การหารือระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนจบลงแบบ "หายนะ" โดยปราศจากการลงนามข้อตกลงแร่ธาตุในวันศุกร์ (28 ก.พ.) หลังผู้นำทั้งสองเกิดปะทะคารมกันอย่างรุนแรงต่อหน้าสื่อมวลชน โดย เซเลนสกี ตั้งคำถามเรื่องที่ ทรัมป์ เอนเอียงเข้าข้างรัสเซีย ขณะที่ ทรัมป์ ก็ชี้ว่าผู้นำยูเครน "ไม่เคารพ" อเมริกาและกำลังเดิมพันด้วยสงครามโลกครั้งที่ 3 พร้อมยื่นคำขาดหากยูเครนไม่รับข้อตกลง สหรัฐฯ ก็จะ "ไม่เอาด้วย" อีกต่อไป
.
การไปเยือนสหรัฐฯ ของ เซเลนสกี ในครั้งนี้เดิมมีเป้าหมายเพื่อเกลี้ยกล่อมสหรัฐฯ ไม่ให้หันไปเข้าข้างประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ซึ่งเป็นคนออกคำสั่งส่งทหารรุกรานยูเครนเมื่อ 3 ปีก่อน
.
อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่า เซเลนสกี มีมุมมองเห็นต่างอย่างรุนแรงกับ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์ เกี่ยวกับสงครามครั้งนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าท่าทีที่เปลี่ยนไปของสหรัฐฯ กำลังบั่นทอนการสนับสนุนที่ตะวันตกมีต่อเคียฟมากขนาดไหน
.
แวนซ์ ย้ำถึงความจำเป็นในการใช้การทูตคลี่คลายความขัดแย้งครั้งใหญ่ที่สุดของยุโรปในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ขณะที่ เซเลนสกี แย้งว่า ปูติน "เชื่อถือไม่ได้" ไม่ว่าจะในการเจรจาใดๆ ก็ตาม
.
ทรัมป์ รีบโพสต์ข้อความผ่าน Truth Social ทันทีว่า เซเลนสกี ไม่ให้ความเคารพสหรัฐอเมริกา
.
"ผมคิดว่าประธานาธิบดี เซเลนสกียังไม่พร้อมสำหรับสันติภาพที่อเมริกาเข้าไปมีส่วนร่วม" ผู้นำสหรัฐฯ กล่าว "เขาสามารถกลับมาใหม่ได้ เมื่อเขาพร้อมที่จะยอมรับสันติภาพ"
.
เซเลนสกี เดินทางออกจากทำเนียบขาวก่อนกำหนดหลังจากที่ปะทะคารมกับ ทรัมป์ และ แวนซ์ โดยที่ทั้ง 2 ฝ่ายไม่ได้มีการลงนามข้อตกลงร่วมพัฒนาแหล่งแร่ธาตุในยูเครนอย่างที่ตั้งใจไว้
.
การทะเลาะกันออกสื่อครั้งนี้ยังส่งผลเสียต่อความพยายามของพวกผู้ยุโรปที่หวังกล่อม ทรัมป์ ให้ยอมมอบการค้ำประกันความมั่นคงแก่ยูเครน แม้ว่า ทรัมป์ จะยืนกรานไม่ส่งทหารอเมริกันเข้าไปในยูเครนอย่างแน่นอนก็ตาม
.
การการันตีความมั่นคงจากสหรัฐฯ ถูกมองว่าเป็นสิ่งเดียวที่จะป้องปรามรัสเซียไม่ให้กล้ารุกรานยูเครนซ้ำอีก
.
"ผู้คนกำลังล้มตายมากขึ้นเรื่อยๆ คุณเองก็เหลือทหารน้อยลงทุกที" ทรัมป์ บอกกับ เซเลนสกี ระหว่างการสนทนาที่ห้องทำงานรูปไข่ พร้อมข่มขู่ว่าสหรัฐฯ อาจตัดสินใจถอนการสนับสนุนยูเครน
.
"คุณต้องเลือกว่าจะยอมทำข้อตกลง ไม่อย่างนั้นเราก็ไม่เอาด้วย และหากเราถอนตัว คุณก็ต้องสู้ด้วยตัวเอง ซึ่งผมไม่คิดว่าผลลัพธ์จะออกมาดี" ทรัมป์ กล่าว
.
"คุณไม่ได้อยู่ในสถานะที่ดีนัก ตอนนี้คุณไม่มีไพ่ต่อรองแล้ว แต่เพราะมีเรา คุณถึงมีไพ่ต่อรองขึ้นมาได้" ทรัมป์ กล่าว
.
"ผมไม่ได้เล่นไพ่ ผมจริงจังมากท่านประธานาธิบดี" เซเลนสกี ตอบ ก่อนจะถูก ทรัมป์ กระทุ้งต่อว่า "คุณกำลังเล่นไพ่ คุณเอาชีวิตผู้คนนับล้านๆ มาเป็นเดิมพัน คุณกำลังเดิมพันกับสงครามโลกครั้งที่ 3"
.
"ถ้าหากเราลงนามข้อตกลงกัน คุณก็จะมีสถานะเข้มแข็งขึ้น แต่นี่คุณทำเหมือนไม่สำนึกบุญคุณเราเลยสักนิด และนั่นไม่ใช่เรื่องที่ดี ผมบอกตรงๆ นะ มันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย"
.
ด้าน เซเลนสกี ก็กล่าววาจาท้าทาย ทรัมป์ เรื่องที่เขาอ่อนข้อให้กับ ปูติน และเรียกร้องผู้นำสหรัฐฯ ว่า "อย่ายอมประนีประนอมกับฆาตกร" ขณะที่ ทรัมป์ ย้ำว่า ปูติน ต้องการบรรลุข้อตกลง
.
แวนซ์ กล่าวสำทับว่า การที่ เซเลนสกี เดินทางมาที่ห้องทำงานรูปไข่เพื่อยืนกระต่ายขาเดียวกับจุดยืนของตนเองนั้นเป็นการไม่เคารพสหรัฐฯ ซึ่ง ทรัมป์ เองก็เห็นด้วยในประเด็นนี้
.
"คุณไม่พูดขอบคุณเลยสักคำ" แวนซ์ กล่าว ซึ่งทำให้ เซเลนสกี ขึ้นเสียงตอบโต้ทันทีว่า "ผมพูดไปแล้วไม่รู้กี่ครั้งว่าขอบคุณชาวอเมริกัน"
.
เซเลนสกี เคยได้รับขวัญกำลังใจและความช่วยเหลือด้านอาวุธนับหมื่นๆ ล้านดอลลาร์จากอดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน ในการต่อสู้กับรัสเซีย ทว่าตอนนี้เขากลับต้องเผชิญจุดยืนที่แตกต่างแบบพลิกขั้วของ ทรัมป์ ซึ่งต้องการปิดฉากสงครามที่ยืดเยื้อมานาน 3 ปี นำสหรัฐฯ กลับไปฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัสเซีย รวมถึง "ทวงคืน" เงินบางส่วนที่เคยช่วยเหลือยูเครนไปด้วย
.
"ผมหวังว่าผมคงจะได้รับการจดจำในฐานะผู้สร้างสันติภาพ" ทรัมป์ กล่าว
.
ก่อนหน้านั้น ทรัมป์ บอกกับ เซเลนสกี ว่าทหารยูเครนสู้รบด้วยความกล้าหาญอย่างไม่น่าเชื่อ และสหรัฐฯ ต้องการเห็นสงครามจบลง เพื่อนำเงินงบประมาณไปใช้ในด้านอื่นๆ เช่น การฟื้นฟู เป็นต้น
.
บรรดาผู้นำชาติยุโรปต่างลุกขึ้นปกป้อง เซเลนสกี เป็นแถว โดย ฟรีดริช แมร์ซ ว่าที่นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ออกมาระบุว่า "เราต้องไม่สับสนว่าใครคือผู้รุกรานและใครคือเหยื่อในสงครามเลวร้ายครั้งนี้" ขณะที่นายกรัฐมนตรี เปโดร ซานเชซ แห่งสเปน ระบุว่า "ยูเครน สเปนยืนเคียงข้างคุณ" นอกจากนี้ เซเลนสกี ยังได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส, มาร์ก รึตเตอ เลขาธิการนาโต และ อันโตนิโอ กอสตา ประธานสภายุโรป
.
ร่างข้อตกลงที่ทั้งฝ่ายเห็นพ้องกันเมื่อช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาจะเปิดทางให้สหรัฐอเมริกาเข้าถึงทรัพยากรแร่ธาตุที่ยูเครนมีอยู่มากมาย แต่ไม่ได้กำหนดให้สหรัฐฯ ต้องมอบการค้ำประกันความมั่นคงใดๆ ต่อเคียฟ โดย ทรัมป์ นั้นอ้างว่าการมีภาคธุรกิจอเมริกันอยู่ก็ถือเป็นการการันตีความปลอดภัยรูปแบบหนึ่งอยู่แล้ว
.
ข้อตกลงนี้จะมีมูลค่าเท่าไหร่สำหรับสหรัฐฯ ไม่มีการเผยตัวเลขที่ชัดเจน แต่ ทรัมป์ เคยคุยว่าสหรัฐฯ จะสามารถสร้างรายได้หลายแสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ เซเลนสกี ยืนยันว่า เขาจะไม่ลงนามข้อตกลงใดๆ ที่ทำใก้ชาวยูเครนต้องเป็นหนี้ไปอีกหลายชั่วอายุคน
.
อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020038
..............
Sondhi X
.
การไปเยือนสหรัฐฯ ของ เซเลนสกี ในครั้งนี้เดิมมีเป้าหมายเพื่อเกลี้ยกล่อมสหรัฐฯ ไม่ให้หันไปเข้าข้างประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ซึ่งเป็นคนออกคำสั่งส่งทหารรุกรานยูเครนเมื่อ 3 ปีก่อน
.
อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่า เซเลนสกี มีมุมมองเห็นต่างอย่างรุนแรงกับ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์ เกี่ยวกับสงครามครั้งนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าท่าทีที่เปลี่ยนไปของสหรัฐฯ กำลังบั่นทอนการสนับสนุนที่ตะวันตกมีต่อเคียฟมากขนาดไหน
.
แวนซ์ ย้ำถึงความจำเป็นในการใช้การทูตคลี่คลายความขัดแย้งครั้งใหญ่ที่สุดของยุโรปในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ขณะที่ เซเลนสกี แย้งว่า ปูติน "เชื่อถือไม่ได้" ไม่ว่าจะในการเจรจาใดๆ ก็ตาม
.
ทรัมป์ รีบโพสต์ข้อความผ่าน Truth Social ทันทีว่า เซเลนสกี ไม่ให้ความเคารพสหรัฐอเมริกา
.
"ผมคิดว่าประธานาธิบดี เซเลนสกียังไม่พร้อมสำหรับสันติภาพที่อเมริกาเข้าไปมีส่วนร่วม" ผู้นำสหรัฐฯ กล่าว "เขาสามารถกลับมาใหม่ได้ เมื่อเขาพร้อมที่จะยอมรับสันติภาพ"
.
เซเลนสกี เดินทางออกจากทำเนียบขาวก่อนกำหนดหลังจากที่ปะทะคารมกับ ทรัมป์ และ แวนซ์ โดยที่ทั้ง 2 ฝ่ายไม่ได้มีการลงนามข้อตกลงร่วมพัฒนาแหล่งแร่ธาตุในยูเครนอย่างที่ตั้งใจไว้
.
การทะเลาะกันออกสื่อครั้งนี้ยังส่งผลเสียต่อความพยายามของพวกผู้ยุโรปที่หวังกล่อม ทรัมป์ ให้ยอมมอบการค้ำประกันความมั่นคงแก่ยูเครน แม้ว่า ทรัมป์ จะยืนกรานไม่ส่งทหารอเมริกันเข้าไปในยูเครนอย่างแน่นอนก็ตาม
.
การการันตีความมั่นคงจากสหรัฐฯ ถูกมองว่าเป็นสิ่งเดียวที่จะป้องปรามรัสเซียไม่ให้กล้ารุกรานยูเครนซ้ำอีก
.
"ผู้คนกำลังล้มตายมากขึ้นเรื่อยๆ คุณเองก็เหลือทหารน้อยลงทุกที" ทรัมป์ บอกกับ เซเลนสกี ระหว่างการสนทนาที่ห้องทำงานรูปไข่ พร้อมข่มขู่ว่าสหรัฐฯ อาจตัดสินใจถอนการสนับสนุนยูเครน
.
"คุณต้องเลือกว่าจะยอมทำข้อตกลง ไม่อย่างนั้นเราก็ไม่เอาด้วย และหากเราถอนตัว คุณก็ต้องสู้ด้วยตัวเอง ซึ่งผมไม่คิดว่าผลลัพธ์จะออกมาดี" ทรัมป์ กล่าว
.
"คุณไม่ได้อยู่ในสถานะที่ดีนัก ตอนนี้คุณไม่มีไพ่ต่อรองแล้ว แต่เพราะมีเรา คุณถึงมีไพ่ต่อรองขึ้นมาได้" ทรัมป์ กล่าว
.
"ผมไม่ได้เล่นไพ่ ผมจริงจังมากท่านประธานาธิบดี" เซเลนสกี ตอบ ก่อนจะถูก ทรัมป์ กระทุ้งต่อว่า "คุณกำลังเล่นไพ่ คุณเอาชีวิตผู้คนนับล้านๆ มาเป็นเดิมพัน คุณกำลังเดิมพันกับสงครามโลกครั้งที่ 3"
.
"ถ้าหากเราลงนามข้อตกลงกัน คุณก็จะมีสถานะเข้มแข็งขึ้น แต่นี่คุณทำเหมือนไม่สำนึกบุญคุณเราเลยสักนิด และนั่นไม่ใช่เรื่องที่ดี ผมบอกตรงๆ นะ มันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย"
.
ด้าน เซเลนสกี ก็กล่าววาจาท้าทาย ทรัมป์ เรื่องที่เขาอ่อนข้อให้กับ ปูติน และเรียกร้องผู้นำสหรัฐฯ ว่า "อย่ายอมประนีประนอมกับฆาตกร" ขณะที่ ทรัมป์ ย้ำว่า ปูติน ต้องการบรรลุข้อตกลง
.
แวนซ์ กล่าวสำทับว่า การที่ เซเลนสกี เดินทางมาที่ห้องทำงานรูปไข่เพื่อยืนกระต่ายขาเดียวกับจุดยืนของตนเองนั้นเป็นการไม่เคารพสหรัฐฯ ซึ่ง ทรัมป์ เองก็เห็นด้วยในประเด็นนี้
.
"คุณไม่พูดขอบคุณเลยสักคำ" แวนซ์ กล่าว ซึ่งทำให้ เซเลนสกี ขึ้นเสียงตอบโต้ทันทีว่า "ผมพูดไปแล้วไม่รู้กี่ครั้งว่าขอบคุณชาวอเมริกัน"
.
เซเลนสกี เคยได้รับขวัญกำลังใจและความช่วยเหลือด้านอาวุธนับหมื่นๆ ล้านดอลลาร์จากอดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน ในการต่อสู้กับรัสเซีย ทว่าตอนนี้เขากลับต้องเผชิญจุดยืนที่แตกต่างแบบพลิกขั้วของ ทรัมป์ ซึ่งต้องการปิดฉากสงครามที่ยืดเยื้อมานาน 3 ปี นำสหรัฐฯ กลับไปฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัสเซีย รวมถึง "ทวงคืน" เงินบางส่วนที่เคยช่วยเหลือยูเครนไปด้วย
.
"ผมหวังว่าผมคงจะได้รับการจดจำในฐานะผู้สร้างสันติภาพ" ทรัมป์ กล่าว
.
ก่อนหน้านั้น ทรัมป์ บอกกับ เซเลนสกี ว่าทหารยูเครนสู้รบด้วยความกล้าหาญอย่างไม่น่าเชื่อ และสหรัฐฯ ต้องการเห็นสงครามจบลง เพื่อนำเงินงบประมาณไปใช้ในด้านอื่นๆ เช่น การฟื้นฟู เป็นต้น
.
บรรดาผู้นำชาติยุโรปต่างลุกขึ้นปกป้อง เซเลนสกี เป็นแถว โดย ฟรีดริช แมร์ซ ว่าที่นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ออกมาระบุว่า "เราต้องไม่สับสนว่าใครคือผู้รุกรานและใครคือเหยื่อในสงครามเลวร้ายครั้งนี้" ขณะที่นายกรัฐมนตรี เปโดร ซานเชซ แห่งสเปน ระบุว่า "ยูเครน สเปนยืนเคียงข้างคุณ" นอกจากนี้ เซเลนสกี ยังได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส, มาร์ก รึตเตอ เลขาธิการนาโต และ อันโตนิโอ กอสตา ประธานสภายุโรป
.
ร่างข้อตกลงที่ทั้งฝ่ายเห็นพ้องกันเมื่อช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาจะเปิดทางให้สหรัฐอเมริกาเข้าถึงทรัพยากรแร่ธาตุที่ยูเครนมีอยู่มากมาย แต่ไม่ได้กำหนดให้สหรัฐฯ ต้องมอบการค้ำประกันความมั่นคงใดๆ ต่อเคียฟ โดย ทรัมป์ นั้นอ้างว่าการมีภาคธุรกิจอเมริกันอยู่ก็ถือเป็นการการันตีความปลอดภัยรูปแบบหนึ่งอยู่แล้ว
.
ข้อตกลงนี้จะมีมูลค่าเท่าไหร่สำหรับสหรัฐฯ ไม่มีการเผยตัวเลขที่ชัดเจน แต่ ทรัมป์ เคยคุยว่าสหรัฐฯ จะสามารถสร้างรายได้หลายแสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ เซเลนสกี ยืนยันว่า เขาจะไม่ลงนามข้อตกลงใดๆ ที่ทำใก้ชาวยูเครนต้องเป็นหนี้ไปอีกหลายชั่วอายุคน
.
อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020038
..............
Sondhi X
การหารือระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนจบลงแบบ "หายนะ" โดยปราศจากการลงนามข้อตกลงแร่ธาตุในวันศุกร์ (28 ก.พ.) หลังผู้นำทั้งสองเกิดปะทะคารมกันอย่างรุนแรงต่อหน้าสื่อมวลชน โดย เซเลนสกี ตั้งคำถามเรื่องที่ ทรัมป์ เอนเอียงเข้าข้างรัสเซีย ขณะที่ ทรัมป์ ก็ชี้ว่าผู้นำยูเครน "ไม่เคารพ" อเมริกาและกำลังเดิมพันด้วยสงครามโลกครั้งที่ 3 พร้อมยื่นคำขาดหากยูเครนไม่รับข้อตกลง สหรัฐฯ ก็จะ "ไม่เอาด้วย" อีกต่อไป
.
การไปเยือนสหรัฐฯ ของ เซเลนสกี ในครั้งนี้เดิมมีเป้าหมายเพื่อเกลี้ยกล่อมสหรัฐฯ ไม่ให้หันไปเข้าข้างประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ซึ่งเป็นคนออกคำสั่งส่งทหารรุกรานยูเครนเมื่อ 3 ปีก่อน
.
อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่า เซเลนสกี มีมุมมองเห็นต่างอย่างรุนแรงกับ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์ เกี่ยวกับสงครามครั้งนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าท่าทีที่เปลี่ยนไปของสหรัฐฯ กำลังบั่นทอนการสนับสนุนที่ตะวันตกมีต่อเคียฟมากขนาดไหน
.
แวนซ์ ย้ำถึงความจำเป็นในการใช้การทูตคลี่คลายความขัดแย้งครั้งใหญ่ที่สุดของยุโรปในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ขณะที่ เซเลนสกี แย้งว่า ปูติน "เชื่อถือไม่ได้" ไม่ว่าจะในการเจรจาใดๆ ก็ตาม
.
ทรัมป์ รีบโพสต์ข้อความผ่าน Truth Social ทันทีว่า เซเลนสกี ไม่ให้ความเคารพสหรัฐอเมริกา
.
"ผมคิดว่าประธานาธิบดี เซเลนสกียังไม่พร้อมสำหรับสันติภาพที่อเมริกาเข้าไปมีส่วนร่วม" ผู้นำสหรัฐฯ กล่าว "เขาสามารถกลับมาใหม่ได้ เมื่อเขาพร้อมที่จะยอมรับสันติภาพ"
.
เซเลนสกี เดินทางออกจากทำเนียบขาวก่อนกำหนดหลังจากที่ปะทะคารมกับ ทรัมป์ และ แวนซ์ โดยที่ทั้ง 2 ฝ่ายไม่ได้มีการลงนามข้อตกลงร่วมพัฒนาแหล่งแร่ธาตุในยูเครนอย่างที่ตั้งใจไว้
.
การทะเลาะกันออกสื่อครั้งนี้ยังส่งผลเสียต่อความพยายามของพวกผู้ยุโรปที่หวังกล่อม ทรัมป์ ให้ยอมมอบการค้ำประกันความมั่นคงแก่ยูเครน แม้ว่า ทรัมป์ จะยืนกรานไม่ส่งทหารอเมริกันเข้าไปในยูเครนอย่างแน่นอนก็ตาม
.
การการันตีความมั่นคงจากสหรัฐฯ ถูกมองว่าเป็นสิ่งเดียวที่จะป้องปรามรัสเซียไม่ให้กล้ารุกรานยูเครนซ้ำอีก
.
"ผู้คนกำลังล้มตายมากขึ้นเรื่อยๆ คุณเองก็เหลือทหารน้อยลงทุกที" ทรัมป์ บอกกับ เซเลนสกี ระหว่างการสนทนาที่ห้องทำงานรูปไข่ พร้อมข่มขู่ว่าสหรัฐฯ อาจตัดสินใจถอนการสนับสนุนยูเครน
.
"คุณต้องเลือกว่าจะยอมทำข้อตกลง ไม่อย่างนั้นเราก็ไม่เอาด้วย และหากเราถอนตัว คุณก็ต้องสู้ด้วยตัวเอง ซึ่งผมไม่คิดว่าผลลัพธ์จะออกมาดี" ทรัมป์ กล่าว
.
"คุณไม่ได้อยู่ในสถานะที่ดีนัก ตอนนี้คุณไม่มีไพ่ต่อรองแล้ว แต่เพราะมีเรา คุณถึงมีไพ่ต่อรองขึ้นมาได้" ทรัมป์ กล่าว
.
"ผมไม่ได้เล่นไพ่ ผมจริงจังมากท่านประธานาธิบดี" เซเลนสกี ตอบ ก่อนจะถูก ทรัมป์ กระทุ้งต่อว่า "คุณกำลังเล่นไพ่ คุณเอาชีวิตผู้คนนับล้านๆ มาเป็นเดิมพัน คุณกำลังเดิมพันกับสงครามโลกครั้งที่ 3"
.
"ถ้าหากเราลงนามข้อตกลงกัน คุณก็จะมีสถานะเข้มแข็งขึ้น แต่นี่คุณทำเหมือนไม่สำนึกบุญคุณเราเลยสักนิด และนั่นไม่ใช่เรื่องที่ดี ผมบอกตรงๆ นะ มันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย"
.
ด้าน เซเลนสกี ก็กล่าววาจาท้าทาย ทรัมป์ เรื่องที่เขาอ่อนข้อให้กับ ปูติน และเรียกร้องผู้นำสหรัฐฯ ว่า "อย่ายอมประนีประนอมกับฆาตกร" ขณะที่ ทรัมป์ ย้ำว่า ปูติน ต้องการบรรลุข้อตกลง
.
แวนซ์ กล่าวสำทับว่า การที่ เซเลนสกี เดินทางมาที่ห้องทำงานรูปไข่เพื่อยืนกระต่ายขาเดียวกับจุดยืนของตนเองนั้นเป็นการไม่เคารพสหรัฐฯ ซึ่ง ทรัมป์ เองก็เห็นด้วยในประเด็นนี้
.
"คุณไม่พูดขอบคุณเลยสักคำ" แวนซ์ กล่าว ซึ่งทำให้ เซเลนสกี ขึ้นเสียงตอบโต้ทันทีว่า "ผมพูดไปแล้วไม่รู้กี่ครั้งว่าขอบคุณชาวอเมริกัน"
.
เซเลนสกี เคยได้รับขวัญกำลังใจและความช่วยเหลือด้านอาวุธนับหมื่นๆ ล้านดอลลาร์จากอดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน ในการต่อสู้กับรัสเซีย ทว่าตอนนี้เขากลับต้องเผชิญจุดยืนที่แตกต่างแบบพลิกขั้วของ ทรัมป์ ซึ่งต้องการปิดฉากสงครามที่ยืดเยื้อมานาน 3 ปี นำสหรัฐฯ กลับไปฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัสเซีย รวมถึง "ทวงคืน" เงินบางส่วนที่เคยช่วยเหลือยูเครนไปด้วย
.
"ผมหวังว่าผมคงจะได้รับการจดจำในฐานะผู้สร้างสันติภาพ" ทรัมป์ กล่าว
.
ก่อนหน้านั้น ทรัมป์ บอกกับ เซเลนสกี ว่าทหารยูเครนสู้รบด้วยความกล้าหาญอย่างไม่น่าเชื่อ และสหรัฐฯ ต้องการเห็นสงครามจบลง เพื่อนำเงินงบประมาณไปใช้ในด้านอื่นๆ เช่น การฟื้นฟู เป็นต้น
.
บรรดาผู้นำชาติยุโรปต่างลุกขึ้นปกป้อง เซเลนสกี เป็นแถว โดย ฟรีดริช แมร์ซ ว่าที่นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ออกมาระบุว่า "เราต้องไม่สับสนว่าใครคือผู้รุกรานและใครคือเหยื่อในสงครามเลวร้ายครั้งนี้" ขณะที่นายกรัฐมนตรี เปโดร ซานเชซ แห่งสเปน ระบุว่า "ยูเครน สเปนยืนเคียงข้างคุณ" นอกจากนี้ เซเลนสกี ยังได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส, มาร์ก รึตเตอ เลขาธิการนาโต และ อันโตนิโอ กอสตา ประธานสภายุโรป
.
ร่างข้อตกลงที่ทั้งฝ่ายเห็นพ้องกันเมื่อช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาจะเปิดทางให้สหรัฐอเมริกาเข้าถึงทรัพยากรแร่ธาตุที่ยูเครนมีอยู่มากมาย แต่ไม่ได้กำหนดให้สหรัฐฯ ต้องมอบการค้ำประกันความมั่นคงใดๆ ต่อเคียฟ โดย ทรัมป์ นั้นอ้างว่าการมีภาคธุรกิจอเมริกันอยู่ก็ถือเป็นการการันตีความปลอดภัยรูปแบบหนึ่งอยู่แล้ว
.
ข้อตกลงนี้จะมีมูลค่าเท่าไหร่สำหรับสหรัฐฯ ไม่มีการเผยตัวเลขที่ชัดเจน แต่ ทรัมป์ เคยคุยว่าสหรัฐฯ จะสามารถสร้างรายได้หลายแสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ เซเลนสกี ยืนยันว่า เขาจะไม่ลงนามข้อตกลงใดๆ ที่ทำใก้ชาวยูเครนต้องเป็นหนี้ไปอีกหลายชั่วอายุคน
.
อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020038
..............
Sondhi X


