อิหร่านอาจมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง ภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า จากเสียงเตือนจากหัวหน้าหน้วยข่าวกรองต่างประเทศของฝรั่งเศส
.
นิโคลัส เลอร์เนอร์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองต่างประเทศของฝรั่งเศส แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ในวันศุกร์(29พ.ย.) ระหว่างให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวในกรุงปารีส เคียงข้าง ริชาร์ด มัวร์ หัวหน้าหน่วยข่างกรองลับของสหราชอาณาจักร โดยเขาให้คำนิยามโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่ปารีสและลอนดอนกังวลมากที่สุด
.
"หน่วยงานของเรากำลังทำงานเคียงข้างกันและกัน ในการเผชิญกับหนึ่งในภัยคุกคามที่ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เป็นภัยคุกคามที่วิกฤตที่สุด ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ความเป็นไปได้ของการแผ่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ในอิหร่าน" เขากล่าว ตามรายงานของรอยเตอร์
.
มัวร์ สะท้อนความกังวลแบบเดียวกัน โดยชี้ว่า "ความทะเยอทะยานทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน คุกคามพวกเราทั้งมวล"
.
ปฏิบัติการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมของอิหร่าน ถูกตะวันตกมองมาช้านานว่าเป็นการอำพรางความพยายามพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ความกังวลนี้มีมากขึ้นหลังจากสหรัฐฯถอนตัวฝ่ายเดียวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านในปี 2018
.
ส่วนหนึ่งในข้อตกลงที่ลงนาม 3 ปีก่อนหน้านั้น ทางเตหะรานยินยอมระงับโครงการนิวเคลียร์ แลกกับการปลดเปลื้องมาตรการคว่ำบาตรบางส่วน อย่างไรก็ตาม โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ณ ขณะนั้น อ้างว่าข้อตกลงดังกล่าวล้มเลวในการสกัดโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน และทุกความพยายามทางการทูตในการรื้อฟื้นของตกลงนี้ในอีกหลายปีต่อไป ล้วนแต่ประสบความล้มเหลวในการผ่าทางตัน
.
อิหร่าน เน้นย้ำว่าโครงการนิวเคลียร์ของพวกเขามีจุดประสงค์เพื่อสันติ และไม่ได้เสาะหาการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ข้อตกลงพังครืนลง เตหะรานยกระดับเสริมสมรรถนะยูเรเนียมเป็น 60% และอ้างอิงข้อมูลจากทบวงปรมาณูสากล ภายใต้สังกัดของสหประชาชาติ ในการใช้สร้างระเบิดนิวเคลียร์ลูกหนึ่งๆ จำเป็นต้องเสริมสมรรถนะยูเรเนียมสู่ระดับมากกว่า 90%
.
หน่วยงานเฝ้าระวังทางนิวเคลียร์แห่งนี้ บอกเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าอิหร่านเริ่มเสริมสมรรถนะยูเรเนียมเพิ่มขึ้นไปอีก โดยใช้เครื่องปั่นเหวี่ยงแยกตะกอน (Centrifuge) ที่ทันสมัยหลายพันเครื่อง
.
เมื่อช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน คามาล คาร์ราซี ผู้ช่วยระดับสูงของ อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ยืนยันว่าเตหะราน "มีศักยภาพทางเทคนิคที่จำเป็นแล้ว สำหรับผลิตอาวุธนิวเคลียร์" เขากล่าว พร้อมเน้นว่าแม้อิหร่านไม่มีแผนทำเช่นนั้น "แต่ถ้าความอยู่รอดของอิหร่านถูกคุกคามร้ายแรง เราขอสงวนสิทธิ์ในการทบทวนใหม่"
.
สหรัฐฯเองก็ส่งเสียงแสดงความกังวลอย่างมากเช่นกัน เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดย แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของอเมริกา บ่งชี้ในเดือนกรกฏาคม ว่าบางที "อิหร่านอาจต้องการเวลาเพียงแค่ 1 หรือ 2 สัปดาห์ ในการผลิตวัสดุนิวเคลียร์เกรดอาวุธสำหรับระเบิดนิวเคลียร์"
.
พัฒนาการล่าสุดนี้ มีขึ้นในขณะที่ตะวันออกกลางยังคงอยู่ในสถานะตึงเครียดขั้นสูง โดยที่อิหร่านและอิสราเอลติดหล่มในการเผชิญหน้า เกี่ยวกับความขัดแย้งในกาซา
.
อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000115651
..............
Sondhi X
.
นิโคลัส เลอร์เนอร์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองต่างประเทศของฝรั่งเศส แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ในวันศุกร์(29พ.ย.) ระหว่างให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวในกรุงปารีส เคียงข้าง ริชาร์ด มัวร์ หัวหน้าหน่วยข่างกรองลับของสหราชอาณาจักร โดยเขาให้คำนิยามโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่ปารีสและลอนดอนกังวลมากที่สุด
.
"หน่วยงานของเรากำลังทำงานเคียงข้างกันและกัน ในการเผชิญกับหนึ่งในภัยคุกคามที่ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เป็นภัยคุกคามที่วิกฤตที่สุด ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ความเป็นไปได้ของการแผ่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ในอิหร่าน" เขากล่าว ตามรายงานของรอยเตอร์
.
มัวร์ สะท้อนความกังวลแบบเดียวกัน โดยชี้ว่า "ความทะเยอทะยานทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน คุกคามพวกเราทั้งมวล"
.
ปฏิบัติการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมของอิหร่าน ถูกตะวันตกมองมาช้านานว่าเป็นการอำพรางความพยายามพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ความกังวลนี้มีมากขึ้นหลังจากสหรัฐฯถอนตัวฝ่ายเดียวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านในปี 2018
.
ส่วนหนึ่งในข้อตกลงที่ลงนาม 3 ปีก่อนหน้านั้น ทางเตหะรานยินยอมระงับโครงการนิวเคลียร์ แลกกับการปลดเปลื้องมาตรการคว่ำบาตรบางส่วน อย่างไรก็ตาม โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ณ ขณะนั้น อ้างว่าข้อตกลงดังกล่าวล้มเลวในการสกัดโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน และทุกความพยายามทางการทูตในการรื้อฟื้นของตกลงนี้ในอีกหลายปีต่อไป ล้วนแต่ประสบความล้มเหลวในการผ่าทางตัน
.
อิหร่าน เน้นย้ำว่าโครงการนิวเคลียร์ของพวกเขามีจุดประสงค์เพื่อสันติ และไม่ได้เสาะหาการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ข้อตกลงพังครืนลง เตหะรานยกระดับเสริมสมรรถนะยูเรเนียมเป็น 60% และอ้างอิงข้อมูลจากทบวงปรมาณูสากล ภายใต้สังกัดของสหประชาชาติ ในการใช้สร้างระเบิดนิวเคลียร์ลูกหนึ่งๆ จำเป็นต้องเสริมสมรรถนะยูเรเนียมสู่ระดับมากกว่า 90%
.
หน่วยงานเฝ้าระวังทางนิวเคลียร์แห่งนี้ บอกเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าอิหร่านเริ่มเสริมสมรรถนะยูเรเนียมเพิ่มขึ้นไปอีก โดยใช้เครื่องปั่นเหวี่ยงแยกตะกอน (Centrifuge) ที่ทันสมัยหลายพันเครื่อง
.
เมื่อช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน คามาล คาร์ราซี ผู้ช่วยระดับสูงของ อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ยืนยันว่าเตหะราน "มีศักยภาพทางเทคนิคที่จำเป็นแล้ว สำหรับผลิตอาวุธนิวเคลียร์" เขากล่าว พร้อมเน้นว่าแม้อิหร่านไม่มีแผนทำเช่นนั้น "แต่ถ้าความอยู่รอดของอิหร่านถูกคุกคามร้ายแรง เราขอสงวนสิทธิ์ในการทบทวนใหม่"
.
สหรัฐฯเองก็ส่งเสียงแสดงความกังวลอย่างมากเช่นกัน เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดย แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของอเมริกา บ่งชี้ในเดือนกรกฏาคม ว่าบางที "อิหร่านอาจต้องการเวลาเพียงแค่ 1 หรือ 2 สัปดาห์ ในการผลิตวัสดุนิวเคลียร์เกรดอาวุธสำหรับระเบิดนิวเคลียร์"
.
พัฒนาการล่าสุดนี้ มีขึ้นในขณะที่ตะวันออกกลางยังคงอยู่ในสถานะตึงเครียดขั้นสูง โดยที่อิหร่านและอิสราเอลติดหล่มในการเผชิญหน้า เกี่ยวกับความขัดแย้งในกาซา
.
อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000115651
..............
Sondhi X
อิหร่านอาจมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง ภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า จากเสียงเตือนจากหัวหน้าหน้วยข่าวกรองต่างประเทศของฝรั่งเศส
.
นิโคลัส เลอร์เนอร์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองต่างประเทศของฝรั่งเศส แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ในวันศุกร์(29พ.ย.) ระหว่างให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวในกรุงปารีส เคียงข้าง ริชาร์ด มัวร์ หัวหน้าหน่วยข่างกรองลับของสหราชอาณาจักร โดยเขาให้คำนิยามโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่ปารีสและลอนดอนกังวลมากที่สุด
.
"หน่วยงานของเรากำลังทำงานเคียงข้างกันและกัน ในการเผชิญกับหนึ่งในภัยคุกคามที่ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เป็นภัยคุกคามที่วิกฤตที่สุด ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ความเป็นไปได้ของการแผ่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ในอิหร่าน" เขากล่าว ตามรายงานของรอยเตอร์
.
มัวร์ สะท้อนความกังวลแบบเดียวกัน โดยชี้ว่า "ความทะเยอทะยานทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน คุกคามพวกเราทั้งมวล"
.
ปฏิบัติการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมของอิหร่าน ถูกตะวันตกมองมาช้านานว่าเป็นการอำพรางความพยายามพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ความกังวลนี้มีมากขึ้นหลังจากสหรัฐฯถอนตัวฝ่ายเดียวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านในปี 2018
.
ส่วนหนึ่งในข้อตกลงที่ลงนาม 3 ปีก่อนหน้านั้น ทางเตหะรานยินยอมระงับโครงการนิวเคลียร์ แลกกับการปลดเปลื้องมาตรการคว่ำบาตรบางส่วน อย่างไรก็ตาม โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ณ ขณะนั้น อ้างว่าข้อตกลงดังกล่าวล้มเลวในการสกัดโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน และทุกความพยายามทางการทูตในการรื้อฟื้นของตกลงนี้ในอีกหลายปีต่อไป ล้วนแต่ประสบความล้มเหลวในการผ่าทางตัน
.
อิหร่าน เน้นย้ำว่าโครงการนิวเคลียร์ของพวกเขามีจุดประสงค์เพื่อสันติ และไม่ได้เสาะหาการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ข้อตกลงพังครืนลง เตหะรานยกระดับเสริมสมรรถนะยูเรเนียมเป็น 60% และอ้างอิงข้อมูลจากทบวงปรมาณูสากล ภายใต้สังกัดของสหประชาชาติ ในการใช้สร้างระเบิดนิวเคลียร์ลูกหนึ่งๆ จำเป็นต้องเสริมสมรรถนะยูเรเนียมสู่ระดับมากกว่า 90%
.
หน่วยงานเฝ้าระวังทางนิวเคลียร์แห่งนี้ บอกเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าอิหร่านเริ่มเสริมสมรรถนะยูเรเนียมเพิ่มขึ้นไปอีก โดยใช้เครื่องปั่นเหวี่ยงแยกตะกอน (Centrifuge) ที่ทันสมัยหลายพันเครื่อง
.
เมื่อช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน คามาล คาร์ราซี ผู้ช่วยระดับสูงของ อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ยืนยันว่าเตหะราน "มีศักยภาพทางเทคนิคที่จำเป็นแล้ว สำหรับผลิตอาวุธนิวเคลียร์" เขากล่าว พร้อมเน้นว่าแม้อิหร่านไม่มีแผนทำเช่นนั้น "แต่ถ้าความอยู่รอดของอิหร่านถูกคุกคามร้ายแรง เราขอสงวนสิทธิ์ในการทบทวนใหม่"
.
สหรัฐฯเองก็ส่งเสียงแสดงความกังวลอย่างมากเช่นกัน เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดย แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของอเมริกา บ่งชี้ในเดือนกรกฏาคม ว่าบางที "อิหร่านอาจต้องการเวลาเพียงแค่ 1 หรือ 2 สัปดาห์ ในการผลิตวัสดุนิวเคลียร์เกรดอาวุธสำหรับระเบิดนิวเคลียร์"
.
พัฒนาการล่าสุดนี้ มีขึ้นในขณะที่ตะวันออกกลางยังคงอยู่ในสถานะตึงเครียดขั้นสูง โดยที่อิหร่านและอิสราเอลติดหล่มในการเผชิญหน้า เกี่ยวกับความขัดแย้งในกาซา
.
อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000115651
..............
Sondhi X