การพูดคุยในตะวันตกเกี่ยวกับการติดอาวุธแก่ยูเครนด้วยอาวุธนิวเคลียร์ เป็นสิ่งที่ "ไร้ความรับผิดชอบโดยสิ้นเชิง" จากเสียงโวยวายของ ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลิน ตอบโต้รายงานข่าวของนิวยอร์กไทม์ส ที่อ้างเจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ดังกล่าว
.
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส รายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าเจ้าหน้าที่ตะวันตกบางรายซึ่งไม่ระบุตัวตน บ่งชี้ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ อาจมอบอาวุธนิวเคลียร์แก่ยูเครน ก่อนอำลาตำแหน่ง
.
"เจ้าหน้ที่หลายคนถึงขั้นบ่งชี้ว่า มิสเตอร์ไบเดน อาจนำอาวุธนิวเคลียร์กลับไปยังยูเครน หลังนำอาวุธนิวเคลียร์ออกมา ตามหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต มันจะเป็นมาตรการป้องปรามที่ร้ายกาจและทันทีทันใด แต่มาตรการหนึ่งใดเช่นนี้ จะยุ่งยากซับซ้อนและก่อผลกระทบร้ายแรง" นิวยอร์กไทม์สระบุ
.
เมื่อถูกสอบถามเกี่ยวกับรายงานข่าวดังกล่าว เปสคอฟบอกกับพวกผู้สื่อข่าวว่า "มันเป็นการถกเถียงที่ไร้ความรับผิดชอบโดยสิ้นเชิงของพวกคน ที่ไม่เข้าใจความเป็นจริงเลยแม้แต่น้อย และคนที่ไม่ได้รู้สึกความรับผิดชอบใดๆ ในตอนที่พูดกันในประเด็นนี้ เราขอเน้นย้ำเช่นกันว่าพวกที่พูดคุยในประเด็นนี้ ล้วนแต่เป็นผู้ที่ไม่ประสงค์เอ่ยนาม"
.
ก่อนหน้านี้ ดมิทรี เมดเวเดฟ เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงระดับสูงของรัสเซีย บอกว่าหากตะวันตกจัดหาอาวุธนิวเคลียร์แก่ยูเครน เมื่อนั้นมอสโกจะพิจารณาว่าการโอนถ่ายอาวุธนิวเคลียร์ดังกล่าว เท่ากับเป็นการโจมตีรัสเซีย มอบเหตุผลสำหรับการตอบโต้ทางนิวเคลียร์เช่นกัน
.
ยูเครน สืบทอดมรดกอาวุธนิวเคลียร์จากสหภาพโซเวียต ตามหลังสหภาพโซเวียตล่มสลายในปี 1991 แต่ยอมละทิ้งอาวุธนิวเคลียร์เหล่านั้นภายใต้ข้อตกลงหนึ่งในปี 1994 หรือที่เรียกว่า บันทึกข้อตกลงบูดาเปสต์ แลกกับคำรับประกันด้านความมั่นคงจากรัสเซีย สหรัฐฯและสหราชอาณาจักร
.
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า การส่งมอบอาวุธนิวเคลียร์แก่ยูเครน และอนุมัติให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกนาโต เป็นเพียงหนทางเดียวในการป้องปรามรัสเซีย
.
สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่ลากยาวมานานกว่า 33 เดือน ดูเหมือนจะลุกลามขึ้นจากทั้ง 2 ฝ่ายในสัปดาห์ที่แล้ว หลังยูเครนยิงขีปนาวุธที่สหรัฐฯและสหราชอาณาจักรจัดหาให้ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซียเป็นครั้งแรก ภายใต้การอนุมัติของตะวันตก กระตุ้นให้มอสโกตอบโต้ด้วยการยิงขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกพิสัยปานกลางรุ่นใหม่ เข้าใส่ยูเครน
.
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับความเสี่ยงของสถานการณ์ลุกลามบานปลายทางนิวเคลียร์ เปสคอฟตอบว่าตะวันตกควรรับฟังปูตินด้วยความระมัดระวัง และอ่านให้เข้าใจในหลักการนิวเคลียร์ฉบับปรับปรุงแก้ไขของรัสเซีย ซึ่งปรับลดเพดานข้อจำกัดการใช้อาวุธชนิดนี้
.
อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000113917
..............
Sondhi X
การพูดคุยในตะวันตกเกี่ยวกับการติดอาวุธแก่ยูเครนด้วยอาวุธนิวเคลียร์ เป็นสิ่งที่ "ไร้ความรับผิดชอบโดยสิ้นเชิง" จากเสียงโวยวายของ ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลิน ตอบโต้รายงานข่าวของนิวยอร์กไทม์ส ที่อ้างเจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ดังกล่าว . หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส รายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าเจ้าหน้าที่ตะวันตกบางรายซึ่งไม่ระบุตัวตน บ่งชี้ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ อาจมอบอาวุธนิวเคลียร์แก่ยูเครน ก่อนอำลาตำแหน่ง . "เจ้าหน้ที่หลายคนถึงขั้นบ่งชี้ว่า มิสเตอร์ไบเดน อาจนำอาวุธนิวเคลียร์กลับไปยังยูเครน หลังนำอาวุธนิวเคลียร์ออกมา ตามหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต มันจะเป็นมาตรการป้องปรามที่ร้ายกาจและทันทีทันใด แต่มาตรการหนึ่งใดเช่นนี้ จะยุ่งยากซับซ้อนและก่อผลกระทบร้ายแรง" นิวยอร์กไทม์สระบุ . เมื่อถูกสอบถามเกี่ยวกับรายงานข่าวดังกล่าว เปสคอฟบอกกับพวกผู้สื่อข่าวว่า "มันเป็นการถกเถียงที่ไร้ความรับผิดชอบโดยสิ้นเชิงของพวกคน ที่ไม่เข้าใจความเป็นจริงเลยแม้แต่น้อย และคนที่ไม่ได้รู้สึกความรับผิดชอบใดๆ ในตอนที่พูดกันในประเด็นนี้ เราขอเน้นย้ำเช่นกันว่าพวกที่พูดคุยในประเด็นนี้ ล้วนแต่เป็นผู้ที่ไม่ประสงค์เอ่ยนาม" . ก่อนหน้านี้ ดมิทรี เมดเวเดฟ เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงระดับสูงของรัสเซีย บอกว่าหากตะวันตกจัดหาอาวุธนิวเคลียร์แก่ยูเครน เมื่อนั้นมอสโกจะพิจารณาว่าการโอนถ่ายอาวุธนิวเคลียร์ดังกล่าว เท่ากับเป็นการโจมตีรัสเซีย มอบเหตุผลสำหรับการตอบโต้ทางนิวเคลียร์เช่นกัน . ยูเครน สืบทอดมรดกอาวุธนิวเคลียร์จากสหภาพโซเวียต ตามหลังสหภาพโซเวียตล่มสลายในปี 1991 แต่ยอมละทิ้งอาวุธนิวเคลียร์เหล่านั้นภายใต้ข้อตกลงหนึ่งในปี 1994 หรือที่เรียกว่า บันทึกข้อตกลงบูดาเปสต์ แลกกับคำรับประกันด้านความมั่นคงจากรัสเซีย สหรัฐฯและสหราชอาณาจักร . ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า การส่งมอบอาวุธนิวเคลียร์แก่ยูเครน และอนุมัติให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกนาโต เป็นเพียงหนทางเดียวในการป้องปรามรัสเซีย . สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่ลากยาวมานานกว่า 33 เดือน ดูเหมือนจะลุกลามขึ้นจากทั้ง 2 ฝ่ายในสัปดาห์ที่แล้ว หลังยูเครนยิงขีปนาวุธที่สหรัฐฯและสหราชอาณาจักรจัดหาให้ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซียเป็นครั้งแรก ภายใต้การอนุมัติของตะวันตก กระตุ้นให้มอสโกตอบโต้ด้วยการยิงขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกพิสัยปานกลางรุ่นใหม่ เข้าใส่ยูเครน . เมื่อถูกถามเกี่ยวกับความเสี่ยงของสถานการณ์ลุกลามบานปลายทางนิวเคลียร์ เปสคอฟตอบว่าตะวันตกควรรับฟังปูตินด้วยความระมัดระวัง และอ่านให้เข้าใจในหลักการนิวเคลียร์ฉบับปรับปรุงแก้ไขของรัสเซีย ซึ่งปรับลดเพดานข้อจำกัดการใช้อาวุธชนิดนี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000113917 .............. Sondhi X
Angry
3
1 Comments 0 Shares 228 Views 0 Reviews