Space Force ได้ลงทุนมูลค่า 13.7 พันล้านดอลลาร์ในโครงการขนส่งดาวเทียมที่สำคัญ โดยให้สัญญาแก่ SpaceX, ULA และ Blue Origin โครงการนี้แบ่งงานออกเป็นระดับสูงและทั่วไป SpaceX เป็นผู้รับสัญญามากที่สุด โดยใช้จรวด Falcon 9 และ Falcon Heavy ส่วน Blue Origin แม้จะเป็นหน้าใหม่ในการขนส่งภารกิจ Lane 2 แต่ก็มีโอกาสในอนาคตหากผ่านการรับรองเพิ่มเติม โครงการนี้สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมอวกาศที่มีการแข่งขันสูงขึ้นเพื่อรักษาความมั่นคงระดับชาติ
✅ SpaceX คว้าส่วนแบ่งที่ใหญ่ที่สุด:
- SpaceX ได้รับมูลค่าสัญญาสูงถึง 5.9 พันล้านดอลลาร์ สำหรับ 28 ภารกิจ โดยใช้จรวด Falcon 9 และ Falcon Heavy ที่มีความสามารถในการขนส่งน้ำหนักมากและนำกลับมาใช้ใหม่
- ULA ได้รับ 5.4 พันล้านดอลลาร์ สำหรับ 19 ภารกิจ โดยใช้จรวด Vulcan Centaur ที่ได้รับการรับรองใหม่
- Blue Origin แม้จะเป็นครั้งแรกที่เข้าร่วมในโครงการ NSSL แต่ได้รับมูลค่า 2.4 พันล้านดอลลาร์ สำหรับ 7 ภารกิจ โดยใช้จรวด New Glenn
✅ ความสำคัญของโครงการ Lane 2:
- โครงการนี้แบ่งภารกิจเป็นสองรูปแบบ ได้แก่ Lane 1 สำหรับภารกิจทั่วไปที่มีความเสี่ยงต่ำ และ Lane 2 สำหรับภารกิจระดับสูงที่มีความซับซ้อนทางเทคนิค เช่น การขนส่งดาวเทียมสายลับของ National Reconnaissance Office
✅ การเปลี่ยนแปลงในตลาดขนส่งอวกาศ:
- SpaceX ครองส่วนแบ่งกว่า 40% ของภารกิจ NSSL ตั้งแต่ปี 2015 ด้วยจรวดแบบนำกลับมาใช้ใหม่ที่ลดต้นทุนการขนส่ง
- Blue Origin ต้องดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อรับการรับรองจรวด New Glenn สำหรับภารกิจ Lane 2 ซึ่งคาดว่าจะสำเร็จในปี 2026
✅ จำนวนภารกิจเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ:
- ระหว่างปี 2025–2029 มีแผนที่จะจัดการ 84 ภารกิจ ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจาก Phase 2
https://www.techspot.com/news/107434-space-force-awards-137-billion-contracts-spacex-two.html
✅ SpaceX คว้าส่วนแบ่งที่ใหญ่ที่สุด:
- SpaceX ได้รับมูลค่าสัญญาสูงถึง 5.9 พันล้านดอลลาร์ สำหรับ 28 ภารกิจ โดยใช้จรวด Falcon 9 และ Falcon Heavy ที่มีความสามารถในการขนส่งน้ำหนักมากและนำกลับมาใช้ใหม่
- ULA ได้รับ 5.4 พันล้านดอลลาร์ สำหรับ 19 ภารกิจ โดยใช้จรวด Vulcan Centaur ที่ได้รับการรับรองใหม่
- Blue Origin แม้จะเป็นครั้งแรกที่เข้าร่วมในโครงการ NSSL แต่ได้รับมูลค่า 2.4 พันล้านดอลลาร์ สำหรับ 7 ภารกิจ โดยใช้จรวด New Glenn
✅ ความสำคัญของโครงการ Lane 2:
- โครงการนี้แบ่งภารกิจเป็นสองรูปแบบ ได้แก่ Lane 1 สำหรับภารกิจทั่วไปที่มีความเสี่ยงต่ำ และ Lane 2 สำหรับภารกิจระดับสูงที่มีความซับซ้อนทางเทคนิค เช่น การขนส่งดาวเทียมสายลับของ National Reconnaissance Office
✅ การเปลี่ยนแปลงในตลาดขนส่งอวกาศ:
- SpaceX ครองส่วนแบ่งกว่า 40% ของภารกิจ NSSL ตั้งแต่ปี 2015 ด้วยจรวดแบบนำกลับมาใช้ใหม่ที่ลดต้นทุนการขนส่ง
- Blue Origin ต้องดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อรับการรับรองจรวด New Glenn สำหรับภารกิจ Lane 2 ซึ่งคาดว่าจะสำเร็จในปี 2026
✅ จำนวนภารกิจเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ:
- ระหว่างปี 2025–2029 มีแผนที่จะจัดการ 84 ภารกิจ ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจาก Phase 2
https://www.techspot.com/news/107434-space-force-awards-137-billion-contracts-spacex-two.html
Space Force ได้ลงทุนมูลค่า 13.7 พันล้านดอลลาร์ในโครงการขนส่งดาวเทียมที่สำคัญ โดยให้สัญญาแก่ SpaceX, ULA และ Blue Origin โครงการนี้แบ่งงานออกเป็นระดับสูงและทั่วไป SpaceX เป็นผู้รับสัญญามากที่สุด โดยใช้จรวด Falcon 9 และ Falcon Heavy ส่วน Blue Origin แม้จะเป็นหน้าใหม่ในการขนส่งภารกิจ Lane 2 แต่ก็มีโอกาสในอนาคตหากผ่านการรับรองเพิ่มเติม โครงการนี้สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมอวกาศที่มีการแข่งขันสูงขึ้นเพื่อรักษาความมั่นคงระดับชาติ
✅ SpaceX คว้าส่วนแบ่งที่ใหญ่ที่สุด:
- SpaceX ได้รับมูลค่าสัญญาสูงถึง 5.9 พันล้านดอลลาร์ สำหรับ 28 ภารกิจ โดยใช้จรวด Falcon 9 และ Falcon Heavy ที่มีความสามารถในการขนส่งน้ำหนักมากและนำกลับมาใช้ใหม่
- ULA ได้รับ 5.4 พันล้านดอลลาร์ สำหรับ 19 ภารกิจ โดยใช้จรวด Vulcan Centaur ที่ได้รับการรับรองใหม่
- Blue Origin แม้จะเป็นครั้งแรกที่เข้าร่วมในโครงการ NSSL แต่ได้รับมูลค่า 2.4 พันล้านดอลลาร์ สำหรับ 7 ภารกิจ โดยใช้จรวด New Glenn
✅ ความสำคัญของโครงการ Lane 2:
- โครงการนี้แบ่งภารกิจเป็นสองรูปแบบ ได้แก่ Lane 1 สำหรับภารกิจทั่วไปที่มีความเสี่ยงต่ำ และ Lane 2 สำหรับภารกิจระดับสูงที่มีความซับซ้อนทางเทคนิค เช่น การขนส่งดาวเทียมสายลับของ National Reconnaissance Office
✅ การเปลี่ยนแปลงในตลาดขนส่งอวกาศ:
- SpaceX ครองส่วนแบ่งกว่า 40% ของภารกิจ NSSL ตั้งแต่ปี 2015 ด้วยจรวดแบบนำกลับมาใช้ใหม่ที่ลดต้นทุนการขนส่ง
- Blue Origin ต้องดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อรับการรับรองจรวด New Glenn สำหรับภารกิจ Lane 2 ซึ่งคาดว่าจะสำเร็จในปี 2026
✅ จำนวนภารกิจเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ:
- ระหว่างปี 2025–2029 มีแผนที่จะจัดการ 84 ภารกิจ ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจาก Phase 2
https://www.techspot.com/news/107434-space-force-awards-137-billion-contracts-spacex-two.html
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
52 มุมมอง
0 รีวิว