การป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ในยุคนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของการใช้เครื่องมือสำเร็จรูปอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องของวิศวกรรมการตรวจจับที่ช่วยปรับแต่งวิธีการตรวจจับให้เข้ากับภัยคุกคามเฉพาะขององค์กร AI และระบบอัตโนมัติเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดข้อผิดพลาด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของ Detection Engineering ในยุคที่ภัยคุกคามซับซ้อนและเพิ่มจำนวนขึ้น

การพัฒนาในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา:
- เดิมที Detection Engineering เป็นเพียงการดำเนินการในบริษัทใหญ่ ๆ แต่ปัจจุบันเป็นที่ต้องการในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น การเงิน เทคโนโลยี และสุขภาพ โดยเฉพาะบริษัทที่ต้องเผชิญกับภัยคุกคามไซเบอร์ที่ซับซ้อน.

ความแตกต่างจากการตรวจจับแบบดั้งเดิม:
- Detection Engineering ใช้หลักการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อสร้างกฎการตรวจจับที่ปรับแต่งตามภัยคุกคามและระบบเฉพาะขององค์กร แตกต่างจากการใช้เครื่องมือที่มีกฎสำเร็จรูปซึ่งมักไม่ยืดหยุ่นและปรับใช้ยากในระบบที่ซับซ้อน.

การเติบโตของภัยคุกคาม:
- การโจมตีด้วยมัลแวร์ไร้ไฟล์ (Fileless Malware) และการโจมตีผ่านซัพพลายเชนเพิ่มขึ้น ทำให้วิธีการตรวจจับแบบเดิมไม่เพียงพอ ขณะที่องค์กรต่าง ๆ ต้องพึ่งพาการป้องกันภัยเชิงรุกมากขึ้น.

การใช้ AI และระบบอัตโนมัติ:
- AI มีบทบาทสำคัญ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากเพื่อตรวจจับความผิดปกติ และ 93% ขององค์กรในแบบสำรวจรายงานว่ากำลังใช้งานหรือวางแผนใช้ระบบอัตโนมัติในกระบวนการ Detection Engineering.

https://www.csoonline.com/article/3847510/rising-attack-exposure-threat-sophistication-spur-interest-in-detection-engineering.html
การป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ในยุคนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของการใช้เครื่องมือสำเร็จรูปอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องของวิศวกรรมการตรวจจับที่ช่วยปรับแต่งวิธีการตรวจจับให้เข้ากับภัยคุกคามเฉพาะขององค์กร AI และระบบอัตโนมัติเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดข้อผิดพลาด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของ Detection Engineering ในยุคที่ภัยคุกคามซับซ้อนและเพิ่มจำนวนขึ้น การพัฒนาในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา: - เดิมที Detection Engineering เป็นเพียงการดำเนินการในบริษัทใหญ่ ๆ แต่ปัจจุบันเป็นที่ต้องการในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น การเงิน เทคโนโลยี และสุขภาพ โดยเฉพาะบริษัทที่ต้องเผชิญกับภัยคุกคามไซเบอร์ที่ซับซ้อน. ความแตกต่างจากการตรวจจับแบบดั้งเดิม: - Detection Engineering ใช้หลักการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อสร้างกฎการตรวจจับที่ปรับแต่งตามภัยคุกคามและระบบเฉพาะขององค์กร แตกต่างจากการใช้เครื่องมือที่มีกฎสำเร็จรูปซึ่งมักไม่ยืดหยุ่นและปรับใช้ยากในระบบที่ซับซ้อน. การเติบโตของภัยคุกคาม: - การโจมตีด้วยมัลแวร์ไร้ไฟล์ (Fileless Malware) และการโจมตีผ่านซัพพลายเชนเพิ่มขึ้น ทำให้วิธีการตรวจจับแบบเดิมไม่เพียงพอ ขณะที่องค์กรต่าง ๆ ต้องพึ่งพาการป้องกันภัยเชิงรุกมากขึ้น. การใช้ AI และระบบอัตโนมัติ: - AI มีบทบาทสำคัญ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากเพื่อตรวจจับความผิดปกติ และ 93% ขององค์กรในแบบสำรวจรายงานว่ากำลังใช้งานหรือวางแผนใช้ระบบอัตโนมัติในกระบวนการ Detection Engineering. https://www.csoonline.com/article/3847510/rising-attack-exposure-threat-sophistication-spur-interest-in-detection-engineering.html
WWW.CSOONLINE.COM
Rising attack exposure, threat sophistication spur interest in detection engineering
What was once in the margins of cybersecurity, detection engineering has been gaining space and interest, here is what you need to know.
0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว