ลุงไม่ถูกใจสิ่งนี้ !!
บริษัท Brother ซึ่งเคยได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากการเปลี่ยนนโยบายไปใช้แนวทางที่ค่อนข้างไม่เป็นมิตรต่อผู้บริโภค โดยเฉพาะในเรื่องของการใช้โทนเนอร์ที่ไม่ใช่ของแท้ (non-OEM toner)
เครื่องพิมพ์ Brother เคยได้รับการชื่นชมว่าใช้งานกับโทนเนอร์ที่ไม่ใช่ของแท้ได้เป็นอย่างดี แตกต่างจากแบรนด์อื่นเช่น HP แต่การอัปเดตเฟิร์มแวร์ครั้งล่าสุดได้ทำให้คุณภาพการพิมพ์ลดลงอย่างชัดเจนเมื่อใช้โทนเนอร์ที่ไม่ใช่ของ Brother การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่าถูกบังคับให้ต้องซื้อโทนเนอร์ของแท้ที่มีราคาแพงกว่ามาก
การอัปเดตเฟิร์มแวร์ไม่ได้จำกัดเฉพาะการใช้งานโทนเนอร์ที่ไม่ใช่ของแท้เท่านั้น แต่ยังลบฟีเจอร์บางอย่างที่เคยมี เช่น การลงทะเบียนสีอัตโนมัติ (automatic color registration) ซึ่งทำให้คุณภาพการพิมพ์ที่ใช้โทนเนอร์ที่ไม่ใช่ของแท้ลดลงอย่างมาก การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ใช้ที่ต้องการเลือกใช้สินค้าตามที่ต้องการ
สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้แจ้งล่วงหน้าแก่ผู้ใช้ การอัปเดตเฟิร์มแวร์แบบอัตโนมัติ เช่น เวอร์ชัน W1.56 ถูกติดตั้งโดยไม่ให้ผู้ใช้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญนี้ ส่งผลให้การลงทะเบียนสีล้มเหลวและทำให้การพิมพ์ไม่ตรงกัน
Louis Rossmann, นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิในการซ่อมและผู้ใช้ YouTube ชื่อดัง ได้แสดงความไม่พอใจต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยเขาชี้ให้เห็นว่าการกระทำของ Brother เป็นการทำลายความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดว่าโทนเนอร์ที่ไม่ใช่ของแท้มีปัญหา
ยิ่งไปกว่านั้น Brother ยังได้ลบเวอร์ชันเฟิร์มแวร์เก่าๆ ออกจากเซิร์ฟเวอร์ของตน ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถย้อนกลับไปใช้เวอร์ชันที่เคยรองรับการใช้งานโทนเนอร์ที่ไม่ใช่ของแท้ได้
การกระทำนี้อาจมีผลกระทบทางกฎหมาย Rossmann คาดว่าการลบฟังก์ชันหลังจากการซื้ออาจเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายในบางเขตแดน ผู้บริโภคถูกทิ้งให้มีทางเลือกจำกัดในการแก้ไขปัญหา บางคนเลือกที่จะปิดการอัปเดตอัตโนมัติเพื่อป้องกันการลบฟังก์ชัน แต่การทำเช่นนั้นอาจทำให้พวกเขาเสี่ยงต่อการโจมตีทางไซเบอร์
https://www.techspot.com/news/107022-brother-printers-quietly-sabotaging-third-party-toner-firmware.html
บริษัท Brother ซึ่งเคยได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากการเปลี่ยนนโยบายไปใช้แนวทางที่ค่อนข้างไม่เป็นมิตรต่อผู้บริโภค โดยเฉพาะในเรื่องของการใช้โทนเนอร์ที่ไม่ใช่ของแท้ (non-OEM toner)
เครื่องพิมพ์ Brother เคยได้รับการชื่นชมว่าใช้งานกับโทนเนอร์ที่ไม่ใช่ของแท้ได้เป็นอย่างดี แตกต่างจากแบรนด์อื่นเช่น HP แต่การอัปเดตเฟิร์มแวร์ครั้งล่าสุดได้ทำให้คุณภาพการพิมพ์ลดลงอย่างชัดเจนเมื่อใช้โทนเนอร์ที่ไม่ใช่ของ Brother การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่าถูกบังคับให้ต้องซื้อโทนเนอร์ของแท้ที่มีราคาแพงกว่ามาก
การอัปเดตเฟิร์มแวร์ไม่ได้จำกัดเฉพาะการใช้งานโทนเนอร์ที่ไม่ใช่ของแท้เท่านั้น แต่ยังลบฟีเจอร์บางอย่างที่เคยมี เช่น การลงทะเบียนสีอัตโนมัติ (automatic color registration) ซึ่งทำให้คุณภาพการพิมพ์ที่ใช้โทนเนอร์ที่ไม่ใช่ของแท้ลดลงอย่างมาก การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ใช้ที่ต้องการเลือกใช้สินค้าตามที่ต้องการ
สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้แจ้งล่วงหน้าแก่ผู้ใช้ การอัปเดตเฟิร์มแวร์แบบอัตโนมัติ เช่น เวอร์ชัน W1.56 ถูกติดตั้งโดยไม่ให้ผู้ใช้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญนี้ ส่งผลให้การลงทะเบียนสีล้มเหลวและทำให้การพิมพ์ไม่ตรงกัน
Louis Rossmann, นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิในการซ่อมและผู้ใช้ YouTube ชื่อดัง ได้แสดงความไม่พอใจต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยเขาชี้ให้เห็นว่าการกระทำของ Brother เป็นการทำลายความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดว่าโทนเนอร์ที่ไม่ใช่ของแท้มีปัญหา
ยิ่งไปกว่านั้น Brother ยังได้ลบเวอร์ชันเฟิร์มแวร์เก่าๆ ออกจากเซิร์ฟเวอร์ของตน ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถย้อนกลับไปใช้เวอร์ชันที่เคยรองรับการใช้งานโทนเนอร์ที่ไม่ใช่ของแท้ได้
การกระทำนี้อาจมีผลกระทบทางกฎหมาย Rossmann คาดว่าการลบฟังก์ชันหลังจากการซื้ออาจเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายในบางเขตแดน ผู้บริโภคถูกทิ้งให้มีทางเลือกจำกัดในการแก้ไขปัญหา บางคนเลือกที่จะปิดการอัปเดตอัตโนมัติเพื่อป้องกันการลบฟังก์ชัน แต่การทำเช่นนั้นอาจทำให้พวกเขาเสี่ยงต่อการโจมตีทางไซเบอร์
https://www.techspot.com/news/107022-brother-printers-quietly-sabotaging-third-party-toner-firmware.html
ลุงไม่ถูกใจสิ่งนี้ !!
บริษัท Brother ซึ่งเคยได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากการเปลี่ยนนโยบายไปใช้แนวทางที่ค่อนข้างไม่เป็นมิตรต่อผู้บริโภค โดยเฉพาะในเรื่องของการใช้โทนเนอร์ที่ไม่ใช่ของแท้ (non-OEM toner)
เครื่องพิมพ์ Brother เคยได้รับการชื่นชมว่าใช้งานกับโทนเนอร์ที่ไม่ใช่ของแท้ได้เป็นอย่างดี แตกต่างจากแบรนด์อื่นเช่น HP แต่การอัปเดตเฟิร์มแวร์ครั้งล่าสุดได้ทำให้คุณภาพการพิมพ์ลดลงอย่างชัดเจนเมื่อใช้โทนเนอร์ที่ไม่ใช่ของ Brother การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่าถูกบังคับให้ต้องซื้อโทนเนอร์ของแท้ที่มีราคาแพงกว่ามาก
การอัปเดตเฟิร์มแวร์ไม่ได้จำกัดเฉพาะการใช้งานโทนเนอร์ที่ไม่ใช่ของแท้เท่านั้น แต่ยังลบฟีเจอร์บางอย่างที่เคยมี เช่น การลงทะเบียนสีอัตโนมัติ (automatic color registration) ซึ่งทำให้คุณภาพการพิมพ์ที่ใช้โทนเนอร์ที่ไม่ใช่ของแท้ลดลงอย่างมาก การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ใช้ที่ต้องการเลือกใช้สินค้าตามที่ต้องการ
สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้แจ้งล่วงหน้าแก่ผู้ใช้ การอัปเดตเฟิร์มแวร์แบบอัตโนมัติ เช่น เวอร์ชัน W1.56 ถูกติดตั้งโดยไม่ให้ผู้ใช้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญนี้ ส่งผลให้การลงทะเบียนสีล้มเหลวและทำให้การพิมพ์ไม่ตรงกัน
Louis Rossmann, นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิในการซ่อมและผู้ใช้ YouTube ชื่อดัง ได้แสดงความไม่พอใจต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยเขาชี้ให้เห็นว่าการกระทำของ Brother เป็นการทำลายความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดว่าโทนเนอร์ที่ไม่ใช่ของแท้มีปัญหา
ยิ่งไปกว่านั้น Brother ยังได้ลบเวอร์ชันเฟิร์มแวร์เก่าๆ ออกจากเซิร์ฟเวอร์ของตน ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถย้อนกลับไปใช้เวอร์ชันที่เคยรองรับการใช้งานโทนเนอร์ที่ไม่ใช่ของแท้ได้
การกระทำนี้อาจมีผลกระทบทางกฎหมาย Rossmann คาดว่าการลบฟังก์ชันหลังจากการซื้ออาจเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายในบางเขตแดน ผู้บริโภคถูกทิ้งให้มีทางเลือกจำกัดในการแก้ไขปัญหา บางคนเลือกที่จะปิดการอัปเดตอัตโนมัติเพื่อป้องกันการลบฟังก์ชัน แต่การทำเช่นนั้นอาจทำให้พวกเขาเสี่ยงต่อการโจมตีทางไซเบอร์
https://www.techspot.com/news/107022-brother-printers-quietly-sabotaging-third-party-toner-firmware.html
0 Comments
0 Shares
38 Views
0 Reviews