"อิสราเอล แคทซ์" รัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ของอิสราเอล ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งหมาดๆ บ่งชี้ "อิหร่านอยู่ในสถานะอ่อนแอมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ต่อการโจมตีที่ตั้งทางนิวเคลียร์" ความเห็นซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางคำเตือนของรัฐยิวที่ส่งถึงเตหะราน ว่าอย่าคิดแก้แค้นปฏิบัติการโจมตีเมื่อเดือนที่แล้ว . "เรามีโอกาสที่จะบรรลุเป้าหมายที่สำคัญที่สุดของเรา ในการทลายและกำจัดภัยคุกคามความอยู่รอดของรัฐอิสราเอล" แคทซ์ โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ . เป็นเวลาหลายปีแล้วที่อิสราเอลกล่าวหาอิหร่านกำลังหาทางสร้างอาวุธนิวเคลียร์ แต่รัฐอิสลามแห่งนี้ปฏิเสธคำกล่าวอ้างดังกล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่า . เมื่อปี 2018 สหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ณ ขณะนั้น ผู้ซึ่งชนะเลือกตั้งอีกสมัยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้ถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 ระหว่างเตหะรานกับบรรดามหาอำนาจตะวันตก ในนั้นรวมถึงวอชิงตัน ที่หาทางจำกัดความทะเยอทะยานทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน . นับตั้งแต่นั้นเตหะรานยกระดับยูเรเนียมเสริมสมรรถนะเป็น 60% หรือต่ำกว่าเกรดอาวุธปรมาณูเพียงแค่ 30% . เมื่อเร็วๆ นี้ อิสราเอลและอิหร่านยิงห่าขีปนาวุธตอบโต้กันไปมา โหมกระพือความกังวลเกี่ยวกับสงครามในวงกว้างในตะวันออกกลาง . ในปีนี้ อิหร่านยิงห่าขีปนาวุธเข้าใส่ดินแดนของอิสราเอลโดยตรงมาแล้ว 2 รอบ กระตุ้นให้อิสราเอลลงมือแก้แค้น โดยล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ที่พวกเขาเล็งเป้าที่ตั้งทางทหารของอิหร่าน . หลังจากนั้น อิสราเอลก็ส่งเสียงเตือนอย่างต่อเนื่องไปถึงอิหร่านว่าอย่าได้คิดแก้แค้นปฏิบัติการโจมตีเมื่อเดือนที่แล้ว . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108687 .............. Sondhi X