ในปี 2025 ภัยคุกคามทางไซเบอร์มีความซับซ้อนมากขึ้น โดยมีการใช้ มัลแวร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI, ชุดเครื่องมือฟิชชิ่งแบบบริการ (Phishing-as-a-Service) และช่องโหว่ Zero-day ที่สามารถโจมตีได้ตั้งแต่บุคคลทั่วไปไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่
ด้วยเหตุนี้ การเลือกใช้ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ใช่แค่การตรวจจับไวรัส แต่ต้องเป็น ระบบป้องกันที่ครอบคลุมทุกด้าน ตั้งแต่ ไฟล์ส่วนตัวไปจนถึงข้อมูลทางการเงิน และสามารถทำงานได้บน หลายอุปกรณ์และแพลตฟอร์ม
✅ Bitdefender Total Security – ป้องกันรอบด้านสำหรับทุกอุปกรณ์
- ใช้ AI ในการตรวจจับภัยคุกคามแบบเรียลไทม์
- มี VPN ปลอดภัย พร้อมตัวจัดการรหัสผ่าน
- รองรับ Windows, macOS, Android และ iOS
✅ Kaspersky Internet Security – ประสิทธิภาพสูง ใช้ทรัพยากรระบบน้อย
- มี Safe Money browser สำหรับธุรกรรมออนไลน์
- ป้องกัน การโจมตีเครือข่ายและฟิชชิ่ง
- มี ระบบเข้ารหัสข้อมูลและการตรวจสอบแบบเรียลไทม์
✅ ESET Smart Security Premium – เหมาะสำหรับผู้ใช้ระดับสูง
- มี LiveGuard sandboxing สำหรับตรวจจับภัยคุกคามใหม่
- ป้องกัน การโจมตีระดับเฟิร์มแวร์ด้วย UEFI scanner
- มี ระบบเข้ารหัสไฟล์และตัวจัดการรหัสผ่าน
✅ Norton 360 Deluxe – ป้องกันข้อมูลส่วนตัวและการโจมตีทางไซเบอร์
- มี Dark Web Monitoring และการแจ้งเตือนข้อมูลรั่วไหล
- รองรับ การสำรองข้อมูลบนคลาวด์ 50GB
- มี VPN ไม่จำกัดแบนด์วิดท์
✅ Webroot SecureAnywhere – เหมาะสำหรับระบบที่มีทรัพยากรจำกัด
- ใช้ การวิเคราะห์ภัยคุกคามบนคลาวด์
- มี ระบบป้องกันฟิชชิ่งและการโจมตีแบบเรียลไทม์
- ใช้ทรัพยากรระบบน้อยมาก
‼️ มัลแวร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI อาจทำให้การโจมตีมีความซับซ้อนมากขึ้น
- ระบบรักษาความปลอดภัยต้อง สามารถตรวจจับพฤติกรรมที่ผิดปกติได้
‼️ ช่องโหว่ Zero-day ยังคงเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรง
- ควรใช้ ซอฟต์แวร์ที่มีระบบอัปเดตและแพตช์ความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง
https://computercity.com/software/malware/best-network-security-software-for-protecting-your-digital-assets-2025
ด้วยเหตุนี้ การเลือกใช้ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ใช่แค่การตรวจจับไวรัส แต่ต้องเป็น ระบบป้องกันที่ครอบคลุมทุกด้าน ตั้งแต่ ไฟล์ส่วนตัวไปจนถึงข้อมูลทางการเงิน และสามารถทำงานได้บน หลายอุปกรณ์และแพลตฟอร์ม
✅ Bitdefender Total Security – ป้องกันรอบด้านสำหรับทุกอุปกรณ์
- ใช้ AI ในการตรวจจับภัยคุกคามแบบเรียลไทม์
- มี VPN ปลอดภัย พร้อมตัวจัดการรหัสผ่าน
- รองรับ Windows, macOS, Android และ iOS
✅ Kaspersky Internet Security – ประสิทธิภาพสูง ใช้ทรัพยากรระบบน้อย
- มี Safe Money browser สำหรับธุรกรรมออนไลน์
- ป้องกัน การโจมตีเครือข่ายและฟิชชิ่ง
- มี ระบบเข้ารหัสข้อมูลและการตรวจสอบแบบเรียลไทม์
✅ ESET Smart Security Premium – เหมาะสำหรับผู้ใช้ระดับสูง
- มี LiveGuard sandboxing สำหรับตรวจจับภัยคุกคามใหม่
- ป้องกัน การโจมตีระดับเฟิร์มแวร์ด้วย UEFI scanner
- มี ระบบเข้ารหัสไฟล์และตัวจัดการรหัสผ่าน
✅ Norton 360 Deluxe – ป้องกันข้อมูลส่วนตัวและการโจมตีทางไซเบอร์
- มี Dark Web Monitoring และการแจ้งเตือนข้อมูลรั่วไหล
- รองรับ การสำรองข้อมูลบนคลาวด์ 50GB
- มี VPN ไม่จำกัดแบนด์วิดท์
✅ Webroot SecureAnywhere – เหมาะสำหรับระบบที่มีทรัพยากรจำกัด
- ใช้ การวิเคราะห์ภัยคุกคามบนคลาวด์
- มี ระบบป้องกันฟิชชิ่งและการโจมตีแบบเรียลไทม์
- ใช้ทรัพยากรระบบน้อยมาก
‼️ มัลแวร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI อาจทำให้การโจมตีมีความซับซ้อนมากขึ้น
- ระบบรักษาความปลอดภัยต้อง สามารถตรวจจับพฤติกรรมที่ผิดปกติได้
‼️ ช่องโหว่ Zero-day ยังคงเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรง
- ควรใช้ ซอฟต์แวร์ที่มีระบบอัปเดตและแพตช์ความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง
https://computercity.com/software/malware/best-network-security-software-for-protecting-your-digital-assets-2025
ในปี 2025 ภัยคุกคามทางไซเบอร์มีความซับซ้อนมากขึ้น โดยมีการใช้ มัลแวร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI, ชุดเครื่องมือฟิชชิ่งแบบบริการ (Phishing-as-a-Service) และช่องโหว่ Zero-day ที่สามารถโจมตีได้ตั้งแต่บุคคลทั่วไปไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่
ด้วยเหตุนี้ การเลือกใช้ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ใช่แค่การตรวจจับไวรัส แต่ต้องเป็น ระบบป้องกันที่ครอบคลุมทุกด้าน ตั้งแต่ ไฟล์ส่วนตัวไปจนถึงข้อมูลทางการเงิน และสามารถทำงานได้บน หลายอุปกรณ์และแพลตฟอร์ม
✅ Bitdefender Total Security – ป้องกันรอบด้านสำหรับทุกอุปกรณ์
- ใช้ AI ในการตรวจจับภัยคุกคามแบบเรียลไทม์
- มี VPN ปลอดภัย พร้อมตัวจัดการรหัสผ่าน
- รองรับ Windows, macOS, Android และ iOS
✅ Kaspersky Internet Security – ประสิทธิภาพสูง ใช้ทรัพยากรระบบน้อย
- มี Safe Money browser สำหรับธุรกรรมออนไลน์
- ป้องกัน การโจมตีเครือข่ายและฟิชชิ่ง
- มี ระบบเข้ารหัสข้อมูลและการตรวจสอบแบบเรียลไทม์
✅ ESET Smart Security Premium – เหมาะสำหรับผู้ใช้ระดับสูง
- มี LiveGuard sandboxing สำหรับตรวจจับภัยคุกคามใหม่
- ป้องกัน การโจมตีระดับเฟิร์มแวร์ด้วย UEFI scanner
- มี ระบบเข้ารหัสไฟล์และตัวจัดการรหัสผ่าน
✅ Norton 360 Deluxe – ป้องกันข้อมูลส่วนตัวและการโจมตีทางไซเบอร์
- มี Dark Web Monitoring และการแจ้งเตือนข้อมูลรั่วไหล
- รองรับ การสำรองข้อมูลบนคลาวด์ 50GB
- มี VPN ไม่จำกัดแบนด์วิดท์
✅ Webroot SecureAnywhere – เหมาะสำหรับระบบที่มีทรัพยากรจำกัด
- ใช้ การวิเคราะห์ภัยคุกคามบนคลาวด์
- มี ระบบป้องกันฟิชชิ่งและการโจมตีแบบเรียลไทม์
- ใช้ทรัพยากรระบบน้อยมาก
‼️ มัลแวร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI อาจทำให้การโจมตีมีความซับซ้อนมากขึ้น
- ระบบรักษาความปลอดภัยต้อง สามารถตรวจจับพฤติกรรมที่ผิดปกติได้
‼️ ช่องโหว่ Zero-day ยังคงเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรง
- ควรใช้ ซอฟต์แวร์ที่มีระบบอัปเดตและแพตช์ความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง
https://computercity.com/software/malware/best-network-security-software-for-protecting-your-digital-assets-2025
0 Comments
0 Shares
38 Views
0 Reviews