บทความนี้กล่าวถึงแนวโน้มการโจมตีทางไซเบอร์ที่เปลี่ยนแปลงไปในปี 2024 โดยรายงานจาก Mandiant และ Verizon พบว่า การใช้ข้อมูลประจำตัวที่ถูกขโมย และ การโจมตีผ่านช่องโหว่ของระบบ กลายเป็นวิธีการเข้าถึงระบบที่นิยมมากที่สุด แทนที่การโจมตีแบบ phishing ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
รายงานระบุว่า 33% ของการโจมตีเริ่มต้นจากช่องโหว่ของระบบ โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่อยู่ในเครือข่าย เช่น VPN และอุปกรณ์ความปลอดภัย ขณะที่ 16% ของการโจมตีมาจากข้อมูลประจำตัวที่ถูกขโมย ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 10% ในปี 2023
นอกจากนี้ การโจมตีที่เกี่ยวข้องกับ ransomware ยังคงเป็นภัยคุกคามที่สำคัญ โดยคิดเป็น 21% ของการโจมตีทั้งหมด และมีการใช้วิธีการใหม่ เช่น การขายสิทธิ์การเข้าถึงระบบให้กับกลุ่มอื่น
✅ การโจมตีผ่านช่องโหว่ของระบบ
- 33% ของการโจมตีเริ่มต้นจากช่องโหว่ของระบบ
- อุปกรณ์เครือข่าย เช่น VPN และอุปกรณ์ความปลอดภัย ถูกโจมตีผ่านช่องโหว่ zero-day
✅ การใช้ข้อมูลประจำตัวที่ถูกขโมย
- 16% ของการโจมตีมาจากข้อมูลประจำตัวที่ถูกขโมย
- ข้อมูลถูกขโมยผ่าน keyloggers, infostealers และการซื้อขายในตลาดมืด
✅ การโจมตีแบบ ransomware
- คิดเป็น 21% ของการโจมตีทั้งหมด
- ใช้วิธี brute-force, การใช้ข้อมูลประจำตัวที่ถูกขโมย และการโจมตีผ่านช่องโหว่
✅ การลดระยะเวลาการตรวจพบการโจมตี
- ระยะเวลาการตรวจพบการโจมตีลดลงเหลือเฉลี่ย 11 วัน
https://www.csoonline.com/article/3970097/the-state-of-intrusions-stolen-credentials-and-perimeter-exploits-on-the-rise-as-phishing-wanes.html
รายงานระบุว่า 33% ของการโจมตีเริ่มต้นจากช่องโหว่ของระบบ โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่อยู่ในเครือข่าย เช่น VPN และอุปกรณ์ความปลอดภัย ขณะที่ 16% ของการโจมตีมาจากข้อมูลประจำตัวที่ถูกขโมย ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 10% ในปี 2023
นอกจากนี้ การโจมตีที่เกี่ยวข้องกับ ransomware ยังคงเป็นภัยคุกคามที่สำคัญ โดยคิดเป็น 21% ของการโจมตีทั้งหมด และมีการใช้วิธีการใหม่ เช่น การขายสิทธิ์การเข้าถึงระบบให้กับกลุ่มอื่น
✅ การโจมตีผ่านช่องโหว่ของระบบ
- 33% ของการโจมตีเริ่มต้นจากช่องโหว่ของระบบ
- อุปกรณ์เครือข่าย เช่น VPN และอุปกรณ์ความปลอดภัย ถูกโจมตีผ่านช่องโหว่ zero-day
✅ การใช้ข้อมูลประจำตัวที่ถูกขโมย
- 16% ของการโจมตีมาจากข้อมูลประจำตัวที่ถูกขโมย
- ข้อมูลถูกขโมยผ่าน keyloggers, infostealers และการซื้อขายในตลาดมืด
✅ การโจมตีแบบ ransomware
- คิดเป็น 21% ของการโจมตีทั้งหมด
- ใช้วิธี brute-force, การใช้ข้อมูลประจำตัวที่ถูกขโมย และการโจมตีผ่านช่องโหว่
✅ การลดระยะเวลาการตรวจพบการโจมตี
- ระยะเวลาการตรวจพบการโจมตีลดลงเหลือเฉลี่ย 11 วัน
https://www.csoonline.com/article/3970097/the-state-of-intrusions-stolen-credentials-and-perimeter-exploits-on-the-rise-as-phishing-wanes.html
บทความนี้กล่าวถึงแนวโน้มการโจมตีทางไซเบอร์ที่เปลี่ยนแปลงไปในปี 2024 โดยรายงานจาก Mandiant และ Verizon พบว่า การใช้ข้อมูลประจำตัวที่ถูกขโมย และ การโจมตีผ่านช่องโหว่ของระบบ กลายเป็นวิธีการเข้าถึงระบบที่นิยมมากที่สุด แทนที่การโจมตีแบบ phishing ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
รายงานระบุว่า 33% ของการโจมตีเริ่มต้นจากช่องโหว่ของระบบ โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่อยู่ในเครือข่าย เช่น VPN และอุปกรณ์ความปลอดภัย ขณะที่ 16% ของการโจมตีมาจากข้อมูลประจำตัวที่ถูกขโมย ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 10% ในปี 2023
นอกจากนี้ การโจมตีที่เกี่ยวข้องกับ ransomware ยังคงเป็นภัยคุกคามที่สำคัญ โดยคิดเป็น 21% ของการโจมตีทั้งหมด และมีการใช้วิธีการใหม่ เช่น การขายสิทธิ์การเข้าถึงระบบให้กับกลุ่มอื่น
✅ การโจมตีผ่านช่องโหว่ของระบบ
- 33% ของการโจมตีเริ่มต้นจากช่องโหว่ของระบบ
- อุปกรณ์เครือข่าย เช่น VPN และอุปกรณ์ความปลอดภัย ถูกโจมตีผ่านช่องโหว่ zero-day
✅ การใช้ข้อมูลประจำตัวที่ถูกขโมย
- 16% ของการโจมตีมาจากข้อมูลประจำตัวที่ถูกขโมย
- ข้อมูลถูกขโมยผ่าน keyloggers, infostealers และการซื้อขายในตลาดมืด
✅ การโจมตีแบบ ransomware
- คิดเป็น 21% ของการโจมตีทั้งหมด
- ใช้วิธี brute-force, การใช้ข้อมูลประจำตัวที่ถูกขโมย และการโจมตีผ่านช่องโหว่
✅ การลดระยะเวลาการตรวจพบการโจมตี
- ระยะเวลาการตรวจพบการโจมตีลดลงเหลือเฉลี่ย 11 วัน
https://www.csoonline.com/article/3970097/the-state-of-intrusions-stolen-credentials-and-perimeter-exploits-on-the-rise-as-phishing-wanes.html
0 Comments
0 Shares
31 Views
0 Reviews