มีรายงานว่าบริษัท Stock Farm Road (SFR) ได้เซ็นสัญญาข้อตกลง (Memorandum of Understanding หรือ MoU) กับผู้ว่าการจังหวัดชอลลาใต้ของเกาหลีใต้เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ศูนย์ข้อมูลนี้จะตั้งอยู่ในมุมตะวันตกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ โดยมีงบประมาณประมาณ 35 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีกำลังการผลิตถึง 3 กิกะวัตต์ (GW)
โครงการนี้ถือเป็นการก้าวสำคัญในวงการเทคโนโลยีและพลังงาน ศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่นี้จะมีกำลังการผลิตที่ใหญ่กว่าศูนย์ข้อมูลที่กำลังสร้างทั่วโลก เช่น Sines Data Center ในโปรตุเกสที่มีกำลังการผลิต 1.2 GW และศูนย์ข้อมูล AI ของ Oracle ที่มีกำลังการผลิต 1 GW
การก่อสร้างศูนย์ข้อมูลนี้มีกำหนดเริ่มต้นในปีนี้ และคาดว่าจะเสร็จสิ้นในปี 2028 ซึ่งระยะเวลาการก่อสร้างนี้สั้นกว่าค่าเฉลี่ยของโครงการศูนย์ข้อมูลที่ใช้เวลาประมาณสี่ปี
ที่น่าสนใจคือโครงการนี้ไม่ได้เน้นที่ศูนย์ข้อมูลเพียงอย่างเดียว แต่จะรวมถึงการพัฒนาพลังงานหมุนเวียน การจัดหาอุปกรณ์ และการวิจัยและพัฒนา (R&D) เพื่อความยั่งยืนทางเทคโนโลยีในระยะยาว ซึ่งจะมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญทั้งในระดับจังหวัดและระดับชาติ คาดว่าจะสร้างรายได้เริ่มต้นประมาณ 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และสร้างงานมากกว่า 10,000 ตำแหน่ง
SFR ก่อตั้งโดย Brian Koo ซึ่งเป็นหลานชายของผู้ก่อตั้ง LG Electronics และ Dr. Amin Badr-El-Din มีแผนที่จะสร้างศูนย์ข้อมูล AI เพิ่มเติมในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกาใน 18 เดือนข้างหน้า บริษัทเชื่อว่าการลงทุนเหล่านี้จะช่วยสร้างเทคโนโลยี AI รุ่นต่อไป และจะให้บริการสถาบันหลายแห่ง รวมถึงผู้ให้บริการคลาวด์และนักพัฒนา AI
สิ่งนี้อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ CEO ของ Microsoft, Satya Nadella กล่าวว่า มีการสร้างระบบ AI มากเกินไปและบริษัทของเขาจะจำกัดการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI และหันไปเช่าความจุจากศูนย์ข้อมูลที่มีอยู่ เช่น SFR แทน อย่างไรก็ตาม Microsoft ยังคงใช้เงินจำนวนมหาศาลในการพัฒนา AI รวมถึงการรีสตาร์ทโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Three Mile Island เพื่อจัดหาพลังงานที่ศูนย์ข้อมูลของพวกเขาต้องการ
https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/worlds-largest-data-center-gets-go-ahead-from-korean-govt-facility-to-require-3-gw-of-power
โครงการนี้ถือเป็นการก้าวสำคัญในวงการเทคโนโลยีและพลังงาน ศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่นี้จะมีกำลังการผลิตที่ใหญ่กว่าศูนย์ข้อมูลที่กำลังสร้างทั่วโลก เช่น Sines Data Center ในโปรตุเกสที่มีกำลังการผลิต 1.2 GW และศูนย์ข้อมูล AI ของ Oracle ที่มีกำลังการผลิต 1 GW
การก่อสร้างศูนย์ข้อมูลนี้มีกำหนดเริ่มต้นในปีนี้ และคาดว่าจะเสร็จสิ้นในปี 2028 ซึ่งระยะเวลาการก่อสร้างนี้สั้นกว่าค่าเฉลี่ยของโครงการศูนย์ข้อมูลที่ใช้เวลาประมาณสี่ปี
ที่น่าสนใจคือโครงการนี้ไม่ได้เน้นที่ศูนย์ข้อมูลเพียงอย่างเดียว แต่จะรวมถึงการพัฒนาพลังงานหมุนเวียน การจัดหาอุปกรณ์ และการวิจัยและพัฒนา (R&D) เพื่อความยั่งยืนทางเทคโนโลยีในระยะยาว ซึ่งจะมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญทั้งในระดับจังหวัดและระดับชาติ คาดว่าจะสร้างรายได้เริ่มต้นประมาณ 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และสร้างงานมากกว่า 10,000 ตำแหน่ง
SFR ก่อตั้งโดย Brian Koo ซึ่งเป็นหลานชายของผู้ก่อตั้ง LG Electronics และ Dr. Amin Badr-El-Din มีแผนที่จะสร้างศูนย์ข้อมูล AI เพิ่มเติมในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกาใน 18 เดือนข้างหน้า บริษัทเชื่อว่าการลงทุนเหล่านี้จะช่วยสร้างเทคโนโลยี AI รุ่นต่อไป และจะให้บริการสถาบันหลายแห่ง รวมถึงผู้ให้บริการคลาวด์และนักพัฒนา AI
สิ่งนี้อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ CEO ของ Microsoft, Satya Nadella กล่าวว่า มีการสร้างระบบ AI มากเกินไปและบริษัทของเขาจะจำกัดการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI และหันไปเช่าความจุจากศูนย์ข้อมูลที่มีอยู่ เช่น SFR แทน อย่างไรก็ตาม Microsoft ยังคงใช้เงินจำนวนมหาศาลในการพัฒนา AI รวมถึงการรีสตาร์ทโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Three Mile Island เพื่อจัดหาพลังงานที่ศูนย์ข้อมูลของพวกเขาต้องการ
https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/worlds-largest-data-center-gets-go-ahead-from-korean-govt-facility-to-require-3-gw-of-power
มีรายงานว่าบริษัท Stock Farm Road (SFR) ได้เซ็นสัญญาข้อตกลง (Memorandum of Understanding หรือ MoU) กับผู้ว่าการจังหวัดชอลลาใต้ของเกาหลีใต้เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ศูนย์ข้อมูลนี้จะตั้งอยู่ในมุมตะวันตกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ โดยมีงบประมาณประมาณ 35 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีกำลังการผลิตถึง 3 กิกะวัตต์ (GW)
โครงการนี้ถือเป็นการก้าวสำคัญในวงการเทคโนโลยีและพลังงาน ศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่นี้จะมีกำลังการผลิตที่ใหญ่กว่าศูนย์ข้อมูลที่กำลังสร้างทั่วโลก เช่น Sines Data Center ในโปรตุเกสที่มีกำลังการผลิต 1.2 GW และศูนย์ข้อมูล AI ของ Oracle ที่มีกำลังการผลิต 1 GW
การก่อสร้างศูนย์ข้อมูลนี้มีกำหนดเริ่มต้นในปีนี้ และคาดว่าจะเสร็จสิ้นในปี 2028 ซึ่งระยะเวลาการก่อสร้างนี้สั้นกว่าค่าเฉลี่ยของโครงการศูนย์ข้อมูลที่ใช้เวลาประมาณสี่ปี
ที่น่าสนใจคือโครงการนี้ไม่ได้เน้นที่ศูนย์ข้อมูลเพียงอย่างเดียว แต่จะรวมถึงการพัฒนาพลังงานหมุนเวียน การจัดหาอุปกรณ์ และการวิจัยและพัฒนา (R&D) เพื่อความยั่งยืนทางเทคโนโลยีในระยะยาว ซึ่งจะมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญทั้งในระดับจังหวัดและระดับชาติ คาดว่าจะสร้างรายได้เริ่มต้นประมาณ 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และสร้างงานมากกว่า 10,000 ตำแหน่ง
SFR ก่อตั้งโดย Brian Koo ซึ่งเป็นหลานชายของผู้ก่อตั้ง LG Electronics และ Dr. Amin Badr-El-Din มีแผนที่จะสร้างศูนย์ข้อมูล AI เพิ่มเติมในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกาใน 18 เดือนข้างหน้า บริษัทเชื่อว่าการลงทุนเหล่านี้จะช่วยสร้างเทคโนโลยี AI รุ่นต่อไป และจะให้บริการสถาบันหลายแห่ง รวมถึงผู้ให้บริการคลาวด์และนักพัฒนา AI
สิ่งนี้อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ CEO ของ Microsoft, Satya Nadella กล่าวว่า มีการสร้างระบบ AI มากเกินไปและบริษัทของเขาจะจำกัดการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI และหันไปเช่าความจุจากศูนย์ข้อมูลที่มีอยู่ เช่น SFR แทน อย่างไรก็ตาม Microsoft ยังคงใช้เงินจำนวนมหาศาลในการพัฒนา AI รวมถึงการรีสตาร์ทโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Three Mile Island เพื่อจัดหาพลังงานที่ศูนย์ข้อมูลของพวกเขาต้องการ
https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/worlds-largest-data-center-gets-go-ahead-from-korean-govt-facility-to-require-3-gw-of-power
0 Comments
0 Shares
81 Views
0 Reviews