กรมการค้าต่างประเทศเตรียมยกระดับสกัดกั้นการนำเข้าเศษกระดาษ หลังตรวจสอบพบ 400 ตัน จากประเทศสหรัฐอเมริกา นำเข้าโดยบริษัทเอสซีจี อินเตอร์เนชันแนล คอร์ปอเรชัน จำกัด โดยใช้วิธีการสำแดงเป็นเศษกระดาษลูกฟูก เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ที่ผ่านมา มีขยะเจือปนอยู่เป็นจำนวนมากเข้าข่ายเป็น "ขยะเทศบาล"
.
จากข้อมูลของกรมการค้าต่างประเทศ ตั้งแต่ต้นปี 2567 ได้รับการรายงานมาเป็นระยะว่ามีผู้ประกอบการสำแดงการนำเข้าเศษกระดาษ แต่เมื่อตรวจสอบกลับพบว่ามีวัสดุอื่นเจือปนอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น ของใช้แล้วจำพวกขวดพลาสติก โฟม ถุงพลาสติก กระป๋องน้ำอัดลม ผ้าอ้อมสำเร็จรูป หน้ากากอนามัย ถุงน้ำยาทางการแพทย์และสายยาง
.
อย่างกรณีล่าสุดที่ปรากฏเป็นข่าวว่า กรมศุลกากรตรวจพบเศษพลาสติกและขยะติดเชื้อที่เข้าข่ายเป็น "ขยะเทศบาล" นำเข้าโดยบริษัทเอสซีจี อินเตอร์เนชันแนล คอร์ปอเรชัน จำกัด โดยใช้วิธีการสำแดงเป็นเศษกระดาษลูกฟูก น้ำหนักรวมกว่า 400 ตัน จากประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ที่ผ่านมา
.
“การตรวจสอบพบการนำเข้าเศษกระดาษที่เจือปนของเสียหรือวัสดุอื่น ๆ ซึ่งมีวัสดุที่เข้าข่ายเป็นขยะอันตราย และของเสียทางการแพทย์ เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและได้สร้างความเสียหายต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก รวมทั้งส่งผลเสียต่อสุขภาพของประชาชนโดยตรง หากยังพบว่ามีการนำเข้าเศษกระดาษโดยมีของเสียและวัสดุอื่น ๆ ที่เป็นอันตรายเจือปน กระทรวงพาณิชย์จำเป็นต้องกำหนดมาตรการที่เข้มงวด เช่น การห้ามนำเข้าเศษกระดาษหรือการกำหนดมาตรการใบอนุญาตนำเข้าเศษกระดาษที่ต้องกลั่นกรองอย่างเข้มงวดเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป” อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเน้นย้ำ
ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/4REeUyGFUExELep6/?mibextid=CTbP7E
#Thaitimes
.
จากข้อมูลของกรมการค้าต่างประเทศ ตั้งแต่ต้นปี 2567 ได้รับการรายงานมาเป็นระยะว่ามีผู้ประกอบการสำแดงการนำเข้าเศษกระดาษ แต่เมื่อตรวจสอบกลับพบว่ามีวัสดุอื่นเจือปนอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น ของใช้แล้วจำพวกขวดพลาสติก โฟม ถุงพลาสติก กระป๋องน้ำอัดลม ผ้าอ้อมสำเร็จรูป หน้ากากอนามัย ถุงน้ำยาทางการแพทย์และสายยาง
.
อย่างกรณีล่าสุดที่ปรากฏเป็นข่าวว่า กรมศุลกากรตรวจพบเศษพลาสติกและขยะติดเชื้อที่เข้าข่ายเป็น "ขยะเทศบาล" นำเข้าโดยบริษัทเอสซีจี อินเตอร์เนชันแนล คอร์ปอเรชัน จำกัด โดยใช้วิธีการสำแดงเป็นเศษกระดาษลูกฟูก น้ำหนักรวมกว่า 400 ตัน จากประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ที่ผ่านมา
.
“การตรวจสอบพบการนำเข้าเศษกระดาษที่เจือปนของเสียหรือวัสดุอื่น ๆ ซึ่งมีวัสดุที่เข้าข่ายเป็นขยะอันตราย และของเสียทางการแพทย์ เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและได้สร้างความเสียหายต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก รวมทั้งส่งผลเสียต่อสุขภาพของประชาชนโดยตรง หากยังพบว่ามีการนำเข้าเศษกระดาษโดยมีของเสียและวัสดุอื่น ๆ ที่เป็นอันตรายเจือปน กระทรวงพาณิชย์จำเป็นต้องกำหนดมาตรการที่เข้มงวด เช่น การห้ามนำเข้าเศษกระดาษหรือการกำหนดมาตรการใบอนุญาตนำเข้าเศษกระดาษที่ต้องกลั่นกรองอย่างเข้มงวดเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป” อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเน้นย้ำ
ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/4REeUyGFUExELep6/?mibextid=CTbP7E
#Thaitimes
กรมการค้าต่างประเทศเตรียมยกระดับสกัดกั้นการนำเข้าเศษกระดาษ หลังตรวจสอบพบ 400 ตัน จากประเทศสหรัฐอเมริกา นำเข้าโดยบริษัทเอสซีจี อินเตอร์เนชันแนล คอร์ปอเรชัน จำกัด โดยใช้วิธีการสำแดงเป็นเศษกระดาษลูกฟูก เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ที่ผ่านมา มีขยะเจือปนอยู่เป็นจำนวนมากเข้าข่ายเป็น "ขยะเทศบาล"
.
จากข้อมูลของกรมการค้าต่างประเทศ ตั้งแต่ต้นปี 2567 ได้รับการรายงานมาเป็นระยะว่ามีผู้ประกอบการสำแดงการนำเข้าเศษกระดาษ แต่เมื่อตรวจสอบกลับพบว่ามีวัสดุอื่นเจือปนอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น ของใช้แล้วจำพวกขวดพลาสติก โฟม ถุงพลาสติก กระป๋องน้ำอัดลม ผ้าอ้อมสำเร็จรูป หน้ากากอนามัย ถุงน้ำยาทางการแพทย์และสายยาง
.
อย่างกรณีล่าสุดที่ปรากฏเป็นข่าวว่า กรมศุลกากรตรวจพบเศษพลาสติกและขยะติดเชื้อที่เข้าข่ายเป็น "ขยะเทศบาล" นำเข้าโดยบริษัทเอสซีจี อินเตอร์เนชันแนล คอร์ปอเรชัน จำกัด โดยใช้วิธีการสำแดงเป็นเศษกระดาษลูกฟูก น้ำหนักรวมกว่า 400 ตัน จากประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ที่ผ่านมา
.
“การตรวจสอบพบการนำเข้าเศษกระดาษที่เจือปนของเสียหรือวัสดุอื่น ๆ ซึ่งมีวัสดุที่เข้าข่ายเป็นขยะอันตราย และของเสียทางการแพทย์ เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและได้สร้างความเสียหายต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก รวมทั้งส่งผลเสียต่อสุขภาพของประชาชนโดยตรง หากยังพบว่ามีการนำเข้าเศษกระดาษโดยมีของเสียและวัสดุอื่น ๆ ที่เป็นอันตรายเจือปน กระทรวงพาณิชย์จำเป็นต้องกำหนดมาตรการที่เข้มงวด เช่น การห้ามนำเข้าเศษกระดาษหรือการกำหนดมาตรการใบอนุญาตนำเข้าเศษกระดาษที่ต้องกลั่นกรองอย่างเข้มงวดเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป” อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเน้นย้ำ
ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/4REeUyGFUExELep6/?mibextid=CTbP7E
#Thaitimes