสติกส์   • พบมากในรัสเซีย เวียดนาม และไต้หวัน ✅ มัลแวร์สามารถอยู่ได้นานหลายเดือนโดยไม่ถูกตรวจจับ   • มีการจัดโครงสร้างไฟล์ให้แฮกเกอร์สามารถระบุตัวตนเหยื่อได้ง่าย ✅ ช่องทางเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ส่วนใหญ่เกิดจากช่องโหว่ที่เคยแจ้งแล้ว แต่ไม่ได้อัปเดตแพตช์   • สะท้อนปัญหาการจัดการความเสี่ยงในองค์กรที่ไม่ต่อเนื่อง ✅ นักวิจัยแนะนำองค์กรให้หันมาใช้ web app รุ่นใหม่ และระบบตรวจจับพฤติกรรมเครือข่าย   • รวมถึงสแกนโค้ดหน้า login อย่างสม่ำเสมอ ‼️ องค์กรที่ยังใช้ Exchange Server รุ่นเก่าหรือไม่ได้อัปเดตแพตช์มีความเสี่ยงสูงมาก   • ช่องโหว่เก่า ๆ กลายเป็นทางเข้าที่แฮกเกอร์ใช้ซ้ำได้เรื่อย ๆ ‼️ Keylogger แบบ JavaScript ฝังตัวในหน้าล็อกอินได้โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมอะไรเลย   • ทำให้ยากต่อการตรวจจับหากไม่มีระบบแยกแยะพฤติกรรมแปลก ๆ ของเว็บ ‼️ การส่งข้อมูลผ่านช่องทางที่ตรวจจับยาก เช่น DNS tunnel หรือ Telegram bot เพิ่มความซับซ้อนในการติดตาม   • แฮกเกอร์สามารถดึงข้อมูลโดยไม่ถูกบล็อกจากไฟร์วอลล์มาตรฐาน ‼️ แอดมินหรือผู้ดูแลระบบอาจไม่สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลง เพราะ keylogger ไม่เปลี่ยนหน้าตาเว็บเลย   • องค์กรควรใช้ระบบ file integrity monitoring ตรวจจับความเปลี่ยนแปลงในสคริปต์ https://www.techspot.com/news/108355-keylogger-campaign-hitting-microsoft-exchange-servers-goes-global.html
WWW.TECHSPOT.COM
Keylogger campaign hitting Outlook Web Access on vulnerable Exchange servers goes global
Researchers from Positive Technologies recently unveiled a new study on a keylogger-based campaign targeting organizations worldwide. The campaign, which resembles a similar attack discovered in 2024, focuses...
0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว