• “พี่อ้อย-จตุพร อุบลเลิศ” เป็นใคร มาจากไหน
    .
    วันนี้เรามาฟังความจริงที่มีหนึ่งเดียว จากผม สนธิ ลิ้มทองกุล ที่จะขอเปิดตัว "คุณอ้อย" จตุพร อุบลเลิศ ทุกคนสงสัยว่าคุณอ้อย รวยมาจากไหน ถึงหลงกลโอนเงินลงทุนไปให้ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ได้มากมายมหาศาลถึง 71 ล้านบาท แล้วทนายตั้ม ก็อ้างว่าให้โดยเสน่หา ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
    .
    "พี่อ้อย จตุพร" ทุกวันนี้อายุ 58-59 ปีแล้ว เป็นชาวอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โดยกำเนิด คุณพ่อเป็นตำรวจชั้นประทวน ยศจ่าสิบตำรวจ คุณแม่เป็นชาวนา ชื่อ สมพิศ อุบลเลิศ ชีวิตวัยเด็กเต็มไปด้วยความยากลำบาก พ่อแม่แยกทางกัน ส่วนตัวคุณอ้อยเองนั้นจบแค่ ป.6 จากโรงเรียนประถมในอำเภอปากช่อง ก่อนจะออกมาทำงานเร่ขายถั่วต้มกับเพื่อนสนิทที่รักกันมาก ก็คือ "พี่น้อย" ซึ่งปัจจุบันเป็นเลขาฯ คุณอ้อย
    .
    หลังจากนั้นแล้วต่างคนต่างแยกย้ายไป พี่อ้อย ได้สามีเป็นคนเยอรมัน ไปอยู่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ตั้งแต่อายุ 21 ปี ส่วนพี่น้อยทำงานคุมบ่อทราย คุมรถเข้า-ออก ดูเอกสารหลักฐาน ดูบัญชี เขาทำอะไรละเอียดลออ จดจำวันที่ วัน ว. เวลา น. เก็บหลักฐานเอกสารต่างๆ ไว้ครบถ้วนหมด ด้วยเหตุนี้ ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พี่อ้อยเปลี่ยนสถานภาพเป็นมหาเศรษฐินีขึ้นมา ก็เลยดึงพี่น้อยมาเป็นเลขาฯส่วนตัว มอบหมายให้จัดการเรื่องราวต่างๆ
    .
    แกร่ำรวยขึ้นมา มีข่าวจากสื่อฝรั่งเศสกรณีผู้ถูกรางวัลล็อตเตอรียูโร จำนวน 157 ล้านยูโร หรือราวๆ เกือบ 6,000 ล้านบาท เมื่อปี 2563 พอแกร่ำรวยขึ้นมาก็เกิดความสำนึกรักบ้านเกิดมาก เอาเงินซื้อวัคซีนที่มาฉีดให้คนปากช่อง กันโรคระบาด มีทั้งรถกู้ภัย รถพยาบาล แต่สิ่งที่พี่อ้อย หรือคุณจตุพร ทุ่มเทให้มากที่สุดนั้น คือโรงเรียนเก่าที่เคยเรียน ชื่อว่าโรงเรียนวัดขนงพระเหนือ จึงเริ่มการสนับสนุนโรงเรียนแห่งนี้ก่อนที่จะร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีเสียด้วยซ้ำ รวมจากวันนั้นถึงวันนี้ ร้อยกว่าล้านบาท จนได้รับฉายาจากครูอาจารย์ ชาวบ้านในพื้นที่ ว่าเป็น "นางฟ้าเดินดิน"
    .
    คณะอาจารย์โรงเรียนวัดขนงพระเหนือได้พูดกับคุณนพรัฐ พรวนสุข ขอใช้สิทธิ์พาดพิงและขอชี้แจงไปยังสื่อ (คือคุณหมาแก่ ดนัย เอกมหาสวัสดิ์) เพราะรู้ว่าออกข่าวด้อยค่าโรงเรียนอย่างขาดความเข้าใจ
    .
    นอกจากนี้ บนผนังอาคาร มีภาพถ่ายของษิทรา เบี้ยบังเกิด มาร่วมพิธีที่โรงเรียน พวกครู คณะครูเขาบอกว่ามั่นใจว่าจะไม่ได้เห็นทนายตั้มอีกแล้ว และกรุณาไม่อยากให้กลับมา เพราะสิ่งที่ทนายตั้มกระทำกับพี่อ้อยนั้น เป็นเรื่องที่น่าเสียใจที่สุด ทำไมคนดีๆระดับนางฟ้าเดินดิน ต้องมาถูกฉ้อโกงจากทนายตั้ม ที่พี่อ้อยให้ใจและไว้วางใจ
    .
    พี่อ้อยเป็นคนมีจิตสำนึกที่ดี จิตใจงดงามที่เป็นบุญเป็นกุศล และผมเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวเป็นบุญหนุนส่งให้พี่อ้อยโชคดีขนาดนี้ ก่อนที่จะโชคร้ายมาเจอคุณษิทรา เบี้ยบังเกิด และคนที่เจอคุณษิทรา เบี้ยบังเกิด โชคร้ายทุกคน
    .
    คุณษิทรา คุณรู้หรือเปล่า สิ่งที่คุณทำกับเขาไม่ใช่การเนรคุณกับพี่อ้อย จตุพร คนที่เคยไว้ใจคุณ มีพระคุณกับคุณ อายบ้างไหม ว่าความโลภของคุณมันได้ทำร้ายตัวคุณเอง แต่ยังทำร้ายคนจำนวนมาก
    “พี่อ้อย-จตุพร อุบลเลิศ” เป็นใคร มาจากไหน . วันนี้เรามาฟังความจริงที่มีหนึ่งเดียว จากผม สนธิ ลิ้มทองกุล ที่จะขอเปิดตัว "คุณอ้อย" จตุพร อุบลเลิศ ทุกคนสงสัยว่าคุณอ้อย รวยมาจากไหน ถึงหลงกลโอนเงินลงทุนไปให้ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ได้มากมายมหาศาลถึง 71 ล้านบาท แล้วทนายตั้ม ก็อ้างว่าให้โดยเสน่หา ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด . "พี่อ้อย จตุพร" ทุกวันนี้อายุ 58-59 ปีแล้ว เป็นชาวอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โดยกำเนิด คุณพ่อเป็นตำรวจชั้นประทวน ยศจ่าสิบตำรวจ คุณแม่เป็นชาวนา ชื่อ สมพิศ อุบลเลิศ ชีวิตวัยเด็กเต็มไปด้วยความยากลำบาก พ่อแม่แยกทางกัน ส่วนตัวคุณอ้อยเองนั้นจบแค่ ป.6 จากโรงเรียนประถมในอำเภอปากช่อง ก่อนจะออกมาทำงานเร่ขายถั่วต้มกับเพื่อนสนิทที่รักกันมาก ก็คือ "พี่น้อย" ซึ่งปัจจุบันเป็นเลขาฯ คุณอ้อย . หลังจากนั้นแล้วต่างคนต่างแยกย้ายไป พี่อ้อย ได้สามีเป็นคนเยอรมัน ไปอยู่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ตั้งแต่อายุ 21 ปี ส่วนพี่น้อยทำงานคุมบ่อทราย คุมรถเข้า-ออก ดูเอกสารหลักฐาน ดูบัญชี เขาทำอะไรละเอียดลออ จดจำวันที่ วัน ว. เวลา น. เก็บหลักฐานเอกสารต่างๆ ไว้ครบถ้วนหมด ด้วยเหตุนี้ ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พี่อ้อยเปลี่ยนสถานภาพเป็นมหาเศรษฐินีขึ้นมา ก็เลยดึงพี่น้อยมาเป็นเลขาฯส่วนตัว มอบหมายให้จัดการเรื่องราวต่างๆ . แกร่ำรวยขึ้นมา มีข่าวจากสื่อฝรั่งเศสกรณีผู้ถูกรางวัลล็อตเตอรียูโร จำนวน 157 ล้านยูโร หรือราวๆ เกือบ 6,000 ล้านบาท เมื่อปี 2563 พอแกร่ำรวยขึ้นมาก็เกิดความสำนึกรักบ้านเกิดมาก เอาเงินซื้อวัคซีนที่มาฉีดให้คนปากช่อง กันโรคระบาด มีทั้งรถกู้ภัย รถพยาบาล แต่สิ่งที่พี่อ้อย หรือคุณจตุพร ทุ่มเทให้มากที่สุดนั้น คือโรงเรียนเก่าที่เคยเรียน ชื่อว่าโรงเรียนวัดขนงพระเหนือ จึงเริ่มการสนับสนุนโรงเรียนแห่งนี้ก่อนที่จะร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีเสียด้วยซ้ำ รวมจากวันนั้นถึงวันนี้ ร้อยกว่าล้านบาท จนได้รับฉายาจากครูอาจารย์ ชาวบ้านในพื้นที่ ว่าเป็น "นางฟ้าเดินดิน" . คณะอาจารย์โรงเรียนวัดขนงพระเหนือได้พูดกับคุณนพรัฐ พรวนสุข ขอใช้สิทธิ์พาดพิงและขอชี้แจงไปยังสื่อ (คือคุณหมาแก่ ดนัย เอกมหาสวัสดิ์) เพราะรู้ว่าออกข่าวด้อยค่าโรงเรียนอย่างขาดความเข้าใจ . นอกจากนี้ บนผนังอาคาร มีภาพถ่ายของษิทรา เบี้ยบังเกิด มาร่วมพิธีที่โรงเรียน พวกครู คณะครูเขาบอกว่ามั่นใจว่าจะไม่ได้เห็นทนายตั้มอีกแล้ว และกรุณาไม่อยากให้กลับมา เพราะสิ่งที่ทนายตั้มกระทำกับพี่อ้อยนั้น เป็นเรื่องที่น่าเสียใจที่สุด ทำไมคนดีๆระดับนางฟ้าเดินดิน ต้องมาถูกฉ้อโกงจากทนายตั้ม ที่พี่อ้อยให้ใจและไว้วางใจ . พี่อ้อยเป็นคนมีจิตสำนึกที่ดี จิตใจงดงามที่เป็นบุญเป็นกุศล และผมเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวเป็นบุญหนุนส่งให้พี่อ้อยโชคดีขนาดนี้ ก่อนที่จะโชคร้ายมาเจอคุณษิทรา เบี้ยบังเกิด และคนที่เจอคุณษิทรา เบี้ยบังเกิด โชคร้ายทุกคน . คุณษิทรา คุณรู้หรือเปล่า สิ่งที่คุณทำกับเขาไม่ใช่การเนรคุณกับพี่อ้อย จตุพร คนที่เคยไว้ใจคุณ มีพระคุณกับคุณ อายบ้างไหม ว่าความโลภของคุณมันได้ทำร้ายตัวคุณเอง แต่ยังทำร้ายคนจำนวนมาก
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 399 มุมมอง 0 รีวิว
  • #moonlight#ค่าเฟ่นครปฐม
    #moonlight#ค่าเฟ่นครปฐม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 12 0 รีวิว
  • กองปราบสอบมาราธอน "พี่อ้อย" เป็นวันที่ 3 - ทนายเผยให้ปากเพิ่มเติมที่ตกหล่นเพื่ออุดไม่ให้มีรูรั่ว ยันสัปดาห์หน้าคดีจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000105921

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3 พฤศจิกายน 2567-ชายเดี่ยว วิว กุลวุฒิ ชนะ Lee Cheuk Yiu จากฮ่องกง 3-0 เก็บแต้ม Blitzers นำ 4-2 , ตัดสินคู่สุดท้าย แบด3คน ที่มีสามแต้มเป็นเดิมพันชนะ Blitzers เฉือนแต้ม Sudden Death คว้าแชมป์​ลีคอินโด BDMNTN-XL รับทรัพย์คนละ 2 ล้านบาท

    ทั้งนี้การแข่งขันแบดมินตันรายการพิเศษในรายการ "บีเอ็กซ์แอล แบดมินตัน" ที่ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 31 ต.ค. - 3 พ.ย.67 ที่อิสโตร่า เสนายัน ในกรุงจาร์การ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย

    โดยจะมี 3 นักแบดมินตันไทยลงแข่งขัน อาทิ "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ชายเดี่ยว ดีกรีเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ 2024 , "เมย์" รัชนก อินทนนท์ หญิงเดี่ยว เจ้าของแชมป์โลก ปี 2013 และ "หมิว" พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ โดยจะลงเล่นแทน โนโซมิ โอกูฮาระ จากญี่ปุ่น โดยรูปแบบการแข่งขันจะเป็นในรูปแบบ แบ่งเป็น 4 ทีม แต่ละทีมส่งตัวแทนลงแข่ง 5 แมตช์ ได้แก่ ชายเดี่ยว หญิงเดี่ยว ชายคู่ หญิงคู่ และแบด 3 คน ทีมไหนถึง 5 ก่อน จะเป็นฝ่ายชนะ ไม่มีคะแนนต่ำสุดหรือสูงสุดสำหรับแต่ละเซ็ต - ผู้เล่น/คู่/ทีมที่มีคะแนนมากที่สุดหลังจากแต่ละ 10 นาทีจะชนะ 1 เซ็ต

    สำหรับ "เมย์" รัชนก อินทนนท์ จะอยู่ในกลุ่ม Lighting ร่วมกับ วิคเตอร์ อเซลเซ่น (เดนมาร์ก) , อัชวานี่ พอนนัพพา (อินเดีย) , เกรเซี่ย โพลี่ (อินโดนเซีย) , ยูตะ วาตานาเบ้ (ญี่ปุ่น) , ตัง ชุนมาน (ฮ่องกง) และ โซว วุยอิค (มาเลเซีย)

    ส่วน "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ และ "หมิว" พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ จะอยู่ในกลุ่ม Bltizers ร่วมกับ อเล็กซานดร้า โบเจ้ จากเดนมาร์ก , ออง ยิวซิน กับ เตียว อี้เว่ย จากมาเลเซีย , ซาบาร์ คาร์ยามาน กุตมา จากอินโดนีเซีย ,

    https://youtu.be/WeuDCPVG1Yc?si=048h60IuBSTlXRzR

    #Thaitimes
    3 พฤศจิกายน 2567-ชายเดี่ยว วิว กุลวุฒิ ชนะ Lee Cheuk Yiu จากฮ่องกง 3-0 เก็บแต้ม Blitzers นำ 4-2 , ตัดสินคู่สุดท้าย แบด3คน ที่มีสามแต้มเป็นเดิมพันชนะ Blitzers เฉือนแต้ม Sudden Death คว้าแชมป์​ลีคอินโด BDMNTN-XL รับทรัพย์คนละ 2 ล้านบาท ทั้งนี้การแข่งขันแบดมินตันรายการพิเศษในรายการ "บีเอ็กซ์แอล แบดมินตัน" ที่ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 31 ต.ค. - 3 พ.ย.67 ที่อิสโตร่า เสนายัน ในกรุงจาร์การ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย โดยจะมี 3 นักแบดมินตันไทยลงแข่งขัน อาทิ "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ชายเดี่ยว ดีกรีเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ 2024 , "เมย์" รัชนก อินทนนท์ หญิงเดี่ยว เจ้าของแชมป์โลก ปี 2013 และ "หมิว" พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ โดยจะลงเล่นแทน โนโซมิ โอกูฮาระ จากญี่ปุ่น โดยรูปแบบการแข่งขันจะเป็นในรูปแบบ แบ่งเป็น 4 ทีม แต่ละทีมส่งตัวแทนลงแข่ง 5 แมตช์ ได้แก่ ชายเดี่ยว หญิงเดี่ยว ชายคู่ หญิงคู่ และแบด 3 คน ทีมไหนถึง 5 ก่อน จะเป็นฝ่ายชนะ ไม่มีคะแนนต่ำสุดหรือสูงสุดสำหรับแต่ละเซ็ต - ผู้เล่น/คู่/ทีมที่มีคะแนนมากที่สุดหลังจากแต่ละ 10 นาทีจะชนะ 1 เซ็ต สำหรับ "เมย์" รัชนก อินทนนท์ จะอยู่ในกลุ่ม Lighting ร่วมกับ วิคเตอร์ อเซลเซ่น (เดนมาร์ก) , อัชวานี่ พอนนัพพา (อินเดีย) , เกรเซี่ย โพลี่ (อินโดนเซีย) , ยูตะ วาตานาเบ้ (ญี่ปุ่น) , ตัง ชุนมาน (ฮ่องกง) และ โซว วุยอิค (มาเลเซีย) ส่วน "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ และ "หมิว" พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ จะอยู่ในกลุ่ม Bltizers ร่วมกับ อเล็กซานดร้า โบเจ้ จากเดนมาร์ก , ออง ยิวซิน กับ เตียว อี้เว่ย จากมาเลเซีย , ซาบาร์ คาร์ยามาน กุตมา จากอินโดนีเซีย , https://youtu.be/WeuDCPVG1Yc?si=048h60IuBSTlXRzR #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 276 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอสงวนนามคุณหมอท่านนี้ครับ ฟังเสียงท่านวิเคราะห์หมายเลขล็อตของวัคซีนโควิด ได้ที่ https://t.me/goodthaidoctorclip/1136
    ขอสงวนนามคุณหมอท่านนี้ครับ ฟังเสียงท่านวิเคราะห์หมายเลขล็อตของวัคซีนโควิด ได้ที่ https://t.me/goodthaidoctorclip/1136
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 37 0 รีวิว
  • เป็นคลิปที่ควรฟังอย่างยิ่ง
    https://youtu.be/Awe7YLDGULY?si=kI6jbOWefgv2wQYL
    เป็นคลิปที่ควรฟังอย่างยิ่ง https://youtu.be/Awe7YLDGULY?si=kI6jbOWefgv2wQYL
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥รองเท้าแบรนด์เนมมือสองนำเข้า
    👉ให้สิทธิ์คนพร้อมโอนก่อน✅
    🦶เท้าอูม เท้าบาน แนะนำ+1ไซต์
    ♥️สนใจคู่ไหนทักแขทสอบถามได้📱
    📱ทักก่อนได้ก่อน.ช้าหมดน๊ะจ๊ะ☺️
    👉มีแบบละ1คู่เท่านั้น👞👟🥾👢🥿

    ✅️ค่าส่งด่วนเอกชน 40฿ (พื้นที่ห่างไกล +เพิ่ม 30฿) ☺️

    💥มือสอง คัดหัว+พิเศษ (สินค้ามือสองบางคู่อาจจะมีตำหนิบ้างจากการใช้งาน ขอคนเข้าใจนะคะ)

    มีหน้าร้าน: ร้านอยู่พุทธมณฑลสาย4
    🕗ร้านเปิด: 9:00 ✅
    🕤ร้านปิด: 18:00❌
    ค้นหาGoogle: เกือกงามรองเท้าแบรนด์เนม
    มือสอง พุทธมณฑลสาย4️⃣ ชอย 8️⃣
    [📍โลเคชั่น] : https://maps.app.goo.gl/gzjZvqUHBChYSV2F6

    เบอร์ติดต่อ 0942236805
    ID.Line 0942236805


    📢ฝากกดติดตามเพจดว้ยนะค่ะ
    ร้าน: เกือกงาม รองเท้าแบรนด์ มือ2
    รองเท้ามี 2000 กว่า 👟👞🥾👢
    👉กดลิ้งเพจ นี้เลย ค่ะ 👇👟👞
    https://www.facebook.com/thanxarlaos


    💛💜 ขอบพระคุณมากค่ะ🙏 💚💙

    💥รองเท้าแบรนด์เนมมือสองนำเข้า 👉ให้สิทธิ์คนพร้อมโอนก่อน✅ 🦶เท้าอูม เท้าบาน แนะนำ+1ไซต์ ♥️สนใจคู่ไหนทักแขทสอบถามได้📱 📱ทักก่อนได้ก่อน.ช้าหมดน๊ะจ๊ะ☺️ 👉มีแบบละ1คู่เท่านั้น👞👟🥾👢🥿 ✅️ค่าส่งด่วนเอกชน 40฿ (พื้นที่ห่างไกล +เพิ่ม 30฿) ☺️ 💥มือสอง คัดหัว+พิเศษ (สินค้ามือสองบางคู่อาจจะมีตำหนิบ้างจากการใช้งาน ขอคนเข้าใจนะคะ) มีหน้าร้าน: ร้านอยู่พุทธมณฑลสาย4 🕗ร้านเปิด: 9:00 ✅ 🕤ร้านปิด: 18:00❌ ค้นหาGoogle: เกือกงามรองเท้าแบรนด์เนม มือสอง พุทธมณฑลสาย4️⃣ ชอย 8️⃣ [📍โลเคชั่น] : https://maps.app.goo.gl/gzjZvqUHBChYSV2F6 เบอร์ติดต่อ 0942236805 ID.Line 0942236805 📢ฝากกดติดตามเพจดว้ยนะค่ะ ร้าน: เกือกงาม รองเท้าแบรนด์ มือ2 รองเท้ามี 2000 กว่า 👟👞🥾👢 👉กดลิ้งเพจ นี้เลย ค่ะ 👇👟👞 https://www.facebook.com/thanxarlaos 💛💜 ขอบพระคุณมากค่ะ🙏 💚💙
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘สมรักษ์’ เปิดใจ รับ หย่าภรรยาได้ 2 เดือนเศษ ยืนยันไม่มีการข่มขืน ไม่มีการสำเร็จความใคร่ สาว 17 ปี เจอกันในที่เที่ยว แล้วพากันตามเข้าโรงแรม ถอดเสื้อผ้า กอดหอมกัน ก่อนถามอายุ พอรู้ว่า 17 ปี ก็หยุด ไม่ขอยุ่งด้วย ก่อนหลับไป จนถูกถ่ายภาพแบล็กเมล์
    ขอนแก่น: วันที่ 10 ธ.ค.66 กรณีเยาวชนหญิงอายุ 17 ปี เข้าแจ้งความ กล่าวหากระทำอนาจาร-ล่วงละเมิดทางเพศในโรงแรม เมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 10 ธ.ค.2566 ผู้สื่อข่าวช่อง 3 โทรศัพท์สอบถามไปยัง นายสมรักษ์ คำสิงห์ ที่ถูกกล่าวหา โดยสมรักษ์กล่าวกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า ตนเองมาเที่ยวตามประสาคนเที่ยวทั่วไป ส่วนน้องเค้าก็มาเที่ยวของน้องเค้า และมาที่โต๊ะเดียวกัน ก่อนจะตามกันไปที่โรงแรม ซึ่งในเรื่องนี้ก็ต้องรอพิสูจน์ ยืนยันว่าตนไม่ได้ข่มขืนใคร และไม่ได้มีเพศสัมพันธ์แต่อย่างใด ในคืนนั้นมีเพียงการถอดเสื้อผ้า และหอมกอดกันธรรมดา ก่อนจะถามอายุว่าเท่าไหร่ พอบอกว่า 17 พอรู้ก็ตกใจเลย จึงบอกว่าไม่ได้ๆ หยุดตรงนั้น เดี๋ยวตื่นแล้วจะไปส่ง ก่อนจะนอนหลับอยู่บนเตียงไปเลยตรงนั้น

    สมรักษ์ยอมรับว่า ตนได้เซ็นใบหย่ากับภรรยา ประมาณ 2 เดือนกว่าๆ แล้ว

    ”วันเกิดเหตุ ไปเที่ยวร้านอาหารตามประสาของผม ส่วนฝ่ายหญิงก็มากับกลุ่มของเขา แต่มานั่งสังสรรค์ที่โต๊ะของผมด้วย ก่อนจะตามไปโรงแรมกับผม ยอมรับว่า เมื่อไปถึงโรงแรมแล้ว มีการกอดหอมและถอดเสื้อผ้า แต่ยังไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กัน เพราะตนถามฝ่ายหญิงก่อนว่าอายุเท่าไหร่ เมื่อฝ่ายหญิงตอบว่า อายุ 17 ตนก็สะดุ้งและรีบบอกว่า “ไม่ได้ๆ หนูนอนพักผ่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมไปส่ง” จากนั้นตนก็นอนหลับไป แต่ไม่รู้ว่าฝ่ายหญิงถ่ายรูปตนตอนหลับไว้และไปแจ้งความ ไม่รู้ว่าใครแบล็คเมล์ใคร“ สมรักษ์กล่าว

    “ไปโรงแรมด้วยกันจริง นอนด้วยกันในห้อง และมารู้ว่าอายุ 17 ตอนที่ถึงโรงแรมแล้ว เรื่องการฉุดกระชากขึ้นรถนั้นไม่มีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น เพราะมีกล้องวงจรปิดอยู่แล้ว ยืนยันไม่มีการฉุดกระชากแต่อย่างใด ผมเองไม่อยากพูดเยอะเพราะน้องก็เป็นเด็ก” สมรักษ์กล่าว

    ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่สถานบันเทิง ริมถนนประชาสำราญ พบว่า มีการตรวจบัตรของนักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางเข้ามาใช้บริการเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย ของทางภาครัฐ ที่ไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้ามาใช้บริการ และเป็นสถานที่ที่นักชกเหรียญทองมวยโอลิมปิก ได้เข้ามาใช้บริการเมื่อคืนที่ผ่านมา ก่อนที่จะถูกหญิงสาววัย 17 ปี เข้าแจ้งความกับตำรวจ ว่าถูกนักชกฮีโร่ล่วงละเมิดทางเพศ

    ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับผู้ดูแลร้านทราบว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ฮีโร่เหรียญทองมวยโอลิมปิกได้เข้ามาใช้บริการจริง และได้มีการได้พูดคุยกับทางสมรักษ์ และก็เห็นกลุ่มของหญิงสาววัย 17 ปี ได้เข้ามาขอถ่ายรูปและพูดคุยจริง แต่หลังจากนั้นก็ไม่ทราบว่าได้ไปด้วยกันหรือไม่ เพราะตนเองก็ต้องดูแลร้าน แต่ยอมรับว่าสมรักษ์ มักจะมาที่ร้านเป็นประจำ

    ขณะที่ข้อมูลจากโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น โดยผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับพนักงานต้อนรับทราบว่า เมื่อวานนี้สมรักษ์ได้มาเปิดห้องพักที่โรงแรมแห่งนี้จริง โดยปกติแล้วโรงแรมแห่งนี้ ไม่ใช่โรงแรมที่สมรักษ์จะมาพักเป็นประจำ แต่โรงแรมที่นายสมรักษ์พักบ่อยๆ เต็ม เนื่องจากมีเด็กนักเรียนมาสอบแกท-แพท โดยจุดต้อนรับแขกหน้าโรงแรมจะปิดในช่วงเวลาประมาณ 01:00 น. ทำให้ไม่มีใครเห็น ในช่วงที่สมรักษ์และหญิงวัย 17 ปี เดินเข้ามาในโรงแรม รวมถึงไม่มีใครเห็นในช่วงที่ออกไปนอกโรงแรมด้วย

    สำหรับความคืบหน้าของคดี พนักงานสอบสวนได้เข้ามาเก็บภาพวงจรปิด ทั้งที่สถานบันเทิงและที่โรงแรม เพื่อใช้เป็นหลักฐาน เพื่อจะได้เตรียมออกหมายเรียกสมรักษ์มาพบพนักงานสอบสวนต่อไป
    ‘สมรักษ์’ เปิดใจ รับ หย่าภรรยาได้ 2 เดือนเศษ ยืนยันไม่มีการข่มขืน ไม่มีการสำเร็จความใคร่ สาว 17 ปี เจอกันในที่เที่ยว แล้วพากันตามเข้าโรงแรม ถอดเสื้อผ้า กอดหอมกัน ก่อนถามอายุ พอรู้ว่า 17 ปี ก็หยุด ไม่ขอยุ่งด้วย ก่อนหลับไป จนถูกถ่ายภาพแบล็กเมล์ ขอนแก่น: วันที่ 10 ธ.ค.66 กรณีเยาวชนหญิงอายุ 17 ปี เข้าแจ้งความ กล่าวหากระทำอนาจาร-ล่วงละเมิดทางเพศในโรงแรม เมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 10 ธ.ค.2566 ผู้สื่อข่าวช่อง 3 โทรศัพท์สอบถามไปยัง นายสมรักษ์ คำสิงห์ ที่ถูกกล่าวหา โดยสมรักษ์กล่าวกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า ตนเองมาเที่ยวตามประสาคนเที่ยวทั่วไป ส่วนน้องเค้าก็มาเที่ยวของน้องเค้า และมาที่โต๊ะเดียวกัน ก่อนจะตามกันไปที่โรงแรม ซึ่งในเรื่องนี้ก็ต้องรอพิสูจน์ ยืนยันว่าตนไม่ได้ข่มขืนใคร และไม่ได้มีเพศสัมพันธ์แต่อย่างใด ในคืนนั้นมีเพียงการถอดเสื้อผ้า และหอมกอดกันธรรมดา ก่อนจะถามอายุว่าเท่าไหร่ พอบอกว่า 17 พอรู้ก็ตกใจเลย จึงบอกว่าไม่ได้ๆ หยุดตรงนั้น เดี๋ยวตื่นแล้วจะไปส่ง ก่อนจะนอนหลับอยู่บนเตียงไปเลยตรงนั้น สมรักษ์ยอมรับว่า ตนได้เซ็นใบหย่ากับภรรยา ประมาณ 2 เดือนกว่าๆ แล้ว ”วันเกิดเหตุ ไปเที่ยวร้านอาหารตามประสาของผม ส่วนฝ่ายหญิงก็มากับกลุ่มของเขา แต่มานั่งสังสรรค์ที่โต๊ะของผมด้วย ก่อนจะตามไปโรงแรมกับผม ยอมรับว่า เมื่อไปถึงโรงแรมแล้ว มีการกอดหอมและถอดเสื้อผ้า แต่ยังไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กัน เพราะตนถามฝ่ายหญิงก่อนว่าอายุเท่าไหร่ เมื่อฝ่ายหญิงตอบว่า อายุ 17 ตนก็สะดุ้งและรีบบอกว่า “ไม่ได้ๆ หนูนอนพักผ่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมไปส่ง” จากนั้นตนก็นอนหลับไป แต่ไม่รู้ว่าฝ่ายหญิงถ่ายรูปตนตอนหลับไว้และไปแจ้งความ ไม่รู้ว่าใครแบล็คเมล์ใคร“ สมรักษ์กล่าว “ไปโรงแรมด้วยกันจริง นอนด้วยกันในห้อง และมารู้ว่าอายุ 17 ตอนที่ถึงโรงแรมแล้ว เรื่องการฉุดกระชากขึ้นรถนั้นไม่มีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น เพราะมีกล้องวงจรปิดอยู่แล้ว ยืนยันไม่มีการฉุดกระชากแต่อย่างใด ผมเองไม่อยากพูดเยอะเพราะน้องก็เป็นเด็ก” สมรักษ์กล่าว ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่สถานบันเทิง ริมถนนประชาสำราญ พบว่า มีการตรวจบัตรของนักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางเข้ามาใช้บริการเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย ของทางภาครัฐ ที่ไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้ามาใช้บริการ และเป็นสถานที่ที่นักชกเหรียญทองมวยโอลิมปิก ได้เข้ามาใช้บริการเมื่อคืนที่ผ่านมา ก่อนที่จะถูกหญิงสาววัย 17 ปี เข้าแจ้งความกับตำรวจ ว่าถูกนักชกฮีโร่ล่วงละเมิดทางเพศ ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับผู้ดูแลร้านทราบว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ฮีโร่เหรียญทองมวยโอลิมปิกได้เข้ามาใช้บริการจริง และได้มีการได้พูดคุยกับทางสมรักษ์ และก็เห็นกลุ่มของหญิงสาววัย 17 ปี ได้เข้ามาขอถ่ายรูปและพูดคุยจริง แต่หลังจากนั้นก็ไม่ทราบว่าได้ไปด้วยกันหรือไม่ เพราะตนเองก็ต้องดูแลร้าน แต่ยอมรับว่าสมรักษ์ มักจะมาที่ร้านเป็นประจำ ขณะที่ข้อมูลจากโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น โดยผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับพนักงานต้อนรับทราบว่า เมื่อวานนี้สมรักษ์ได้มาเปิดห้องพักที่โรงแรมแห่งนี้จริง โดยปกติแล้วโรงแรมแห่งนี้ ไม่ใช่โรงแรมที่สมรักษ์จะมาพักเป็นประจำ แต่โรงแรมที่นายสมรักษ์พักบ่อยๆ เต็ม เนื่องจากมีเด็กนักเรียนมาสอบแกท-แพท โดยจุดต้อนรับแขกหน้าโรงแรมจะปิดในช่วงเวลาประมาณ 01:00 น. ทำให้ไม่มีใครเห็น ในช่วงที่สมรักษ์และหญิงวัย 17 ปี เดินเข้ามาในโรงแรม รวมถึงไม่มีใครเห็นในช่วงที่ออกไปนอกโรงแรมด้วย สำหรับความคืบหน้าของคดี พนักงานสอบสวนได้เข้ามาเก็บภาพวงจรปิด ทั้งที่สถานบันเทิงและที่โรงแรม เพื่อใช้เป็นหลักฐาน เพื่อจะได้เตรียมออกหมายเรียกสมรักษ์มาพบพนักงานสอบสวนต่อไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลุ่มคนสามานย์ต้องการควบคุมโลก โดย อ.ศุภวรรณ กรีน (คลิปติ๊กต็อกปลิวแล้ว)
    กลุ่มคนสามานย์ต้องการควบคุมโลก โดย อ.ศุภวรรณ กรีน (คลิปติ๊กต็อกปลิวแล้ว)
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 42 0 รีวิว
  • #นอกเรื่องพระหน่อย# เห็นเยอะเหลือเกิน.
    🎃 เล่นกลมือ ง่ายๆ แค่สลับ แต่คนหลงกลเพียบ...
    ขายเบอร์ละ 500 บ้าง 1000 บ้าง..ต้องโอนก่อน....คิดแบบคนโง่ๆ เลย..คือเหมาหมด ...ยังไงก็ถูก....
    ...แต่มันไม่ง่ายแบบนั้น...มันจะจัดเป็นรอบๆ แล้วคัดออก...และมันไม่ให้เล่นทั้งหมด สมมุติมี 4 กอง มันจะให้เล่นแค่ 2 กอง...กินไปเรื่อยๆ แล้วคัดออก ..พอเหลือ 2 กองสุดท้าย มันขายเบอร์ 2000 เลย...แต่คนที่จองมา คือ ทีมงานของมันเอง....และก็เฉลยตัวถูก....
    ...ตอนใส่ มันใส่ให้เห็นจริง ...แต่มันทำตำหนิ ที่กล้องมองไม่เห็นไว้ แต่ตอนแกะ มันรู้...มันก็เล่นตามเกมส์ของมัน...จะให้ออกอะไร ตอนไหน..และก็เหมือนมายากลทั่วไป คือ รู้มุมกล้อง...
    ...บางเจ้าโอนจริงให้เห็นเลย ...แต่เป็นคนของมัน.....
    ..พอเฉลย...คนก็เฮ้ยมีรางวัลจริงนี่..ที่เราเล่นไม่ถูกเอง.....
    ...กลมือ ง่ายๆ.... #อย่าโลภ#
    #นอกเรื่องพระหน่อย# เห็นเยอะเหลือเกิน. 🎃 เล่นกลมือ ง่ายๆ แค่สลับ แต่คนหลงกลเพียบ... ขายเบอร์ละ 500 บ้าง 1000 บ้าง..ต้องโอนก่อน....คิดแบบคนโง่ๆ เลย..คือเหมาหมด ...ยังไงก็ถูก.... ...แต่มันไม่ง่ายแบบนั้น...มันจะจัดเป็นรอบๆ แล้วคัดออก...และมันไม่ให้เล่นทั้งหมด สมมุติมี 4 กอง มันจะให้เล่นแค่ 2 กอง...กินไปเรื่อยๆ แล้วคัดออก ..พอเหลือ 2 กองสุดท้าย มันขายเบอร์ 2000 เลย...แต่คนที่จองมา คือ ทีมงานของมันเอง....และก็เฉลยตัวถูก.... ...ตอนใส่ มันใส่ให้เห็นจริง ...แต่มันทำตำหนิ ที่กล้องมองไม่เห็นไว้ แต่ตอนแกะ มันรู้...มันก็เล่นตามเกมส์ของมัน...จะให้ออกอะไร ตอนไหน..และก็เหมือนมายากลทั่วไป คือ รู้มุมกล้อง... ...บางเจ้าโอนจริงให้เห็นเลย ...แต่เป็นคนของมัน..... ..พอเฉลย...คนก็เฮ้ยมีรางวัลจริงนี่..ที่เราเล่นไม่ถูกเอง..... ...กลมือ ง่ายๆ.... #อย่าโลภ#
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ผ่านไปอ่านเจอความเห็นนึง แล้วยิ้มไปในใจ...ดูว่า คงจำเขามาพูด...เพื่ออาจจะให้คนได้ดูว่า เป็นผู้ทรงภูมิ ..
    ...แต่เดี๋ยวก่อน...วิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้ทุกสิ่งจริงหรือ?
    ...ความจริงคือ วิทยาศาสตร์ พิสูจน์อะไรก็ตามได้ก็ต่อเมื่อ มีองค์ความรู้ และเครื่องมือ ที่จะใช้พิสูจน์....แล้ว มันมีแบบนั้นกับทุกเรื่องไหม?....
    ...ในปัจจุบัน หรือย้อนหลังไปหลายปี คนระดับ อ.หมอ ดอกเตอร์ รองศาสตารารย์ และผู้เขี่ยวชาญในสาขาต่างๆ ...ออกมาพูดเรื่อง พลังจิต พลังงานต่างๆ มากมาย.......บรรยายเป็นเรื่องราวบ่อยครั้ง...ถามว่า กลุ่มคนเหล่านี้ สุ่มเสี่ยงไหม ..ถ้าพูดเรื่องที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้.....แต่ทำไมพวกเขาพูด และกระทำ
    #ลองคิดดู
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • #1

    การทดสอบใช้โดรนที่นำทางด้วยใยแก้วนำแสง (Fiber Optic Drones) ของกองทัพรัสเซีย เพื่อตอบโต้ปฏิบัติการของยูเครนในภูมิภาคเคิร์ส ได้รับผลลัพธ์ที่ดีมาก จนถึงขณะนี้มีการกระจายใช้ในหลายพื้นที่ทั้ง Donetsk และ Zaporozhye (Zaporizhzhya) และซึ่งอาจเปลี่ยนเกมในสงครามได้

    ในช่วงเริ่มต้นของการบุกภูมิภาคเคิร์ส ฝ่ายยูเครนเตรียมการมาเป็นอย่างดี มีการติดตั้งอุปกรณ์รบกวนสัญญาณของโดรนลาดตระเวน รวมทั้งโดรน FPV ของรัสเซียด้วยการใช้สงครามอิเล็กทรอนิกส์(EW) ส่งผลให้โดรนทั้งหมดของรัสเซียไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกต่อไป

    กองทัพรัสเซียได้เร่งพัฒนาโดรนเพื่อเอาชนะปัญหาการรบกวนสัญญาณ ด้วยการนำสายเคเบิลใยแก้วนำแสง(Fiber Optic) มาใช้ วิธีการนี้คล้ายกับขีปนาวุธนำวิถีด้วยสาย เช่น ระบบ TOW ซึ่งช่วยให้สามารถส่งสัญญาณวิดีโอความละเอียดสูงได้โดยไม่ต้องพึ่งคลื่นวิทยุ ดังนั้น โดรนใยแก้วนำแสงจึงสามารถต่อต้านการโจมตีที่อาศัยการสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (EW) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ช่วงกลางเดือนสิงหาคม มีการเผยแพร่ภาพวิดีโอจากโดรน FPV ของรัสเซียที่มีความชัดเจนอย่างผิดปกติและไม่มีสิ่งรบกวน ถือว่านี่เป็นหลักฐานครั้งแรกของการใช้โดรนใยแก้วนำแสง (Fiber Optic Drones)

    Jan Hartmann ผู้ก่อตั้งร่วมของ HIGHCAT อธิบายว่า สายเคเบิลใยแก้วมีแรงเพียง 8 ออนซ์/250 กรัมต่อโดรน จึงไม่ขัดขวางการบิน โดรนมีระยะบินสูงสุด 12 ไมล์/20 กิโลเมตร โดรนจะทิ้งสายเคเบิลไว้ข้างหลังเหมือนเศษขนมปัง จึงไม่พันกัน
    #1 การทดสอบใช้โดรนที่นำทางด้วยใยแก้วนำแสง (Fiber Optic Drones) ของกองทัพรัสเซีย เพื่อตอบโต้ปฏิบัติการของยูเครนในภูมิภาคเคิร์ส ได้รับผลลัพธ์ที่ดีมาก จนถึงขณะนี้มีการกระจายใช้ในหลายพื้นที่ทั้ง Donetsk และ Zaporozhye (Zaporizhzhya) และซึ่งอาจเปลี่ยนเกมในสงครามได้ ในช่วงเริ่มต้นของการบุกภูมิภาคเคิร์ส ฝ่ายยูเครนเตรียมการมาเป็นอย่างดี มีการติดตั้งอุปกรณ์รบกวนสัญญาณของโดรนลาดตระเวน รวมทั้งโดรน FPV ของรัสเซียด้วยการใช้สงครามอิเล็กทรอนิกส์(EW) ส่งผลให้โดรนทั้งหมดของรัสเซียไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกต่อไป กองทัพรัสเซียได้เร่งพัฒนาโดรนเพื่อเอาชนะปัญหาการรบกวนสัญญาณ ด้วยการนำสายเคเบิลใยแก้วนำแสง(Fiber Optic) มาใช้ วิธีการนี้คล้ายกับขีปนาวุธนำวิถีด้วยสาย เช่น ระบบ TOW ซึ่งช่วยให้สามารถส่งสัญญาณวิดีโอความละเอียดสูงได้โดยไม่ต้องพึ่งคลื่นวิทยุ ดังนั้น โดรนใยแก้วนำแสงจึงสามารถต่อต้านการโจมตีที่อาศัยการสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (EW) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วงกลางเดือนสิงหาคม มีการเผยแพร่ภาพวิดีโอจากโดรน FPV ของรัสเซียที่มีความชัดเจนอย่างผิดปกติและไม่มีสิ่งรบกวน ถือว่านี่เป็นหลักฐานครั้งแรกของการใช้โดรนใยแก้วนำแสง (Fiber Optic Drones) Jan Hartmann ผู้ก่อตั้งร่วมของ HIGHCAT อธิบายว่า สายเคเบิลใยแก้วมีแรงเพียง 8 ออนซ์/250 กรัมต่อโดรน จึงไม่ขัดขวางการบิน โดรนมีระยะบินสูงสุด 12 ไมล์/20 กิโลเมตร โดรนจะทิ้งสายเคเบิลไว้ข้างหลังเหมือนเศษขนมปัง จึงไม่พันกัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • #2

    การทดสอบใช้โดรนที่นำทางด้วยใยแก้วนำแสง (Fiber Optic Drones) ของกองทัพรัสเซีย เพื่อตอบโต้ปฏิบัติการของยูเครนในภูมิภาคเคิร์ส ได้รับผลลัพธ์ที่ดีมาก จนถึงขณะนี้มีการกระจายใช้ในหลายพื้นที่ทั้ง Donetsk และ Zaporozhye (Zaporizhzhya) และซึ่งอาจเปลี่ยนเกมในสงครามได้

    ในช่วงเริ่มต้นของการบุกภูมิภาคเคิร์ส ฝ่ายยูเครนเตรียมการมาเป็นอย่างดี มีการติดตั้งอุปกรณ์รบกวนสัญญาณของโดรนลาดตระเวน รวมทั้งโดรน FPV ของรัสเซียด้วยการใช้สงครามอิเล็กทรอนิกส์(EW) ส่งผลให้โดรนทั้งหมดของรัสเซียไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกต่อไป

    กองทัพรัสเซียได้เร่งพัฒนาโดรนเพื่อเอาชนะปัญหาการรบกวนสัญญาณ ด้วยการนำสายเคเบิลใยแก้วนำแสง(Fiber Optic) มาใช้ วิธีการนี้คล้ายกับขีปนาวุธนำวิถีด้วยสาย เช่น ระบบ TOW ซึ่งช่วยให้สามารถส่งสัญญาณวิดีโอความละเอียดสูงได้โดยไม่ต้องพึ่งคลื่นวิทยุ ดังนั้น โดรนใยแก้วนำแสงจึงสามารถต่อต้านการโจมตีที่อาศัยการสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (EW) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ช่วงกลางเดือนสิงหาคม มีการเผยแพร่ภาพวิดีโอจากโดรน FPV ของรัสเซียที่มีความชัดเจนอย่างผิดปกติและไม่มีสิ่งรบกวน ถือว่านี่เป็นหลักฐานครั้งแรกของการใช้โดรนใยแก้วนำแสง (Fiber Optic Drones)

    Jan Hartmann ผู้ก่อตั้งร่วมของ HIGHCAT อธิบายว่า สายเคเบิลใยแก้วมีแรงเพียง 8 ออนซ์/250 กรัมต่อโดรน จึงไม่ขัดขวางการบิน โดรนมีระยะบินสูงสุด 12 ไมล์/20 กิโลเมตร โดรนจะทิ้งสายเคเบิลไว้ข้างหลังเหมือนเศษขนมปัง จึงไม่พันกัน
    #2 การทดสอบใช้โดรนที่นำทางด้วยใยแก้วนำแสง (Fiber Optic Drones) ของกองทัพรัสเซีย เพื่อตอบโต้ปฏิบัติการของยูเครนในภูมิภาคเคิร์ส ได้รับผลลัพธ์ที่ดีมาก จนถึงขณะนี้มีการกระจายใช้ในหลายพื้นที่ทั้ง Donetsk และ Zaporozhye (Zaporizhzhya) และซึ่งอาจเปลี่ยนเกมในสงครามได้ ในช่วงเริ่มต้นของการบุกภูมิภาคเคิร์ส ฝ่ายยูเครนเตรียมการมาเป็นอย่างดี มีการติดตั้งอุปกรณ์รบกวนสัญญาณของโดรนลาดตระเวน รวมทั้งโดรน FPV ของรัสเซียด้วยการใช้สงครามอิเล็กทรอนิกส์(EW) ส่งผลให้โดรนทั้งหมดของรัสเซียไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกต่อไป กองทัพรัสเซียได้เร่งพัฒนาโดรนเพื่อเอาชนะปัญหาการรบกวนสัญญาณ ด้วยการนำสายเคเบิลใยแก้วนำแสง(Fiber Optic) มาใช้ วิธีการนี้คล้ายกับขีปนาวุธนำวิถีด้วยสาย เช่น ระบบ TOW ซึ่งช่วยให้สามารถส่งสัญญาณวิดีโอความละเอียดสูงได้โดยไม่ต้องพึ่งคลื่นวิทยุ ดังนั้น โดรนใยแก้วนำแสงจึงสามารถต่อต้านการโจมตีที่อาศัยการสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (EW) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วงกลางเดือนสิงหาคม มีการเผยแพร่ภาพวิดีโอจากโดรน FPV ของรัสเซียที่มีความชัดเจนอย่างผิดปกติและไม่มีสิ่งรบกวน ถือว่านี่เป็นหลักฐานครั้งแรกของการใช้โดรนใยแก้วนำแสง (Fiber Optic Drones) Jan Hartmann ผู้ก่อตั้งร่วมของ HIGHCAT อธิบายว่า สายเคเบิลใยแก้วมีแรงเพียง 8 ออนซ์/250 กรัมต่อโดรน จึงไม่ขัดขวางการบิน โดรนมีระยะบินสูงสุด 12 ไมล์/20 กิโลเมตร โดรนจะทิ้งสายเคเบิลไว้ข้างหลังเหมือนเศษขนมปัง จึงไม่พันกัน
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • #3

    การทดสอบใช้โดรนที่นำทางด้วยใยแก้วนำแสง (Fiber Optic Drones) ของกองทัพรัสเซีย เพื่อตอบโต้ปฏิบัติการของยูเครนในภูมิภาคเคิร์ส ได้รับผลลัพธ์ที่ดีมาก จนถึงขณะนี้มีการกระจายใช้ในหลายพื้นที่ทั้ง Donetsk และ Zaporozhye (Zaporizhzhya) และซึ่งอาจเปลี่ยนเกมในสงครามได้

    ในช่วงเริ่มต้นของการบุกภูมิภาคเคิร์ส ฝ่ายยูเครนเตรียมการมาเป็นอย่างดี มีการติดตั้งอุปกรณ์รบกวนสัญญาณของโดรนลาดตระเวน รวมทั้งโดรน FPV ของรัสเซียด้วยการใช้สงครามอิเล็กทรอนิกส์(EW) ส่งผลให้โดรนทั้งหมดของรัสเซียไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกต่อไป

    กองทัพรัสเซียได้เร่งพัฒนาโดรนเพื่อเอาชนะปัญหาการรบกวนสัญญาณ ด้วยการนำสายเคเบิลใยแก้วนำแสง(Fiber Optic) มาใช้ วิธีการนี้คล้ายกับขีปนาวุธนำวิถีด้วยสาย เช่น ระบบ TOW ซึ่งช่วยให้สามารถส่งสัญญาณวิดีโอความละเอียดสูงได้โดยไม่ต้องพึ่งคลื่นวิทยุ ดังนั้น โดรนใยแก้วนำแสงจึงสามารถต่อต้านการโจมตีที่อาศัยการสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (EW) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ช่วงกลางเดือนสิงหาคม มีการเผยแพร่ภาพวิดีโอจากโดรน FPV ของรัสเซียที่มีความชัดเจนอย่างผิดปกติและไม่มีสิ่งรบกวน ถือว่านี่เป็นหลักฐานครั้งแรกของการใช้โดรนใยแก้วนำแสง (Fiber Optic Drones)

    Jan Hartmann ผู้ก่อตั้งร่วมของ HIGHCAT อธิบายว่า สายเคเบิลใยแก้วมีแรงเพียง 8 ออนซ์/250 กรัมต่อโดรน จึงไม่ขัดขวางการบิน โดรนมีระยะบินสูงสุด 12 ไมล์/20 กิโลเมตร โดรนจะทิ้งสายเคเบิลไว้ข้างหลังเหมือนเศษขนมปัง จึงไม่พันกัน
    #3 การทดสอบใช้โดรนที่นำทางด้วยใยแก้วนำแสง (Fiber Optic Drones) ของกองทัพรัสเซีย เพื่อตอบโต้ปฏิบัติการของยูเครนในภูมิภาคเคิร์ส ได้รับผลลัพธ์ที่ดีมาก จนถึงขณะนี้มีการกระจายใช้ในหลายพื้นที่ทั้ง Donetsk และ Zaporozhye (Zaporizhzhya) และซึ่งอาจเปลี่ยนเกมในสงครามได้ ในช่วงเริ่มต้นของการบุกภูมิภาคเคิร์ส ฝ่ายยูเครนเตรียมการมาเป็นอย่างดี มีการติดตั้งอุปกรณ์รบกวนสัญญาณของโดรนลาดตระเวน รวมทั้งโดรน FPV ของรัสเซียด้วยการใช้สงครามอิเล็กทรอนิกส์(EW) ส่งผลให้โดรนทั้งหมดของรัสเซียไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกต่อไป กองทัพรัสเซียได้เร่งพัฒนาโดรนเพื่อเอาชนะปัญหาการรบกวนสัญญาณ ด้วยการนำสายเคเบิลใยแก้วนำแสง(Fiber Optic) มาใช้ วิธีการนี้คล้ายกับขีปนาวุธนำวิถีด้วยสาย เช่น ระบบ TOW ซึ่งช่วยให้สามารถส่งสัญญาณวิดีโอความละเอียดสูงได้โดยไม่ต้องพึ่งคลื่นวิทยุ ดังนั้น โดรนใยแก้วนำแสงจึงสามารถต่อต้านการโจมตีที่อาศัยการสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (EW) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วงกลางเดือนสิงหาคม มีการเผยแพร่ภาพวิดีโอจากโดรน FPV ของรัสเซียที่มีความชัดเจนอย่างผิดปกติและไม่มีสิ่งรบกวน ถือว่านี่เป็นหลักฐานครั้งแรกของการใช้โดรนใยแก้วนำแสง (Fiber Optic Drones) Jan Hartmann ผู้ก่อตั้งร่วมของ HIGHCAT อธิบายว่า สายเคเบิลใยแก้วมีแรงเพียง 8 ออนซ์/250 กรัมต่อโดรน จึงไม่ขัดขวางการบิน โดรนมีระยะบินสูงสุด 12 ไมล์/20 กิโลเมตร โดรนจะทิ้งสายเคเบิลไว้ข้างหลังเหมือนเศษขนมปัง จึงไม่พันกัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำดีแบบแม่นํ้า
    โดย นิลฉงน นลเฉลย
    (อาจารย์หมออรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง)
    “ทำดีแบบแม่น้ำ” ทำอย่างไร ทำไมต้องเป็นแม่น้ำ จริงๆผมเขียนบทความชิ้นนี้ เพราะต้องการให้กำลังใจ
    กับ คนที่ทำความดี คนที่ชอบทำความดี คนที่อยากทำความดี เนื่องจาก ผมมักจะประสบ พบเจอ คนที่ทำ
    เรื่องดีๆ ที่มักประสบปัญหาว่า เรื่องดีเรื่องแรกมักจะชักนำเรื่องดีเรื่องอื่นๆเข้ามา ทำให้มีเรื่องดีๆที่อยากทำมากขึ้นเรื่อยๆ จนคิดว่ามีเวลาไม่พอที่จะทำทุกเรื่อง จะต้องเลือกว่าจะทำเรื่องไหนก่อน ปัญหาคือ พอจะลงมือเลือกก็เห็นว่า เรื่องดีๆแต่ละเรื่อง มีดีไปคนละแบบ เลือกยาก ตัดสินใจลำบาก เลยก่อให้ความกังวล ไม่สบายใจ ทั้งๆที่ตั้งต้นด้วยเรื่องที่ควรสร้างความสบายใจ คือเรื่องการทำความดี ผมคิดว่าพอจะมีทางออก
    สำหรับปัญหาแบบนี้ คือการที่ต้อง “ทำดีแบบแม่น้ำ” เอาละครับทีนี้ ทำดีแบบแม่น้ำคือ อะไร ก่อนจะตอบตรงนี้ ผมขออธิบายเรื่องการทำดี ๒ แบบ คือ แบบ แอ่งน้ำ และแบบลำธาร ก่อน
    การทำดีแบบ แอ่งน้ำ คือการทำดีที่อยู่กับที่ ทำของเราให้ดีที่อาจจะมีการขยาย แต่เป็นการขยายให้แอ่งน้ำนั้น ใหญ่ขึ้น กว้างขึ้น ไม่คิดจะขับเคลื่อนอะไร ไม่มีเป้ าหมายที่จะผลักดันเรื่องดีๆนี้ไปที่อื่น ทำอยู่เฉพาะตัว
    เฉพาะที่ที่เรา ควบคุมได้ ไม่ยุ่งไม่เชื่อมต่อกับใคร มุ่งแต่ทำให้แอ่งน้ำนั้นใสสะอาด และหวังว่าจะมี น้ำดีไหล มารวมกันมากขึ้น
    การทำดีแบบถัดไปคือการทำดีแบบ ลำธาร คือ การทำดีที่เริ่ม มีเป้าหมาย มีแรงผลักดัน อยากจะให้เรื่องดีที่ได้ทำแล้วนั้น ถ่ายทอดไปยังที่อื่น พอเริ่มเคลื่อนไหว ก็เป็นธรรมดาที่ลำธารจะไหล ผ่านแอ่งน้ำ แล้วก็จะเริ่ม
    มีแอ่งน้ำใหม่ๆ ที่อยากเข้ามาร่วมอยู่ในลำธารสายนี้ ถึงตอนนี้ ลำธารก็จะเริ่มกังวล แค่เรื่องที่ลำธารอยากจะผลักดัน ยังทำไม่ไหว ลำธารเล็กๆ อย่างเรา จะรับเรื่องอื่นๆได้หรือ จะมีแรงพอที่จะฝ่าฟันอุปสรรคที่ขวางทางอยู่หรือ
    ทั้งการทำดีแบบแอ่งน้ำ และการทำดีแบบ ลำธาร ผู้ที่ทำจะรู้สึกว่าเราเป็น “เจ้าของ” เรื่องนั้น เป็น ผู้ที่ต้องรับผิดชอบในชะตากรรม ของ แอ่งน้ำ และ ลำธาร ที่สร้างขึ้น ความกังวลนี้เอง ที่บางครั้งก่อให้เกิดความท้อ
    เราจะทำได้ไหม เราจะทำไหวไหม ถ้ามีน้ำเสียเข้ามาปนเปื้อนมากๆ ลำธาร หรือแอ่งน้ำของเรา จะยังคงเป็นน้ำดี อยู่ไหม กังวลกลัวคนไม่ดีจะมาทำให้เรื่องดีๆที่เราทำเอาไว้ “เสียหาย” พลอยทำให้ท้อ ไม่อยากทำต่อ ไม่อยากขยาย เพราะกลัวควบคุมไม่ได้ กลัวว่ากำลังจะไม่พอ
    การทำดีแบบสุดท้ายคือการทำดีแบบ แม่น้ำ ถ้าท่านนึกถึงแม่น้ำที่ยิ่งใหญ่สักสายหนึ่ง ท่านจะพบว่า แม่น้ำสายนั้น มีก่อกำเนิดมาจาก แอ่งน้ำและ ลำธาร หลายร้อยสาย เมื่อมารวมกันเป็ นสายน้ำแล้ว จะมีพลังขับเคลื่อนที่มากมาย กลายเป็นสายน้ำที่เชี่ยวกราก ไหลไปสู่เป้าหมาย ถึงแม้กระแสน้ำจะเจอ อุปสรรค โขดหิน หรือ ภูเขาตั้งขวาง กระแสน้ำนั้นก็ยังคงพุ่งทะยาน ผ่านอุปสรรคเหล่านั้นไปได้ หลายครั้งหลายคราที่แม่น้ำจะมีสิ่งปฏิกูล ของโสโครกไหลมาปนเปื้อน แต่ด้วยความยิ่งใหญ่ของสายน้ำ แม่น้ำก็สามารถพัดพาสิ่งปฏิกูลเหล่านั้นทิ้งไปได้ การทำดีแบบสายน้ำก็เช่นกัน ที่สำคัญคือถ้าเราจะทำดีแบบนั้น
    เราต้องเอาตัวเราเข้าเป็น “ส่วนหนึ่ง” ของกระแสน้ำ เราไม่สามารถเป็น “เจ้าของ” เหมือนตอนที่เราทำแบบ แอ่งน้ำ หรือ ลำธารได้ เราเพียงทำได้แค่ เลือก กระแสน้ำ “ที่มีเป้าหมายร่วม” เหมือนกันกับเรา การที่เรายอมเข้าร่วมในกระแสแห่งการทำดี กระแสธรรม ที่มีเป้ าหมายที่ดีร่วมกันนี้เอง จะช่วยให้เรารับรู้ถึงพลังอันยิ่งใหญ่ไพศาลของกระแสน้ำ ลดความกังวลว่าเราจะทำเรื่องนั้นไหวไหม ได้ไหม เพราะเราไม่ใช่ผู้ที่กุมชะตาของกระแสน้ำอีก
    ต่อไป เราเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ที่มีพลังขับเคลื่อนไปสู่เป้ าหมายใหญ่ ในขณะเดียวกัน เราก็เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ที่ไม่ต้องกังวลว่าจะรับผิดชอบเป้ าหมายที่ใหญ่นั้นได้หรือไม่
    นี่ละครับคือการทำดี แบบ แม่น้ำ การทำดีที่ยอมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกระแสแห่งความดี ถ้าทำได้แบบนี้ เรื่องดีต่างๆ ที่เราเคยคิดว่า จะทำได้ไหมหนอ จะทำไหวไหมหนอ ก็จะกลายเป็นเรื่อง ที่ทำได้ ทำไหว แต่ไม่ใช่เราคนเดียวทำ แต่เป็นพวกเราที่ร่วมอยู่ในกระแสน้ำแห่งธรรมนี้ ร่วมกันทำ หัวใจสำคัญของการทำดีแบบแม่น้ำ คือ ต้องตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนร่วมกัน เป้าหมายนั้นต้องเป็นเรื่องที่ดี ต้องเป็นเป้าหมายที่ใหญ่ จะเป็นเป้าหมายแคบๆ เฉพาะตนไม่ได้ แม่น้ำต้องใจกว้างยอมรับการเข้าร่วมของลำธารทุกสายที่มีเป้าหมาย
    ร่วมกันได้ หลายคนอาจสงสัยว่า ถ้ามีลำธารน้ำเสียไหลมารวม จะไม่พลอยทำให้น้ำในแม่น้ำเสียหรือ ไม่ครับ เพราะแม่น้ำมุ่งไปที่เป้า ไม่ได้สนใจที่ความบริสุทธิ์ของสายน้ำ ตราบใดที่เป้าหมายนั้นดี เป็นธรรมดาที่จะมี
    น้ำดีไหลเข้ามารวมมากกว่าน้ำเสีย (ถ้ามีน้ำเสียไหลมารวมมากต้องสงสัยว่าเป้าหมายนั้นดีจริงหรือ) น้ำเสียส่วนน้อยที่ไหลมารวมในแม่น้ำก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันแม่น้ำให้ไปถึงเป้ าหมายได้เช่นกัน การทำดีแบบแม่น้ำจะทำโดยไม่กังวลว่า คนที่ทำกับเราเขาดีจริงหรือ ตราบใดที่เป้ าหมายที่เขามีตรงกันกับเรา ที่สำคัญ คือ แม่น้ำแห่งความดีนี้มีหลายสาย คนบางคนที่ทำตัวเป็นโขดหินขวางทางน้ำในบางเรื่อง อาจกลายเป็นสายน้ำที่ร่วมขับเคลื่อนเรื่องดีๆเรื่องอื่น ครับ หวังว่าท่านผู้อ่าน จะพอมองเห็นภาพ การทำดีแบบแม่น้ำได้ชัดขึ้น และมีแรงใจที่จะทำความดีต่อไปครับ
    บุญกุศลอันใด ที่เกิดจากบทความชิ้นนี้ ขอมอบอุทิศถวายแด่ ล้นเกล้ารัชกาลที่สาม พร้อมทั้งพระประยูรวงศานุวงศ์ และข้าราชบริพาร ทุกท่าน ทุกพระองค์ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ใดๆทั้งสิ้น สามารถนำไปแจกจ่าย คัดลอก ทำซ้ำ ได้ตามต้องการ
    หากมีข้อซักถาม ข้อแนะนำหรืออยากแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่เกิดจากการอ่านบทความชิ้นนี้ กรุณาส่ง อีเมลมาที่
    นิลฉงน นลเฉลย <nilchangonnolchaloey@gmail.com>
    ทำดีแบบแม่นํ้า โดย นิลฉงน นลเฉลย (อาจารย์หมออรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง) “ทำดีแบบแม่น้ำ” ทำอย่างไร ทำไมต้องเป็นแม่น้ำ จริงๆผมเขียนบทความชิ้นนี้ เพราะต้องการให้กำลังใจ กับ คนที่ทำความดี คนที่ชอบทำความดี คนที่อยากทำความดี เนื่องจาก ผมมักจะประสบ พบเจอ คนที่ทำ เรื่องดีๆ ที่มักประสบปัญหาว่า เรื่องดีเรื่องแรกมักจะชักนำเรื่องดีเรื่องอื่นๆเข้ามา ทำให้มีเรื่องดีๆที่อยากทำมากขึ้นเรื่อยๆ จนคิดว่ามีเวลาไม่พอที่จะทำทุกเรื่อง จะต้องเลือกว่าจะทำเรื่องไหนก่อน ปัญหาคือ พอจะลงมือเลือกก็เห็นว่า เรื่องดีๆแต่ละเรื่อง มีดีไปคนละแบบ เลือกยาก ตัดสินใจลำบาก เลยก่อให้ความกังวล ไม่สบายใจ ทั้งๆที่ตั้งต้นด้วยเรื่องที่ควรสร้างความสบายใจ คือเรื่องการทำความดี ผมคิดว่าพอจะมีทางออก สำหรับปัญหาแบบนี้ คือการที่ต้อง “ทำดีแบบแม่น้ำ” เอาละครับทีนี้ ทำดีแบบแม่น้ำคือ อะไร ก่อนจะตอบตรงนี้ ผมขออธิบายเรื่องการทำดี ๒ แบบ คือ แบบ แอ่งน้ำ และแบบลำธาร ก่อน การทำดีแบบ แอ่งน้ำ คือการทำดีที่อยู่กับที่ ทำของเราให้ดีที่อาจจะมีการขยาย แต่เป็นการขยายให้แอ่งน้ำนั้น ใหญ่ขึ้น กว้างขึ้น ไม่คิดจะขับเคลื่อนอะไร ไม่มีเป้ าหมายที่จะผลักดันเรื่องดีๆนี้ไปที่อื่น ทำอยู่เฉพาะตัว เฉพาะที่ที่เรา ควบคุมได้ ไม่ยุ่งไม่เชื่อมต่อกับใคร มุ่งแต่ทำให้แอ่งน้ำนั้นใสสะอาด และหวังว่าจะมี น้ำดีไหล มารวมกันมากขึ้น การทำดีแบบถัดไปคือการทำดีแบบ ลำธาร คือ การทำดีที่เริ่ม มีเป้าหมาย มีแรงผลักดัน อยากจะให้เรื่องดีที่ได้ทำแล้วนั้น ถ่ายทอดไปยังที่อื่น พอเริ่มเคลื่อนไหว ก็เป็นธรรมดาที่ลำธารจะไหล ผ่านแอ่งน้ำ แล้วก็จะเริ่ม มีแอ่งน้ำใหม่ๆ ที่อยากเข้ามาร่วมอยู่ในลำธารสายนี้ ถึงตอนนี้ ลำธารก็จะเริ่มกังวล แค่เรื่องที่ลำธารอยากจะผลักดัน ยังทำไม่ไหว ลำธารเล็กๆ อย่างเรา จะรับเรื่องอื่นๆได้หรือ จะมีแรงพอที่จะฝ่าฟันอุปสรรคที่ขวางทางอยู่หรือ ทั้งการทำดีแบบแอ่งน้ำ และการทำดีแบบ ลำธาร ผู้ที่ทำจะรู้สึกว่าเราเป็น “เจ้าของ” เรื่องนั้น เป็น ผู้ที่ต้องรับผิดชอบในชะตากรรม ของ แอ่งน้ำ และ ลำธาร ที่สร้างขึ้น ความกังวลนี้เอง ที่บางครั้งก่อให้เกิดความท้อ เราจะทำได้ไหม เราจะทำไหวไหม ถ้ามีน้ำเสียเข้ามาปนเปื้อนมากๆ ลำธาร หรือแอ่งน้ำของเรา จะยังคงเป็นน้ำดี อยู่ไหม กังวลกลัวคนไม่ดีจะมาทำให้เรื่องดีๆที่เราทำเอาไว้ “เสียหาย” พลอยทำให้ท้อ ไม่อยากทำต่อ ไม่อยากขยาย เพราะกลัวควบคุมไม่ได้ กลัวว่ากำลังจะไม่พอ การทำดีแบบสุดท้ายคือการทำดีแบบ แม่น้ำ ถ้าท่านนึกถึงแม่น้ำที่ยิ่งใหญ่สักสายหนึ่ง ท่านจะพบว่า แม่น้ำสายนั้น มีก่อกำเนิดมาจาก แอ่งน้ำและ ลำธาร หลายร้อยสาย เมื่อมารวมกันเป็ นสายน้ำแล้ว จะมีพลังขับเคลื่อนที่มากมาย กลายเป็นสายน้ำที่เชี่ยวกราก ไหลไปสู่เป้าหมาย ถึงแม้กระแสน้ำจะเจอ อุปสรรค โขดหิน หรือ ภูเขาตั้งขวาง กระแสน้ำนั้นก็ยังคงพุ่งทะยาน ผ่านอุปสรรคเหล่านั้นไปได้ หลายครั้งหลายคราที่แม่น้ำจะมีสิ่งปฏิกูล ของโสโครกไหลมาปนเปื้อน แต่ด้วยความยิ่งใหญ่ของสายน้ำ แม่น้ำก็สามารถพัดพาสิ่งปฏิกูลเหล่านั้นทิ้งไปได้ การทำดีแบบสายน้ำก็เช่นกัน ที่สำคัญคือถ้าเราจะทำดีแบบนั้น เราต้องเอาตัวเราเข้าเป็น “ส่วนหนึ่ง” ของกระแสน้ำ เราไม่สามารถเป็น “เจ้าของ” เหมือนตอนที่เราทำแบบ แอ่งน้ำ หรือ ลำธารได้ เราเพียงทำได้แค่ เลือก กระแสน้ำ “ที่มีเป้าหมายร่วม” เหมือนกันกับเรา การที่เรายอมเข้าร่วมในกระแสแห่งการทำดี กระแสธรรม ที่มีเป้ าหมายที่ดีร่วมกันนี้เอง จะช่วยให้เรารับรู้ถึงพลังอันยิ่งใหญ่ไพศาลของกระแสน้ำ ลดความกังวลว่าเราจะทำเรื่องนั้นไหวไหม ได้ไหม เพราะเราไม่ใช่ผู้ที่กุมชะตาของกระแสน้ำอีก ต่อไป เราเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ที่มีพลังขับเคลื่อนไปสู่เป้ าหมายใหญ่ ในขณะเดียวกัน เราก็เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ที่ไม่ต้องกังวลว่าจะรับผิดชอบเป้ าหมายที่ใหญ่นั้นได้หรือไม่ นี่ละครับคือการทำดี แบบ แม่น้ำ การทำดีที่ยอมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกระแสแห่งความดี ถ้าทำได้แบบนี้ เรื่องดีต่างๆ ที่เราเคยคิดว่า จะทำได้ไหมหนอ จะทำไหวไหมหนอ ก็จะกลายเป็นเรื่อง ที่ทำได้ ทำไหว แต่ไม่ใช่เราคนเดียวทำ แต่เป็นพวกเราที่ร่วมอยู่ในกระแสน้ำแห่งธรรมนี้ ร่วมกันทำ หัวใจสำคัญของการทำดีแบบแม่น้ำ คือ ต้องตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนร่วมกัน เป้าหมายนั้นต้องเป็นเรื่องที่ดี ต้องเป็นเป้าหมายที่ใหญ่ จะเป็นเป้าหมายแคบๆ เฉพาะตนไม่ได้ แม่น้ำต้องใจกว้างยอมรับการเข้าร่วมของลำธารทุกสายที่มีเป้าหมาย ร่วมกันได้ หลายคนอาจสงสัยว่า ถ้ามีลำธารน้ำเสียไหลมารวม จะไม่พลอยทำให้น้ำในแม่น้ำเสียหรือ ไม่ครับ เพราะแม่น้ำมุ่งไปที่เป้า ไม่ได้สนใจที่ความบริสุทธิ์ของสายน้ำ ตราบใดที่เป้าหมายนั้นดี เป็นธรรมดาที่จะมี น้ำดีไหลเข้ามารวมมากกว่าน้ำเสีย (ถ้ามีน้ำเสียไหลมารวมมากต้องสงสัยว่าเป้าหมายนั้นดีจริงหรือ) น้ำเสียส่วนน้อยที่ไหลมารวมในแม่น้ำก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันแม่น้ำให้ไปถึงเป้ าหมายได้เช่นกัน การทำดีแบบแม่น้ำจะทำโดยไม่กังวลว่า คนที่ทำกับเราเขาดีจริงหรือ ตราบใดที่เป้ าหมายที่เขามีตรงกันกับเรา ที่สำคัญ คือ แม่น้ำแห่งความดีนี้มีหลายสาย คนบางคนที่ทำตัวเป็นโขดหินขวางทางน้ำในบางเรื่อง อาจกลายเป็นสายน้ำที่ร่วมขับเคลื่อนเรื่องดีๆเรื่องอื่น ครับ หวังว่าท่านผู้อ่าน จะพอมองเห็นภาพ การทำดีแบบแม่น้ำได้ชัดขึ้น และมีแรงใจที่จะทำความดีต่อไปครับ บุญกุศลอันใด ที่เกิดจากบทความชิ้นนี้ ขอมอบอุทิศถวายแด่ ล้นเกล้ารัชกาลที่สาม พร้อมทั้งพระประยูรวงศานุวงศ์ และข้าราชบริพาร ทุกท่าน ทุกพระองค์ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ใดๆทั้งสิ้น สามารถนำไปแจกจ่าย คัดลอก ทำซ้ำ ได้ตามต้องการ หากมีข้อซักถาม ข้อแนะนำหรืออยากแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่เกิดจากการอ่านบทความชิ้นนี้ กรุณาส่ง อีเมลมาที่ นิลฉงน นลเฉลย <nilchangonnolchaloey@gmail.com>
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • เครื่องบินขับไล่ Su-57 รุ่นที่ 5 ของรัสเซีย เดินทางถึงประเทศจีนเพื่อเข้าร่วมงานนิทรรศการการบินและอวกาศ Airshow China 2024 ที่เมืองจูไห่

    นอกจากนี้เครื่องบิน Su-57 แล้ว เครื่องบิน Su-35 ยังได้เข้าร่วมเดินทางมาจีนเพื่อแสดงการบินผาดโผน Russian Knights อีกด้วย
    เครื่องบินขับไล่ Su-57 รุ่นที่ 5 ของรัสเซีย เดินทางถึงประเทศจีนเพื่อเข้าร่วมงานนิทรรศการการบินและอวกาศ Airshow China 2024 ที่เมืองจูไห่ นอกจากนี้เครื่องบิน Su-57 แล้ว เครื่องบิน Su-35 ยังได้เข้าร่วมเดินทางมาจีนเพื่อแสดงการบินผาดโผน Russian Knights อีกด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • TikTok@kiang_wang #โขนพระราชทาน #สมเด็จพระพันปีหลวง #ราชวงศ์จักรี #เคียงวัง #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    TikTok@kiang_wang #โขนพระราชทาน #สมเด็จพระพันปีหลวง #ราชวงศ์จักรี #เคียงวัง #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 253 มุมมอง 87 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google และแอมเนสตี้ได้เห็นหลักฐานว่าช่องโหว่ของชิปเซ็ต Qualcomm หมายเลข CVE-2024-43047 อาจถูกใช้ประโยชน์ในวงกว้าง จากการถูกควบคุมระยะไกลผ่านการใช้ช่องโหว่นี้

    #เผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สู่สังคม
    #ตัวแทนพลังบุญ
    #ที่ปรึกษาประกันชีวิตและประกันวินาศภัย
    #ประกันชีวิตควบการลงทุน
    #ที่ปรึกษาการลงทุน
    #ประสบการณ์ด้านการประกันกว่า20ปี
    #ThaiTimes
    Google และแอมเนสตี้ได้เห็นหลักฐานว่าช่องโหว่ของชิปเซ็ต Qualcomm หมายเลข CVE-2024-43047 อาจถูกใช้ประโยชน์ในวงกว้าง จากการถูกควบคุมระยะไกลผ่านการใช้ช่องโหว่นี้ #เผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สู่สังคม #ตัวแทนพลังบุญ #ที่ปรึกษาประกันชีวิตและประกันวินาศภัย #ประกันชีวิตควบการลงทุน #ที่ปรึกษาการลงทุน #ประสบการณ์ด้านการประกันกว่า20ปี #ThaiTimes
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://healthcoachnatalie.podia.com/vaxx
    https://healthcoachnatalie.podia.com/vaxx
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 43 0 รีวิว
  • ดร. มาซารุ อิโมโต
    เป็นแพทย์แผนใหม่ชาวญี่ปุ่น
    ที่ได้ทำการวิจัยศึกษาเกี่ยวกับผลึกของน้ำ
    ได้ค้นพบว่าจิตของมนุษย์และสภาพแวดล้อม
    รอบตัวนั้นมีผลต่อการก่อตัวของผลึกน้ำ
    และได้เขียนหนังสือจากงานวิจัยของเขา
    ชื่อ Hidden Messages in Water
    และได้ตีพิมพ์ขายทั่วโลกได้มากกว่า สี่แสนเล่ม
    เขาได้ทำการพิสูจน์แล้วว่าความคิด
    และความรู้สึกของมนุษย์นั้น
    สามารถเปลี่ยนแปลงโลกในสามมิติได้
    เขาได้ใช้กล้องจุลทรรศน์
    ที่มีกำลังขยายสูงถ่ายภาพในอุณหภูมิต่ำ
    ในช่วงที่ผลึกน้ำพึ่งก่อตัวใหม่ๆ
    ซึ่งน้ำที่อยู่ในสภาพต่างกัน
    จะก่อตัวเป็นผลึกไม่เหมือนกัน
    เขาได้พบว่าถ้าตัวอย่างน้ำ
    ที่เก็บมาจากสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน
    เพี่อทำให้เย็นจะก่อตัวเป็นผลึกรูปร่างไม่เหมือนกัน
    โดยน้ำที่มาจากสถานที่ตามธรรมชาติ
    จะก่อตัวเป็นผลึกที่สวยงาม
    กว่าน้ำที่เก็บตัวอย่างใกล้ๆกับโรงงานอุตสาหกรรม
    ซึ่งน้ำจากพี้นที่ที่มีมลภาวะเป็นพิษนั้น
    จะไม่ก่อตัวเป็นผลึกเลย
    เสียงเพลงก็ยังมีอิทธิพลต่อผลึกของน้ำเช่นกัน
    เพลงทีมีความไพเราะก็จะก่อผลึกเป็นรูปร่างสวยงาม
    ไม่เหมือนกัน
    นอกจากนั้นแล้วเขาได้ทำการเปรียบเทียบ
    ผลึกของน้ำที่ก่อตัวโดยไม่ได้รับการอวยพร
    เทียบกับน้ำที่ได้รับการอวยพร
    พบว่า น้ำที่ได้รับการอวยพรนั้นจะมีผลึกสวยงาม
    เมื่อเทียบกับน้ำที่ไม่ได้รับการอวยพร
    โดยที่น้ำที่ไม่ได้รับการอวยพรไม่ก่อตัวเป็นผลึก
    สุดท้ายถ้าตัวอักษรหรือ
    คำพูดปิดไว้ที่ภาชนะใส่น้ำแล้ว
    ทำให้ก่อตัวเป็นผลึกขึ้นของน้ำ
    ก็จะได้ผลึกรูปร่างที่ต่างกันออกไป
    โดยข้อความที่มีความไพเราะ
    จะช่วยให้น้ำมีผลึกที่สวยงาม
    มากกว่าข้อความที่เต็มไปด้วยความรุนแรง
    จากการทดลองทั้งหมด
    พบว่าจิตของมนุษย์นั้น
    มีผลต่อการก่อตัวของผลึกน้ำ
    เนื่องจากการที่มนุษย์มีส่วนประกอบของน้ำ
    มากกว่า 70 เปอร์เซนต์
    ดังนั้นจะเห็นว่าจิตของมนุษย์นั้น
    นอกจากจะมีอิทธิพลต่อร่างกายตัวเองแล้ว
    ยังสามารถมีอิทธิพลต่อสภาพแวดล้อม
    และ คนที่อยู่รอบข้างด้วย
    ถ้าเราคิดในสิ่งที่ดีและทำความดีผู้ที่อยู่รอบข้าง
    จะรู้สึกด้วยเช่นกัน
    และจะทำให้เราใช้ชีวิตอยู่ในโลกได้อย่างมีความสุข
    https://www.youtube.com/watch?v=OI1Iyu7aTqc
    #ผลึกของน้ำ
    #คำพูดดีดี
    #สิ่งแวดล้อมดีดี
    #มาซารุอิโมโต
    #hiddenmassegesinwater
    ดร. มาซารุ อิโมโต เป็นแพทย์แผนใหม่ชาวญี่ปุ่น ที่ได้ทำการวิจัยศึกษาเกี่ยวกับผลึกของน้ำ ได้ค้นพบว่าจิตของมนุษย์และสภาพแวดล้อม รอบตัวนั้นมีผลต่อการก่อตัวของผลึกน้ำ และได้เขียนหนังสือจากงานวิจัยของเขา ชื่อ Hidden Messages in Water และได้ตีพิมพ์ขายทั่วโลกได้มากกว่า สี่แสนเล่ม เขาได้ทำการพิสูจน์แล้วว่าความคิด และความรู้สึกของมนุษย์นั้น สามารถเปลี่ยนแปลงโลกในสามมิติได้ เขาได้ใช้กล้องจุลทรรศน์ ที่มีกำลังขยายสูงถ่ายภาพในอุณหภูมิต่ำ ในช่วงที่ผลึกน้ำพึ่งก่อตัวใหม่ๆ ซึ่งน้ำที่อยู่ในสภาพต่างกัน จะก่อตัวเป็นผลึกไม่เหมือนกัน เขาได้พบว่าถ้าตัวอย่างน้ำ ที่เก็บมาจากสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน เพี่อทำให้เย็นจะก่อตัวเป็นผลึกรูปร่างไม่เหมือนกัน โดยน้ำที่มาจากสถานที่ตามธรรมชาติ จะก่อตัวเป็นผลึกที่สวยงาม กว่าน้ำที่เก็บตัวอย่างใกล้ๆกับโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งน้ำจากพี้นที่ที่มีมลภาวะเป็นพิษนั้น จะไม่ก่อตัวเป็นผลึกเลย เสียงเพลงก็ยังมีอิทธิพลต่อผลึกของน้ำเช่นกัน เพลงทีมีความไพเราะก็จะก่อผลึกเป็นรูปร่างสวยงาม ไม่เหมือนกัน นอกจากนั้นแล้วเขาได้ทำการเปรียบเทียบ ผลึกของน้ำที่ก่อตัวโดยไม่ได้รับการอวยพร เทียบกับน้ำที่ได้รับการอวยพร พบว่า น้ำที่ได้รับการอวยพรนั้นจะมีผลึกสวยงาม เมื่อเทียบกับน้ำที่ไม่ได้รับการอวยพร โดยที่น้ำที่ไม่ได้รับการอวยพรไม่ก่อตัวเป็นผลึก สุดท้ายถ้าตัวอักษรหรือ คำพูดปิดไว้ที่ภาชนะใส่น้ำแล้ว ทำให้ก่อตัวเป็นผลึกขึ้นของน้ำ ก็จะได้ผลึกรูปร่างที่ต่างกันออกไป โดยข้อความที่มีความไพเราะ จะช่วยให้น้ำมีผลึกที่สวยงาม มากกว่าข้อความที่เต็มไปด้วยความรุนแรง จากการทดลองทั้งหมด พบว่าจิตของมนุษย์นั้น มีผลต่อการก่อตัวของผลึกน้ำ เนื่องจากการที่มนุษย์มีส่วนประกอบของน้ำ มากกว่า 70 เปอร์เซนต์ ดังนั้นจะเห็นว่าจิตของมนุษย์นั้น นอกจากจะมีอิทธิพลต่อร่างกายตัวเองแล้ว ยังสามารถมีอิทธิพลต่อสภาพแวดล้อม และ คนที่อยู่รอบข้างด้วย ถ้าเราคิดในสิ่งที่ดีและทำความดีผู้ที่อยู่รอบข้าง จะรู้สึกด้วยเช่นกัน และจะทำให้เราใช้ชีวิตอยู่ในโลกได้อย่างมีความสุข https://www.youtube.com/watch?v=OI1Iyu7aTqc #ผลึกของน้ำ #คำพูดดีดี #สิ่งแวดล้อมดีดี #มาซารุอิโมโต #hiddenmassegesinwater
    Like
    Wow
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชึวิตคือสมมุติ TikTok@yuija6055 #ซีรีส์ #wetv #จางอวิ๋นหลงzhangyunlong #หูอีเทียนhuyitian #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    ชึวิตคือสมมุติ TikTok@yuija6055 #ซีรีส์ #wetv #จางอวิ๋นหลงzhangyunlong #หูอีเทียนhuyitian #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 251 มุมมอง 109 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://open.spotify.com/track/61ZbtcMFQDj8CfEjYZG8mv?si=fV4gfNv1STGNFbrvIh9Gug&pi=16EtfNvbT5KSW #เหนื่อยนักก็พักหน่อย #spotify #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    https://open.spotify.com/track/61ZbtcMFQDj8CfEjYZG8mv?si=fV4gfNv1STGNFbrvIh9Gug&pi=16EtfNvbT5KSW #เหนื่อยนักก็พักหน่อย #spotify #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 220 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu
    https://youtu
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • เสร็จแล้วจร้า..ออกแบบ รีโนเวทร้านอาหาร 50 Bar & Restaurant..สวยงาม..จร้า
    เสร็จแล้วจร้า..ออกแบบ รีโนเวทร้านอาหาร 50 Bar & Restaurant..สวยงาม..จร้า
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • Halloween Night...!!
    Halloween Night...!!
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • อีกหนึ่งเดือนก็จะเหมือนในรูปแล้ว...จ่า
    อีกหนึ่งเดือนก็จะเหมือนในรูปแล้ว...จ่า
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประเทศเราเสียเวลากับพวกนักกินบ้านกินเมืองมาหลายปี พวกเราคนไทยส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากการกระทำของพวกนักการเมืองที่เห็นแก่พวกพ้อง บ้านเมืองไม่เคยสงบสุข มีแต่ลมปากการคอรัปชั่นโกงบ้านโกงเมือง เชื่อฟังนักโทษไม่ว่าทหาร ข้าราชการทุกหมู่เหล่า ทั้งรัฐบาลที่มาจากทหารหรือมาจากการเลือกตั้ง ถือเราผลประโยชน์ของตนเองเป็นหลักอ้างประชาชนบังหน้ากอบโกยผลประโยชน์ของประเทศชาติและอำนาจ ประชาชนก็โดนหลอกไปวัน ๆ ความจริงที่ประชาชนควรรู้ควรมีส่วนร่วมก็ปกปิดอ้างความลับทางราชการพอความจริงปรากฏว่าผิดพลาดก็สายไปที่จะแก้ไขอ้างนู่นนี่นั่น ถ้าถึงที่สุดสักวันก็จะมีอินทรีย์แดงทาจักการข้าราชการนักการเมืองเลวพวกนี้แล้วหาว่าไม่เตือน อย่างคิดว่ามีหน่วยข่าวกรองของรัฐอยู่ในมือจะช่วยได้นะ ขนาดผู้ต้องหาศาลออกหมายจับยังหาจับไม่ได้จนคดีหมดอายุความ ประเทศไทยครับพี่น้อง
    ประเทศเราเสียเวลากับพวกนักกินบ้านกินเมืองมาหลายปี พวกเราคนไทยส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากการกระทำของพวกนักการเมืองที่เห็นแก่พวกพ้อง บ้านเมืองไม่เคยสงบสุข มีแต่ลมปากการคอรัปชั่นโกงบ้านโกงเมือง เชื่อฟังนักโทษไม่ว่าทหาร ข้าราชการทุกหมู่เหล่า ทั้งรัฐบาลที่มาจากทหารหรือมาจากการเลือกตั้ง ถือเราผลประโยชน์ของตนเองเป็นหลักอ้างประชาชนบังหน้ากอบโกยผลประโยชน์ของประเทศชาติและอำนาจ ประชาชนก็โดนหลอกไปวัน ๆ ความจริงที่ประชาชนควรรู้ควรมีส่วนร่วมก็ปกปิดอ้างความลับทางราชการพอความจริงปรากฏว่าผิดพลาดก็สายไปที่จะแก้ไขอ้างนู่นนี่นั่น ถ้าถึงที่สุดสักวันก็จะมีอินทรีย์แดงทาจักการข้าราชการนักการเมืองเลวพวกนี้แล้วหาว่าไม่เตือน อย่างคิดว่ามีหน่วยข่าวกรองของรัฐอยู่ในมือจะช่วยได้นะ ขนาดผู้ต้องหาศาลออกหมายจับยังหาจับไม่ได้จนคดีหมดอายุความ ประเทศไทยครับพี่น้อง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว