วิธีแก้ไขปัญหา 100% Disk Usage บน Windows 11: คู่มือฉบับสมบูรณ์
หากคอมพิวเตอร์ของคุณทำงานช้า ไม่ตอบสนอง หรือมีอาการกระตุก และเมื่อเปิด Task Manager พบว่า Disk Usage อยู่ที่ 100% ปัญหานี้อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น Windows Search Indexing, SysMain (Superfetch), Antivirus ที่ทำงานหนักเกินไป, ไดรเวอร์ที่ล้าสมัย หรือแอปพลิเคชันที่ทำงานเบื้องหลังมากเกินไป
✅ ตรวจสอบ Task Manager เพื่อดูว่าแอปใดใช้ดิสก์มากที่สุด
- กด Ctrl + Shift + Esc เพื่อเปิด Task Manager
- ไปที่แท็บ Processes และเรียงลำดับตาม Disk Usage
✅ ปิด Windows Search Indexing ชั่วคราวหรือถาวร
- ใช้คำสั่ง net.exe stop "Windows Search" ใน Command Prompt
- หรือไปที่ Services.msc แล้วปิด Windows Search
✅ ปิด SysMain (Superfetch) ซึ่งอาจทำให้ดิสก์ทำงานหนักเกินไป
- ไปที่ Services.msc และปิด SysMain
✅ ตรวจสอบว่า Antivirus กำลังใช้ทรัพยากรดิสก์มากเกินไป
- ลองปิด Real-time Protection ชั่วคราวเพื่อดูว่าปัญหาดีขึ้นหรือไม่
✅ อัปเดตไดรเวอร์และ Windows ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
- ไปที่ Device Manager และอัปเดต Storage Controllers และ Disk Drives
✅ ปิดแอปพลิเคชันที่เปิดใช้งานตอนเริ่มต้นระบบ
- ไปที่ Task Manager > Startup Apps และปิดแอปที่ไม่จำเป็น
✅ รัน System File Checker (SFC) และ DISM เพื่อซ่อมแซมไฟล์ระบบที่เสียหาย
- ใช้คำสั่ง sfc /scannow และ DISM /Online /Cleanup-Image /RestoreHealth
✅ เปลี่ยนไปใช้ High Performance Power Plan
- ไปที่ Control Panel > Power Options และเลือก High Performance
✅ ปิดหรือจำกัดการซิงค์ของ OneDrive
- ไปที่ OneDrive Settings > Sync and Backup และปิดการซิงค์ที่ไม่จำเป็น
✅ ปิดแอปที่ทำงานเบื้องหลัง
- ไปที่ Settings > Apps > Installed Apps และปิด Background App Permissions
https://computercity.com/software/windows/100-disk-usage-on-windows-11
หากคอมพิวเตอร์ของคุณทำงานช้า ไม่ตอบสนอง หรือมีอาการกระตุก และเมื่อเปิด Task Manager พบว่า Disk Usage อยู่ที่ 100% ปัญหานี้อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น Windows Search Indexing, SysMain (Superfetch), Antivirus ที่ทำงานหนักเกินไป, ไดรเวอร์ที่ล้าสมัย หรือแอปพลิเคชันที่ทำงานเบื้องหลังมากเกินไป
✅ ตรวจสอบ Task Manager เพื่อดูว่าแอปใดใช้ดิสก์มากที่สุด
- กด Ctrl + Shift + Esc เพื่อเปิด Task Manager
- ไปที่แท็บ Processes และเรียงลำดับตาม Disk Usage
✅ ปิด Windows Search Indexing ชั่วคราวหรือถาวร
- ใช้คำสั่ง net.exe stop "Windows Search" ใน Command Prompt
- หรือไปที่ Services.msc แล้วปิด Windows Search
✅ ปิด SysMain (Superfetch) ซึ่งอาจทำให้ดิสก์ทำงานหนักเกินไป
- ไปที่ Services.msc และปิด SysMain
✅ ตรวจสอบว่า Antivirus กำลังใช้ทรัพยากรดิสก์มากเกินไป
- ลองปิด Real-time Protection ชั่วคราวเพื่อดูว่าปัญหาดีขึ้นหรือไม่
✅ อัปเดตไดรเวอร์และ Windows ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
- ไปที่ Device Manager และอัปเดต Storage Controllers และ Disk Drives
✅ ปิดแอปพลิเคชันที่เปิดใช้งานตอนเริ่มต้นระบบ
- ไปที่ Task Manager > Startup Apps และปิดแอปที่ไม่จำเป็น
✅ รัน System File Checker (SFC) และ DISM เพื่อซ่อมแซมไฟล์ระบบที่เสียหาย
- ใช้คำสั่ง sfc /scannow และ DISM /Online /Cleanup-Image /RestoreHealth
✅ เปลี่ยนไปใช้ High Performance Power Plan
- ไปที่ Control Panel > Power Options และเลือก High Performance
✅ ปิดหรือจำกัดการซิงค์ของ OneDrive
- ไปที่ OneDrive Settings > Sync and Backup และปิดการซิงค์ที่ไม่จำเป็น
✅ ปิดแอปที่ทำงานเบื้องหลัง
- ไปที่ Settings > Apps > Installed Apps และปิด Background App Permissions
https://computercity.com/software/windows/100-disk-usage-on-windows-11
วิธีแก้ไขปัญหา 100% Disk Usage บน Windows 11: คู่มือฉบับสมบูรณ์
หากคอมพิวเตอร์ของคุณทำงานช้า ไม่ตอบสนอง หรือมีอาการกระตุก และเมื่อเปิด Task Manager พบว่า Disk Usage อยู่ที่ 100% ปัญหานี้อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น Windows Search Indexing, SysMain (Superfetch), Antivirus ที่ทำงานหนักเกินไป, ไดรเวอร์ที่ล้าสมัย หรือแอปพลิเคชันที่ทำงานเบื้องหลังมากเกินไป
✅ ตรวจสอบ Task Manager เพื่อดูว่าแอปใดใช้ดิสก์มากที่สุด
- กด Ctrl + Shift + Esc เพื่อเปิด Task Manager
- ไปที่แท็บ Processes และเรียงลำดับตาม Disk Usage
✅ ปิด Windows Search Indexing ชั่วคราวหรือถาวร
- ใช้คำสั่ง net.exe stop "Windows Search" ใน Command Prompt
- หรือไปที่ Services.msc แล้วปิด Windows Search
✅ ปิด SysMain (Superfetch) ซึ่งอาจทำให้ดิสก์ทำงานหนักเกินไป
- ไปที่ Services.msc และปิด SysMain
✅ ตรวจสอบว่า Antivirus กำลังใช้ทรัพยากรดิสก์มากเกินไป
- ลองปิด Real-time Protection ชั่วคราวเพื่อดูว่าปัญหาดีขึ้นหรือไม่
✅ อัปเดตไดรเวอร์และ Windows ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
- ไปที่ Device Manager และอัปเดต Storage Controllers และ Disk Drives
✅ ปิดแอปพลิเคชันที่เปิดใช้งานตอนเริ่มต้นระบบ
- ไปที่ Task Manager > Startup Apps และปิดแอปที่ไม่จำเป็น
✅ รัน System File Checker (SFC) และ DISM เพื่อซ่อมแซมไฟล์ระบบที่เสียหาย
- ใช้คำสั่ง sfc /scannow และ DISM /Online /Cleanup-Image /RestoreHealth
✅ เปลี่ยนไปใช้ High Performance Power Plan
- ไปที่ Control Panel > Power Options และเลือก High Performance
✅ ปิดหรือจำกัดการซิงค์ของ OneDrive
- ไปที่ OneDrive Settings > Sync and Backup และปิดการซิงค์ที่ไม่จำเป็น
✅ ปิดแอปที่ทำงานเบื้องหลัง
- ไปที่ Settings > Apps > Installed Apps และปิด Background App Permissions
https://computercity.com/software/windows/100-disk-usage-on-windows-11
0 Comments
0 Shares
32 Views
0 Reviews