มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในการพัฒนาคริสตัลหน่วยความจำ 5 มิติ (5D memory crystal) ที่สามารถเก็บข้อมูลได้ถึง 360 เทราไบต์ (TB) และมีอายุการใช้งานยาวนานถึง 14 พันล้านปี คริสตัลนี้ถูกพัฒนาโดยนักวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเซาแทมป์ตัน และมีชื่อเรียกว่า "Superman memory crystal" เนื่องจากความทนทานและความสามารถในการเก็บข้อมูลในระยะยาว
คริสตัลหน่วยความจำ 5 มิติใช้เลเซอร์ความเร็วสูงในการเขียนข้อมูลลงในโครงสร้างนาโนภายในวัสดุซิลิกา ซึ่งทำให้ข้อมูลมีความทนทานต่อความร้อน แรงกระแทก และรังสีคอสมิก คริสตัลนี้สามารถเก็บข้อมูลทางพันธุกรรมของมนุษย์ทั้งหมดได้ ซึ่งประกอบด้วยคู่เบสประมาณ 3 พันล้านคู่ที่จัดเรียงอยู่ในโครโมโซม 23 คู่ในนิวเคลียสของแต่ละเซลล์
คริสตัลนี้ถูกเก็บไว้ใน Memory of Mankind archive ซึ่งเป็นแคปซูลเวลาที่ตั้งอยู่ในถ้ำเกลือในเมือง Hallstatt ประเทศออสเตรีย เพื่อรักษาประวัติศาสตร์และความรู้ของมนุษย์สำหรับคนรุ่นหลัง ข้อมูลที่ถูกเขียนลงในคริสตัลนี้ถูกอธิบายด้วยองค์ประกอบสากล เช่น ไฮโดรเจน ออกซิเจน คาร์บอน และไนโตรเจน รวมถึงฐาน DNA สี่ตัวคือ อะดีนีน ไซโตซีน กัวนีน และไทมีน ที่ประกอบขึ้นเป็นรหัสพันธุกรรม
อย่างไรก็ตาม การเขียนและการอ่านข้อมูลจากคริสตัลหน่วยความจำ 5 มิติต้องใช้ทักษะเฉพาะทางและอุปกรณ์ขั้นสูง ซึ่งทำให้การใช้งานในปัจจุบันยังคงมีข้อจำกัด
ความสำเร็จนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเก็บข้อมูลในระยะยาวและการรักษาข้อมูลทางพันธุกรรมของมนุษย์ ซึ่งอาจมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูสายพันธุ์ที่สูญพันธุ์ในอนาคต
https://www.techradar.com/pro/eternal-5d-memory-crystal-capable-of-storing-360-tb-of-data-for-billions-of-years-now-holds-a-full-human-genome
คริสตัลหน่วยความจำ 5 มิติใช้เลเซอร์ความเร็วสูงในการเขียนข้อมูลลงในโครงสร้างนาโนภายในวัสดุซิลิกา ซึ่งทำให้ข้อมูลมีความทนทานต่อความร้อน แรงกระแทก และรังสีคอสมิก คริสตัลนี้สามารถเก็บข้อมูลทางพันธุกรรมของมนุษย์ทั้งหมดได้ ซึ่งประกอบด้วยคู่เบสประมาณ 3 พันล้านคู่ที่จัดเรียงอยู่ในโครโมโซม 23 คู่ในนิวเคลียสของแต่ละเซลล์
คริสตัลนี้ถูกเก็บไว้ใน Memory of Mankind archive ซึ่งเป็นแคปซูลเวลาที่ตั้งอยู่ในถ้ำเกลือในเมือง Hallstatt ประเทศออสเตรีย เพื่อรักษาประวัติศาสตร์และความรู้ของมนุษย์สำหรับคนรุ่นหลัง ข้อมูลที่ถูกเขียนลงในคริสตัลนี้ถูกอธิบายด้วยองค์ประกอบสากล เช่น ไฮโดรเจน ออกซิเจน คาร์บอน และไนโตรเจน รวมถึงฐาน DNA สี่ตัวคือ อะดีนีน ไซโตซีน กัวนีน และไทมีน ที่ประกอบขึ้นเป็นรหัสพันธุกรรม
อย่างไรก็ตาม การเขียนและการอ่านข้อมูลจากคริสตัลหน่วยความจำ 5 มิติต้องใช้ทักษะเฉพาะทางและอุปกรณ์ขั้นสูง ซึ่งทำให้การใช้งานในปัจจุบันยังคงมีข้อจำกัด
ความสำเร็จนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเก็บข้อมูลในระยะยาวและการรักษาข้อมูลทางพันธุกรรมของมนุษย์ ซึ่งอาจมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูสายพันธุ์ที่สูญพันธุ์ในอนาคต
https://www.techradar.com/pro/eternal-5d-memory-crystal-capable-of-storing-360-tb-of-data-for-billions-of-years-now-holds-a-full-human-genome
มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในการพัฒนาคริสตัลหน่วยความจำ 5 มิติ (5D memory crystal) ที่สามารถเก็บข้อมูลได้ถึง 360 เทราไบต์ (TB) และมีอายุการใช้งานยาวนานถึง 14 พันล้านปี คริสตัลนี้ถูกพัฒนาโดยนักวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเซาแทมป์ตัน และมีชื่อเรียกว่า "Superman memory crystal" เนื่องจากความทนทานและความสามารถในการเก็บข้อมูลในระยะยาว
คริสตัลหน่วยความจำ 5 มิติใช้เลเซอร์ความเร็วสูงในการเขียนข้อมูลลงในโครงสร้างนาโนภายในวัสดุซิลิกา ซึ่งทำให้ข้อมูลมีความทนทานต่อความร้อน แรงกระแทก และรังสีคอสมิก คริสตัลนี้สามารถเก็บข้อมูลทางพันธุกรรมของมนุษย์ทั้งหมดได้ ซึ่งประกอบด้วยคู่เบสประมาณ 3 พันล้านคู่ที่จัดเรียงอยู่ในโครโมโซม 23 คู่ในนิวเคลียสของแต่ละเซลล์
คริสตัลนี้ถูกเก็บไว้ใน Memory of Mankind archive ซึ่งเป็นแคปซูลเวลาที่ตั้งอยู่ในถ้ำเกลือในเมือง Hallstatt ประเทศออสเตรีย เพื่อรักษาประวัติศาสตร์และความรู้ของมนุษย์สำหรับคนรุ่นหลัง ข้อมูลที่ถูกเขียนลงในคริสตัลนี้ถูกอธิบายด้วยองค์ประกอบสากล เช่น ไฮโดรเจน ออกซิเจน คาร์บอน และไนโตรเจน รวมถึงฐาน DNA สี่ตัวคือ อะดีนีน ไซโตซีน กัวนีน และไทมีน ที่ประกอบขึ้นเป็นรหัสพันธุกรรม
อย่างไรก็ตาม การเขียนและการอ่านข้อมูลจากคริสตัลหน่วยความจำ 5 มิติต้องใช้ทักษะเฉพาะทางและอุปกรณ์ขั้นสูง ซึ่งทำให้การใช้งานในปัจจุบันยังคงมีข้อจำกัด
ความสำเร็จนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเก็บข้อมูลในระยะยาวและการรักษาข้อมูลทางพันธุกรรมของมนุษย์ ซึ่งอาจมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูสายพันธุ์ที่สูญพันธุ์ในอนาคต
https://www.techradar.com/pro/eternal-5d-memory-crystal-capable-of-storing-360-tb-of-data-for-billions-of-years-now-holds-a-full-human-genome
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
95 มุมมอง
0 รีวิว