ไบเดนจองเวรไม่เลิก ประกาศเปิดการสอบสวนเซมิคอนดักเตอร์ “รุ่นเก่า” ของจีนในนาทีท้ายๆ ก่อนพ้นตำแหน่ง มุ่งปูทางคณะบริหารชุดใหม่ของทรัมป์รีดภาษี 60% ตามที่ขู่ไว้ ด้านปักกิ่งโต้วอชิงตันกีดกันการค้า ขณะที่องค์กรตัวแทนภาคเทคโนโลยีของอเมริกาเตือนว่า การสอบสวนล่าสุดนี้อาจทำให้เกิดผลกระทบสลับซับซ้อนและกว้างไกลต่อเศรษฐกิจและห่วงโซ่อุปทานโลก พร้อมเรียกร้องอเมริกา “อย่าด่วนตัดสินล่วงหน้า”
.
แคทเธอลีน ไท่ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) แถลงเมื่อวันจันทร์ (23 ธ.ค.) ว่า การสอบสวนล่าสุดนี้มีเป้าหมายในการปกป้องคุ้มครองผู้ผลิตชิปของอเมริกาและชาติอื่นๆ จากซัปพลายชิปจำนวนมากมายมหาศาลซึ่งผลิตในจีนภายใต้การผลักดันของปักกิ่ง
.
การสอบสวนที่อิงกับอำนาจตาม “มาตรา 301” ของกฎหมายการค้าสหรัฐฯ ซึ่งเป็นมาตราเดียวกับที่โดนัลด์ ทรัมป์ ใช้ในการขึ้นภาษีศุลกากรเอากับสินค้าจีนตอนที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรกนั้น เกิดขึ้น 4 สัปดาห์ก่อนที่คณะบริหาร โจ ไบเดน จะหมดอำนาจ และทรัมป์จะได้หวนกลับเข้าสู่ทำเนียบขาว ในวันที่ 20 ม.ค.2025 โดยพวกเจ้าหน้าที่ของไบเดนเผยว่า จะส่งต่อการสอบสวนนี้ให้คณะบริหารชุดใหม่ดำเนินการต่อไป เป็นการปูทางให้ทรัมป์สามารถเริ่มเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มในอัตรา 60% จากชิปนำเข้าจากจีนตามที่เขาข่มขู่ไว้ก่อนหน้านี้
.
ก่อนหน้านี้ คณะบริหารของไบเดนเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มจากชิปจีนที่นำเข้าสหรัฐฯในอัตรา 50% มาตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ปีนี้ รวมทั้งยังยกระดับมาตรการจำกัดการส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์และชิปหน่วยความจำขั้นสูง ตลอดจนถึงเครื่องจักรอุปกรณ์ผลิตชิปไปยังแดนมังกรอีกด้วย
.
ทั้งนี้ ชิปรุ่นเก่า (Legacy chip) ใช้กระบวนการผลิตที่เริ่มต้นเมื่อกว่าทศวรรษที่แล้ว และมักซับซ้อนน้อยกว่าชิปเอไอหรือชิปขั้นสูง กระนั้นก็เป็นชิปที่ยังคงมีใช้งานกันอยู่อย่างกว้างขวางทั่วไป
.
จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ แถลงสำทับเมื่อวันจันทร์ว่า งานวิจัยของกระทรวงพบว่า ผลิตภัณฑ์ของอเมริกา 2 ใน 3 ทีเดียวยังคงใช้ชิปรุ่นเก่าของจีน และบริษัทอเมริกันราว 50% ไม่รู้ที่มาของชิปที่ใช้ ในจำนวนนี้รวมถึงบริษัทในอุตสาหกรรมการทหาร เธอบอกว่าว่า ข้อมูลนี้น่ากังวลอย่างยิ่ง
.
ทางด้าน ไท่ เสริมว่า สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ของเธอ พบหลักฐานว่า จีนกำลังพุ่งเป้ามาที่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ด้วยความมุ่งหมายที่จะครอบงำโลก โดยหวังจะเปิดทางให้บริษัทจีนเพิ่มศักยภาพทางด้านนี้ได้อย่างรวดเร็ว และเสนอชิปราคาถูกเกินจริงที่อาจเป็นอันตรายหรือกำจัดการแข่งขันที่อิงกับตลาด เช่นเดียวกับที่เคยทำในอุตสาหกรรมเหล็กกล้า แผงพลังงานแสงอาทิตย์ และรถอีวีมาแล้ว
.
ในส่วนปฏิกิริยาของทางฝ่ายจีน กระทรวงพาณิชย์แดนมังกรออกคำแถลงตอบโต้ว่า การสอบสวนเช่นนี้ของอเมริกาคือพฤติการณ์การกีดกันการค้า ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง กระทั่งไปถึงพวกบริษัทอเมริกันเอง รวมถึงทำให้ห่วงโซ่อุปทานชิปโลกสะดุดติดขัด ทั้งนี้ ปักกิ่งจะตอบโต้ดำเนินมาตรการที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของประเทศ
.
ขณะที่ เจสัน ออกซ์แมน ประธานสภาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่เป็นตัวแทนภาคเทคโนโลยีของอเมริกา ออกมาเตือนว่า การสอบสวนของวอชิงตันอาจทำให้เกิดผลกระทบที่ซับซ้อนและกว้างไกลต่อเศรษฐกิจโลกและห่วงโซ่อุปทานโลก พร้อมเรียกร้องให้ยูเอสทีอาร์ “อย่าด่วนมีคำตัดสินล่วงหน้า” แต่ควรดำเนินการสอบสวนอย่างเป็นธรรม
.
ปัจจุบัน พวกเครื่องโทรศัพท์สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์แล็ปท็อป เครื่องเล่นวิดีโอเกม และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภคอื่นๆ ที่ไม่ใช่รุ่นล้ำยุค ยังคงใช้เซมิคอนดักเตอร์รุ่นเก่ากันอยู่มาก โดยที่สินค้าเหล่านี้ซึ่งจำหน่ายกันในอเมริกาส่วนใหญ่ก็ยังคงนำเข้าจากจีน
.
เจ้าหน้าที่คณะบริหารของไบเดนคนหนึ่งเปิดเผยว่า การสอบสวนล่าสุดนี้ ในเบื้องต้นจะโฟกัสที่การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ซึ่งรวมถึงขอบเขตการนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น อุปกรณ์การแพทย์ รถ และผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมการทหาร
.
ทั้งนี้ ตามหมายเกี่ยวกับการสอบสวนคราวนี้ ของสำนักงานทะเบียนสหรัฐฯ ระบุว่า คณะบริหารไบเดนจะเริ่มต้นเปิดรับความเห็นต่างๆ ของสาธารณชนเกี่ยวกับการสอบสวนนี้ในวันที่ 6 มกราคม และวางแผนจัดการไต่สวนสาธารณะขึ้นในวันที่ 11-12 มีนาคม โดยที่การสอบสวนมีกำหนดเสร็จสิ้นภายในเวลา 1 ปี
.
อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000123559
..............
Sondhi X
.
แคทเธอลีน ไท่ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) แถลงเมื่อวันจันทร์ (23 ธ.ค.) ว่า การสอบสวนล่าสุดนี้มีเป้าหมายในการปกป้องคุ้มครองผู้ผลิตชิปของอเมริกาและชาติอื่นๆ จากซัปพลายชิปจำนวนมากมายมหาศาลซึ่งผลิตในจีนภายใต้การผลักดันของปักกิ่ง
.
การสอบสวนที่อิงกับอำนาจตาม “มาตรา 301” ของกฎหมายการค้าสหรัฐฯ ซึ่งเป็นมาตราเดียวกับที่โดนัลด์ ทรัมป์ ใช้ในการขึ้นภาษีศุลกากรเอากับสินค้าจีนตอนที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรกนั้น เกิดขึ้น 4 สัปดาห์ก่อนที่คณะบริหาร โจ ไบเดน จะหมดอำนาจ และทรัมป์จะได้หวนกลับเข้าสู่ทำเนียบขาว ในวันที่ 20 ม.ค.2025 โดยพวกเจ้าหน้าที่ของไบเดนเผยว่า จะส่งต่อการสอบสวนนี้ให้คณะบริหารชุดใหม่ดำเนินการต่อไป เป็นการปูทางให้ทรัมป์สามารถเริ่มเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มในอัตรา 60% จากชิปนำเข้าจากจีนตามที่เขาข่มขู่ไว้ก่อนหน้านี้
.
ก่อนหน้านี้ คณะบริหารของไบเดนเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มจากชิปจีนที่นำเข้าสหรัฐฯในอัตรา 50% มาตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ปีนี้ รวมทั้งยังยกระดับมาตรการจำกัดการส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์และชิปหน่วยความจำขั้นสูง ตลอดจนถึงเครื่องจักรอุปกรณ์ผลิตชิปไปยังแดนมังกรอีกด้วย
.
ทั้งนี้ ชิปรุ่นเก่า (Legacy chip) ใช้กระบวนการผลิตที่เริ่มต้นเมื่อกว่าทศวรรษที่แล้ว และมักซับซ้อนน้อยกว่าชิปเอไอหรือชิปขั้นสูง กระนั้นก็เป็นชิปที่ยังคงมีใช้งานกันอยู่อย่างกว้างขวางทั่วไป
.
จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ แถลงสำทับเมื่อวันจันทร์ว่า งานวิจัยของกระทรวงพบว่า ผลิตภัณฑ์ของอเมริกา 2 ใน 3 ทีเดียวยังคงใช้ชิปรุ่นเก่าของจีน และบริษัทอเมริกันราว 50% ไม่รู้ที่มาของชิปที่ใช้ ในจำนวนนี้รวมถึงบริษัทในอุตสาหกรรมการทหาร เธอบอกว่าว่า ข้อมูลนี้น่ากังวลอย่างยิ่ง
.
ทางด้าน ไท่ เสริมว่า สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ของเธอ พบหลักฐานว่า จีนกำลังพุ่งเป้ามาที่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ด้วยความมุ่งหมายที่จะครอบงำโลก โดยหวังจะเปิดทางให้บริษัทจีนเพิ่มศักยภาพทางด้านนี้ได้อย่างรวดเร็ว และเสนอชิปราคาถูกเกินจริงที่อาจเป็นอันตรายหรือกำจัดการแข่งขันที่อิงกับตลาด เช่นเดียวกับที่เคยทำในอุตสาหกรรมเหล็กกล้า แผงพลังงานแสงอาทิตย์ และรถอีวีมาแล้ว
.
ในส่วนปฏิกิริยาของทางฝ่ายจีน กระทรวงพาณิชย์แดนมังกรออกคำแถลงตอบโต้ว่า การสอบสวนเช่นนี้ของอเมริกาคือพฤติการณ์การกีดกันการค้า ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง กระทั่งไปถึงพวกบริษัทอเมริกันเอง รวมถึงทำให้ห่วงโซ่อุปทานชิปโลกสะดุดติดขัด ทั้งนี้ ปักกิ่งจะตอบโต้ดำเนินมาตรการที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของประเทศ
.
ขณะที่ เจสัน ออกซ์แมน ประธานสภาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่เป็นตัวแทนภาคเทคโนโลยีของอเมริกา ออกมาเตือนว่า การสอบสวนของวอชิงตันอาจทำให้เกิดผลกระทบที่ซับซ้อนและกว้างไกลต่อเศรษฐกิจโลกและห่วงโซ่อุปทานโลก พร้อมเรียกร้องให้ยูเอสทีอาร์ “อย่าด่วนมีคำตัดสินล่วงหน้า” แต่ควรดำเนินการสอบสวนอย่างเป็นธรรม
.
ปัจจุบัน พวกเครื่องโทรศัพท์สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์แล็ปท็อป เครื่องเล่นวิดีโอเกม และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภคอื่นๆ ที่ไม่ใช่รุ่นล้ำยุค ยังคงใช้เซมิคอนดักเตอร์รุ่นเก่ากันอยู่มาก โดยที่สินค้าเหล่านี้ซึ่งจำหน่ายกันในอเมริกาส่วนใหญ่ก็ยังคงนำเข้าจากจีน
.
เจ้าหน้าที่คณะบริหารของไบเดนคนหนึ่งเปิดเผยว่า การสอบสวนล่าสุดนี้ ในเบื้องต้นจะโฟกัสที่การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ซึ่งรวมถึงขอบเขตการนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น อุปกรณ์การแพทย์ รถ และผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมการทหาร
.
ทั้งนี้ ตามหมายเกี่ยวกับการสอบสวนคราวนี้ ของสำนักงานทะเบียนสหรัฐฯ ระบุว่า คณะบริหารไบเดนจะเริ่มต้นเปิดรับความเห็นต่างๆ ของสาธารณชนเกี่ยวกับการสอบสวนนี้ในวันที่ 6 มกราคม และวางแผนจัดการไต่สวนสาธารณะขึ้นในวันที่ 11-12 มีนาคม โดยที่การสอบสวนมีกำหนดเสร็จสิ้นภายในเวลา 1 ปี
.
อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000123559
..............
Sondhi X
ไบเดนจองเวรไม่เลิก ประกาศเปิดการสอบสวนเซมิคอนดักเตอร์ “รุ่นเก่า” ของจีนในนาทีท้ายๆ ก่อนพ้นตำแหน่ง มุ่งปูทางคณะบริหารชุดใหม่ของทรัมป์รีดภาษี 60% ตามที่ขู่ไว้ ด้านปักกิ่งโต้วอชิงตันกีดกันการค้า ขณะที่องค์กรตัวแทนภาคเทคโนโลยีของอเมริกาเตือนว่า การสอบสวนล่าสุดนี้อาจทำให้เกิดผลกระทบสลับซับซ้อนและกว้างไกลต่อเศรษฐกิจและห่วงโซ่อุปทานโลก พร้อมเรียกร้องอเมริกา “อย่าด่วนตัดสินล่วงหน้า”
.
แคทเธอลีน ไท่ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) แถลงเมื่อวันจันทร์ (23 ธ.ค.) ว่า การสอบสวนล่าสุดนี้มีเป้าหมายในการปกป้องคุ้มครองผู้ผลิตชิปของอเมริกาและชาติอื่นๆ จากซัปพลายชิปจำนวนมากมายมหาศาลซึ่งผลิตในจีนภายใต้การผลักดันของปักกิ่ง
.
การสอบสวนที่อิงกับอำนาจตาม “มาตรา 301” ของกฎหมายการค้าสหรัฐฯ ซึ่งเป็นมาตราเดียวกับที่โดนัลด์ ทรัมป์ ใช้ในการขึ้นภาษีศุลกากรเอากับสินค้าจีนตอนที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรกนั้น เกิดขึ้น 4 สัปดาห์ก่อนที่คณะบริหาร โจ ไบเดน จะหมดอำนาจ และทรัมป์จะได้หวนกลับเข้าสู่ทำเนียบขาว ในวันที่ 20 ม.ค.2025 โดยพวกเจ้าหน้าที่ของไบเดนเผยว่า จะส่งต่อการสอบสวนนี้ให้คณะบริหารชุดใหม่ดำเนินการต่อไป เป็นการปูทางให้ทรัมป์สามารถเริ่มเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มในอัตรา 60% จากชิปนำเข้าจากจีนตามที่เขาข่มขู่ไว้ก่อนหน้านี้
.
ก่อนหน้านี้ คณะบริหารของไบเดนเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มจากชิปจีนที่นำเข้าสหรัฐฯในอัตรา 50% มาตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ปีนี้ รวมทั้งยังยกระดับมาตรการจำกัดการส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์และชิปหน่วยความจำขั้นสูง ตลอดจนถึงเครื่องจักรอุปกรณ์ผลิตชิปไปยังแดนมังกรอีกด้วย
.
ทั้งนี้ ชิปรุ่นเก่า (Legacy chip) ใช้กระบวนการผลิตที่เริ่มต้นเมื่อกว่าทศวรรษที่แล้ว และมักซับซ้อนน้อยกว่าชิปเอไอหรือชิปขั้นสูง กระนั้นก็เป็นชิปที่ยังคงมีใช้งานกันอยู่อย่างกว้างขวางทั่วไป
.
จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ แถลงสำทับเมื่อวันจันทร์ว่า งานวิจัยของกระทรวงพบว่า ผลิตภัณฑ์ของอเมริกา 2 ใน 3 ทีเดียวยังคงใช้ชิปรุ่นเก่าของจีน และบริษัทอเมริกันราว 50% ไม่รู้ที่มาของชิปที่ใช้ ในจำนวนนี้รวมถึงบริษัทในอุตสาหกรรมการทหาร เธอบอกว่าว่า ข้อมูลนี้น่ากังวลอย่างยิ่ง
.
ทางด้าน ไท่ เสริมว่า สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ของเธอ พบหลักฐานว่า จีนกำลังพุ่งเป้ามาที่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ด้วยความมุ่งหมายที่จะครอบงำโลก โดยหวังจะเปิดทางให้บริษัทจีนเพิ่มศักยภาพทางด้านนี้ได้อย่างรวดเร็ว และเสนอชิปราคาถูกเกินจริงที่อาจเป็นอันตรายหรือกำจัดการแข่งขันที่อิงกับตลาด เช่นเดียวกับที่เคยทำในอุตสาหกรรมเหล็กกล้า แผงพลังงานแสงอาทิตย์ และรถอีวีมาแล้ว
.
ในส่วนปฏิกิริยาของทางฝ่ายจีน กระทรวงพาณิชย์แดนมังกรออกคำแถลงตอบโต้ว่า การสอบสวนเช่นนี้ของอเมริกาคือพฤติการณ์การกีดกันการค้า ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง กระทั่งไปถึงพวกบริษัทอเมริกันเอง รวมถึงทำให้ห่วงโซ่อุปทานชิปโลกสะดุดติดขัด ทั้งนี้ ปักกิ่งจะตอบโต้ดำเนินมาตรการที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของประเทศ
.
ขณะที่ เจสัน ออกซ์แมน ประธานสภาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่เป็นตัวแทนภาคเทคโนโลยีของอเมริกา ออกมาเตือนว่า การสอบสวนของวอชิงตันอาจทำให้เกิดผลกระทบที่ซับซ้อนและกว้างไกลต่อเศรษฐกิจโลกและห่วงโซ่อุปทานโลก พร้อมเรียกร้องให้ยูเอสทีอาร์ “อย่าด่วนมีคำตัดสินล่วงหน้า” แต่ควรดำเนินการสอบสวนอย่างเป็นธรรม
.
ปัจจุบัน พวกเครื่องโทรศัพท์สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์แล็ปท็อป เครื่องเล่นวิดีโอเกม และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภคอื่นๆ ที่ไม่ใช่รุ่นล้ำยุค ยังคงใช้เซมิคอนดักเตอร์รุ่นเก่ากันอยู่มาก โดยที่สินค้าเหล่านี้ซึ่งจำหน่ายกันในอเมริกาส่วนใหญ่ก็ยังคงนำเข้าจากจีน
.
เจ้าหน้าที่คณะบริหารของไบเดนคนหนึ่งเปิดเผยว่า การสอบสวนล่าสุดนี้ ในเบื้องต้นจะโฟกัสที่การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ซึ่งรวมถึงขอบเขตการนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น อุปกรณ์การแพทย์ รถ และผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมการทหาร
.
ทั้งนี้ ตามหมายเกี่ยวกับการสอบสวนคราวนี้ ของสำนักงานทะเบียนสหรัฐฯ ระบุว่า คณะบริหารไบเดนจะเริ่มต้นเปิดรับความเห็นต่างๆ ของสาธารณชนเกี่ยวกับการสอบสวนนี้ในวันที่ 6 มกราคม และวางแผนจัดการไต่สวนสาธารณะขึ้นในวันที่ 11-12 มีนาคม โดยที่การสอบสวนมีกำหนดเสร็จสิ้นภายในเวลา 1 ปี
.
อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000123559
..............
Sondhi X