Microsoft เคยลงทุนใน OpenAI มากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ แลกกับการได้ใช้เทคโนโลยีเบื้องหลังของ GPT, DALL·E และระบบปัญญาประดิษฐ์ที่นำไปใช้ใน Copilot และ Bing แต่ตอนนี้ข่าวจาก Financial Times และ Wall Street Journal บอกว่า ทั้งสองฝ่ายเริ่มมี “เสียงขัดแย้ง” เรื่องอนาคตของความร่วมมือกัน
Microsoft ไม่พอใจที่ OpenAI อยากเปลี่ยนสถานะบริษัทไปเป็น “Public-Benefit Corporation” ซึ่งเปิดทางให้หาเงินเพิ่มจากนักลงทุนได้มากขึ้น—แต่กลับทำให้ Microsoft เสียอำนาจควบคุมลง ขณะเดียวกัน OpenAI ก็บ่นว่า Microsoft เริ่มมีพฤติกรรม “ผูกขาด” และใช้ประโยชน์จากการลงทุนมากเกินควร
ตอนนี้ Microsoft บอกว่า “พร้อมจะยุติการเจรจา” ถ้าไม่สามารถตกลงเงื่อนไขเรื่องสัดส่วนความเป็นเจ้าของและการเข้าถึงเทคโนโลยีในอนาคตได้ แต่บริษัทก็ยังมีสิทธิใช้ GPT อยู่ต่อไปจนถึงปี 2030 ตามสัญญาเดิมอยู่ดี
มุมที่น่าสนใจคือ นี่ไม่ใช่แค่เรื่องเงิน—แต่มันสะท้อนให้เห็นการแข่งขันในสนาม AI ระดับโลกที่เริ่มลุกเป็นไฟ: Meta กับ Llama, Google กับ Gemini, และ Apple ที่ก็เริ่มจับมือกับหลายฝ่าย (รวมถึง OpenAI) เพื่อเข้าสู่เกมนี้เต็มตัวแล้ว
✅ Microsoft อาจเลิกการเจรจารอบใหม่กับ OpenAI หากไม่ลงตัวเรื่องสัดส่วนความร่วมมือ
• FT รายงานว่า Microsoft พร้อม “เดินออก” หากตกลงไม่ได้
• แต่ยังคงใช้ GPT ได้จนถึงปี 2030 ภายใต้สัญญาเดิม
✅ OpenAI อยากเปลี่ยนเป็น Public-Benefit Corporation เพื่อระดมทุนได้มากขึ้น
• ต้องได้รับความเห็นชอบจาก Microsoft ซึ่งถืออำนาจทางกลยุทธ์อยู่
• เป้าหมายคือขยายธุรกิจและไม่ถูกจำกัดจากโครงสร้างเดิม
✅ OpenAI เคยพิจารณาจะกล่าวหา Microsoft ว่าก่อพฤติกรรมผูกขาด
• ตามรายงานของ WSJ เป็นการกดดันด้านการลงทุนและการควบคุมสิทธิ์
✅ ปัญหาสะท้อนสมรภูมิแข่งขันของ Big Tech ในยุค AI ระเบิด
• Meta, Google, Apple ต่างขยับท่าทีเพื่อเป็นผู้นำด้าน AI
• มีแนวโน้มสูงที่ OpenAI อาจเปิดรับพาร์ตเนอร์ใหม่เพื่อสร้างสมดุล
‼️ การเจรจาล่มอาจทำให้ Microsoft ไม่มีสิทธิ์พิเศษต่อ GPT เวอร์ชันใหม่ ๆ หลังปี 2030
• ต้องพิจารณาทางเลือก เช่น พัฒนาโมเดลเอง หรือจับมือกับบริษัทอื่น
‼️ OpenAI อาจเปิดทางให้คู่แข่งของ Microsoft เข้าถึงโมเดล GPT ได้มากขึ้นในอนาคต
• เช่น Apple, Amazon หรือบริษัทสตาร์ตอัป AI จากจีน/ยุโรป
‼️ รูปแบบสัญญาปัจจุบันยังไม่โปร่งใส—สิทธิ์จริง ๆ ในเทคโนโลยีอาจซับซ้อนกว่าที่คิด
• Microsoft ลงทุนเยอะ แต่ไม่มีหุ้นในรูปแบบดั้งเดิมของ OpenAI
• ความคลุมเครือนี้อาจเป็นเหตุให้ทั้งคู่ต้องเจรจากันอีกรอบ
‼️ กรณีนี้อาจเร่งให้บริษัทอื่นเร่งสร้างโมเดล AI ภายในองค์กรเองมากขึ้น
• เพื่อไม่พึ่งพาพาร์ตเนอร์มากเกินไปในเทคโนโลยีสำคัญ
https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/19/microsoft-prepared-to-walk-away-from-high-stakes-talks-with-openai-ft-reports
Microsoft ไม่พอใจที่ OpenAI อยากเปลี่ยนสถานะบริษัทไปเป็น “Public-Benefit Corporation” ซึ่งเปิดทางให้หาเงินเพิ่มจากนักลงทุนได้มากขึ้น—แต่กลับทำให้ Microsoft เสียอำนาจควบคุมลง ขณะเดียวกัน OpenAI ก็บ่นว่า Microsoft เริ่มมีพฤติกรรม “ผูกขาด” และใช้ประโยชน์จากการลงทุนมากเกินควร
ตอนนี้ Microsoft บอกว่า “พร้อมจะยุติการเจรจา” ถ้าไม่สามารถตกลงเงื่อนไขเรื่องสัดส่วนความเป็นเจ้าของและการเข้าถึงเทคโนโลยีในอนาคตได้ แต่บริษัทก็ยังมีสิทธิใช้ GPT อยู่ต่อไปจนถึงปี 2030 ตามสัญญาเดิมอยู่ดี
มุมที่น่าสนใจคือ นี่ไม่ใช่แค่เรื่องเงิน—แต่มันสะท้อนให้เห็นการแข่งขันในสนาม AI ระดับโลกที่เริ่มลุกเป็นไฟ: Meta กับ Llama, Google กับ Gemini, และ Apple ที่ก็เริ่มจับมือกับหลายฝ่าย (รวมถึง OpenAI) เพื่อเข้าสู่เกมนี้เต็มตัวแล้ว
✅ Microsoft อาจเลิกการเจรจารอบใหม่กับ OpenAI หากไม่ลงตัวเรื่องสัดส่วนความร่วมมือ
• FT รายงานว่า Microsoft พร้อม “เดินออก” หากตกลงไม่ได้
• แต่ยังคงใช้ GPT ได้จนถึงปี 2030 ภายใต้สัญญาเดิม
✅ OpenAI อยากเปลี่ยนเป็น Public-Benefit Corporation เพื่อระดมทุนได้มากขึ้น
• ต้องได้รับความเห็นชอบจาก Microsoft ซึ่งถืออำนาจทางกลยุทธ์อยู่
• เป้าหมายคือขยายธุรกิจและไม่ถูกจำกัดจากโครงสร้างเดิม
✅ OpenAI เคยพิจารณาจะกล่าวหา Microsoft ว่าก่อพฤติกรรมผูกขาด
• ตามรายงานของ WSJ เป็นการกดดันด้านการลงทุนและการควบคุมสิทธิ์
✅ ปัญหาสะท้อนสมรภูมิแข่งขันของ Big Tech ในยุค AI ระเบิด
• Meta, Google, Apple ต่างขยับท่าทีเพื่อเป็นผู้นำด้าน AI
• มีแนวโน้มสูงที่ OpenAI อาจเปิดรับพาร์ตเนอร์ใหม่เพื่อสร้างสมดุล
‼️ การเจรจาล่มอาจทำให้ Microsoft ไม่มีสิทธิ์พิเศษต่อ GPT เวอร์ชันใหม่ ๆ หลังปี 2030
• ต้องพิจารณาทางเลือก เช่น พัฒนาโมเดลเอง หรือจับมือกับบริษัทอื่น
‼️ OpenAI อาจเปิดทางให้คู่แข่งของ Microsoft เข้าถึงโมเดล GPT ได้มากขึ้นในอนาคต
• เช่น Apple, Amazon หรือบริษัทสตาร์ตอัป AI จากจีน/ยุโรป
‼️ รูปแบบสัญญาปัจจุบันยังไม่โปร่งใส—สิทธิ์จริง ๆ ในเทคโนโลยีอาจซับซ้อนกว่าที่คิด
• Microsoft ลงทุนเยอะ แต่ไม่มีหุ้นในรูปแบบดั้งเดิมของ OpenAI
• ความคลุมเครือนี้อาจเป็นเหตุให้ทั้งคู่ต้องเจรจากันอีกรอบ
‼️ กรณีนี้อาจเร่งให้บริษัทอื่นเร่งสร้างโมเดล AI ภายในองค์กรเองมากขึ้น
• เพื่อไม่พึ่งพาพาร์ตเนอร์มากเกินไปในเทคโนโลยีสำคัญ
https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/19/microsoft-prepared-to-walk-away-from-high-stakes-talks-with-openai-ft-reports
Microsoft เคยลงทุนใน OpenAI มากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ แลกกับการได้ใช้เทคโนโลยีเบื้องหลังของ GPT, DALL·E และระบบปัญญาประดิษฐ์ที่นำไปใช้ใน Copilot และ Bing แต่ตอนนี้ข่าวจาก Financial Times และ Wall Street Journal บอกว่า ทั้งสองฝ่ายเริ่มมี “เสียงขัดแย้ง” เรื่องอนาคตของความร่วมมือกัน
Microsoft ไม่พอใจที่ OpenAI อยากเปลี่ยนสถานะบริษัทไปเป็น “Public-Benefit Corporation” ซึ่งเปิดทางให้หาเงินเพิ่มจากนักลงทุนได้มากขึ้น—แต่กลับทำให้ Microsoft เสียอำนาจควบคุมลง ขณะเดียวกัน OpenAI ก็บ่นว่า Microsoft เริ่มมีพฤติกรรม “ผูกขาด” และใช้ประโยชน์จากการลงทุนมากเกินควร
ตอนนี้ Microsoft บอกว่า “พร้อมจะยุติการเจรจา” ถ้าไม่สามารถตกลงเงื่อนไขเรื่องสัดส่วนความเป็นเจ้าของและการเข้าถึงเทคโนโลยีในอนาคตได้ แต่บริษัทก็ยังมีสิทธิใช้ GPT อยู่ต่อไปจนถึงปี 2030 ตามสัญญาเดิมอยู่ดี
มุมที่น่าสนใจคือ นี่ไม่ใช่แค่เรื่องเงิน—แต่มันสะท้อนให้เห็นการแข่งขันในสนาม AI ระดับโลกที่เริ่มลุกเป็นไฟ: Meta กับ Llama, Google กับ Gemini, และ Apple ที่ก็เริ่มจับมือกับหลายฝ่าย (รวมถึง OpenAI) เพื่อเข้าสู่เกมนี้เต็มตัวแล้ว
✅ Microsoft อาจเลิกการเจรจารอบใหม่กับ OpenAI หากไม่ลงตัวเรื่องสัดส่วนความร่วมมือ
• FT รายงานว่า Microsoft พร้อม “เดินออก” หากตกลงไม่ได้
• แต่ยังคงใช้ GPT ได้จนถึงปี 2030 ภายใต้สัญญาเดิม
✅ OpenAI อยากเปลี่ยนเป็น Public-Benefit Corporation เพื่อระดมทุนได้มากขึ้น
• ต้องได้รับความเห็นชอบจาก Microsoft ซึ่งถืออำนาจทางกลยุทธ์อยู่
• เป้าหมายคือขยายธุรกิจและไม่ถูกจำกัดจากโครงสร้างเดิม
✅ OpenAI เคยพิจารณาจะกล่าวหา Microsoft ว่าก่อพฤติกรรมผูกขาด
• ตามรายงานของ WSJ เป็นการกดดันด้านการลงทุนและการควบคุมสิทธิ์
✅ ปัญหาสะท้อนสมรภูมิแข่งขันของ Big Tech ในยุค AI ระเบิด
• Meta, Google, Apple ต่างขยับท่าทีเพื่อเป็นผู้นำด้าน AI
• มีแนวโน้มสูงที่ OpenAI อาจเปิดรับพาร์ตเนอร์ใหม่เพื่อสร้างสมดุล
‼️ การเจรจาล่มอาจทำให้ Microsoft ไม่มีสิทธิ์พิเศษต่อ GPT เวอร์ชันใหม่ ๆ หลังปี 2030
• ต้องพิจารณาทางเลือก เช่น พัฒนาโมเดลเอง หรือจับมือกับบริษัทอื่น
‼️ OpenAI อาจเปิดทางให้คู่แข่งของ Microsoft เข้าถึงโมเดล GPT ได้มากขึ้นในอนาคต
• เช่น Apple, Amazon หรือบริษัทสตาร์ตอัป AI จากจีน/ยุโรป
‼️ รูปแบบสัญญาปัจจุบันยังไม่โปร่งใส—สิทธิ์จริง ๆ ในเทคโนโลยีอาจซับซ้อนกว่าที่คิด
• Microsoft ลงทุนเยอะ แต่ไม่มีหุ้นในรูปแบบดั้งเดิมของ OpenAI
• ความคลุมเครือนี้อาจเป็นเหตุให้ทั้งคู่ต้องเจรจากันอีกรอบ
‼️ กรณีนี้อาจเร่งให้บริษัทอื่นเร่งสร้างโมเดล AI ภายในองค์กรเองมากขึ้น
• เพื่อไม่พึ่งพาพาร์ตเนอร์มากเกินไปในเทคโนโลยีสำคัญ
https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/19/microsoft-prepared-to-walk-away-from-high-stakes-talks-with-openai-ft-reports
0 Comments
0 Shares
12 Views
0 Reviews