สำนักข่าวอาร์ทีนิวส์ สื่อมวลชนรัสเซีย รายงาน สหรัฐฯ กางปีกปกป้องปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลที่รุกรานเข้าสู่ซีเรีย โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศอเมริกา ถึงขั้นเน้นย้ำว่ามันเป็นปฏิบัติการปกป้องตนเอง และอ้างด้วยว่าการรุกคืบเข้าสู่ที่ราบสูงโกลันนั้น ก็เพื่อสกัดการจู่โจมของพวกนักรบที่มีแหล่งกบดานในซีเรีย
.
อาร์ทีนิวส์รายงานว่าระหว่างแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ (9 ธ.ค.) แมตธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ อ้างว่าที่กองกำลังป้องกันตนเองของอิสราเอล (ไอดีเอฟ) รุกคืบเข้าสู่ที่ราบสูงโกลัน ในทางฝั่งของซีเรียนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้พวกนักรบที่มีแหล่งกบดานในซีเรียเข้าควบคุมดินแดนต่างๆ ตามแนวชายแดนและเปิดฉากจู่โจมเข้าใส่อิสราเอลในอนาคต
.
คำแก้ต่างของมิลเลอร์ มีขึ้นหลังจากกองกำลังอิสราเอลอาศัยภาวะสุญญากาศทางอำนาจในซีเรีย เคลื่อนพลเข้าสู่เขตกันชนในดินแดนยึดครองที่ราบสูงโกลันเมื่อวันอาทิตย์ (8 ธ.ค.) หลังจากกองกำลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียบุกยึดกรุงดามัสกัสและบีบให้ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด หลบหนีออกนอกประเทศ
.
จากนั้นในวันจันทร์ (9 ธ.ค.) กองกำลังอิสราเอลเดินหน้ารุกรานเพิ่มเติมเลยเขตกันชน และเข้าสู่เขตแดนของซีเรีย ในขณะที่ อิสราเอล คาทซ์ รัฐมนตรีกลาโหมของอิสราเอล อ้างว่าพวกเขามีเจตนาเพียงสร้าง "พื้นที่ความมั่นคงใหม่" ที่จะปราศจาก "อาวุธทางยุทธศาสตร์หนักและโครงสร้างพื้นฐานของพวกก่อการร้าย"
.
มิลเลอร์ อ้างว่าด้วยที่กองทัพซีเรียละทิ้งฐานที่มั่นในพื้นที่รอบๆ เขตกันชน "จึงมีความเป็นไปได้ว่ามันจะก่อสุญญากาศ ที่อาจเปิดทางให้พวกองค์กรก่อการร้ายต่างๆ ฉวยโอกาสเข้ามาเติมเต็ม"
.
"มันจะเป็นภัยคุกคามต่อรัฐอิสราเอลและจะคุกคามพลเรือนภายในอิสราเอล ทุกประเทศมีสิทธิดำเนินการกับองค์กรก่อการร้ายทั้งหลาย" มิลเลอร์เน้นย้ำ พร้อมระบุว่า "ที่สุดแล้ว มันเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมีความมั่นคงตามแนวชายแดน และกองทัพอิสราเอลสามารถรับประกันได้แล้วในตอนนี้"
.
อย่างไรก็ตาม มิลเลอร์ เน้นว่าวอชิงตันคาดหมายว่าการรุกรานของอิสราเอลจะเป็นเพียงชั่วคราว "นี่เป็นปฏิบัติการเพียงชั่วคราวที่ดำเนินการตอบสนองความเคลื่อนไหวของกองทัพซีเรียที่ถอนกำลังออกไปจากพื้นที่"
.
"เราต้องการเห็นข้อตกลงถอนทัพปี 1974 ได้รับการยึดถือ และในนั้นรวมถึงเงื่อนไขของเขตกันชน ซึ่งรวมถึงการที่อิสราเอลถอนกำลังกลับไปยังฐานที่มั่นก่อนหน้านี้" เขากล่าวอ้างถึงข้อตกลงระหว่างอิสราเอลกับซีเรียปี 1974 ที่จัดตั้งเขตปลอดทหารในที่ราบสูงโกลัน
.
อาร์ทีนิวส์ ระบุว่าคำพูดของ มิลเลอร์ ดูเหมือนจะสวนทางกับคำกล่าวก่อนหน้านี้ของ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล โดยแม้อิสราเอลจะบอกกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ว่าการรุกรานเข้าสู่ซีเรีย เป็น "มาตรการที่จำกัดและเพียงชั่วคราว" แต่ระหว่างการแถลงข่าวในค่ำคืนวันจันทร์ (9 ธ.ค.) เนทันยาฮู ประกาศกร้าวว่า "ที่ราบสูงโกลันจะเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่อาจแบ่งแยกได้ของรัฐอิสราเอลไปตลอดกาล"
.
ก่อนหน้านี้ เขาอ้างว่าข้อตกลงจัดตั้งเขตปลอดทหารระหว่างอิสราเอลกับซีเรียนั้น เท่ากับ "พังครืนลงแล้ว" เนื่องจากทหารซีเรียละทิ้งฐานที่มั่นของตนเองในเขตกันชน
.
สหประชาชาติวิพากษ์วิจารณ์อิสราเอลต่อการรุกรานครั้งนี้ บอกว่ามันละเมิดข้อตกลงถอนกำลัง และเน้นย้ำว่า "ไม่ควรมีกำลังทหารและความเคลื่อนไหวใดในพื้นที่ดินแดนแยกแห่งนี้" นอกจากนี้ บรรดาชาติตะวันออกกลางหลายประเทศ ก็ประณามการรุกคืบเข้าสู่ที่ราบสูงโกลันของอิสราเอลเช่นกัน กล่าวหาอิสราเอลจัดฉากยึดดินแดนอย่างผิดกฎหมาย
.
อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000118737
..............
Sondhi X
สำนักข่าวอาร์ทีนิวส์ สื่อมวลชนรัสเซีย รายงาน สหรัฐฯ กางปีกปกป้องปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลที่รุกรานเข้าสู่ซีเรีย โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศอเมริกา ถึงขั้นเน้นย้ำว่ามันเป็นปฏิบัติการปกป้องตนเอง และอ้างด้วยว่าการรุกคืบเข้าสู่ที่ราบสูงโกลันนั้น ก็เพื่อสกัดการจู่โจมของพวกนักรบที่มีแหล่งกบดานในซีเรีย . อาร์ทีนิวส์รายงานว่าระหว่างแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ (9 ธ.ค.) แมตธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ อ้างว่าที่กองกำลังป้องกันตนเองของอิสราเอล (ไอดีเอฟ) รุกคืบเข้าสู่ที่ราบสูงโกลัน ในทางฝั่งของซีเรียนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้พวกนักรบที่มีแหล่งกบดานในซีเรียเข้าควบคุมดินแดนต่างๆ ตามแนวชายแดนและเปิดฉากจู่โจมเข้าใส่อิสราเอลในอนาคต . คำแก้ต่างของมิลเลอร์ มีขึ้นหลังจากกองกำลังอิสราเอลอาศัยภาวะสุญญากาศทางอำนาจในซีเรีย เคลื่อนพลเข้าสู่เขตกันชนในดินแดนยึดครองที่ราบสูงโกลันเมื่อวันอาทิตย์ (8 ธ.ค.) หลังจากกองกำลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียบุกยึดกรุงดามัสกัสและบีบให้ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด หลบหนีออกนอกประเทศ . จากนั้นในวันจันทร์ (9 ธ.ค.) กองกำลังอิสราเอลเดินหน้ารุกรานเพิ่มเติมเลยเขตกันชน และเข้าสู่เขตแดนของซีเรีย ในขณะที่ อิสราเอล คาทซ์ รัฐมนตรีกลาโหมของอิสราเอล อ้างว่าพวกเขามีเจตนาเพียงสร้าง "พื้นที่ความมั่นคงใหม่" ที่จะปราศจาก "อาวุธทางยุทธศาสตร์หนักและโครงสร้างพื้นฐานของพวกก่อการร้าย" . มิลเลอร์ อ้างว่าด้วยที่กองทัพซีเรียละทิ้งฐานที่มั่นในพื้นที่รอบๆ เขตกันชน "จึงมีความเป็นไปได้ว่ามันจะก่อสุญญากาศ ที่อาจเปิดทางให้พวกองค์กรก่อการร้ายต่างๆ ฉวยโอกาสเข้ามาเติมเต็ม" . "มันจะเป็นภัยคุกคามต่อรัฐอิสราเอลและจะคุกคามพลเรือนภายในอิสราเอล ทุกประเทศมีสิทธิดำเนินการกับองค์กรก่อการร้ายทั้งหลาย" มิลเลอร์เน้นย้ำ พร้อมระบุว่า "ที่สุดแล้ว มันเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมีความมั่นคงตามแนวชายแดน และกองทัพอิสราเอลสามารถรับประกันได้แล้วในตอนนี้" . อย่างไรก็ตาม มิลเลอร์ เน้นว่าวอชิงตันคาดหมายว่าการรุกรานของอิสราเอลจะเป็นเพียงชั่วคราว "นี่เป็นปฏิบัติการเพียงชั่วคราวที่ดำเนินการตอบสนองความเคลื่อนไหวของกองทัพซีเรียที่ถอนกำลังออกไปจากพื้นที่" . "เราต้องการเห็นข้อตกลงถอนทัพปี 1974 ได้รับการยึดถือ และในนั้นรวมถึงเงื่อนไขของเขตกันชน ซึ่งรวมถึงการที่อิสราเอลถอนกำลังกลับไปยังฐานที่มั่นก่อนหน้านี้" เขากล่าวอ้างถึงข้อตกลงระหว่างอิสราเอลกับซีเรียปี 1974 ที่จัดตั้งเขตปลอดทหารในที่ราบสูงโกลัน . อาร์ทีนิวส์ ระบุว่าคำพูดของ มิลเลอร์ ดูเหมือนจะสวนทางกับคำกล่าวก่อนหน้านี้ของ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล โดยแม้อิสราเอลจะบอกกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ว่าการรุกรานเข้าสู่ซีเรีย เป็น "มาตรการที่จำกัดและเพียงชั่วคราว" แต่ระหว่างการแถลงข่าวในค่ำคืนวันจันทร์ (9 ธ.ค.) เนทันยาฮู ประกาศกร้าวว่า "ที่ราบสูงโกลันจะเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่อาจแบ่งแยกได้ของรัฐอิสราเอลไปตลอดกาล" . ก่อนหน้านี้ เขาอ้างว่าข้อตกลงจัดตั้งเขตปลอดทหารระหว่างอิสราเอลกับซีเรียนั้น เท่ากับ "พังครืนลงแล้ว" เนื่องจากทหารซีเรียละทิ้งฐานที่มั่นของตนเองในเขตกันชน . สหประชาชาติวิพากษ์วิจารณ์อิสราเอลต่อการรุกรานครั้งนี้ บอกว่ามันละเมิดข้อตกลงถอนกำลัง และเน้นย้ำว่า "ไม่ควรมีกำลังทหารและความเคลื่อนไหวใดในพื้นที่ดินแดนแยกแห่งนี้" นอกจากนี้ บรรดาชาติตะวันออกกลางหลายประเทศ ก็ประณามการรุกคืบเข้าสู่ที่ราบสูงโกลันของอิสราเอลเช่นกัน กล่าวหาอิสราเอลจัดฉากยึดดินแดนอย่างผิดกฎหมาย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000118737 .............. Sondhi X
Like
Sad
4
0 Comments 0 Shares 551 Views 0 Reviews