หมดบารมี ประชาธิปปัตย์ นับถอยหลังปิดตำนาน
นับถอยหลัง เหลืออีกไม่กี่เดือน จะถึงวันหยอดบัตรเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศในวันเสาร์ที่1 กุมภาพันธ์จํานวน 47 จังหวัด ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้จะรวมทั้งการเลือกนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดและสมาชิกสภาจังหวัดด้วย
ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นของประเทศไทยนั้นมีบรรยากาศความเข้มข้นแตกต่างจากการเลือกตั้งระดับประเทศอย่างสิ้นเชิง การเลือกตั้งส.ส.ระดับประเทศแม้จะเป็นการช่วงชิงอํานาจในการบริหารประเทศ แต่มุมหนึ่งก็ไม่ได้มีการวางเดิมพันที่สูงเหมือนกับการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น
โดยการเลือกตั้งท้องถิ่นมีความเข้มข้น เพราะนั่นหมายถึงการควบคุมทรัพยากรของรัฐที่เป็นเอกเทศจากฝ่ายบริหารส่วนกลาง จึงไม่แปลกที่จะมีเหตุการณ์ไข้โป้งและเหตุการณ์ความรุนแรงให้เห็นเป็นระยะหนึ่งในสนามที่มีการแข่งขันที่ดุเดือดอย่างคาดไม่ถึงคือจังหวัดตรัง ซึ่งเวลานี้ ภูมิรัฐศาสตร์ทางการเมืองของจังหวัดตรัง มีโฉมหน้าแตกต่างจากอดีตอย่างสิ้นเชิง โดยในอดีตเป็นฐานที่มั่นสําคัญของพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากหลายทศวรรษพรรคประชาธิปัตย์สามารถครองเก้าอี้ส.ส.ของจังหวัดนี้ได้มาตลอด แต่ปัจจุบันทุกอย่างเปลี่ยนแปลงจนถึงฐานราก
วันนี้จังหวัดตรังไม่ได้ถูกปกคลุมด้วยอิทธิพลของพรรคประชาธิปัตย์แบบเด็ดขาดเหมือนในอดีต ภายหลังพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติสามารถเข้ามาคล้องเก้าอี้ส.ส.ระบบแบ่งเขตเลือกตั้งจังหวัดตรังไปได้บางส่วน
หรือแม้แต่คะแนนส สบัญชีรายชื่อเฉพาะตรังก็พบว่าประชาธิปัตย์อยู่อันดับที่3ตามหลังพรรคอันดับหนึ่งอย่างพรรคก้าวไกล
ที่ปัจจุบันเป็นพรรคประชาชนเกือบ100 000 คะแนนประกอบกับสถานการณ์ภายในพรรคประชาธิปัตย์ก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือภายหลังเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย
ซึ่งเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าชวนหลีกภัยไม่ได้มีความหมายต่อพรรคประชาธิปัตย์แบบอดีตอีกแล้วเมื่อพรรคประชาธิปัตย์เปลี่ยนแปลง จึงทําให้สมรภูมิเลือกตั้งท้องถิ่นตรังเปลี่ยนไปด้วยระดับประเทศครั้งต่อไป
ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
หมดบารมี ประชาธิปปัตย์ นับถอยหลังปิดตำนาน นับถอยหลัง เหลืออีกไม่กี่เดือน จะถึงวันหยอดบัตรเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศในวันเสาร์ที่1 กุมภาพันธ์จํานวน 47 จังหวัด ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้จะรวมทั้งการเลือกนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดและสมาชิกสภาจังหวัดด้วย ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นของประเทศไทยนั้นมีบรรยากาศความเข้มข้นแตกต่างจากการเลือกตั้งระดับประเทศอย่างสิ้นเชิง การเลือกตั้งส.ส.ระดับประเทศแม้จะเป็นการช่วงชิงอํานาจในการบริหารประเทศ แต่มุมหนึ่งก็ไม่ได้มีการวางเดิมพันที่สูงเหมือนกับการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น โดยการเลือกตั้งท้องถิ่นมีความเข้มข้น เพราะนั่นหมายถึงการควบคุมทรัพยากรของรัฐที่เป็นเอกเทศจากฝ่ายบริหารส่วนกลาง จึงไม่แปลกที่จะมีเหตุการณ์ไข้โป้งและเหตุการณ์ความรุนแรงให้เห็นเป็นระยะหนึ่งในสนามที่มีการแข่งขันที่ดุเดือดอย่างคาดไม่ถึงคือจังหวัดตรัง ซึ่งเวลานี้ ภูมิรัฐศาสตร์ทางการเมืองของจังหวัดตรัง มีโฉมหน้าแตกต่างจากอดีตอย่างสิ้นเชิง โดยในอดีตเป็นฐานที่มั่นสําคัญของพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากหลายทศวรรษพรรคประชาธิปัตย์สามารถครองเก้าอี้ส.ส.ของจังหวัดนี้ได้มาตลอด แต่ปัจจุบันทุกอย่างเปลี่ยนแปลงจนถึงฐานราก วันนี้จังหวัดตรังไม่ได้ถูกปกคลุมด้วยอิทธิพลของพรรคประชาธิปัตย์แบบเด็ดขาดเหมือนในอดีต ภายหลังพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติสามารถเข้ามาคล้องเก้าอี้ส.ส.ระบบแบ่งเขตเลือกตั้งจังหวัดตรังไปได้บางส่วน หรือแม้แต่คะแนนส สบัญชีรายชื่อเฉพาะตรังก็พบว่าประชาธิปัตย์อยู่อันดับที่3ตามหลังพรรคอันดับหนึ่งอย่างพรรคก้าวไกล ที่ปัจจุบันเป็นพรรคประชาชนเกือบ100 000 คะแนนประกอบกับสถานการณ์ภายในพรรคประชาธิปัตย์ก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือภายหลังเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าชวนหลีกภัยไม่ได้มีความหมายต่อพรรคประชาธิปัตย์แบบอดีตอีกแล้วเมื่อพรรคประชาธิปัตย์เปลี่ยนแปลง จึงทําให้สมรภูมิเลือกตั้งท้องถิ่นตรังเปลี่ยนไปด้วยระดับประเทศครั้งต่อไป ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
Haha
1
0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 299 มุมมอง 0 รีวิว