📌#ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) คือ กลุ่มอาการที่เกิดจากการทำงานในลักษณะที่ซ้ำ ๆ ติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยเฉพาะการนั่งหน้าคอมพิวเตอร์นานเกินไป หรือมีท่าทางที่ไม่เหมาะสม เช่น ก้มคอ พิงพนัก พิมพ์คีย์บอร์ดนาน ๆ ส่งผลให้เกิดความตึงของกล้ามเนื้อ และเส้นประสาท โดยเฉพาะที่บริเวณคอ บ่า ไหล่ หลัง และข้อมือ

อาการที่พบบ่อย ได้แก่:
• ปวดเมื่อยบริเวณคอ บ่า ไหล่ หลัง
• ชา ปวดร้าวลงแขนหรือมือ (อาจเกิดจากเส้นประสาทถูกกดทับ)
• ปวดศีรษะจากกล้ามเนื้อตึง
• อ่อนแรงในแขนหรือมือ
• อาการนอนไม่หลับจากความไม่สบายตัว

สาเหตุหลัก:
• นั่งทำงานท่าเดิมนานเกินไป
• ท่าทางการนั่งไม่ถูกหลัก (เช่น หลังค่อม คอเอียง)
• โต๊ะ เก้าอี้ หรือหน้าจอคอมไม่เหมาะกับสรีระ
• ขาดการยืดเหยียด หรือพักระหว่างการทำงาน

✅️ แนวทางการป้องกันและบรรเทา:
• ลุกยืดเหยียดทุก 30-60 นาที
• ปรับท่านั่งและอุปกรณ์ให้เหมาะสม
• ออกกำลังกายเพื่อยืดกล้ามเนื้อและเสริมความแข็งแรง
• การทำกายภาพบำบัดหรือนวดผ่อนคลายเฉพาะจุด

หากมีอาการต่อเนื่อง หรือรุนแรง ควรพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านกล้ามเนื้อกระดูกและเส้นประสาท.
📌#ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) คือ กลุ่มอาการที่เกิดจากการทำงานในลักษณะที่ซ้ำ ๆ ติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยเฉพาะการนั่งหน้าคอมพิวเตอร์นานเกินไป หรือมีท่าทางที่ไม่เหมาะสม เช่น ก้มคอ พิงพนัก พิมพ์คีย์บอร์ดนาน ๆ ส่งผลให้เกิดความตึงของกล้ามเนื้อ และเส้นประสาท โดยเฉพาะที่บริเวณคอ บ่า ไหล่ หลัง และข้อมือ อาการที่พบบ่อย ได้แก่: • ปวดเมื่อยบริเวณคอ บ่า ไหล่ หลัง • ชา ปวดร้าวลงแขนหรือมือ (อาจเกิดจากเส้นประสาทถูกกดทับ) • ปวดศีรษะจากกล้ามเนื้อตึง • อ่อนแรงในแขนหรือมือ • อาการนอนไม่หลับจากความไม่สบายตัว สาเหตุหลัก: • นั่งทำงานท่าเดิมนานเกินไป • ท่าทางการนั่งไม่ถูกหลัก (เช่น หลังค่อม คอเอียง) • โต๊ะ เก้าอี้ หรือหน้าจอคอมไม่เหมาะกับสรีระ • ขาดการยืดเหยียด หรือพักระหว่างการทำงาน ✅️ แนวทางการป้องกันและบรรเทา: • ลุกยืดเหยียดทุก 30-60 นาที • ปรับท่านั่งและอุปกรณ์ให้เหมาะสม • ออกกำลังกายเพื่อยืดกล้ามเนื้อและเสริมความแข็งแรง • การทำกายภาพบำบัดหรือนวดผ่อนคลายเฉพาะจุด หากมีอาการต่อเนื่อง หรือรุนแรง ควรพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านกล้ามเนื้อกระดูกและเส้นประสาท.
0 Comments 0 Shares 27 Views 0 Reviews