เมตา แพลตฟอร์มส์ บริษัทสื่อสังคมออนไลน์ ยกเลิกโครงการตรวจสอบข้อเท็จจริง (Fact-Checking) ในสหรัฐฯ และลดข้อจำกัดการสนทนาในหัวข้อซึ่งเป็นที่ถกเถียงต่างๆ อย่างเช่นผู้อพยพและความเท่าเทียมทางเพศ ยอมจำนนต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากพวกหัวอนุรักษนิยมทั้งหลาย ในนั้นรวมถึงว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เตรียมเข้ารับตำแหน่งเป็นสมัย 2
.
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นการยกเครื่องครั้งใหญ่ที่สุดในช่วงความทรงจำเมื่อเร็วๆ นี้ของเมตา ในแนวทางบริหารจัดการกับเนื้อหาทางการเมืองในบริการของพวกเขา และมีขึ้นในขณะที่ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของบริษัทส่งสัญญาณปรารถนาปรับความเข้าใจกับว่าที่รัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ
.
การเปลี่ยนแปลงจะครอบคลุมถึงเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และเธรดส์ ซึ่งเป็น 3 แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีผู้ใช้ทั่วโลกมากกว่า 3 ล้านคน
.
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เมตา ดัน โจเอล คาแพลน ผู้บริหารระดับสูงฝ่ายนโยบายที่สนับสนุนรีพับลิกัน ขึ้นเป็นหัวหน้าฝ่ายกิจการระหว่างประเทศ และในวันจันทร์ (6 ม.ค.) แถลงว่า ได้แต่งตั้ง ดานา ไวท์ ซีอีโอของอัลติเมทไฟต์ติงแชมเปียนชิพ และเพื่อนใกล้ชิดของทรัมป์ เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท
.
ซัคเคอร์เบิร์กกล่าวในวิดีโอว่า "เราไปถึงจุดๆ หนึ่ง ที่มันมีความผิดพลาดมากมายมากเกินไป และเป็นการคัดครองมากเกินไป มันถึงเวลาแล้วที่จะกลับสู่รากเหง้าของเราเกี่ยวกับเสรีภาพในการแสดงออก" ทั้งนี้มีรายงานว่า ซัคเคอร์เบิร์ก มีแผนนำระบบ "Community Notes"มาใช้ แบบเดียวกับที่ใช้บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ของอีลอน มัสก์
.
นอกจากนี้แล้ว เมตาจะโฟกัสไปที่ระบบอัตโนมัติในการลบ "เนื้อหาที่อ่อนไหวสูงและผิดกฎหมาย" อย่างเช่นก่อการร้ายและยาเสพติด ซัคเตอร์เบิร์กล่าว พร้อมระบุว่าจะหยุดสแกนเชิงรุกหาวาทกรรมแห่งความเกลียดชังและการละเมิดกฎรูปแบบอื่นๆ และจะทบทวนตรวจสอบโพสต์เหล่านั้น ตอบสนองต่อรายงานของผู้ใช้เท่านั้น
.
การถึงจุดจบของการตรวจสอบข้อเท็จจริง (Fact-Checking) ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี 2016 สร้างความแปลกใจแก่องค์กรพันธมิตรทั้งหลาย "เราไม่รู้ว่าความเคลื่อนไหวนี้กำลังเกิดขึ้น และมันเป็นเรื่องช็อกสำหรับเรา ชัดเจนว่ามันจะส่งผลกระทบกับเรา" เจนซี สติลเลอร์ บรรณาธิการบริหารของ Check Your Fact ระบุ
.
คริสติน โรเบิร์ตส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเนื้อหาของ Gannett Media ระบุว่า "ความจริงและข้อเท็จจริงรับใช้ทุกๆ คน ไม่ใช่แค่ฝ่ายขวาหรือฝ่ายซ้าย และนั่นคือสิ่งที่เราจะต้องเดินหน้าต่อไป เราทราบข่าวนี้พร้อมๆ กับทุกคนในวันนี้ มันส่งผลกระทบอย่างหนักต่อประชาคมตรวจสอบข้อเท็จจริงและสื่อมวลชน เรากำลังประเมินสถานการณ์"
.
เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซัคเคอร์เบิร์ก แสดงความเสียใจต่อการกลั่นกรองเนื้อหาบางอย่างในหัวข้อต่างๆ ในนั้นรวมถึงโควิด-19 นอกจากนี้แล้ว เมตายังบริจาคเงิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เข้ากองทุนสาบานตนของทรัมป์ ความเคลื่อนไหวที่ต่างจากแนวทางปฏิบัติในอดีตของบริษัท
.
"นี่คือการก้าวถอยหลังครั้งใหญ่ สำหรับการกลั่นกรองเนื้อหาในช่วงเวลาหนึ่งๆ ที่เนื้อหาบิดเบือนข้อมูลและเป็นอันตรายที่เติบโตเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา" จากความเห็นของ รอส เบอร์ลีย์ ผู้ก่อตั้งองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Centre for Information Resilience "ความเคลื่อนไหวนี้ ดูเหมือนเป็นการเอาอกเอาใจทางการเมือง มากกว่าที่จะเป็นนโยบายที่ฉลาด"
.
สำหรับเวลานี้ เมตามีแผนเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้เฉพาะตลาดสหรัฐฯ โดยยังไม่มีแผนยุติโปรแกรม fact-checking ในดินแดนอื่นๆ อย่างเช่นสหภาพยุโรป ที่จะใช้แนวทางกระตือรือร้นมากกว่าในการกำหนดกฎระเบียบกับบรรดาบริษัทเทคโนโลยีทั้งหลาย โฆษกบอกกับรอยเตอร์
.
ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อถูกถามเกี่ยวกับแผนยุติโปรแกรม fact-checking ของเมตา แพลตฟอร์มส์ โดยระบุว่า "พวกเขาก้าวหน้าไปมาก เมตา ชายผู้ชื่อ ซัคเคอร์เบิร์ก น่าประทับใจอย่างมก" ทรัมป์ระบุบางที ซัคเคอร์เบิร์ก อาจตอบสนองต่อเหตุคำขู่ต่างๆ ที่มีต่อตัวเขา
.
อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000001966
..............
Sondhi X
เมตา แพลตฟอร์มส์ บริษัทสื่อสังคมออนไลน์ ยกเลิกโครงการตรวจสอบข้อเท็จจริง (Fact-Checking) ในสหรัฐฯ และลดข้อจำกัดการสนทนาในหัวข้อซึ่งเป็นที่ถกเถียงต่างๆ อย่างเช่นผู้อพยพและความเท่าเทียมทางเพศ ยอมจำนนต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากพวกหัวอนุรักษนิยมทั้งหลาย ในนั้นรวมถึงว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เตรียมเข้ารับตำแหน่งเป็นสมัย 2 . ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นการยกเครื่องครั้งใหญ่ที่สุดในช่วงความทรงจำเมื่อเร็วๆ นี้ของเมตา ในแนวทางบริหารจัดการกับเนื้อหาทางการเมืองในบริการของพวกเขา และมีขึ้นในขณะที่ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของบริษัทส่งสัญญาณปรารถนาปรับความเข้าใจกับว่าที่รัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ . การเปลี่ยนแปลงจะครอบคลุมถึงเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และเธรดส์ ซึ่งเป็น 3 แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีผู้ใช้ทั่วโลกมากกว่า 3 ล้านคน . เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เมตา ดัน โจเอล คาแพลน ผู้บริหารระดับสูงฝ่ายนโยบายที่สนับสนุนรีพับลิกัน ขึ้นเป็นหัวหน้าฝ่ายกิจการระหว่างประเทศ และในวันจันทร์ (6 ม.ค.) แถลงว่า ได้แต่งตั้ง ดานา ไวท์ ซีอีโอของอัลติเมทไฟต์ติงแชมเปียนชิพ และเพื่อนใกล้ชิดของทรัมป์ เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท . ซัคเคอร์เบิร์กกล่าวในวิดีโอว่า "เราไปถึงจุดๆ หนึ่ง ที่มันมีความผิดพลาดมากมายมากเกินไป และเป็นการคัดครองมากเกินไป มันถึงเวลาแล้วที่จะกลับสู่รากเหง้าของเราเกี่ยวกับเสรีภาพในการแสดงออก" ทั้งนี้มีรายงานว่า ซัคเคอร์เบิร์ก มีแผนนำระบบ "Community Notes"มาใช้ แบบเดียวกับที่ใช้บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ของอีลอน มัสก์ . นอกจากนี้แล้ว เมตาจะโฟกัสไปที่ระบบอัตโนมัติในการลบ "เนื้อหาที่อ่อนไหวสูงและผิดกฎหมาย" อย่างเช่นก่อการร้ายและยาเสพติด ซัคเตอร์เบิร์กล่าว พร้อมระบุว่าจะหยุดสแกนเชิงรุกหาวาทกรรมแห่งความเกลียดชังและการละเมิดกฎรูปแบบอื่นๆ และจะทบทวนตรวจสอบโพสต์เหล่านั้น ตอบสนองต่อรายงานของผู้ใช้เท่านั้น . การถึงจุดจบของการตรวจสอบข้อเท็จจริง (Fact-Checking) ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี 2016 สร้างความแปลกใจแก่องค์กรพันธมิตรทั้งหลาย "เราไม่รู้ว่าความเคลื่อนไหวนี้กำลังเกิดขึ้น และมันเป็นเรื่องช็อกสำหรับเรา ชัดเจนว่ามันจะส่งผลกระทบกับเรา" เจนซี สติลเลอร์ บรรณาธิการบริหารของ Check Your Fact ระบุ . คริสติน โรเบิร์ตส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเนื้อหาของ Gannett Media ระบุว่า "ความจริงและข้อเท็จจริงรับใช้ทุกๆ คน ไม่ใช่แค่ฝ่ายขวาหรือฝ่ายซ้าย และนั่นคือสิ่งที่เราจะต้องเดินหน้าต่อไป เราทราบข่าวนี้พร้อมๆ กับทุกคนในวันนี้ มันส่งผลกระทบอย่างหนักต่อประชาคมตรวจสอบข้อเท็จจริงและสื่อมวลชน เรากำลังประเมินสถานการณ์" . เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซัคเคอร์เบิร์ก แสดงความเสียใจต่อการกลั่นกรองเนื้อหาบางอย่างในหัวข้อต่างๆ ในนั้นรวมถึงโควิด-19 นอกจากนี้แล้ว เมตายังบริจาคเงิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เข้ากองทุนสาบานตนของทรัมป์ ความเคลื่อนไหวที่ต่างจากแนวทางปฏิบัติในอดีตของบริษัท . "นี่คือการก้าวถอยหลังครั้งใหญ่ สำหรับการกลั่นกรองเนื้อหาในช่วงเวลาหนึ่งๆ ที่เนื้อหาบิดเบือนข้อมูลและเป็นอันตรายที่เติบโตเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา" จากความเห็นของ รอส เบอร์ลีย์ ผู้ก่อตั้งองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Centre for Information Resilience "ความเคลื่อนไหวนี้ ดูเหมือนเป็นการเอาอกเอาใจทางการเมือง มากกว่าที่จะเป็นนโยบายที่ฉลาด" . สำหรับเวลานี้ เมตามีแผนเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้เฉพาะตลาดสหรัฐฯ โดยยังไม่มีแผนยุติโปรแกรม fact-checking ในดินแดนอื่นๆ อย่างเช่นสหภาพยุโรป ที่จะใช้แนวทางกระตือรือร้นมากกว่าในการกำหนดกฎระเบียบกับบรรดาบริษัทเทคโนโลยีทั้งหลาย โฆษกบอกกับรอยเตอร์ . ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อถูกถามเกี่ยวกับแผนยุติโปรแกรม fact-checking ของเมตา แพลตฟอร์มส์ โดยระบุว่า "พวกเขาก้าวหน้าไปมาก เมตา ชายผู้ชื่อ ซัคเคอร์เบิร์ก น่าประทับใจอย่างมก" ทรัมป์ระบุบางที ซัคเคอร์เบิร์ก อาจตอบสนองต่อเหตุคำขู่ต่างๆ ที่มีต่อตัวเขา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000001966 .............. Sondhi X
Like
5
1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 437 มุมมอง 0 รีวิว