บอร์ดประกันสังคมเห็นชอบ ปรับเพดานค่าจ้าง ส่งเงินสมทบ บันได 3 ขั้น สูงสุด 23,000 บาท ตั้งแต่ปี 2569-2575 เป็นต้นไป เตรียมเข้าขั้นตอน ชง ครม. ก่อนเริ่มใช้ปี 2569
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2568 มีการประชุมคณะกรรมการประกันสังคมและที่ปรึกษา (ชุดที่ 14) ครั้งที่ 1/2568 หนึ่งในวาระที่น่าสนใจคือการรับทราบ สรุปผลการรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุงเพดานค่าจ้างขั้นต่ำและขั้นสูงที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบกองทุนประกันสังคม และเห็นชอบหลักการของร่างกฎกระกรวงกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำและขั้นสูงที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบกองทุนประกันสังคม พ.ศ. …. และให้ดำเนินการตามขั้นตอนของการเสนอร่างกฎหมายต่อไป
การปรับปรุงเพดานค่าจ้าง เพื่อคำนวณเงินสมทบประกันสังคม จะเป็นรูปแบบบันได 3 ขั้น จากเพดานค่าจ้างสูงสุดเดิม 15,000 บาท เป็น 17,500 บาทในปี 2569-2571 จากนั้นปรับเป็น 20,000 บาทในปี 2572-2574 และสูงสุด 23,000 บาท ตั้งแต่ปี 2575 เป็นต้นไป โดยก่อนหน้านี้มีการเปิดรับฟังความเห็นประเด็นดังกล่าวจากภาคส่วนต่าง ๆ และผู้แสดงความเห็นมากกว่า 2 แสนคน ในจำนวนดังกล่าวมีผู้เห็นด้วยในสัดส่วนถึง 95%
นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ดประกันสังคม) กล่าวว่า หลังจากบอร์ดเห็นชอบแล้ว จะส่งกฎกระทรวงเข้าคณะกรรมการกฎหมายของกระทรวงแรงงาน ก่อนนำเสนอต่อ รมว.แรงงาน พิจารณา และนำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ต่อไป ซึ่งคาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายใน 4-5 เดือนนี้ และจะเริ่มดำเนินการในปี 2569 ซึ่งกฎกระทรวงต้องออกมาก่อนการบังคับใช้ 6 เดือน
สำหรับสิทธิประโยชน์ จะมีการปรับเพิ่มขึ้นตามการปรับเพดานค่าจ้างที่ปรับขึ้นแบบขั้นบันได ดังนี้
ปี 2569-2571
ส่งเงินสมทบสูงสุด 875 บาทต่อเดือน
เงินทดแทนกรณีเจ็บป่วย 8,750 บาทต่อเดือน (291 บาทต่อวัน สูงสุด 180 วัน รวม 52,500 บาท)
เงินสงเคราะห์คลอดบุตร 26,250 บาทต่อครั้ง
เงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ 8,750 บาทต่อเดือน
เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต 105,000 บาท
เงินทดแทนกรณีว่างงาน 8,750 บาทต่อเดือน
เงินบำนาญ สูงสุด 6,125 บาทต่อเดือน
ปี 2572-2574
ส่งเงินสมทบสูงสุด 1,000 บาทต่อเดือน
เงินทดแทนกรณีเจ็บป่วย 10,000 บาทต่อเดือน (333 บาทต่อวัน สูงสุด 180 วัน รวม 60,000 บาท)
เงินสงเคราะห์คลอดบุตร 30,000 บาทต่อครั้ง
เงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ 10,000 บาทต่อเดือน
เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต 120,000 บาท
เงินทดแทนกรณีว่างงาน 10,000 บาทต่อเดือน
เงินบำนาญ สูงสุด 7,000 บาทต่อเดือน
ปี 2575 เป็นต้นไป
ส่งเงินสมทบสูงสุด 1,150 บาทต่อเดือน
เงินทดแทนกรณีเจ็บป่วย 11,500 บาทต่อเดือน (383 บาทต่อวัน สูงสุด 180 วัน รวม 69,000 บาท)
เงินสงเคราะห์คลอดบุตร 34,500 บาทต่อครั้ง
เงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ 11,500 บาทต่อเดือน
เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต 138,000 บาท
เงินทดแทนกรณีว่างงาน 11,500 บาทต่อเดือน
เงินบำนาญ สูงสุด 8,050 บาทต่อเดือน
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
https://www.prachachat.net/sd-plus/sdplus-hr/news-1739962
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2568 มีการประชุมคณะกรรมการประกันสังคมและที่ปรึกษา (ชุดที่ 14) ครั้งที่ 1/2568 หนึ่งในวาระที่น่าสนใจคือการรับทราบ สรุปผลการรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุงเพดานค่าจ้างขั้นต่ำและขั้นสูงที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบกองทุนประกันสังคม และเห็นชอบหลักการของร่างกฎกระกรวงกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำและขั้นสูงที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบกองทุนประกันสังคม พ.ศ. …. และให้ดำเนินการตามขั้นตอนของการเสนอร่างกฎหมายต่อไป
การปรับปรุงเพดานค่าจ้าง เพื่อคำนวณเงินสมทบประกันสังคม จะเป็นรูปแบบบันได 3 ขั้น จากเพดานค่าจ้างสูงสุดเดิม 15,000 บาท เป็น 17,500 บาทในปี 2569-2571 จากนั้นปรับเป็น 20,000 บาทในปี 2572-2574 และสูงสุด 23,000 บาท ตั้งแต่ปี 2575 เป็นต้นไป โดยก่อนหน้านี้มีการเปิดรับฟังความเห็นประเด็นดังกล่าวจากภาคส่วนต่าง ๆ และผู้แสดงความเห็นมากกว่า 2 แสนคน ในจำนวนดังกล่าวมีผู้เห็นด้วยในสัดส่วนถึง 95%
นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ดประกันสังคม) กล่าวว่า หลังจากบอร์ดเห็นชอบแล้ว จะส่งกฎกระทรวงเข้าคณะกรรมการกฎหมายของกระทรวงแรงงาน ก่อนนำเสนอต่อ รมว.แรงงาน พิจารณา และนำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ต่อไป ซึ่งคาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายใน 4-5 เดือนนี้ และจะเริ่มดำเนินการในปี 2569 ซึ่งกฎกระทรวงต้องออกมาก่อนการบังคับใช้ 6 เดือน
สำหรับสิทธิประโยชน์ จะมีการปรับเพิ่มขึ้นตามการปรับเพดานค่าจ้างที่ปรับขึ้นแบบขั้นบันได ดังนี้
ปี 2569-2571
ส่งเงินสมทบสูงสุด 875 บาทต่อเดือน
เงินทดแทนกรณีเจ็บป่วย 8,750 บาทต่อเดือน (291 บาทต่อวัน สูงสุด 180 วัน รวม 52,500 บาท)
เงินสงเคราะห์คลอดบุตร 26,250 บาทต่อครั้ง
เงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ 8,750 บาทต่อเดือน
เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต 105,000 บาท
เงินทดแทนกรณีว่างงาน 8,750 บาทต่อเดือน
เงินบำนาญ สูงสุด 6,125 บาทต่อเดือน
ปี 2572-2574
ส่งเงินสมทบสูงสุด 1,000 บาทต่อเดือน
เงินทดแทนกรณีเจ็บป่วย 10,000 บาทต่อเดือน (333 บาทต่อวัน สูงสุด 180 วัน รวม 60,000 บาท)
เงินสงเคราะห์คลอดบุตร 30,000 บาทต่อครั้ง
เงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ 10,000 บาทต่อเดือน
เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต 120,000 บาท
เงินทดแทนกรณีว่างงาน 10,000 บาทต่อเดือน
เงินบำนาญ สูงสุด 7,000 บาทต่อเดือน
ปี 2575 เป็นต้นไป
ส่งเงินสมทบสูงสุด 1,150 บาทต่อเดือน
เงินทดแทนกรณีเจ็บป่วย 11,500 บาทต่อเดือน (383 บาทต่อวัน สูงสุด 180 วัน รวม 69,000 บาท)
เงินสงเคราะห์คลอดบุตร 34,500 บาทต่อครั้ง
เงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ 11,500 บาทต่อเดือน
เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต 138,000 บาท
เงินทดแทนกรณีว่างงาน 11,500 บาทต่อเดือน
เงินบำนาญ สูงสุด 8,050 บาทต่อเดือน
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
https://www.prachachat.net/sd-plus/sdplus-hr/news-1739962
บอร์ดประกันสังคมเห็นชอบ ปรับเพดานค่าจ้าง ส่งเงินสมทบ บันได 3 ขั้น สูงสุด 23,000 บาท ตั้งแต่ปี 2569-2575 เป็นต้นไป เตรียมเข้าขั้นตอน ชง ครม. ก่อนเริ่มใช้ปี 2569
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2568 มีการประชุมคณะกรรมการประกันสังคมและที่ปรึกษา (ชุดที่ 14) ครั้งที่ 1/2568 หนึ่งในวาระที่น่าสนใจคือการรับทราบ สรุปผลการรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุงเพดานค่าจ้างขั้นต่ำและขั้นสูงที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบกองทุนประกันสังคม และเห็นชอบหลักการของร่างกฎกระกรวงกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำและขั้นสูงที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบกองทุนประกันสังคม พ.ศ. …. และให้ดำเนินการตามขั้นตอนของการเสนอร่างกฎหมายต่อไป
การปรับปรุงเพดานค่าจ้าง เพื่อคำนวณเงินสมทบประกันสังคม จะเป็นรูปแบบบันได 3 ขั้น จากเพดานค่าจ้างสูงสุดเดิม 15,000 บาท เป็น 17,500 บาทในปี 2569-2571 จากนั้นปรับเป็น 20,000 บาทในปี 2572-2574 และสูงสุด 23,000 บาท ตั้งแต่ปี 2575 เป็นต้นไป โดยก่อนหน้านี้มีการเปิดรับฟังความเห็นประเด็นดังกล่าวจากภาคส่วนต่าง ๆ และผู้แสดงความเห็นมากกว่า 2 แสนคน ในจำนวนดังกล่าวมีผู้เห็นด้วยในสัดส่วนถึง 95%
นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ดประกันสังคม) กล่าวว่า หลังจากบอร์ดเห็นชอบแล้ว จะส่งกฎกระทรวงเข้าคณะกรรมการกฎหมายของกระทรวงแรงงาน ก่อนนำเสนอต่อ รมว.แรงงาน พิจารณา และนำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ต่อไป ซึ่งคาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายใน 4-5 เดือนนี้ และจะเริ่มดำเนินการในปี 2569 ซึ่งกฎกระทรวงต้องออกมาก่อนการบังคับใช้ 6 เดือน
สำหรับสิทธิประโยชน์ จะมีการปรับเพิ่มขึ้นตามการปรับเพดานค่าจ้างที่ปรับขึ้นแบบขั้นบันได ดังนี้
ปี 2569-2571
ส่งเงินสมทบสูงสุด 875 บาทต่อเดือน
เงินทดแทนกรณีเจ็บป่วย 8,750 บาทต่อเดือน (291 บาทต่อวัน สูงสุด 180 วัน รวม 52,500 บาท)
เงินสงเคราะห์คลอดบุตร 26,250 บาทต่อครั้ง
เงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ 8,750 บาทต่อเดือน
เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต 105,000 บาท
เงินทดแทนกรณีว่างงาน 8,750 บาทต่อเดือน
เงินบำนาญ สูงสุด 6,125 บาทต่อเดือน
ปี 2572-2574
ส่งเงินสมทบสูงสุด 1,000 บาทต่อเดือน
เงินทดแทนกรณีเจ็บป่วย 10,000 บาทต่อเดือน (333 บาทต่อวัน สูงสุด 180 วัน รวม 60,000 บาท)
เงินสงเคราะห์คลอดบุตร 30,000 บาทต่อครั้ง
เงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ 10,000 บาทต่อเดือน
เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต 120,000 บาท
เงินทดแทนกรณีว่างงาน 10,000 บาทต่อเดือน
เงินบำนาญ สูงสุด 7,000 บาทต่อเดือน
ปี 2575 เป็นต้นไป
ส่งเงินสมทบสูงสุด 1,150 บาทต่อเดือน
เงินทดแทนกรณีเจ็บป่วย 11,500 บาทต่อเดือน (383 บาทต่อวัน สูงสุด 180 วัน รวม 69,000 บาท)
เงินสงเคราะห์คลอดบุตร 34,500 บาทต่อครั้ง
เงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ 11,500 บาทต่อเดือน
เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต 138,000 บาท
เงินทดแทนกรณีว่างงาน 11,500 บาทต่อเดือน
เงินบำนาญ สูงสุด 8,050 บาทต่อเดือน
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
https://www.prachachat.net/sd-plus/sdplus-hr/news-1739962
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
156 มุมมอง
0 รีวิว