• สรุปข่าว วันแรก ในงาน Microsoft Build 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 พฤษภาคม 2568 ที่เมืองซีแอตเทิล

    ในวันแรกมีการประกาศนวัตกรรมสำคัญที่เน้นการพัฒนาเทคโนโลยี AI และเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา โดยสรุปข่าวสำคัญดังนี้:

    1) Microsoft Discovery: เปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ที่ใช้ Agent AI เพื่อพลิกโฉมกระบวนการค้นคว้าและวิจัยวิทยาศาสตร์ ช่วยให้การวิจัยมีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น.

    2) GitHub Copilot ปรับโฉมเป็น Coding Agent: จากเครื่องมือช่วยเขียนโค้ด กลายเป็น "เพื่อนนักพัฒนา" ที่สามารถแก้บั๊ก พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ และจัดการ GitHub Issues ได้โดยอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพนักพัฒนา.

    3) Copilot Tuning: เพิ่มความสามารถในการปรับแต่ง GitHub Copilot ให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะของนักพัฒนา ช่วยให้การเขียนโค้ดเป็นไปอย่างแม่นยำและตรงความต้องการมากขึ้น.

    4.) Windows AI Foundry: เปิดตัวแพลตฟอร์มที่ช่วยนักพัฒนาสร้างฟีเจอร์ AI บน Windows รองรับการทำงานทั้งบน CPU, GPU และคลาวด์ เพิ่มความยืดหยุ่นในการพัฒนา.

    5) Agent Factory (Azure AI Foundry): เครื่องมือใหม่ใน Azure ที่ช่วยให้นักพัฒนาสร้าง AI Agent ได้ง่ายขึ้น รองรับการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI.

    6) NLWeb: เทคโนโลยีที่ช่วยให้การโต้ตอบด้วยภาษาธรรมชาติ (Natural Language) บนเว็บมีประสิทธิภาพมากขึ้น เปลี่ยนวิธีที่ผู้ใช้และนักพัฒนาโต้ตอบกับแพลตฟอร์มออนไลน์.

    7) Open Agentic Web: Microsoft ผลักดันแนวคิดการพัฒนาเว็บที่ขับเคลื่อนด้วย AI Agent โดยมีการอัปเดตที่เน้นความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของ AI Agent.

    8) การสนับสนุน Model Context Protocol (MCP): ร่วมมือกับ Anthropic เพื่อเพิ่มการรองรับ MCP ใน Windows และ Visual Studio Copilot ซึ่งจะกลายเป็นโอเพ่นซอร์ส ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงและปรับแต่งได้ง่ายขึ้น.

    9) Project Haven: เปิดตัวโครงการเพื่อใช้งาน Kubernetes บน Edge Device ช่วยให้การจัดการแอปพลิเคชันในสภาพแวดล้อมเอดจ์มีประสิทธิภาพมากขึ้น.

    นอกจากนี้ ยังมีการพูดถึงความร่วมมือระดับโลก เช่น การปรากฏตัวของ Satya Nadella, Elon Musk, Jensen Huang และ Sam Altman ในงาน ซึ่งแสดงถึงความสำคัญของ AI ในวงการเทคโนโลยี. งานนี้เน้นย้ำว่า Microsoft มุ่งพัฒนา AI เพื่อเปลี่ยนแปลงวงจรการพัฒนาซอฟต์แวร์และเพิ่มศักยภาพให้กับนักพัฒนาทั่วโลก.

    สรุปข่าว ℹ️ วันแรก ℹ️ ในงาน Microsoft Build 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 พฤษภาคม 2568 ที่เมืองซีแอตเทิล ในวันแรกมีการประกาศนวัตกรรมสำคัญที่เน้นการพัฒนาเทคโนโลยี AI และเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา โดยสรุปข่าวสำคัญดังนี้: 1) Microsoft Discovery: เปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ที่ใช้ Agent AI เพื่อพลิกโฉมกระบวนการค้นคว้าและวิจัยวิทยาศาสตร์ ช่วยให้การวิจัยมีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น. 2) GitHub Copilot ปรับโฉมเป็น Coding Agent: จากเครื่องมือช่วยเขียนโค้ด กลายเป็น "เพื่อนนักพัฒนา" ที่สามารถแก้บั๊ก พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ และจัดการ GitHub Issues ได้โดยอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพนักพัฒนา. 3) Copilot Tuning: เพิ่มความสามารถในการปรับแต่ง GitHub Copilot ให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะของนักพัฒนา ช่วยให้การเขียนโค้ดเป็นไปอย่างแม่นยำและตรงความต้องการมากขึ้น. 4.) Windows AI Foundry: เปิดตัวแพลตฟอร์มที่ช่วยนักพัฒนาสร้างฟีเจอร์ AI บน Windows รองรับการทำงานทั้งบน CPU, GPU และคลาวด์ เพิ่มความยืดหยุ่นในการพัฒนา. 5) Agent Factory (Azure AI Foundry): เครื่องมือใหม่ใน Azure ที่ช่วยให้นักพัฒนาสร้าง AI Agent ได้ง่ายขึ้น รองรับการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI. 6) NLWeb: เทคโนโลยีที่ช่วยให้การโต้ตอบด้วยภาษาธรรมชาติ (Natural Language) บนเว็บมีประสิทธิภาพมากขึ้น เปลี่ยนวิธีที่ผู้ใช้และนักพัฒนาโต้ตอบกับแพลตฟอร์มออนไลน์. 7) Open Agentic Web: Microsoft ผลักดันแนวคิดการพัฒนาเว็บที่ขับเคลื่อนด้วย AI Agent โดยมีการอัปเดตที่เน้นความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของ AI Agent. 8) การสนับสนุน Model Context Protocol (MCP): ร่วมมือกับ Anthropic เพื่อเพิ่มการรองรับ MCP ใน Windows และ Visual Studio Copilot ซึ่งจะกลายเป็นโอเพ่นซอร์ส ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงและปรับแต่งได้ง่ายขึ้น. 9) Project Haven: เปิดตัวโครงการเพื่อใช้งาน Kubernetes บน Edge Device ช่วยให้การจัดการแอปพลิเคชันในสภาพแวดล้อมเอดจ์มีประสิทธิภาพมากขึ้น. นอกจากนี้ ยังมีการพูดถึงความร่วมมือระดับโลก เช่น การปรากฏตัวของ Satya Nadella, Elon Musk, Jensen Huang และ Sam Altman ในงาน ซึ่งแสดงถึงความสำคัญของ AI ในวงการเทคโนโลยี. งานนี้เน้นย้ำว่า Microsoft มุ่งพัฒนา AI เพื่อเปลี่ยนแปลงวงจรการพัฒนาซอฟต์แวร์และเพิ่มศักยภาพให้กับนักพัฒนาทั่วโลก.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 431 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซเลนสกี้ยืนยันหนักแน่น!! จะไม่ถอนทหารออกจาก 4 ภูมิภาคที่เป็นข้อพิพาท

    เขากล่าวหลังจากการสนทนาของทรัมป์กับปูติน


    นอกจากนี้ เขายังกล่าวอีกว่า ยังคงรอการเจรจาร่วมกับรัสเซียโดยตรงในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นตุรกี วาติกัน หรือสวิตเซอร์แลนด์ และยูเครนพร้อมหยุดยิงอย่างเต็มรูปแบบและไม่มีเงื่อนไข "แต่จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของยูเครน"

    คำกล่าวเพิ่มเติมของเซเลนสกี:
    ยูเครนมีสถานะ และขอบเขตดินแดนชัดเจนอยู่แล้ว มันอยู่ในรัฐธรรมนูญ

    ยูเครนจะยังคงมุ่งมั่นในแนวทางนาโต้

    เราต้องการยุติสงคราม และยูเครนจะไม่ถอนทหารออกจากดินแดนของตนและจะไม่ยอมจำนนต่อคำขาดของรัสเซีย

    ขณะนี้เรากำลังรอดูข้อเสนอที่รัสเซียจะเสนอ

    เราต้องการให้สหรัฐอเมริกา ยูเครน รัสเซีย และประเทศในยุโรป มีส่วนร่วมในการประชุมเจรจาอีกครั้ง เพื่อพิจารณาข้อเสนอทุกข้อบนโต๊ะเจรจา ซึ่งสมควรได้รับการประเมินอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่มีเพียงปูตินเท่านั้นที่ได้รับประโยชน์จากข้อเสนอเหล่านั้น

    หากปูตินยื่นข้อเรียกร้องที่ไม่สมเหตุสมผล นั่นจะหมายถึงว่ารัสเซียต้องการให้สงครามดำเนินต่อไป และสมควรที่ยุโรป อเมริกา และโลกจะดำเนินการคว่ำบาตรเพิ่มเติมด้วย

    เซเลนสกี้ยืนยันว่ายูเครนสามารถลงนามบันทึกความเข้าใจกับรัสเซียซึ่งจะนำไปสู่ข้อตกลงยุติสงครามได้ แต่ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของยูเครน!








    เซเลนสกี้ยืนยันหนักแน่น!! จะไม่ถอนทหารออกจาก 4 ภูมิภาคที่เป็นข้อพิพาท เขากล่าวหลังจากการสนทนาของทรัมป์กับปูติน นอกจากนี้ เขายังกล่าวอีกว่า ยังคงรอการเจรจาร่วมกับรัสเซียโดยตรงในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นตุรกี วาติกัน หรือสวิตเซอร์แลนด์ และยูเครนพร้อมหยุดยิงอย่างเต็มรูปแบบและไม่มีเงื่อนไข "แต่จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของยูเครน" คำกล่าวเพิ่มเติมของเซเลนสกี: 👉 ยูเครนมีสถานะ และขอบเขตดินแดนชัดเจนอยู่แล้ว มันอยู่ในรัฐธรรมนูญ 👉 ยูเครนจะยังคงมุ่งมั่นในแนวทางนาโต้ 👉 เราต้องการยุติสงคราม และยูเครนจะไม่ถอนทหารออกจากดินแดนของตนและจะไม่ยอมจำนนต่อคำขาดของรัสเซีย 👉 ขณะนี้เรากำลังรอดูข้อเสนอที่รัสเซียจะเสนอ 👉 เราต้องการให้สหรัฐอเมริกา ยูเครน รัสเซีย และประเทศในยุโรป มีส่วนร่วมในการประชุมเจรจาอีกครั้ง เพื่อพิจารณาข้อเสนอทุกข้อบนโต๊ะเจรจา ซึ่งสมควรได้รับการประเมินอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่มีเพียงปูตินเท่านั้นที่ได้รับประโยชน์จากข้อเสนอเหล่านั้น 👉 หากปูตินยื่นข้อเรียกร้องที่ไม่สมเหตุสมผล นั่นจะหมายถึงว่ารัสเซียต้องการให้สงครามดำเนินต่อไป และสมควรที่ยุโรป อเมริกา และโลกจะดำเนินการคว่ำบาตรเพิ่มเติมด้วย 👉 เซเลนสกี้ยืนยันว่ายูเครนสามารถลงนามบันทึกความเข้าใจกับรัสเซียซึ่งจะนำไปสู่ข้อตกลงยุติสงครามได้ แต่ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของยูเครน!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 435 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft นำฟีเจอร์ความปลอดภัยของ Edge มาสู่ Google Chrome

    Microsoft กำลังเพิ่มฟีเจอร์ "De-elevate browser on launch" ให้กับ Google Chrome ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้เบราว์เซอร์ สามารถลดสิทธิ์การเข้าถึงของผู้ใช้ที่เปิด Chrome ในโหมด Administrator โดยอัตโนมัติ ฟีเจอร์นี้ถูกนำมาใช้ใน Edge ตั้งแต่ปี 2019 และตอนนี้กำลังถูกนำมาใช้กับ Chrome ผ่านการพัฒนาใน Chromium Gerrit

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับฟีเจอร์ De-elevate browser on launch
    Microsoft เพิ่มฟีเจอร์ลดสิทธิ์การเข้าถึงของ Chrome เมื่อเปิดในโหมด Administrator
    - ฟีเจอร์นี้ ช่วยป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นจากการรันเบราว์เซอร์ด้วยสิทธิ์สูงสุด

    Edge มีฟีเจอร์นี้มาตั้งแต่ปี 2019 และได้รับการปรับปรุงในปีเดียวกัน
    - โดยเพิ่ม ตัวเลือกให้เบราว์เซอร์สามารถรีสตาร์ทโดยอัตโนมัติในโหมดปกติ

    Google Chrome จะได้รับฟีเจอร์นี้ผ่านการพัฒนาใน Chromium Gerrit
    - ฟีเจอร์นี้ ถูกเพิ่มโดย Stefan Smolen วิศวกรของ Microsoft ที่เคยนำฟีเจอร์นี้มาใช้กับ Edge

    ฟีเจอร์นี้จะไม่ทำงานในโหมด Automation เพื่อไม่ให้รบกวนเครื่องมืออัตโนมัติ
    - ทำให้ นักพัฒนาและผู้ใช้ที่ต้องการรัน Chrome ในโหมด Automation สามารถใช้งานได้ตามปกติ

    Microsoft ยังคงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนา Chromium แม้จะเป็นคู่แข่งกับ Google
    - แสดงให้เห็นว่า Microsoft ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเบราว์เซอร์โดยรวม

    https://www.neowin.net/news/microsoft-finally-making-google-chrome-as-good-as-edge-by-blocking-admin-rights/
    Microsoft นำฟีเจอร์ความปลอดภัยของ Edge มาสู่ Google Chrome Microsoft กำลังเพิ่มฟีเจอร์ "De-elevate browser on launch" ให้กับ Google Chrome ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้เบราว์เซอร์ สามารถลดสิทธิ์การเข้าถึงของผู้ใช้ที่เปิด Chrome ในโหมด Administrator โดยอัตโนมัติ ฟีเจอร์นี้ถูกนำมาใช้ใน Edge ตั้งแต่ปี 2019 และตอนนี้กำลังถูกนำมาใช้กับ Chrome ผ่านการพัฒนาใน Chromium Gerrit 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับฟีเจอร์ De-elevate browser on launch ✅ Microsoft เพิ่มฟีเจอร์ลดสิทธิ์การเข้าถึงของ Chrome เมื่อเปิดในโหมด Administrator - ฟีเจอร์นี้ ช่วยป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นจากการรันเบราว์เซอร์ด้วยสิทธิ์สูงสุด ✅ Edge มีฟีเจอร์นี้มาตั้งแต่ปี 2019 และได้รับการปรับปรุงในปีเดียวกัน - โดยเพิ่ม ตัวเลือกให้เบราว์เซอร์สามารถรีสตาร์ทโดยอัตโนมัติในโหมดปกติ ✅ Google Chrome จะได้รับฟีเจอร์นี้ผ่านการพัฒนาใน Chromium Gerrit - ฟีเจอร์นี้ ถูกเพิ่มโดย Stefan Smolen วิศวกรของ Microsoft ที่เคยนำฟีเจอร์นี้มาใช้กับ Edge ✅ ฟีเจอร์นี้จะไม่ทำงานในโหมด Automation เพื่อไม่ให้รบกวนเครื่องมืออัตโนมัติ - ทำให้ นักพัฒนาและผู้ใช้ที่ต้องการรัน Chrome ในโหมด Automation สามารถใช้งานได้ตามปกติ ✅ Microsoft ยังคงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนา Chromium แม้จะเป็นคู่แข่งกับ Google - แสดงให้เห็นว่า Microsoft ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเบราว์เซอร์โดยรวม https://www.neowin.net/news/microsoft-finally-making-google-chrome-as-good-as-edge-by-blocking-admin-rights/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft finally making Google Chrome as good as Edge by blocking Admin rights
    Microsoft is improving Google's Chrome in one aspect to make it as good as Edge is. The company is working on blocking Admin rights.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 216 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ปรับปรุงระบบความปลอดภัยของ Windows 11 ด้วยฟีเจอร์ Administrator Protection

    Microsoft เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานบัญชี Administrator โดยใช้หลักการ Just-in-Time Admin Rights ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากการใช้สิทธิ์ระดับสูงโดยไม่จำเป็น

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Administrator Protection
    Windows 11 ใช้หลักการ Just-in-Time Admin Rights เพื่อลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
    - ระบบจะ ให้สิทธิ์ระดับสูงเฉพาะเมื่อจำเป็น และลบสิทธิ์นั้นทันทีหลังจากใช้งานเสร็จ

    ผู้ใช้ต้องยืนยันตัวตนผ่าน Windows Hello ก่อนรับสิทธิ์ Administrator
    - ใช้ การสแกนใบหน้า หรือลายนิ้วมือเพื่อเพิ่มความปลอดภัย

    Microsoft ปรับการตั้งค่าเริ่มต้นของ Windows 11 ให้ปิดการเข้าถึงกล้อง, ไมโครโฟน และข้อมูลตำแหน่ง
    - หากแอปต้องการใช้ ผู้ใช้ต้องให้สิทธิ์อย่างชัดเจน

    นักพัฒนาต้องปรับแอปให้ทำงานได้แม้การตั้งค่าเริ่มต้นของ Windows จะปิดการเข้าถึงอุปกรณ์
    - เพื่อ ให้แน่ใจว่าแอปสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องใช้สิทธิ์ระดับสูง

    Microsoft คาดว่าจะเปิดตัวฟีเจอร์นี้อย่างเป็นทางการใน Windows 11 24H2
    - ปัจจุบัน อยู่ในช่วงทดสอบใน Canary Channel

    https://www.neowin.net/news/windows-11-administrator-protection-gets-even-better-microsoft-explains-how/
    Microsoft ปรับปรุงระบบความปลอดภัยของ Windows 11 ด้วยฟีเจอร์ Administrator Protection Microsoft เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานบัญชี Administrator โดยใช้หลักการ Just-in-Time Admin Rights ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากการใช้สิทธิ์ระดับสูงโดยไม่จำเป็น 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Administrator Protection ✅ Windows 11 ใช้หลักการ Just-in-Time Admin Rights เพื่อลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย - ระบบจะ ให้สิทธิ์ระดับสูงเฉพาะเมื่อจำเป็น และลบสิทธิ์นั้นทันทีหลังจากใช้งานเสร็จ ✅ ผู้ใช้ต้องยืนยันตัวตนผ่าน Windows Hello ก่อนรับสิทธิ์ Administrator - ใช้ การสแกนใบหน้า หรือลายนิ้วมือเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ✅ Microsoft ปรับการตั้งค่าเริ่มต้นของ Windows 11 ให้ปิดการเข้าถึงกล้อง, ไมโครโฟน และข้อมูลตำแหน่ง - หากแอปต้องการใช้ ผู้ใช้ต้องให้สิทธิ์อย่างชัดเจน ✅ นักพัฒนาต้องปรับแอปให้ทำงานได้แม้การตั้งค่าเริ่มต้นของ Windows จะปิดการเข้าถึงอุปกรณ์ - เพื่อ ให้แน่ใจว่าแอปสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องใช้สิทธิ์ระดับสูง ✅ Microsoft คาดว่าจะเปิดตัวฟีเจอร์นี้อย่างเป็นทางการใน Windows 11 24H2 - ปัจจุบัน อยู่ในช่วงทดสอบใน Canary Channel https://www.neowin.net/news/windows-11-administrator-protection-gets-even-better-microsoft-explains-how/
    WWW.NEOWIN.NET
    Windows 11 Administrator protection gets even better, Microsoft explains how
    Microsoft is making Administrator protection on Windows 11 even better with some cool new changes to how it works.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 294 มุมมอง 0 รีวิว
  • Medaily Pro Fiber จากแบรนด์ Medese เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในรูปแบบผงชงดื่มที่ออกแบบโดย พญ.สุรีนันต์ ฤทธิ์เทวา (หมอใบเตย) เพื่อช่วยในการปรับสมดุลลำไส้และส่งเสริมสุขภาพโดยรวม ผลิตภัณฑ์นี้มีจุดเด่นที่การรวมสารสกัดจากธรรมชาติ 19 ชนิด และโพรไบโอติกส์ 15,000 ล้านตัวในแต่ละซอง

    ---

    ส่วนผสมสำคัญ

    Cactinea™ (2,000 มก.): สารสกัดจากกระบองเพชรฝรั่งเศสที่ช่วยลดการบวมน้ำและขับโซเดียมส่วนเกินออกจากร่างกาย

    Fibersol-2: เส้นใยอาหารที่ช่วยเพิ่มกากใยในลำไส้และส่งเสริมการขับถ่าย

    โพรไบโอติกส์ (15,000 ล้านตัว): จุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยปรับสมดุลลำไส้และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

    สารสกัดจากธรรมชาติอื่นๆ: รวมถึงสารสกัดจากผลไม้และพืชที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ

    ---

    ประโยชน์ต่อร่างกาย

    ปรับสมดุลลำไส้: ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น ลดอาการท้องผูกและท้องอืด

    ลดการบวมน้ำ: ช่วยขับโซเดียมส่วนเกินออกจากร่างกาย ลดอาการบวมน้ำจากการบริโภคอาหารรสจัดหรือเค็ม

    ดีท็อกซ์ลำไส้และตับ: ช่วยล้างสารพิษที่สะสมในลำไส้และตับ ส่งผลให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นและมีพลังงานมากขึ้น

    เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: โพรไบโอติกส์ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรงและต้านทานโรคได้ดีขึ้น

    ---

    รายละเอียดผลิตภัณฑ์

    รูปแบบ: ผงชงดื่ม บรรจุในซอง

    ปริมาณ: 1 กล่องมี 5 ซอง

    ราคา​กล่อง​ละ​ : 299 บาท

    วิธีรับประทาน: ชงดื่มวันละ 1 ซอง ก่อนนอน

    รสชาติ: รสชาติอร่อยเหมือนน้ำผลไม้ ไม่จับตัวเป็นวุ้น และไม่ทำให้ปวดบิด

    ---

    Medaily Pro Fiber เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องการขับถ่าย ท้องผูก หรือผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพลำไส้และลดการบวมน้ำจากการบริโภคอาหารรสจัด ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติและการพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทำให้มั่นใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์นี้

    ---
    Medaily Pro Fiber จากแบรนด์ Medese เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในรูปแบบผงชงดื่มที่ออกแบบโดย พญ.สุรีนันต์ ฤทธิ์เทวา (หมอใบเตย) เพื่อช่วยในการปรับสมดุลลำไส้และส่งเสริมสุขภาพโดยรวม ผลิตภัณฑ์นี้มีจุดเด่นที่การรวมสารสกัดจากธรรมชาติ 19 ชนิด และโพรไบโอติกส์ 15,000 ล้านตัวในแต่ละซอง --- 🌿 ส่วนผสมสำคัญ Cactinea™ (2,000 มก.): สารสกัดจากกระบองเพชรฝรั่งเศสที่ช่วยลดการบวมน้ำและขับโซเดียมส่วนเกินออกจากร่างกาย Fibersol-2: เส้นใยอาหารที่ช่วยเพิ่มกากใยในลำไส้และส่งเสริมการขับถ่าย โพรไบโอติกส์ (15,000 ล้านตัว): จุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยปรับสมดุลลำไส้และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน สารสกัดจากธรรมชาติอื่นๆ: รวมถึงสารสกัดจากผลไม้และพืชที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ --- 💪 ประโยชน์ต่อร่างกาย ปรับสมดุลลำไส้: ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น ลดอาการท้องผูกและท้องอืด ลดการบวมน้ำ: ช่วยขับโซเดียมส่วนเกินออกจากร่างกาย ลดอาการบวมน้ำจากการบริโภคอาหารรสจัดหรือเค็ม ดีท็อกซ์ลำไส้และตับ: ช่วยล้างสารพิษที่สะสมในลำไส้และตับ ส่งผลให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นและมีพลังงานมากขึ้น เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: โพรไบโอติกส์ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรงและต้านทานโรคได้ดีขึ้น --- 📦 รายละเอียดผลิตภัณฑ์ รูปแบบ: ผงชงดื่ม บรรจุในซอง ปริมาณ: 1 กล่องมี 5 ซอง ราคา​กล่อง​ละ​ : 299 บาท วิธีรับประทาน: ชงดื่มวันละ 1 ซอง ก่อนนอน รสชาติ: รสชาติอร่อยเหมือนน้ำผลไม้ ไม่จับตัวเป็นวุ้น และไม่ทำให้ปวดบิด --- Medaily Pro Fiber เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องการขับถ่าย ท้องผูก หรือผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพลำไส้และลดการบวมน้ำจากการบริโภคอาหารรสจัด ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติและการพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทำให้มั่นใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์นี้ ---
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 695 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft Edge เพิ่มฟีเจอร์แปลเอกสาร PDF ทั้งฉบับ พร้อมระบบสรุปเอกสารและตัวช่วยอัตโนมัติ

    Microsoft กำลังพัฒนา Edge ให้สามารถแปลเอกสาร PDF ทั้งฉบับได้อย่างรวดเร็ว โดยผู้ใช้สามารถ เปิดไฟล์ PDF ใน Edge แล้วคลิกไอคอนแปลภาษาในแถบที่อยู่ เพื่อสร้างเอกสารที่แปลแล้วในภาษาที่ต้องการ นอกจากนี้ Edge for Business กำลังเพิ่มฟีเจอร์สรุปเอกสารและระบบตัวช่วยอัตโนมัติสำหรับงานซ้ำ ๆ

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับฟีเจอร์ใหม่ของ Microsoft Edge
    Edge สามารถแปลเอกสาร PDF ทั้งฉบับได้ด้วยคลิกไม่กี่ครั้ง
    - รองรับ มากกว่า 70 ภาษา

    ฟีเจอร์นี้กำลังทดสอบใน Canary Channel และคาดว่าจะเปิดให้ใช้งานทั่วไปในเดือนหน้า
    - หากไม่มี บั๊กที่ร้ายแรงระหว่างการทดสอบ

    Edge for Business จะเพิ่มฟีเจอร์สรุปเอกสาร Microsoft 365
    - รองรับ Word, Excel และ PowerPoint

    Microsoft 365 Copilot จะนำระบบ "Agents" มาสู่ Edge for Business
    - เช่น Sales Assistant Agent ที่ช่วยติดตามลูกค้าและวิเคราะห์ข้อมูลการขาย

    Agents จะเปิดให้ใช้งานผ่าน Copilot Chat ใน Edge for Business sidebar
    - คาดว่า จะเปิดตัวในเดือนมิถุนายน

    https://www.neowin.net/news/microsoft-edge-getting-full-document-pdf-translation-summaries-task-automation-also-coming/
    Microsoft Edge เพิ่มฟีเจอร์แปลเอกสาร PDF ทั้งฉบับ พร้อมระบบสรุปเอกสารและตัวช่วยอัตโนมัติ Microsoft กำลังพัฒนา Edge ให้สามารถแปลเอกสาร PDF ทั้งฉบับได้อย่างรวดเร็ว โดยผู้ใช้สามารถ เปิดไฟล์ PDF ใน Edge แล้วคลิกไอคอนแปลภาษาในแถบที่อยู่ เพื่อสร้างเอกสารที่แปลแล้วในภาษาที่ต้องการ นอกจากนี้ Edge for Business กำลังเพิ่มฟีเจอร์สรุปเอกสารและระบบตัวช่วยอัตโนมัติสำหรับงานซ้ำ ๆ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับฟีเจอร์ใหม่ของ Microsoft Edge ✅ Edge สามารถแปลเอกสาร PDF ทั้งฉบับได้ด้วยคลิกไม่กี่ครั้ง - รองรับ มากกว่า 70 ภาษา ✅ ฟีเจอร์นี้กำลังทดสอบใน Canary Channel และคาดว่าจะเปิดให้ใช้งานทั่วไปในเดือนหน้า - หากไม่มี บั๊กที่ร้ายแรงระหว่างการทดสอบ ✅ Edge for Business จะเพิ่มฟีเจอร์สรุปเอกสาร Microsoft 365 - รองรับ Word, Excel และ PowerPoint ✅ Microsoft 365 Copilot จะนำระบบ "Agents" มาสู่ Edge for Business - เช่น Sales Assistant Agent ที่ช่วยติดตามลูกค้าและวิเคราะห์ข้อมูลการขาย ✅ Agents จะเปิดให้ใช้งานผ่าน Copilot Chat ใน Edge for Business sidebar - คาดว่า จะเปิดตัวในเดือนมิถุนายน https://www.neowin.net/news/microsoft-edge-getting-full-document-pdf-translation-summaries-task-automation-also-coming/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft Edge getting full document PDF translation. Summaries, task automation also coming
    Microsoft is taking PDF translation to the next level. The feature will now be able to translate full documents with "just a few clicks." M365 Copilot features like Agents are also coming.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft เปิดซอร์ส Windows Subsystem for Linux (WSL) ฉลองครบรอบ 10 ปี

    Microsoft ประกาศเปิดซอร์ส Windows Subsystem for Linux (WSL) ในงาน BUILD 2025 ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรัน Linux ภายใน Windows ได้โดยไม่ต้องใช้ Virtual Machine การเปิดซอร์สครั้งนี้ เปิดโอกาสให้นักพัฒนาสามารถมีส่วนร่วมในการปรับปรุง WSL ผ่าน GitHub

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการเปิดซอร์ส WSL
    WSL เปิดตัวครั้งแรกในปี 2016 และได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักพัฒนา
    - ช่วยให้ สามารถใช้เครื่องมือ Linux เช่น bash, grep, awk และ sed บน Windows ได้

    ก่อนหน้านี้ WSL ถูกแจกจ่ายภายใต้ลิขสิทธิ์ของ Microsoft
    - แต่ตอนนี้ โค้ดของ WSL พร้อมให้เข้าถึงและปรับปรุงบน GitHub

    WSL เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับนักพัฒนาที่ต้องการใช้ Linux บน Windows
    - โดยเฉพาะ ในด้าน Data Science และ Web Development ที่บางเครื่องมือรองรับเฉพาะ Linux

    Microsoft เปิดซอร์ส GitHub Copilot ใน Visual Studio Code พร้อมกับ WSL
    - แสดงให้เห็นว่า บริษัทต้องการให้ชุมชนนักพัฒนามีส่วนร่วมในการพัฒนาเครื่องมือเหล่านี้

    WSL เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้ Linux โดยไม่ต้องติดตั้งระบบปฏิบัติการแยกต่างหาก
    - สามารถ ทดลองใช้ Linux Command Line ได้อย่างปลอดภัยบน Windows

    https://www.neowin.net/news/microsoft-open-sources-windows-subsystem-for-linux-ahead-of-10-year-anniversary/
    Microsoft เปิดซอร์ส Windows Subsystem for Linux (WSL) ฉลองครบรอบ 10 ปี Microsoft ประกาศเปิดซอร์ส Windows Subsystem for Linux (WSL) ในงาน BUILD 2025 ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรัน Linux ภายใน Windows ได้โดยไม่ต้องใช้ Virtual Machine การเปิดซอร์สครั้งนี้ เปิดโอกาสให้นักพัฒนาสามารถมีส่วนร่วมในการปรับปรุง WSL ผ่าน GitHub 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการเปิดซอร์ส WSL ✅ WSL เปิดตัวครั้งแรกในปี 2016 และได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักพัฒนา - ช่วยให้ สามารถใช้เครื่องมือ Linux เช่น bash, grep, awk และ sed บน Windows ได้ ✅ ก่อนหน้านี้ WSL ถูกแจกจ่ายภายใต้ลิขสิทธิ์ของ Microsoft - แต่ตอนนี้ โค้ดของ WSL พร้อมให้เข้าถึงและปรับปรุงบน GitHub ✅ WSL เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับนักพัฒนาที่ต้องการใช้ Linux บน Windows - โดยเฉพาะ ในด้าน Data Science และ Web Development ที่บางเครื่องมือรองรับเฉพาะ Linux ✅ Microsoft เปิดซอร์ส GitHub Copilot ใน Visual Studio Code พร้อมกับ WSL - แสดงให้เห็นว่า บริษัทต้องการให้ชุมชนนักพัฒนามีส่วนร่วมในการพัฒนาเครื่องมือเหล่านี้ ✅ WSL เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้ Linux โดยไม่ต้องติดตั้งระบบปฏิบัติการแยกต่างหาก - สามารถ ทดลองใช้ Linux Command Line ได้อย่างปลอดภัยบน Windows https://www.neowin.net/news/microsoft-open-sources-windows-subsystem-for-linux-ahead-of-10-year-anniversary/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft open-sources Windows Subsystem for Linux ahead of 10-year anniversary
    Microsoft has made its Windows Subsystem for Linux open source. The announcement was made as its BUILD 2025 developer conference.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 268 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft นำโมเดล AI Grok 3 และ Grok 3 Mini ของ xAI มาสู่ Azure AI Foundry

    Microsoft ประกาศเพิ่มโมเดล AI Grok 3 และ Grok 3 Mini ของ xAI ลงใน Azure AI Foundry ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่มีโมเดล AI มากกว่า 1,900 โมเดล รวมถึงโมเดลล่าสุดจาก OpenAI และ Meta การเพิ่ม Grok 3 ทำให้ องค์กรสามารถเลือกใช้โมเดลที่เหมาะสมกับงานของตนได้ง่ายขึ้น

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Grok 3 และ Azure AI Foundry
    Grok 3 และ Grok 3 Mini เป็นโมเดล AI ที่ Microsoft นำเสนอโดยตรง
    - โมเดลเหล่านี้ ถูกโฮสต์และเรียกเก็บเงินโดย Microsoft

    Azure AI Foundry มีระบบ Model Router ที่ช่วยเลือกโมเดลที่ดีที่สุดสำหรับแต่ละคำสั่ง
    - ช่วยให้ องค์กรสามารถลดต้นทุนและเพิ่มคุณภาพของผลลัพธ์

    Model Router ใช้การทดลอง A/B และระบบติดตามเพื่อให้สามารถย้อนกลับไปใช้โมเดลที่มีประสิทธิภาพสูงสุดได้
    - ทำให้ องค์กรสามารถปรับแต่งการใช้งาน AI ได้อย่างแม่นยำ

    Azure AI Foundry มีเทมเพลต AI ใหม่สำหรับการออกแบบและปรับแต่งโซลูชัน AI
    - ช่วยให้ องค์กรสามารถพัฒนา AI ได้เร็วขึ้น

    Microsoft นำโมเดลขนาดเล็กของ Azure AI Foundry มาสู่ Windows 11 และ macOS
    - ผ่าน Azure AI Foundry Local ซึ่งช่วยให้สามารถรันโมเดล AI บนอุปกรณ์โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

    https://www.neowin.net/news/microsoft-brings-xais-grok-3-and-grok-3-mini-models-to-azure-ai-foundry/
    Microsoft นำโมเดล AI Grok 3 และ Grok 3 Mini ของ xAI มาสู่ Azure AI Foundry Microsoft ประกาศเพิ่มโมเดล AI Grok 3 และ Grok 3 Mini ของ xAI ลงใน Azure AI Foundry ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่มีโมเดล AI มากกว่า 1,900 โมเดล รวมถึงโมเดลล่าสุดจาก OpenAI และ Meta การเพิ่ม Grok 3 ทำให้ องค์กรสามารถเลือกใช้โมเดลที่เหมาะสมกับงานของตนได้ง่ายขึ้น 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Grok 3 และ Azure AI Foundry ✅ Grok 3 และ Grok 3 Mini เป็นโมเดล AI ที่ Microsoft นำเสนอโดยตรง - โมเดลเหล่านี้ ถูกโฮสต์และเรียกเก็บเงินโดย Microsoft ✅ Azure AI Foundry มีระบบ Model Router ที่ช่วยเลือกโมเดลที่ดีที่สุดสำหรับแต่ละคำสั่ง - ช่วยให้ องค์กรสามารถลดต้นทุนและเพิ่มคุณภาพของผลลัพธ์ ✅ Model Router ใช้การทดลอง A/B และระบบติดตามเพื่อให้สามารถย้อนกลับไปใช้โมเดลที่มีประสิทธิภาพสูงสุดได้ - ทำให้ องค์กรสามารถปรับแต่งการใช้งาน AI ได้อย่างแม่นยำ ✅ Azure AI Foundry มีเทมเพลต AI ใหม่สำหรับการออกแบบและปรับแต่งโซลูชัน AI - ช่วยให้ องค์กรสามารถพัฒนา AI ได้เร็วขึ้น ✅ Microsoft นำโมเดลขนาดเล็กของ Azure AI Foundry มาสู่ Windows 11 และ macOS - ผ่าน Azure AI Foundry Local ซึ่งช่วยให้สามารถรันโมเดล AI บนอุปกรณ์โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต https://www.neowin.net/news/microsoft-brings-xais-grok-3-and-grok-3-mini-models-to-azure-ai-foundry/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft brings xAI's Grok 3 and Grok 3 mini models to Azure AI Foundry
    Microsoft is expanding its Azure AI Foundry by adding xAI's Grok 3 and Grok 3 Mini models. New features include a Model Router for automatic OpenAI model selection.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft นำระบบเข้ารหัสควอนตัมมาสู่ Windows เพื่อป้องกันภัยคุกคามในอนาคต

    Microsoft ประกาศในงาน BUILD 2025 ว่ากำลังนำระบบเข้ารหัสหลังยุคควอนตัม (Post-Quantum Cryptography - PQC) มาสู่ Windows เพื่อป้องกันภัยคุกคามจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่สามารถถอดรหัสข้อมูลแบบดั้งเดิมได้อย่างรวดเร็ว

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการเข้ารหัสควอนตัมใน Windows
    Microsoft กำลังรวม PQC เข้ากับ Windows Insiders Build 27852 และสูงกว่า
    - ช่วยให้ ผู้ใช้สามารถเริ่มทดลองใช้ระบบเข้ารหัสควอนตัมในสภาพแวดล้อมของตนเอง

    PQC จะถูกนำมาใช้ใน SymCrypt-OpenSSL 1.9.0 และสูงกว่า
    - รองรับ การเข้ารหัสที่ปลอดภัยจากการโจมตีของคอมพิวเตอร์ควอนตัม

    Microsoft ใช้ ML-KEM และ ML-DSA ซึ่งเป็นอัลกอริธึมเข้ารหัสควอนตัมที่ได้รับการรับรองจาก NIST
    - อัลกอริธึมเหล่านี้ ถูกเพิ่มเข้าไปในไลบรารีเข้ารหัส SymCrypt ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2024

    Linux สามารถใช้ SymCrypt ผ่าน OpenSSL API ที่มีใน SymCrypt-OpenSSL (SCOSSL)
    - ทำให้ ระบบปฏิบัติการอื่น ๆ สามารถใช้เทคโนโลยีเข้ารหัสควอนตัมของ Microsoft ได้

    Microsoft หวังว่าการนำ PQC มาใช้ก่อนที่คอมพิวเตอร์ควอนตัมจะกลายเป็นภัยคุกคามจริง จะช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีแบบ "Harvest Now, Decrypt Later"
    - ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่แฮกเกอร์ ขโมยข้อมูลที่เข้ารหัสในปัจจุบันและรอให้คอมพิวเตอร์ควอนตัมสามารถถอดรหัสได้ในอนาคต

    https://www.neowin.net/news/microsoft-is-now-putting-quantum-encryption-in-windows-builds/
    Microsoft นำระบบเข้ารหัสควอนตัมมาสู่ Windows เพื่อป้องกันภัยคุกคามในอนาคต Microsoft ประกาศในงาน BUILD 2025 ว่ากำลังนำระบบเข้ารหัสหลังยุคควอนตัม (Post-Quantum Cryptography - PQC) มาสู่ Windows เพื่อป้องกันภัยคุกคามจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่สามารถถอดรหัสข้อมูลแบบดั้งเดิมได้อย่างรวดเร็ว 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการเข้ารหัสควอนตัมใน Windows ✅ Microsoft กำลังรวม PQC เข้ากับ Windows Insiders Build 27852 และสูงกว่า - ช่วยให้ ผู้ใช้สามารถเริ่มทดลองใช้ระบบเข้ารหัสควอนตัมในสภาพแวดล้อมของตนเอง ✅ PQC จะถูกนำมาใช้ใน SymCrypt-OpenSSL 1.9.0 และสูงกว่า - รองรับ การเข้ารหัสที่ปลอดภัยจากการโจมตีของคอมพิวเตอร์ควอนตัม ✅ Microsoft ใช้ ML-KEM และ ML-DSA ซึ่งเป็นอัลกอริธึมเข้ารหัสควอนตัมที่ได้รับการรับรองจาก NIST - อัลกอริธึมเหล่านี้ ถูกเพิ่มเข้าไปในไลบรารีเข้ารหัส SymCrypt ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2024 ✅ Linux สามารถใช้ SymCrypt ผ่าน OpenSSL API ที่มีใน SymCrypt-OpenSSL (SCOSSL) - ทำให้ ระบบปฏิบัติการอื่น ๆ สามารถใช้เทคโนโลยีเข้ารหัสควอนตัมของ Microsoft ได้ ✅ Microsoft หวังว่าการนำ PQC มาใช้ก่อนที่คอมพิวเตอร์ควอนตัมจะกลายเป็นภัยคุกคามจริง จะช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีแบบ "Harvest Now, Decrypt Later" - ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่แฮกเกอร์ ขโมยข้อมูลที่เข้ารหัสในปัจจุบันและรอให้คอมพิวเตอร์ควอนตัมสามารถถอดรหัสได้ในอนาคต https://www.neowin.net/news/microsoft-is-now-putting-quantum-encryption-in-windows-builds/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft is now putting quantum encryption in Windows builds
    Microsoft has announced that it's beginning to put quantum encryption algorithms into Windows so that developers can start using them. It is designed to keep data safe from future quantum computers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 0 รีวิว
  • Windows 11 เพิ่มเครื่องมือใหม่สำหรับนักพัฒนา พร้อมฟีเจอร์ปรับแต่งขั้นสูง

    Microsoft ประกาศการปรับปรุงเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาใน Windows 11 ที่งาน Build 2025 โดยเน้นไปที่ WinGet, PowerToys และ Terminal เพื่อช่วยให้การพัฒนาแอปพลิเคชันมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัว Advanced Windows Settings และเครื่องมือแก้ไขข้อความแบบ command-line ใหม่ชื่อ "Edit"

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับเครื่องมือใหม่ใน Windows 11
    WinGet Configuration ช่วยให้สามารถตั้งค่าและจำลองสภาพแวดล้อมนักพัฒนาได้ง่ายขึ้น
    - สามารถ บันทึกสถานะปัจจุบันของระบบ รวมถึงแอปและแพ็กเกจทั้งหมด

    Advanced Windows Settings แทนที่หน้า "For Developers" และ Dev Home ที่ถูกยกเลิก
    - ช่วยให้ นักพัฒนาสามารถเข้าถึงการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาได้เร็วขึ้น

    Command Palette จาก PowerToys ช่วยให้เข้าถึงคำสั่งและแอปได้ง่ายขึ้น
    - เป็น เครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับทั้งนักพัฒนาและผู้ใช้ทั่วไป

    Microsoft เปิดตัว "Edit" ซึ่งเป็นเครื่องมือแก้ไขข้อความแบบ command-line ใหม่
    - ช่วยให้ นักพัฒนาสามารถแก้ไขไฟล์โดยตรงใน command-line ได้

    Microsoft Store ได้รับการปรับปรุงเพื่อให้ติดตามสุขภาพของแอปและโปรโมตแอปได้ง่ายขึ้น
    - นักพัฒนา สามารถสร้างบัญชีและจัดการแอปได้สะดวกกว่าเดิม

    https://www.neowin.net/news/windows-11-is-getting-a-new-command-line-text-editor-advanced-settings-and-more/
    Windows 11 เพิ่มเครื่องมือใหม่สำหรับนักพัฒนา พร้อมฟีเจอร์ปรับแต่งขั้นสูง Microsoft ประกาศการปรับปรุงเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาใน Windows 11 ที่งาน Build 2025 โดยเน้นไปที่ WinGet, PowerToys และ Terminal เพื่อช่วยให้การพัฒนาแอปพลิเคชันมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัว Advanced Windows Settings และเครื่องมือแก้ไขข้อความแบบ command-line ใหม่ชื่อ "Edit" 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับเครื่องมือใหม่ใน Windows 11 ✅ WinGet Configuration ช่วยให้สามารถตั้งค่าและจำลองสภาพแวดล้อมนักพัฒนาได้ง่ายขึ้น - สามารถ บันทึกสถานะปัจจุบันของระบบ รวมถึงแอปและแพ็กเกจทั้งหมด ✅ Advanced Windows Settings แทนที่หน้า "For Developers" และ Dev Home ที่ถูกยกเลิก - ช่วยให้ นักพัฒนาสามารถเข้าถึงการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาได้เร็วขึ้น ✅ Command Palette จาก PowerToys ช่วยให้เข้าถึงคำสั่งและแอปได้ง่ายขึ้น - เป็น เครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับทั้งนักพัฒนาและผู้ใช้ทั่วไป ✅ Microsoft เปิดตัว "Edit" ซึ่งเป็นเครื่องมือแก้ไขข้อความแบบ command-line ใหม่ - ช่วยให้ นักพัฒนาสามารถแก้ไขไฟล์โดยตรงใน command-line ได้ ✅ Microsoft Store ได้รับการปรับปรุงเพื่อให้ติดตามสุขภาพของแอปและโปรโมตแอปได้ง่ายขึ้น - นักพัฒนา สามารถสร้างบัญชีและจัดการแอปได้สะดวกกว่าเดิม https://www.neowin.net/news/windows-11-is-getting-a-new-command-line-text-editor-advanced-settings-and-more/
    WWW.NEOWIN.NET
    Windows 11 is getting a new command-line text editor, advanced settings, and more
    Microsoft announced a set of new Windows 11 features for developers and enthusiasts, including a new command-line text editor, a reworked "Advanced Settings" section, and more.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 466 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft นำ Model Context Protocol (MCP) มาสู่ Windows 11 เพื่อสร้างระบบปฏิบัติการแบบ "Agentic"

    Microsoft กำลังผสาน Model Context Protocol (MCP) เข้ากับ Windows 11 เพื่อทำให้ระบบปฏิบัติการสามารถ เชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลภายนอกได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดย MCP เป็นมาตรฐานที่พัฒนาโดย Anthropic ซึ่งช่วยให้ AI สามารถเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์จากอีเมล, ปฏิทิน, ระบบคลาวด์ และฐานข้อมูลต่าง ๆ

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Model Context Protocol (MCP) ใน Windows 11
    MCP เป็นมาตรฐานที่ช่วยให้ AI สามารถเข้าถึงข้อมูลภายนอกได้อย่างปลอดภัย
    - ช่วยให้ AI สามารถทำงานร่วมกับข้อมูลแบบเรียลไทม์โดยไม่ถูกจำกัดอยู่แค่ข้อมูลที่ฝึกมา

    Microsoft วางโครงสร้าง MCP Security Architecture เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
    - กำหนดให้ นักพัฒนา MCP Server ต้องผ่านมาตรฐานความปลอดภัยที่เข้มงวด

    ผู้ใช้จะมีสิทธิ์ควบคุมทุกการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย
    - ทำให้ สามารถเลือกได้ว่า AI จะเข้าถึงข้อมูลใดบ้าง

    Microsoft จะใช้หลักการ "Least Privilege" เพื่อลดผลกระทบจากการโจมตี
    - จำกัด สิทธิ์ของ AI เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลที่ไม่จำเป็น

    MCP จะเปิดให้ทดลองใช้งานหลังงาน Microsoft Build 2025
    - นักพัฒนาสามารถ เข้าถึงระบบ MCP Server เพื่อให้ข้อเสนอแนะก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

    https://www.neowin.net/news/microsoft-is-bringing-model-context-protocol-to-windows-11-to-make-it-an-agentic-os/
    Microsoft นำ Model Context Protocol (MCP) มาสู่ Windows 11 เพื่อสร้างระบบปฏิบัติการแบบ "Agentic" Microsoft กำลังผสาน Model Context Protocol (MCP) เข้ากับ Windows 11 เพื่อทำให้ระบบปฏิบัติการสามารถ เชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลภายนอกได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดย MCP เป็นมาตรฐานที่พัฒนาโดย Anthropic ซึ่งช่วยให้ AI สามารถเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์จากอีเมล, ปฏิทิน, ระบบคลาวด์ และฐานข้อมูลต่าง ๆ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Model Context Protocol (MCP) ใน Windows 11 ✅ MCP เป็นมาตรฐานที่ช่วยให้ AI สามารถเข้าถึงข้อมูลภายนอกได้อย่างปลอดภัย - ช่วยให้ AI สามารถทำงานร่วมกับข้อมูลแบบเรียลไทม์โดยไม่ถูกจำกัดอยู่แค่ข้อมูลที่ฝึกมา ✅ Microsoft วางโครงสร้าง MCP Security Architecture เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านความปลอดภัย - กำหนดให้ นักพัฒนา MCP Server ต้องผ่านมาตรฐานความปลอดภัยที่เข้มงวด ✅ ผู้ใช้จะมีสิทธิ์ควบคุมทุกการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย - ทำให้ สามารถเลือกได้ว่า AI จะเข้าถึงข้อมูลใดบ้าง ✅ Microsoft จะใช้หลักการ "Least Privilege" เพื่อลดผลกระทบจากการโจมตี - จำกัด สิทธิ์ของ AI เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลที่ไม่จำเป็น ✅ MCP จะเปิดให้ทดลองใช้งานหลังงาน Microsoft Build 2025 - นักพัฒนาสามารถ เข้าถึงระบบ MCP Server เพื่อให้ข้อเสนอแนะก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ https://www.neowin.net/news/microsoft-is-bringing-model-context-protocol-to-windows-11-to-make-it-an-agentic-os/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft is bringing Model Context Protocol to Windows 11 to make it an agentic OS
    Microsoft is bringing Model Context Protocol (MCP) to Windows 11 to turn its OS into an agentic OS. At BUILD 2025, it outlined how its implementation will be secure.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 203 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google NotebookLM เปิดให้ดาวน์โหลดบน Android ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

    Google เตรียมเปิดตัวแอป NotebookLM ในงาน I/O 2025 วันที่ 20 พฤษภาคม แต่มีข้อผิดพลาดทำให้แอป ถูกปล่อยให้ดาวน์โหลดบน Google Play Store ก่อนกำหนด ผู้ใช้ Android สามารถดาวน์โหลดและใช้งานได้ทันที ขณะที่ Apple App Store ยังแสดงสถานะ "Pre-Order" และคาดว่าจะเปิดให้ดาวน์โหลดในวันพรุ่งนี้

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Google NotebookLM
    NotebookLM เคยเปิดให้ใช้งานเฉพาะบนเว็บ แต่ตอนนี้มีแอปสำหรับ Android และ iOS
    - ช่วยให้ ผู้ใช้สามารถอัปโหลดเอกสารและรับฟัง Audio Overview ได้

    รองรับการอัปโหลดเอกสารหลายประเภท เช่น PDF, Google Docs, Google Slides, เว็บไซต์ และวิดีโอ YouTube สาธารณะ
    - สามารถ สร้างสรุปเอกสาร, คำถามที่พบบ่อย และพอดแคสต์ที่สร้างโดย AI

    แอปสามารถทำงานในพื้นหลังและรองรับการใช้งานแบบออฟไลน์
    - ทำให้ ผู้ใช้สามารถฟัง Audio Overview ได้โดยไม่ต้องเปิดแอปตลอดเวลา

    Google คาดว่าจะอธิบายฟีเจอร์ทั้งหมดของ NotebookLM อย่างละเอียดในงาน I/O 2025
    - ซึ่งจะช่วยให้ ผู้ใช้เข้าใจการทำงานของแอปมากขึ้น

    https://www.neowin.net/news/you-can-already-download-google-notebooklm-on-android-hours-before-its-official-launch/
    Google NotebookLM เปิดให้ดาวน์โหลดบน Android ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ Google เตรียมเปิดตัวแอป NotebookLM ในงาน I/O 2025 วันที่ 20 พฤษภาคม แต่มีข้อผิดพลาดทำให้แอป ถูกปล่อยให้ดาวน์โหลดบน Google Play Store ก่อนกำหนด ผู้ใช้ Android สามารถดาวน์โหลดและใช้งานได้ทันที ขณะที่ Apple App Store ยังแสดงสถานะ "Pre-Order" และคาดว่าจะเปิดให้ดาวน์โหลดในวันพรุ่งนี้ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Google NotebookLM ✅ NotebookLM เคยเปิดให้ใช้งานเฉพาะบนเว็บ แต่ตอนนี้มีแอปสำหรับ Android และ iOS - ช่วยให้ ผู้ใช้สามารถอัปโหลดเอกสารและรับฟัง Audio Overview ได้ ✅ รองรับการอัปโหลดเอกสารหลายประเภท เช่น PDF, Google Docs, Google Slides, เว็บไซต์ และวิดีโอ YouTube สาธารณะ - สามารถ สร้างสรุปเอกสาร, คำถามที่พบบ่อย และพอดแคสต์ที่สร้างโดย AI ✅ แอปสามารถทำงานในพื้นหลังและรองรับการใช้งานแบบออฟไลน์ - ทำให้ ผู้ใช้สามารถฟัง Audio Overview ได้โดยไม่ต้องเปิดแอปตลอดเวลา ✅ Google คาดว่าจะอธิบายฟีเจอร์ทั้งหมดของ NotebookLM อย่างละเอียดในงาน I/O 2025 - ซึ่งจะช่วยให้ ผู้ใช้เข้าใจการทำงานของแอปมากขึ้น https://www.neowin.net/news/you-can-already-download-google-notebooklm-on-android-hours-before-its-official-launch/
    WWW.NEOWIN.NET
    You can already download Google NotebookLM on Android hours before its official launch
    Hours ahead of the Google I/O event, the NotebookLM app is live on the Google Play Store for Android users.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 197 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ออกอัปเดตฉุกเฉิน KB5061768 เพื่อแก้ไขปัญหา BitLocker บน Windows 10

    Microsoft ได้ปล่อยอัปเดตฉุกเฉิน KB5061768 สำหรับ Windows 10 เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจาก KB5058379 ซึ่งทำให้ระบบที่ใช้ Intel Trusted Execution Technology (TXT) บนโปรเซสเซอร์ Intel vPro รุ่นที่ 10 ขึ้นไป ต้องเข้าสู่ BitLocker Recovery Loop โดยไม่สามารถบูตเข้าสู่ Windows ได้

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับอัปเดต KB5061768
    KB5061768 แก้ไขปัญหาที่เกิดจาก KB5058379 ซึ่งทำให้ LSASS ล่มและเข้าสู่ BitLocker Recovery
    - ปัญหานี้ ส่งผลกระทบต่อระบบที่ใช้ Intel TXT บนโปรเซสเซอร์ Intel vPro รุ่นที่ 10 ขึ้นไป

    Microsoft แนะนำให้ผู้ใช้ที่ยังไม่ได้ติดตั้ง KB5058379 ติดตั้ง KB5061768 ก่อน
    - เพื่อ ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา BitLocker Recovery Loop

    สำหรับผู้ใช้ที่ติดตั้ง KB5058379 แล้วและไม่สามารถบูตเข้าสู่ Windows ได้
    - Microsoft แนะนำให้ปิด Intel VT และ TXT ใน BIOS/UEFI ชั่วคราวเพื่อติดตั้ง KB5061768

    หลังจากติดตั้ง KB5061768 แล้ว ผู้ใช้สามารถเปิด Intel VT และ TXT กลับมาได้
    - แต่ต้อง ป้อน BitLocker Recovery Key อีกครั้ง

    KB5061768 มีเฉพาะใน Microsoft Update Catalog และไม่ได้ปล่อยผ่าน Windows Update
    - ผู้ใช้ต้อง ดาวน์โหลดและติดตั้งด้วยตนเอง

    https://www.neowin.net/news/windows-10-emergency-update-kb5061768-fixes-bitlocker-boot-loops/
    Microsoft ออกอัปเดตฉุกเฉิน KB5061768 เพื่อแก้ไขปัญหา BitLocker บน Windows 10 Microsoft ได้ปล่อยอัปเดตฉุกเฉิน KB5061768 สำหรับ Windows 10 เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจาก KB5058379 ซึ่งทำให้ระบบที่ใช้ Intel Trusted Execution Technology (TXT) บนโปรเซสเซอร์ Intel vPro รุ่นที่ 10 ขึ้นไป ต้องเข้าสู่ BitLocker Recovery Loop โดยไม่สามารถบูตเข้าสู่ Windows ได้ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับอัปเดต KB5061768 ✅ KB5061768 แก้ไขปัญหาที่เกิดจาก KB5058379 ซึ่งทำให้ LSASS ล่มและเข้าสู่ BitLocker Recovery - ปัญหานี้ ส่งผลกระทบต่อระบบที่ใช้ Intel TXT บนโปรเซสเซอร์ Intel vPro รุ่นที่ 10 ขึ้นไป ✅ Microsoft แนะนำให้ผู้ใช้ที่ยังไม่ได้ติดตั้ง KB5058379 ติดตั้ง KB5061768 ก่อน - เพื่อ ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา BitLocker Recovery Loop ✅ สำหรับผู้ใช้ที่ติดตั้ง KB5058379 แล้วและไม่สามารถบูตเข้าสู่ Windows ได้ - Microsoft แนะนำให้ปิด Intel VT และ TXT ใน BIOS/UEFI ชั่วคราวเพื่อติดตั้ง KB5061768 ✅ หลังจากติดตั้ง KB5061768 แล้ว ผู้ใช้สามารถเปิด Intel VT และ TXT กลับมาได้ - แต่ต้อง ป้อน BitLocker Recovery Key อีกครั้ง ✅ KB5061768 มีเฉพาะใน Microsoft Update Catalog และไม่ได้ปล่อยผ่าน Windows Update - ผู้ใช้ต้อง ดาวน์โหลดและติดตั้งด้วยตนเอง https://www.neowin.net/news/windows-10-emergency-update-kb5061768-fixes-bitlocker-boot-loops/
    WWW.NEOWIN.NET
    Windows 10 emergency update KB5061768 fixes BitLocker boot loops
    Microsoft is rolling out an emergency update for Windows 10 users to address BitLocker recovery boot loops.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 193 มุมมอง 0 รีวิว
  • PowerToys v0.91.1: อัปเดตใหม่แก้ไขข้อผิดพลาดสำคัญ

    Microsoft ปล่อยอัปเดต PowerToys v0.91.1 เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดที่พบในเวอร์ชันก่อนหน้า โดยเน้นไปที่ Command Palette, Workspaces และ Quick Accent ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของผู้ใช้ Windows

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ PowerToys v0.91.1
    Command Palette ได้รับการแก้ไขให้ทำงานในโหมดผู้ใช้ปกติแทนโหมด Administrator
    - แก้ไขปัญหาที่ ทำให้ Command Palette รันเป็น Admin โดยไม่ได้ตั้งใจ

    Workspaces รองรับการเปิดแอป Win32 พร้อมตัวเลือก command-line
    - แก้ไขข้อผิดพลาดที่ ทำให้ไม่สามารถใช้ command-line options กับแอปคลาสสิก เช่น Edge และ Chrome

    Quick Accent ปรับปรุงการเลือกตัวอักษรพิเศษให้ใช้งานง่ายขึ้น
    - ผู้ใช้ ไม่ต้องกดปุ่ม activation พร้อมกับตัวอักษรอีกต่อไป

    PowerToys สามารถอัปเดตผ่าน Microsoft Store, GitHub และ WinGet
    - ผู้ใช้สามารถ ติดตั้งหรืออัปเดตผ่านคำสั่ง
    winget install Microsoft.PowerToys -s winget

    https://www.neowin.net/news/powertoys-v0911-brings-fixes-for-command-pallete-workspaces-and-quick-accent/
    PowerToys v0.91.1: อัปเดตใหม่แก้ไขข้อผิดพลาดสำคัญ Microsoft ปล่อยอัปเดต PowerToys v0.91.1 เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดที่พบในเวอร์ชันก่อนหน้า โดยเน้นไปที่ Command Palette, Workspaces และ Quick Accent ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของผู้ใช้ Windows 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ PowerToys v0.91.1 ✅ Command Palette ได้รับการแก้ไขให้ทำงานในโหมดผู้ใช้ปกติแทนโหมด Administrator - แก้ไขปัญหาที่ ทำให้ Command Palette รันเป็น Admin โดยไม่ได้ตั้งใจ ✅ Workspaces รองรับการเปิดแอป Win32 พร้อมตัวเลือก command-line - แก้ไขข้อผิดพลาดที่ ทำให้ไม่สามารถใช้ command-line options กับแอปคลาสสิก เช่น Edge และ Chrome ✅ Quick Accent ปรับปรุงการเลือกตัวอักษรพิเศษให้ใช้งานง่ายขึ้น - ผู้ใช้ ไม่ต้องกดปุ่ม activation พร้อมกับตัวอักษรอีกต่อไป ✅ PowerToys สามารถอัปเดตผ่าน Microsoft Store, GitHub และ WinGet - ผู้ใช้สามารถ ติดตั้งหรืออัปเดตผ่านคำสั่ง winget install Microsoft.PowerToys -s winget https://www.neowin.net/news/powertoys-v0911-brings-fixes-for-command-pallete-workspaces-and-quick-accent/
    WWW.NEOWIN.NET
    PowerToys v0.91.1 brings fixes for Command Palette, Workspaces, and Quick Accent
    In this patch are mainly regression fixes for Command Palette, Workspaces, and Quick Accent, where in one case Command Palette is run as Admin instead of the user.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 437 มุมมอง 0 รีวิว
  • PrismX: AI ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยลดแนวคิดสุดโต่งบน Reddit

    Sairaj Balaji นักศึกษาวิทยาการคอมพิวเตอร์จาก SRMIST ประเทศอินเดีย ได้พัฒนา AI ที่ชื่อว่า PrismX ซึ่งสามารถ ติดตามและวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้ Reddit ที่มีแนวโน้มไปสู่แนวคิดสุดโต่ง โดยใช้ การสแกนข้อความและการให้คะแนน "radical score" เพื่อระบุระดับความรุนแรงของแนวคิด

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ PrismX
    PrismX ใช้ระบบ Live OSINT Scan เพื่อตรวจสอบโพสต์บน Reddit แบบเรียลไทม์
    - สามารถ วิเคราะห์ภาษาที่ใช้และอารมณ์ของผู้โพสต์

    มีระบบ Psychological Profiling Engine ที่แบ่งผู้ใช้เป็นกลุ่มต่าง ๆ ตามแนวคิด
    - เช่น "Zealot" (สุดโต่ง), "Idealist" (โน้มน้าวได้ง่าย) และ "Atomized" (โดดเดี่ยวและมีแนวโน้มรุนแรง)

    Active Engagement Module สามารถใช้ AI chatbot เพื่อโต้ตอบกับผู้ใช้
    - มีเป้าหมาย เพื่อช่วยลดแนวคิดสุดโต่งหรือกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางความคิด

    สามารถตรวจสอบแพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Instagram โดยใช้การวิเคราะห์เนื้อหาและคอมเมนต์
    - เช่น การให้คะแนนผู้ใช้ตามความคิดเห็นเกี่ยวกับ LGBTQ+ หรือศาสนา

    Balaji ยอมรับว่า PrismX ยังไม่ได้ถูกนำไปใช้จริงกับผู้ใช้ Reddit เนื่องจากข้อกังวลด้านจริยธรรม
    - เขา ไม่มีการศึกษาเกี่ยวกับการลดแนวคิดสุดโต่ง แต่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและการจัดการ

    https://www.neowin.net/news/ideological-warfare-student-builds-ai-tool-to-de-radicalize-extremists-on-reddit/
    PrismX: AI ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยลดแนวคิดสุดโต่งบน Reddit Sairaj Balaji นักศึกษาวิทยาการคอมพิวเตอร์จาก SRMIST ประเทศอินเดีย ได้พัฒนา AI ที่ชื่อว่า PrismX ซึ่งสามารถ ติดตามและวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้ Reddit ที่มีแนวโน้มไปสู่แนวคิดสุดโต่ง โดยใช้ การสแกนข้อความและการให้คะแนน "radical score" เพื่อระบุระดับความรุนแรงของแนวคิด 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ PrismX ✅ PrismX ใช้ระบบ Live OSINT Scan เพื่อตรวจสอบโพสต์บน Reddit แบบเรียลไทม์ - สามารถ วิเคราะห์ภาษาที่ใช้และอารมณ์ของผู้โพสต์ ✅ มีระบบ Psychological Profiling Engine ที่แบ่งผู้ใช้เป็นกลุ่มต่าง ๆ ตามแนวคิด - เช่น "Zealot" (สุดโต่ง), "Idealist" (โน้มน้าวได้ง่าย) และ "Atomized" (โดดเดี่ยวและมีแนวโน้มรุนแรง) ✅ Active Engagement Module สามารถใช้ AI chatbot เพื่อโต้ตอบกับผู้ใช้ - มีเป้าหมาย เพื่อช่วยลดแนวคิดสุดโต่งหรือกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางความคิด ✅ สามารถตรวจสอบแพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Instagram โดยใช้การวิเคราะห์เนื้อหาและคอมเมนต์ - เช่น การให้คะแนนผู้ใช้ตามความคิดเห็นเกี่ยวกับ LGBTQ+ หรือศาสนา ✅ Balaji ยอมรับว่า PrismX ยังไม่ได้ถูกนำไปใช้จริงกับผู้ใช้ Reddit เนื่องจากข้อกังวลด้านจริยธรรม - เขา ไม่มีการศึกษาเกี่ยวกับการลดแนวคิดสุดโต่ง แต่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและการจัดการ https://www.neowin.net/news/ideological-warfare-student-builds-ai-tool-to-de-radicalize-extremists-on-reddit/
    WWW.NEOWIN.NET
    Ideological warfare: Student builds AI tool to de-radicalize extremists on Reddit
    With AI's influence under scrutiny, a tool has emerged that attempts to de-radicalize radical Reddit users, raising red flags about who decides what 'radical' actually means.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 376 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft นำ OpenAI Sora Video Generation API มาสู่ Azure AI Foundry

    Microsoft ประกาศในงาน Build 2025 ว่า OpenAI Sora Video Generation API จะพร้อมใช้งานบน Azure AI Foundry ตั้งแต่สัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการนำ โมเดล AI สำหรับการสร้างวิดีโอจากข้อความ มาสู่แพลตฟอร์มคลาวด์ของ Microsoft

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ OpenAI Sora บน Azure AI Foundry
    Azure AI Foundry มีโมเดล AI มากกว่า 1,900 โมเดล แต่ยังไม่มีโมเดลสร้างวิดีโอจากข้อความ
    - AWS และ Google Cloud มีโมเดล Nova Reels และ Veo API สำหรับการสร้างวิดีโออยู่แล้ว

    OpenAI Sora เปิดตัวในเดือนธันวาคม 2024 แต่ยังไม่มี API สำหรับนักพัฒนา
    - ปัจจุบัน ChatGPT Premium สามารถใช้ Sora เพื่อสร้างวิดีโอจากข้อความได้

    Microsoft เปิดตัว 'Video Playground' ใน Azure AI Foundry เพื่อให้ทดลองใช้ Sora
    - นักพัฒนาสามารถ ปรับแต่งอัตราส่วนภาพ, ความละเอียด และระยะเวลาของวิดีโอ

    Sora จะสามารถเข้าถึงได้ผ่าน Azure OpenAI Service
    - ทำให้ นักพัฒนาสามารถรวมเข้ากับแอปพลิเคชันของตนได้ง่ายขึ้น

    บริษัท T&Pm ของ WPP ใช้ Sora ผ่าน Azure OpenAI Service เพื่อปรับปรุงเวิร์กโฟลว์
    - ช่วยให้ สามารถสร้างภาพแนวคิดและขยายไอเดียไปสู่การผลิตได้ง่ายขึ้น

    https://www.neowin.net/news/microsoft-to-bring-openais-sora-video-generation-api-to-azure-ai-foundry-next-week/
    Microsoft นำ OpenAI Sora Video Generation API มาสู่ Azure AI Foundry Microsoft ประกาศในงาน Build 2025 ว่า OpenAI Sora Video Generation API จะพร้อมใช้งานบน Azure AI Foundry ตั้งแต่สัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการนำ โมเดล AI สำหรับการสร้างวิดีโอจากข้อความ มาสู่แพลตฟอร์มคลาวด์ของ Microsoft 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ OpenAI Sora บน Azure AI Foundry ✅ Azure AI Foundry มีโมเดล AI มากกว่า 1,900 โมเดล แต่ยังไม่มีโมเดลสร้างวิดีโอจากข้อความ - AWS และ Google Cloud มีโมเดล Nova Reels และ Veo API สำหรับการสร้างวิดีโออยู่แล้ว ✅ OpenAI Sora เปิดตัวในเดือนธันวาคม 2024 แต่ยังไม่มี API สำหรับนักพัฒนา - ปัจจุบัน ChatGPT Premium สามารถใช้ Sora เพื่อสร้างวิดีโอจากข้อความได้ ✅ Microsoft เปิดตัว 'Video Playground' ใน Azure AI Foundry เพื่อให้ทดลองใช้ Sora - นักพัฒนาสามารถ ปรับแต่งอัตราส่วนภาพ, ความละเอียด และระยะเวลาของวิดีโอ ✅ Sora จะสามารถเข้าถึงได้ผ่าน Azure OpenAI Service - ทำให้ นักพัฒนาสามารถรวมเข้ากับแอปพลิเคชันของตนได้ง่ายขึ้น ✅ บริษัท T&Pm ของ WPP ใช้ Sora ผ่าน Azure OpenAI Service เพื่อปรับปรุงเวิร์กโฟลว์ - ช่วยให้ สามารถสร้างภาพแนวคิดและขยายไอเดียไปสู่การผลิตได้ง่ายขึ้น https://www.neowin.net/news/microsoft-to-bring-openais-sora-video-generation-api-to-azure-ai-foundry-next-week/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft to bring OpenAI's Sora video generation API to Azure AI Foundry next week
    Microsoft's Azure AI Foundry will soon include OpenAI's text-to-video model, Sora, addressing a current gap compared to AWS and Google Cloud.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 380 มุมมอง 0 รีวิว
  • ส.ว.ผวา คดีฮั้ว ทยอยชี้แจง กกต. 'อลงกต' พูดไทยไม่ได้
    .
    เป็นไปตามคาดเมื่อส.ว.หลายคนทยอยเข้ามาชี้แจงคดีฮั้วเลือกส.ว.ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.เกรียงไกร​ ศรี​รักษ์​ รองประธานวุฒิสภา​ นายอลงกต วรกี​ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี นายสิทธิกร คงยศ นายนิพนธ์ เอกวานิช เป็นต้น ซึ่งแต่ละคนต่างมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000046936

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ส.ว.ผวา คดีฮั้ว ทยอยชี้แจง กกต. 'อลงกต' พูดไทยไม่ได้ . เป็นไปตามคาดเมื่อส.ว.หลายคนทยอยเข้ามาชี้แจงคดีฮั้วเลือกส.ว.ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.เกรียงไกร​ ศรี​รักษ์​ รองประธานวุฒิสภา​ นายอลงกต วรกี​ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี นายสิทธิกร คงยศ นายนิพนธ์ เอกวานิช เป็นต้น ซึ่งแต่ละคนต่างมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000046936 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Love
    Angry
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1584 มุมมอง 0 รีวิว
  • Harvard ค้นพบว่าเอกสารที่ซื้อมาในราคาเพียง $27 เป็น Magna Carta ฉบับจริง

    นักวิจัยจาก King’s College London และ University of East Anglia (UEA) ค้นพบว่าเอกสารที่ Harvard Law School เคยคิดว่าเป็นเพียงสำเนาของ Magna Carta แท้จริงแล้วเป็น ฉบับดั้งเดิมจากปี 1300 ซึ่งเป็นหนึ่งใน เจ็ดฉบับที่ยังคงอยู่ในปัจจุบัน

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการค้นพบ Magna Carta ที่ Harvard
    เอกสารนี้มีชื่อว่า HLS MS 172 และเป็นหนึ่งในเจ็ดฉบับที่ออกโดย King Edward I
    - Magna Carta เป็นรากฐานสำคัญของกฎหมายและสิทธิพลเมืองทั่วโลก

    Harvard ซื้อเอกสารนี้ในปี 1946 ด้วยราคาเพียง $27.50
    - ก่อนหน้านั้น อดีตทหาร Royal Air Force ขายเอกสารนี้ในลอนดอนในราคา £42 โดยคิดว่าเป็นสำเนาเก่า

    นักวิจัยใช้เทคนิคพิเศษ เช่น แสงอัลตราไวโอเลตและการวิเคราะห์สเปกตรัม เพื่อยืนยันความเป็นต้นฉบับ
    - ผลการตรวจสอบ พบว่าเอกสารนี้ตรงกับ Magna Carta ฉบับดั้งเดิมที่ได้รับการยืนยันแล้ว

    เอกสารนี้อาจเคยเป็นของ Air Vice-Marshal Forster Maynard นักบินในสงครามโลกครั้งที่ 1
    - และอาจผ่านมือของ นักเคลื่อนไหวต่อต้านการค้าทาส Thomas และ John Clarkson

    Harvard Law School ยังคงศึกษาประวัติของเอกสารนี้เพื่อทำความเข้าใจบทบาทของ Magna Carta ในประวัติศาสตร์
    - Jonathan Zittrain รองคณบดีของ Harvard Law School กล่าวว่าเอกสารนี้เป็นเครื่องเตือนใจถึงวิวัฒนาการของหลักนิติธรรม

    https://www.neowin.net/news/harvard-unknowingly-paid-just-over-27-for-a-real-magna-carta-from-centuries-ago/
    Harvard ค้นพบว่าเอกสารที่ซื้อมาในราคาเพียง $27 เป็น Magna Carta ฉบับจริง นักวิจัยจาก King’s College London และ University of East Anglia (UEA) ค้นพบว่าเอกสารที่ Harvard Law School เคยคิดว่าเป็นเพียงสำเนาของ Magna Carta แท้จริงแล้วเป็น ฉบับดั้งเดิมจากปี 1300 ซึ่งเป็นหนึ่งใน เจ็ดฉบับที่ยังคงอยู่ในปัจจุบัน 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการค้นพบ Magna Carta ที่ Harvard ✅ เอกสารนี้มีชื่อว่า HLS MS 172 และเป็นหนึ่งในเจ็ดฉบับที่ออกโดย King Edward I - Magna Carta เป็นรากฐานสำคัญของกฎหมายและสิทธิพลเมืองทั่วโลก ✅ Harvard ซื้อเอกสารนี้ในปี 1946 ด้วยราคาเพียง $27.50 - ก่อนหน้านั้น อดีตทหาร Royal Air Force ขายเอกสารนี้ในลอนดอนในราคา £42 โดยคิดว่าเป็นสำเนาเก่า ✅ นักวิจัยใช้เทคนิคพิเศษ เช่น แสงอัลตราไวโอเลตและการวิเคราะห์สเปกตรัม เพื่อยืนยันความเป็นต้นฉบับ - ผลการตรวจสอบ พบว่าเอกสารนี้ตรงกับ Magna Carta ฉบับดั้งเดิมที่ได้รับการยืนยันแล้ว ✅ เอกสารนี้อาจเคยเป็นของ Air Vice-Marshal Forster Maynard นักบินในสงครามโลกครั้งที่ 1 - และอาจผ่านมือของ นักเคลื่อนไหวต่อต้านการค้าทาส Thomas และ John Clarkson ✅ Harvard Law School ยังคงศึกษาประวัติของเอกสารนี้เพื่อทำความเข้าใจบทบาทของ Magna Carta ในประวัติศาสตร์ - Jonathan Zittrain รองคณบดีของ Harvard Law School กล่าวว่าเอกสารนี้เป็นเครื่องเตือนใจถึงวิวัฒนาการของหลักนิติธรรม https://www.neowin.net/news/harvard-unknowingly-paid-just-over-27-for-a-real-magna-carta-from-centuries-ago/
    WWW.NEOWIN.NET
    Harvard unknowingly paid just over $27 for a real "Magna Carta" from centuries ago
    Harvard Law School has revealed how it determined that the Magna Carta, which it had paid under $28 for, was the real deal.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 331 มุมมอง 0 รีวิว
  • เงินหมื่นสุดทางแล้ว เฟส 3 ไปไม่รอด หวังประชาชนจะเข้าใจ
    .
    แม้เรื่องการชะลอโครงการแจกเงินหมื่น จะเป็นเรื่องใหญ่และเรื่องสำคัญ แต่ปรากฎนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังเลือกที่จะให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้ชี้แจงแทน จึงไม่แปลกที่เวลานี้คำถามเกี่ยวภาวะความเป็นผู้นำของนายกฯครอบครัวชินวัตรคนที่ 3 นี้ ดังกระหึ่มอีกครั้ง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000046937

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    เงินหมื่นสุดทางแล้ว เฟส 3 ไปไม่รอด หวังประชาชนจะเข้าใจ . แม้เรื่องการชะลอโครงการแจกเงินหมื่น จะเป็นเรื่องใหญ่และเรื่องสำคัญ แต่ปรากฎนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังเลือกที่จะให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้ชี้แจงแทน จึงไม่แปลกที่เวลานี้คำถามเกี่ยวภาวะความเป็นผู้นำของนายกฯครอบครัวชินวัตรคนที่ 3 นี้ ดังกระหึ่มอีกครั้ง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000046937 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1759 มุมมอง 0 รีวิว
  • 8 ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่มักถูกมองข้ามในการนำ AI มาใช้

    องค์กรต่าง ๆ เร่งนำ AI มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แต่กลับละเลยการตรวจสอบความปลอดภัยของระบบ AI ก่อนใช้งานจริง ส่งผลให้เกิด ช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่อาจนำไปสู่การละเมิดข้อมูลและการโจมตีทางไซเบอร์

    8 ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่มักถูกมองข้ามในการนำ AI มาใช้
    การเปิดเผยข้อมูล (Data Exposure)
    - AI มักจัดการข้อมูลจำนวนมาก แต่หากไม่มีการทดสอบที่เหมาะสม อาจเสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูลสำคัญ ผ่าน API ที่ไม่ปลอดภัยหรือการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต

    ช่องโหว่ในโมเดล (Model-Level Vulnerabilities)
    - รวมถึง Prompt Injection, Jailbreaks และ Adversarial Attacks ซึ่งทำให้ AI สามารถถูกหลอกให้ให้ข้อมูลที่ไม่ควรเปิดเผยหรือทำงานผิดพลาด

    ความสมบูรณ์ของโมเดลและการโจมตีเชิงรุก (Model Integrity and Adversarial Attacks)
    - AI สามารถถูกโจมตีผ่าน Data Poisoning หรือการปรับแต่งข้อมูลนำเข้า ทำให้ AI ตัดสินใจผิดพลาด

    ความเสี่ยงจากการผสานรวม (Systemic Integration Risks)
    - AI มักถูกใช้งานร่วมกับระบบอื่น ๆ ผ่าน API หรือ Plugin หากไม่มีการทดสอบที่ดี อาจเกิดการรั่วไหลของข้อมูลหรือการเพิ่มสิทธิ์โดยไม่ได้ตั้งใจ

    ข้อบกพร่องด้านการควบคุมการเข้าถึง (Access Control Failures)
    - การตั้งค่าที่ผิดพลาดอาจทำให้ ผู้ใช้หรือแฮกเกอร์สามารถเข้าถึงระบบ AI ได้มากกว่าที่ตั้งใจไว้ เช่น API Key ที่ไม่ได้รับการปกป้อง

    ข้อผิดพลาดในระหว่างการทำงาน (Runtime Security Failures)
    - AI อาจมี พฤติกรรมที่ไม่คาดคิดในระหว่างการใช้งานจริง เช่น ข้อมูลล้นออกจากบริบท หรือการสะท้อนผลลัพธ์ที่ผิดพลาด

    การละเมิดข้อกำหนดและการกำกับดูแล (Compliance Violations)
    - AI อาจ ละเมิดกฎหมายด้านข้อมูลส่วนบุคคลหรือมาตรฐานความปลอดภัย หากไม่ได้รับการตรวจสอบก่อนใช้งาน

    ผลกระทบต่อการดำเนินงานโดยรวม (Broader Operational Impacts)
    - ช่องโหว่ทางเทคนิคที่ไม่ได้รับการแก้ไข อาจส่งผลกระทบต่อองค์กรในด้านความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ

    https://www.csoonline.com/article/3988355/8-security-risks-overlooked-in-the-rush-to-implement-ai.html
    8 ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่มักถูกมองข้ามในการนำ AI มาใช้ องค์กรต่าง ๆ เร่งนำ AI มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แต่กลับละเลยการตรวจสอบความปลอดภัยของระบบ AI ก่อนใช้งานจริง ส่งผลให้เกิด ช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่อาจนำไปสู่การละเมิดข้อมูลและการโจมตีทางไซเบอร์ 📌 8 ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่มักถูกมองข้ามในการนำ AI มาใช้ ✅ การเปิดเผยข้อมูล (Data Exposure) - AI มักจัดการข้อมูลจำนวนมาก แต่หากไม่มีการทดสอบที่เหมาะสม อาจเสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูลสำคัญ ผ่าน API ที่ไม่ปลอดภัยหรือการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต ✅ ช่องโหว่ในโมเดล (Model-Level Vulnerabilities) - รวมถึง Prompt Injection, Jailbreaks และ Adversarial Attacks ซึ่งทำให้ AI สามารถถูกหลอกให้ให้ข้อมูลที่ไม่ควรเปิดเผยหรือทำงานผิดพลาด ✅ ความสมบูรณ์ของโมเดลและการโจมตีเชิงรุก (Model Integrity and Adversarial Attacks) - AI สามารถถูกโจมตีผ่าน Data Poisoning หรือการปรับแต่งข้อมูลนำเข้า ทำให้ AI ตัดสินใจผิดพลาด ✅ ความเสี่ยงจากการผสานรวม (Systemic Integration Risks) - AI มักถูกใช้งานร่วมกับระบบอื่น ๆ ผ่าน API หรือ Plugin หากไม่มีการทดสอบที่ดี อาจเกิดการรั่วไหลของข้อมูลหรือการเพิ่มสิทธิ์โดยไม่ได้ตั้งใจ ✅ ข้อบกพร่องด้านการควบคุมการเข้าถึง (Access Control Failures) - การตั้งค่าที่ผิดพลาดอาจทำให้ ผู้ใช้หรือแฮกเกอร์สามารถเข้าถึงระบบ AI ได้มากกว่าที่ตั้งใจไว้ เช่น API Key ที่ไม่ได้รับการปกป้อง ✅ ข้อผิดพลาดในระหว่างการทำงาน (Runtime Security Failures) - AI อาจมี พฤติกรรมที่ไม่คาดคิดในระหว่างการใช้งานจริง เช่น ข้อมูลล้นออกจากบริบท หรือการสะท้อนผลลัพธ์ที่ผิดพลาด ✅ การละเมิดข้อกำหนดและการกำกับดูแล (Compliance Violations) - AI อาจ ละเมิดกฎหมายด้านข้อมูลส่วนบุคคลหรือมาตรฐานความปลอดภัย หากไม่ได้รับการตรวจสอบก่อนใช้งาน ✅ ผลกระทบต่อการดำเนินงานโดยรวม (Broader Operational Impacts) - ช่องโหว่ทางเทคนิคที่ไม่ได้รับการแก้ไข อาจส่งผลกระทบต่อองค์กรในด้านความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ https://www.csoonline.com/article/3988355/8-security-risks-overlooked-in-the-rush-to-implement-ai.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    8 security risks overlooked in the rush to implement AI
    Nearly two-thirds of companies fail to vet the security implications of AI tools before deploying them. Stressing security fundamentals from the outset can cut down the risks.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 388 มุมมอง 0 รีวิว
  • Dell เปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ AI ใหม่ ใช้ชิป Nvidia Blackwell Ultra

    Dell Technologies เปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ AI รุ่นใหม่ที่ใช้ชิป Nvidia Blackwell Ultra เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของระบบ AI สำหรับองค์กร เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้สามารถ ฝึกโมเดล AI ได้เร็วขึ้นถึง 4 เท่า เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับเซิร์ฟเวอร์ AI ใหม่ของ Dell
    เซิร์ฟเวอร์รองรับชิป Nvidia Blackwell Ultra สูงสุด 192 ตัว และสามารถปรับแต่งให้รองรับได้ถึง 256 ตัว
    - ช่วยให้ สามารถประมวลผล AI ได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น

    มีทั้งรุ่นระบายความร้อนด้วยอากาศและของเหลว
    - เพื่อ รองรับการใช้งานที่ต้องการประสิทธิภาพสูงและลดความร้อนของระบบ

    Dell วางแผนเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์ด้านเครือข่ายและการจัดเก็บข้อมูล
    - เพื่อ รักษาระดับกำไรที่เหมาะสมในตลาดที่มีการแข่งขันสูง

    เซิร์ฟเวอร์ใหม่รองรับชิป Nvidia Vera Rubin ซึ่งจะเป็นรุ่นต่อจาก Blackwell
    - คาดว่า จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผล AI ในอนาคต

    Dell เปิดตัวแล็ปท็อป 'Pro Max Plus' สำหรับนักพัฒนา AI
    - มี Neural Processing Unit (NPU) ที่ช่วยให้สามารถประมวลผลโมเดล AI ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาคลาวด์

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/20/dell-unveils-new-ai-servers-powered-by-nvidia-chips-to-boost-enterprise-adoption
    Dell เปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ AI ใหม่ ใช้ชิป Nvidia Blackwell Ultra Dell Technologies เปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ AI รุ่นใหม่ที่ใช้ชิป Nvidia Blackwell Ultra เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของระบบ AI สำหรับองค์กร เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้สามารถ ฝึกโมเดล AI ได้เร็วขึ้นถึง 4 เท่า เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับเซิร์ฟเวอร์ AI ใหม่ของ Dell ✅ เซิร์ฟเวอร์รองรับชิป Nvidia Blackwell Ultra สูงสุด 192 ตัว และสามารถปรับแต่งให้รองรับได้ถึง 256 ตัว - ช่วยให้ สามารถประมวลผล AI ได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ✅ มีทั้งรุ่นระบายความร้อนด้วยอากาศและของเหลว - เพื่อ รองรับการใช้งานที่ต้องการประสิทธิภาพสูงและลดความร้อนของระบบ ✅ Dell วางแผนเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์ด้านเครือข่ายและการจัดเก็บข้อมูล - เพื่อ รักษาระดับกำไรที่เหมาะสมในตลาดที่มีการแข่งขันสูง ✅ เซิร์ฟเวอร์ใหม่รองรับชิป Nvidia Vera Rubin ซึ่งจะเป็นรุ่นต่อจาก Blackwell - คาดว่า จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผล AI ในอนาคต ✅ Dell เปิดตัวแล็ปท็อป 'Pro Max Plus' สำหรับนักพัฒนา AI - มี Neural Processing Unit (NPU) ที่ช่วยให้สามารถประมวลผลโมเดล AI ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาคลาวด์ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/20/dell-unveils-new-ai-servers-powered-by-nvidia-chips-to-boost-enterprise-adoption
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Dell unveils new AI servers powered by Nvidia chips to boost enterprise adoption
    (Reuters) -Dell Technologies on Monday unveiled new servers powered by Nvidia's Blackwell Ultra chips, aiming to capitalize on the booming demand for artificial intelligence systems.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
  • Delta สามารถฟ้อง CrowdStrike กรณีระบบล่มที่ทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบิน 7,000 เที่ยว

    ศาลรัฐจอร์เจีย อนุญาตให้ Delta Air Lines ดำเนินคดีต่อ CrowdStrike บริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์ หลังจากที่ การอัปเดตซอฟต์แวร์ Falcon ของ CrowdStrike ทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ล่มทั่วโลก ส่งผลให้ Delta ต้องยกเลิกเที่ยวบินกว่า 7,000 เที่ยว และสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจมหาศาล

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดี Delta vs. CrowdStrike
    Delta อ้างว่า CrowdStrike ละเลยการทดสอบซอฟต์แวร์ก่อนปล่อยอัปเดต
    - หากมีการทดสอบบนคอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียว ข้อผิดพลาดอาจถูกตรวจพบก่อนเกิดเหตุ

    การอัปเดตซอฟต์แวร์ Falcon ทำให้คอมพิวเตอร์ Windows กว่า 8 ล้านเครื่องล่ม
    - ส่งผลกระทบต่อ สายการบินและองค์กรทั่วโลก

    ศาลอนุญาตให้ Delta ดำเนินคดีในข้อหาประมาทเลินเล่อร้ายแรงและการบุกรุกระบบคอมพิวเตอร์
    - รวมถึง ข้อกล่าวหาว่า CrowdStrike สัญญาว่าจะไม่สร้าง "back door" ในระบบของ Delta แต่กลับทำตรงกันข้าม

    Delta ประเมินความเสียหายจากเหตุการณ์นี้ที่ 550 ล้านดอลลาร์
    - แต่สามารถ ลดต้นทุนเชื้อเพลิงลงได้ 50 ล้านดอลลาร์

    CrowdStrike ปฏิเสธข้อกล่าวหาและมั่นใจว่าคดีจะถูกจำกัดความเสียหายไว้ที่ "หลักล้านดอลลาร์"
    - อ้างว่า ภายใต้กฎหมายจอร์เจีย การเรียกร้องค่าเสียหายอาจถูกจำกัด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/20/delta-can-sue-crowdstrike-over-computer-outage-that-caused-7000-canceled-flights
    Delta สามารถฟ้อง CrowdStrike กรณีระบบล่มที่ทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบิน 7,000 เที่ยว ศาลรัฐจอร์เจีย อนุญาตให้ Delta Air Lines ดำเนินคดีต่อ CrowdStrike บริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์ หลังจากที่ การอัปเดตซอฟต์แวร์ Falcon ของ CrowdStrike ทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ล่มทั่วโลก ส่งผลให้ Delta ต้องยกเลิกเที่ยวบินกว่า 7,000 เที่ยว และสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจมหาศาล 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดี Delta vs. CrowdStrike ✅ Delta อ้างว่า CrowdStrike ละเลยการทดสอบซอฟต์แวร์ก่อนปล่อยอัปเดต - หากมีการทดสอบบนคอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียว ข้อผิดพลาดอาจถูกตรวจพบก่อนเกิดเหตุ ✅ การอัปเดตซอฟต์แวร์ Falcon ทำให้คอมพิวเตอร์ Windows กว่า 8 ล้านเครื่องล่ม - ส่งผลกระทบต่อ สายการบินและองค์กรทั่วโลก ✅ ศาลอนุญาตให้ Delta ดำเนินคดีในข้อหาประมาทเลินเล่อร้ายแรงและการบุกรุกระบบคอมพิวเตอร์ - รวมถึง ข้อกล่าวหาว่า CrowdStrike สัญญาว่าจะไม่สร้าง "back door" ในระบบของ Delta แต่กลับทำตรงกันข้าม ✅ Delta ประเมินความเสียหายจากเหตุการณ์นี้ที่ 550 ล้านดอลลาร์ - แต่สามารถ ลดต้นทุนเชื้อเพลิงลงได้ 50 ล้านดอลลาร์ ✅ CrowdStrike ปฏิเสธข้อกล่าวหาและมั่นใจว่าคดีจะถูกจำกัดความเสียหายไว้ที่ "หลักล้านดอลลาร์" - อ้างว่า ภายใต้กฎหมายจอร์เจีย การเรียกร้องค่าเสียหายอาจถูกจำกัด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/20/delta-can-sue-crowdstrike-over-computer-outage-that-caused-7000-canceled-flights
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Delta can sue CrowdStrike over computer outage that caused 7,000 canceled flights
    (Reuters) -Delta Air Lines can pursue much of its lawsuit seeking to hold cybersecurity company CrowdStrike liable for a massive computer outage last July that caused the carrier to cancel 7,000 flights, a Georgia state judge ruled.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 431 มุมมอง 0 รีวิว
  • Waymo ได้รับอนุญาตให้ขยายบริการรถแท็กซี่ไร้คนขับในพื้นที่ Bay Area

    Waymo ได้รับการอนุมัติจากรัฐแคลิฟอร์เนียให้ขยายบริการรถแท็กซี่ไร้คนขับไปยังพื้นที่ใหม่ใน San Francisco Peninsula และ San Jose อย่างไรก็ตาม บริษัทระบุว่าจะดำเนินการขยายบริการอย่างค่อยเป็นค่อยไป

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการขยายบริการของ Waymo
    Waymo ได้รับอนุญาตจาก California Public Utilities Commission (CPUC) ให้ขยายบริการ
    - การอนุมัติครั้งนี้ ไม่มีการคัดค้านจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

    Waymo มีรถแท็กซี่ไร้คนขับมากกว่า 1,500 คันในหลายเมืองของสหรัฐฯ
    - ให้บริการใน San Francisco, Los Angeles, Phoenix และ Austin

    บริษัทให้บริการมากกว่า 250,000 เที่ยวต่อสัปดาห์
    - เป็น บริษัทเดียวในสหรัฐฯ ที่ให้บริการรถแท็กซี่ไร้คนขับสำหรับผู้โดยสารที่ชำระเงิน

    Waymo กำลังเรียกคืนรถแท็กซี่ไร้คนขับกว่า 1,200 คันเพื่ออัปเดตซอฟต์แวร์
    - เพื่อ แก้ไขปัญหาการชนกับสิ่งกีดขวาง เช่น โซ่และประตูทางเข้า

    Tesla กำลังเตรียมเปิดตัวบริการรถแท็กซี่ไร้คนขับแบบชำระเงินใน Austin เดือนหน้า
    - CEO Elon Musk วางแผนขยายบริการไปยังแคลิฟอร์เนียภายในปีนี้

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/20/alphabet039s-waymo-gets-california-nod-for-expansion-in-san-francisco-bay-area
    Waymo ได้รับอนุญาตให้ขยายบริการรถแท็กซี่ไร้คนขับในพื้นที่ Bay Area Waymo ได้รับการอนุมัติจากรัฐแคลิฟอร์เนียให้ขยายบริการรถแท็กซี่ไร้คนขับไปยังพื้นที่ใหม่ใน San Francisco Peninsula และ San Jose อย่างไรก็ตาม บริษัทระบุว่าจะดำเนินการขยายบริการอย่างค่อยเป็นค่อยไป 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการขยายบริการของ Waymo ✅ Waymo ได้รับอนุญาตจาก California Public Utilities Commission (CPUC) ให้ขยายบริการ - การอนุมัติครั้งนี้ ไม่มีการคัดค้านจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ✅ Waymo มีรถแท็กซี่ไร้คนขับมากกว่า 1,500 คันในหลายเมืองของสหรัฐฯ - ให้บริการใน San Francisco, Los Angeles, Phoenix และ Austin ✅ บริษัทให้บริการมากกว่า 250,000 เที่ยวต่อสัปดาห์ - เป็น บริษัทเดียวในสหรัฐฯ ที่ให้บริการรถแท็กซี่ไร้คนขับสำหรับผู้โดยสารที่ชำระเงิน ✅ Waymo กำลังเรียกคืนรถแท็กซี่ไร้คนขับกว่า 1,200 คันเพื่ออัปเดตซอฟต์แวร์ - เพื่อ แก้ไขปัญหาการชนกับสิ่งกีดขวาง เช่น โซ่และประตูทางเข้า ✅ Tesla กำลังเตรียมเปิดตัวบริการรถแท็กซี่ไร้คนขับแบบชำระเงินใน Austin เดือนหน้า - CEO Elon Musk วางแผนขยายบริการไปยังแคลิฟอร์เนียภายในปีนี้ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/20/alphabet039s-waymo-gets-california-nod-for-expansion-in-san-francisco-bay-area
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Alphabet's Waymo gets California nod for robotaxi expansion in San Francisco Bay Area
    SAN FRANCISCO (Reuters) -Alphabet's self-driving unit Waymo said on Monday it received approval from California to expand its robotaxi operations in more areas of the San Francisco Peninsula and further south, including San Jose.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 244 มุมมอง 0 รีวิว
  • Armilla เปิดตัวประกันภัย AI เพื่อคุ้มครองธุรกิจจากความผิดพลาดของ AI

    บริษัทสตาร์ทอัพ Armilla ในแคนาดาได้ร่วมมือกับ Lloyds of London เพื่อเปิดตัว ประกันภัยสำหรับความผิดพลาดของ AI ซึ่งช่วยคุ้มครองธุรกิจจาก ความเสียหายที่เกิดจากการทำงานผิดพลาดของ AI เช่น การให้ข้อมูลผิด หรือการตัดสินใจที่ส่งผลเสียต่อบริษัท

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับประกันภัย AI ของ Armilla
    Armilla เสนอประกันภัยที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทางกฎหมายและค่าชดเชยจากความผิดพลาดของ AI
    - เช่น กรณีที่ AI ให้ข้อมูลผิดพลาดจนทำให้บริษัทต้องรับผิดชอบทางกฎหมาย

    Lloyds of London สนับสนุนโครงการนี้เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของธุรกิจที่ใช้ AI
    - ทำให้ บริษัทสามารถใช้ AI ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

    Armilla ใช้กรณีศึกษาจาก Air Canada ซึ่งเคยมีปัญหากับ AI Chatbot ที่ให้ส่วนลดผิดพลาด
    - ศาลตัดสินว่า Air Canada ต้องรับผิดชอบต่อข้อเสนอที่ AI สร้างขึ้น

    ประกันภัย AI จะครอบคลุมเฉพาะโมเดลที่ผ่านการประเมินความเสี่ยงแล้ว
    - Armilla จะไม่รับประกัน AI ที่มีแนวโน้มเกิดข้อผิดพลาดสูง

    นักวิเคราะห์เชื่อว่าประกันภัย AI อาจช่วยเพิ่มอัตราการนำ AI มาใช้ในธุรกิจ
    - เนื่องจาก บริษัทต่าง ๆ กังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงของ AI ที่อาจทำให้เกิดความเสียหาย

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/20/artificial-intelligence-insurance-this-startup-in-canada-will-cover-the-costs-of-ai-mistakes
    Armilla เปิดตัวประกันภัย AI เพื่อคุ้มครองธุรกิจจากความผิดพลาดของ AI บริษัทสตาร์ทอัพ Armilla ในแคนาดาได้ร่วมมือกับ Lloyds of London เพื่อเปิดตัว ประกันภัยสำหรับความผิดพลาดของ AI ซึ่งช่วยคุ้มครองธุรกิจจาก ความเสียหายที่เกิดจากการทำงานผิดพลาดของ AI เช่น การให้ข้อมูลผิด หรือการตัดสินใจที่ส่งผลเสียต่อบริษัท 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับประกันภัย AI ของ Armilla ✅ Armilla เสนอประกันภัยที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทางกฎหมายและค่าชดเชยจากความผิดพลาดของ AI - เช่น กรณีที่ AI ให้ข้อมูลผิดพลาดจนทำให้บริษัทต้องรับผิดชอบทางกฎหมาย ✅ Lloyds of London สนับสนุนโครงการนี้เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของธุรกิจที่ใช้ AI - ทำให้ บริษัทสามารถใช้ AI ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ✅ Armilla ใช้กรณีศึกษาจาก Air Canada ซึ่งเคยมีปัญหากับ AI Chatbot ที่ให้ส่วนลดผิดพลาด - ศาลตัดสินว่า Air Canada ต้องรับผิดชอบต่อข้อเสนอที่ AI สร้างขึ้น ✅ ประกันภัย AI จะครอบคลุมเฉพาะโมเดลที่ผ่านการประเมินความเสี่ยงแล้ว - Armilla จะไม่รับประกัน AI ที่มีแนวโน้มเกิดข้อผิดพลาดสูง ✅ นักวิเคราะห์เชื่อว่าประกันภัย AI อาจช่วยเพิ่มอัตราการนำ AI มาใช้ในธุรกิจ - เนื่องจาก บริษัทต่าง ๆ กังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงของ AI ที่อาจทำให้เกิดความเสียหาย https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/20/artificial-intelligence-insurance-this-startup-in-canada-will-cover-the-costs-of-ai-mistakes
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Artificial intelligence insurance? This startup in Canada will cover the costs of AI mistakes
    Most technological revolutions open up new areas of business risk, and AI is no exception. The insurance industry is responding.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 475 มุมมอง 0 รีวิว