รัสเซียมีเหตุผลเพียงพอที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ แต่ยังยับยั้งชั่งใจอยู่
ตลอดช่วงความขัดแย้งในยูเครน รัสเซียมีเหตุผลมากมายที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ แต่จนถึงขณะนี้ได้ใช้ความยับยั้งชั่งใจ รองประธานสภาความมั่นคงของรัสเซีย มิทรี เมดเวเดฟ กล่าวว่าอย่างไรก็ตามความอดทนของมอสโกนั้นไม่ใช่ว่าไม่มีขีดจำกัด โดยเสนอว่ารัสเซียอาจตอบโต้อย่างรุนแรงด้วยนิวเคลียร์หากชาติตะวันตกยอมให้เคียฟใช้ขีปนาวุธที่พวกเขาจัดหามาเพื่อโจมตีเป้าหมายที่อยู่ลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย
เคียฟเรียกร้องให้ยกเลิกข้อจำกัดเหล่านี้ตั้งแต่อย่างน้อยในเดือนพฤษภาคม เมื่อเร็วๆ นี้ สื่อหลายแห่งกล่าวว่าวอชิงตันและลอนดอนจะส่งมอบอาวุธพิสัยไกลให้เคียฟในเร็วๆ นี้ หรือแอบตกลงอย่างลับๆไปแล้ว
ในโพสต์บนช่อง Telegramเมื่อวันเสาร์ เมดเวเดฟเขียนว่าผู้นำตะวันตกหลอกตัวเองให้รู้สึกปลอดภัย โดยคิดว่ามอสโกกำลังบลัฟจากการออกคำเตือนถึงผลที่ตามมาร้ายแรงจากการที่ตะวันตกยอมให้เคียฟโจมตีรัสเซียด้วยขีปนาวุธพิสัยไกล เจ้าหน้าที่รายนี้ เมดเวเดฟเคยเป็นประธานาธิบดีรัสเซียตั้งแต่ปี 2028-2012 กล่าวว่ารัสเซียตระหนักดี โจมตีด้วยนิวเคลียร์จะเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญ
“เป็นเพราะเหตุนี้ การตัดสินใจใช้อาวุธนิวเคลียร์... จึงยังไม่เกิดขึ้น” เมดเวเดฟเน้นย้ำ เขาเสริมว่า “ข้อกำหนดเบื้องต้นอย่างเป็นทางการสำหรับสิ่งนี้ ซึ่งประชาคมโลกทั้งหมดสามารถเข้าใจได้ และที่กำหนดโดยหลักนิยมในการใช้อาวุธนิวเคลียร์ของเรานั้นมีผลบังคับใช้แล้ว” เขายกตัวอย่างการรุกของยูเครนในภูมิภาคเคิร์สค์เป็นตัวอย่างหนึ่ง
รัสเซียกำลังแสดงความอดทน” เขากล่าว พร้อมเตือนว่า “ความอดทนมีขีดจำกัดอยู่เสมอ”
เมดเวเดฟกล่าวต่อไปว่า รัสเซียสามารถตอบสนองต่อการเพิ่มขึ้นของชาติตะวันตกด้วยอาวุธใหม่บางประเภท ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นนิวเคลียร์ แต่มีอานุภาพทำลายล้างสูง
เมื่อวันพฤหัสบดี ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียแย้งว่ากองทัพยูเครนไม่สามารถปฏิบัติการระบบพิสัยไกลของตะวันตกได้ด้วยตัวเอง แต่ต้องใช้ข่าวกรองจากดาวเทียมของ NATO และเจ้าหน้าที่ทหารของชาติตะวันตก ด้วยเหตุนี้ หากชาติตะวันตกยอมให้เคียฟโจมตีเป้าหมายที่อยู่ลึกเข้าไปในรัสเซีย “นี่จะหมายความว่าประเทศใน NATO, สหรัฐอเมริกา, ประเทศในยุโรปกำลังทำสงครามกับรัสเซียโดยตรง” ปูตินกล่าว
ที่มา RT
ตลอดช่วงความขัดแย้งในยูเครน รัสเซียมีเหตุผลมากมายที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ แต่จนถึงขณะนี้ได้ใช้ความยับยั้งชั่งใจ รองประธานสภาความมั่นคงของรัสเซีย มิทรี เมดเวเดฟ กล่าวว่าอย่างไรก็ตามความอดทนของมอสโกนั้นไม่ใช่ว่าไม่มีขีดจำกัด โดยเสนอว่ารัสเซียอาจตอบโต้อย่างรุนแรงด้วยนิวเคลียร์หากชาติตะวันตกยอมให้เคียฟใช้ขีปนาวุธที่พวกเขาจัดหามาเพื่อโจมตีเป้าหมายที่อยู่ลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย
เคียฟเรียกร้องให้ยกเลิกข้อจำกัดเหล่านี้ตั้งแต่อย่างน้อยในเดือนพฤษภาคม เมื่อเร็วๆ นี้ สื่อหลายแห่งกล่าวว่าวอชิงตันและลอนดอนจะส่งมอบอาวุธพิสัยไกลให้เคียฟในเร็วๆ นี้ หรือแอบตกลงอย่างลับๆไปแล้ว
ในโพสต์บนช่อง Telegramเมื่อวันเสาร์ เมดเวเดฟเขียนว่าผู้นำตะวันตกหลอกตัวเองให้รู้สึกปลอดภัย โดยคิดว่ามอสโกกำลังบลัฟจากการออกคำเตือนถึงผลที่ตามมาร้ายแรงจากการที่ตะวันตกยอมให้เคียฟโจมตีรัสเซียด้วยขีปนาวุธพิสัยไกล เจ้าหน้าที่รายนี้ เมดเวเดฟเคยเป็นประธานาธิบดีรัสเซียตั้งแต่ปี 2028-2012 กล่าวว่ารัสเซียตระหนักดี โจมตีด้วยนิวเคลียร์จะเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญ
“เป็นเพราะเหตุนี้ การตัดสินใจใช้อาวุธนิวเคลียร์... จึงยังไม่เกิดขึ้น” เมดเวเดฟเน้นย้ำ เขาเสริมว่า “ข้อกำหนดเบื้องต้นอย่างเป็นทางการสำหรับสิ่งนี้ ซึ่งประชาคมโลกทั้งหมดสามารถเข้าใจได้ และที่กำหนดโดยหลักนิยมในการใช้อาวุธนิวเคลียร์ของเรานั้นมีผลบังคับใช้แล้ว” เขายกตัวอย่างการรุกของยูเครนในภูมิภาคเคิร์สค์เป็นตัวอย่างหนึ่ง
รัสเซียกำลังแสดงความอดทน” เขากล่าว พร้อมเตือนว่า “ความอดทนมีขีดจำกัดอยู่เสมอ”
เมดเวเดฟกล่าวต่อไปว่า รัสเซียสามารถตอบสนองต่อการเพิ่มขึ้นของชาติตะวันตกด้วยอาวุธใหม่บางประเภท ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นนิวเคลียร์ แต่มีอานุภาพทำลายล้างสูง
เมื่อวันพฤหัสบดี ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียแย้งว่ากองทัพยูเครนไม่สามารถปฏิบัติการระบบพิสัยไกลของตะวันตกได้ด้วยตัวเอง แต่ต้องใช้ข่าวกรองจากดาวเทียมของ NATO และเจ้าหน้าที่ทหารของชาติตะวันตก ด้วยเหตุนี้ หากชาติตะวันตกยอมให้เคียฟโจมตีเป้าหมายที่อยู่ลึกเข้าไปในรัสเซีย “นี่จะหมายความว่าประเทศใน NATO, สหรัฐอเมริกา, ประเทศในยุโรปกำลังทำสงครามกับรัสเซียโดยตรง” ปูตินกล่าว
ที่มา RT
รัสเซียมีเหตุผลเพียงพอที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ แต่ยังยับยั้งชั่งใจอยู่
ตลอดช่วงความขัดแย้งในยูเครน รัสเซียมีเหตุผลมากมายที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ แต่จนถึงขณะนี้ได้ใช้ความยับยั้งชั่งใจ รองประธานสภาความมั่นคงของรัสเซีย มิทรี เมดเวเดฟ กล่าวว่าอย่างไรก็ตามความอดทนของมอสโกนั้นไม่ใช่ว่าไม่มีขีดจำกัด โดยเสนอว่ารัสเซียอาจตอบโต้อย่างรุนแรงด้วยนิวเคลียร์หากชาติตะวันตกยอมให้เคียฟใช้ขีปนาวุธที่พวกเขาจัดหามาเพื่อโจมตีเป้าหมายที่อยู่ลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย
เคียฟเรียกร้องให้ยกเลิกข้อจำกัดเหล่านี้ตั้งแต่อย่างน้อยในเดือนพฤษภาคม เมื่อเร็วๆ นี้ สื่อหลายแห่งกล่าวว่าวอชิงตันและลอนดอนจะส่งมอบอาวุธพิสัยไกลให้เคียฟในเร็วๆ นี้ หรือแอบตกลงอย่างลับๆไปแล้ว
ในโพสต์บนช่อง Telegramเมื่อวันเสาร์ เมดเวเดฟเขียนว่าผู้นำตะวันตกหลอกตัวเองให้รู้สึกปลอดภัย โดยคิดว่ามอสโกกำลังบลัฟจากการออกคำเตือนถึงผลที่ตามมาร้ายแรงจากการที่ตะวันตกยอมให้เคียฟโจมตีรัสเซียด้วยขีปนาวุธพิสัยไกล เจ้าหน้าที่รายนี้ เมดเวเดฟเคยเป็นประธานาธิบดีรัสเซียตั้งแต่ปี 2028-2012 กล่าวว่ารัสเซียตระหนักดี โจมตีด้วยนิวเคลียร์จะเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญ
“เป็นเพราะเหตุนี้ การตัดสินใจใช้อาวุธนิวเคลียร์... จึงยังไม่เกิดขึ้น” เมดเวเดฟเน้นย้ำ เขาเสริมว่า “ข้อกำหนดเบื้องต้นอย่างเป็นทางการสำหรับสิ่งนี้ ซึ่งประชาคมโลกทั้งหมดสามารถเข้าใจได้ และที่กำหนดโดยหลักนิยมในการใช้อาวุธนิวเคลียร์ของเรานั้นมีผลบังคับใช้แล้ว” เขายกตัวอย่างการรุกของยูเครนในภูมิภาคเคิร์สค์เป็นตัวอย่างหนึ่ง
รัสเซียกำลังแสดงความอดทน” เขากล่าว พร้อมเตือนว่า “ความอดทนมีขีดจำกัดอยู่เสมอ”
เมดเวเดฟกล่าวต่อไปว่า รัสเซียสามารถตอบสนองต่อการเพิ่มขึ้นของชาติตะวันตกด้วยอาวุธใหม่บางประเภท ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นนิวเคลียร์ แต่มีอานุภาพทำลายล้างสูง
เมื่อวันพฤหัสบดี ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียแย้งว่ากองทัพยูเครนไม่สามารถปฏิบัติการระบบพิสัยไกลของตะวันตกได้ด้วยตัวเอง แต่ต้องใช้ข่าวกรองจากดาวเทียมของ NATO และเจ้าหน้าที่ทหารของชาติตะวันตก ด้วยเหตุนี้ หากชาติตะวันตกยอมให้เคียฟโจมตีเป้าหมายที่อยู่ลึกเข้าไปในรัสเซีย “นี่จะหมายความว่าประเทศใน NATO, สหรัฐอเมริกา, ประเทศในยุโรปกำลังทำสงครามกับรัสเซียโดยตรง” ปูตินกล่าว
ที่มา RT