เรื่องนี้เกี่ยวกับความขัดแย้งทางกฎหมายและความคิดเห็นระหว่าง Elon Musk ซีอีโอของ Tesla และ Sam Altman หัวหน้าของ OpenAI ซึ่งทั้งสองคนเคยร่วมก่อตั้ง OpenAI ในปี 2015 แต่ภายหลัง Musk ได้ออกจากองค์กรเนื่องจากความคิดเห็นไม่ตรงกันเกี่ยวกับทิศทางในอนาคตของบริษัท
Musk ฟ้อง OpenAI โดยอ้างว่าบริษัทได้เบี่ยงเบนจากเป้าหมายเดิมที่ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่มีเป้าหมายเพื่อมนุษยชาติ แต่ในปัจจุบัน OpenAI ได้เปลี่ยนไปสู่การเป็นหน่วยงานเพื่อผลกำไรที่เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้น Musk ยังกล่าวว่าเขาได้ลงทุนกว่า $44 ล้านใน OpenAI ด้วยความเชื่อว่าจะยังคงเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร
ในทางกลับกัน OpenAI ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของ Musk โดยระบุว่าการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรองรับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรม AI และยังกล่าวเพิ่มเติมว่า Musk ต้องการควบคุมองค์กรหรือรวม OpenAI กับ Tesla เพื่อประโยชน์ส่วนตัว
หากศาลตัดสินให้ Musk ชนะ มันอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อ OpenAI รวมถึงพันธมิตรธุรกิจ เช่น Microsoft ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ อย่างไรก็ตาม หาก OpenAI ชนะคดี อาจมีการเรียกค่าเสียหายจาก Musk และการดำเนินธุรกิจของ OpenAI ก็จะดำเนินต่อไปอย่างไร้ปัญหา
เรื่องนี้สะท้อนถึงความซับซ้อนของการสร้างสมดุลระหว่างวิสัยทัศน์เพื่อส่วนรวมและการแข่งขันในตลาดธุรกิจ AI
https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/12/elon-musk039s-feud-with-openai-ceo-sam-altman-explained
Musk ฟ้อง OpenAI โดยอ้างว่าบริษัทได้เบี่ยงเบนจากเป้าหมายเดิมที่ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่มีเป้าหมายเพื่อมนุษยชาติ แต่ในปัจจุบัน OpenAI ได้เปลี่ยนไปสู่การเป็นหน่วยงานเพื่อผลกำไรที่เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้น Musk ยังกล่าวว่าเขาได้ลงทุนกว่า $44 ล้านใน OpenAI ด้วยความเชื่อว่าจะยังคงเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร
ในทางกลับกัน OpenAI ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของ Musk โดยระบุว่าการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรองรับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรม AI และยังกล่าวเพิ่มเติมว่า Musk ต้องการควบคุมองค์กรหรือรวม OpenAI กับ Tesla เพื่อประโยชน์ส่วนตัว
หากศาลตัดสินให้ Musk ชนะ มันอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อ OpenAI รวมถึงพันธมิตรธุรกิจ เช่น Microsoft ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ อย่างไรก็ตาม หาก OpenAI ชนะคดี อาจมีการเรียกค่าเสียหายจาก Musk และการดำเนินธุรกิจของ OpenAI ก็จะดำเนินต่อไปอย่างไร้ปัญหา
เรื่องนี้สะท้อนถึงความซับซ้อนของการสร้างสมดุลระหว่างวิสัยทัศน์เพื่อส่วนรวมและการแข่งขันในตลาดธุรกิจ AI
https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/12/elon-musk039s-feud-with-openai-ceo-sam-altman-explained
เรื่องนี้เกี่ยวกับความขัดแย้งทางกฎหมายและความคิดเห็นระหว่าง Elon Musk ซีอีโอของ Tesla และ Sam Altman หัวหน้าของ OpenAI ซึ่งทั้งสองคนเคยร่วมก่อตั้ง OpenAI ในปี 2015 แต่ภายหลัง Musk ได้ออกจากองค์กรเนื่องจากความคิดเห็นไม่ตรงกันเกี่ยวกับทิศทางในอนาคตของบริษัท
Musk ฟ้อง OpenAI โดยอ้างว่าบริษัทได้เบี่ยงเบนจากเป้าหมายเดิมที่ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่มีเป้าหมายเพื่อมนุษยชาติ แต่ในปัจจุบัน OpenAI ได้เปลี่ยนไปสู่การเป็นหน่วยงานเพื่อผลกำไรที่เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้น Musk ยังกล่าวว่าเขาได้ลงทุนกว่า $44 ล้านใน OpenAI ด้วยความเชื่อว่าจะยังคงเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร
ในทางกลับกัน OpenAI ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของ Musk โดยระบุว่าการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรองรับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรม AI และยังกล่าวเพิ่มเติมว่า Musk ต้องการควบคุมองค์กรหรือรวม OpenAI กับ Tesla เพื่อประโยชน์ส่วนตัว
หากศาลตัดสินให้ Musk ชนะ มันอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อ OpenAI รวมถึงพันธมิตรธุรกิจ เช่น Microsoft ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ อย่างไรก็ตาม หาก OpenAI ชนะคดี อาจมีการเรียกค่าเสียหายจาก Musk และการดำเนินธุรกิจของ OpenAI ก็จะดำเนินต่อไปอย่างไร้ปัญหา
เรื่องนี้สะท้อนถึงความซับซ้อนของการสร้างสมดุลระหว่างวิสัยทัศน์เพื่อส่วนรวมและการแข่งขันในตลาดธุรกิจ AI
https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/12/elon-musk039s-feud-with-openai-ceo-sam-altman-explained
0 Comments
0 Shares
46 Views
0 Reviews