• Goodnight my dear friends 🥱😪
    Hope you have sweet dreams 😇😴
    #AiImage #IamAmatureAiCreator #ตามหากลุ่มAiCreator
    Goodnight my dear friends 🥱😪 Hope you have sweet dreams 😇😴 #AiImage #IamAmatureAiCreator #ตามหากลุ่มAiCreator
    1 Comments 0 Shares 32 Views 0 Reviews
  • อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน ระส่ำ หลังทรัมป์ทิ้งNATO : คนเคาะข่าว 25-02-68
    : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ
    ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์

    #อังกฤษ #ฝรั่งเศส #เยอรมัน #ทรัมป์ทิ้งNATO #NATO #ข่าวต่างประเทศ #คนเคาะข่าว #ทนงขันทอง
    อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน ระส่ำ หลังทรัมป์ทิ้งNATO : คนเคาะข่าว 25-02-68 : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์ #อังกฤษ #ฝรั่งเศส #เยอรมัน #ทรัมป์ทิ้งNATO #NATO #ข่าวต่างประเทศ #คนเคาะข่าว #ทนงขันทอง
    0 Comments 0 Shares 46 Views 1 0 Reviews
  • 5 วิธีสร้างความสามัคคีและปลุกศักยภาพทีม
    5 วิธีสร้างความสามัคคีและปลุกศักยภาพทีม
    0 Comments 0 Shares 31 Views 0 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 23 Views 0 Reviews
  • ยามตกฝน ฤ อากาศชื้น ฝุ่นเริ่ม14 เปิดเครื่องวัดตรวจ15นาที วิ่งที่1-4
    ยามตกฝน ฤ อากาศชื้น ฝุ่นเริ่ม14 เปิดเครื่องวัดตรวจ15นาที วิ่งที่1-4
    0 Comments 0 Shares 24 Views 0 Reviews
  • #ตรวจงานหน่อย 😉
    #ตรวจงานหน่อย 😉
    0 Comments 0 Shares 18 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 19 Views 0 Reviews
  • ยิ่งซับมันหน้ายิ่งมันจริงหรือ?? #look@me #lookatmebyBP #serum #glow&smootheningantiagingserum #facial #serum #skincare #glow #dayserum #glassskin #ผิวโกลว์ #ผิวชุ่มชื้น #สกินแคร์ #ผิวกระจ่างใส #รูขุมขนกระชับ #รูขุมขนเล็กลง #ริ้วรอยตื้นขึ้น #คุมมัน #ลดการเกิดสิว #ลดการระคายเคือง #สารต้านอนุมูลอิสระ #nightcream #nightboosterintensivebrighteningskincream #คุมมัน #ผลัดเซลล์ผิว #กระตุ้นการสร้างคลอลาเจน #สร้างสารต้านอนุมูลอิสระ #รีวิวบิ้วตี้ #ดูแลผิว #ความงาม #บำรุงผิว #ดูแลผิวหน้า #เคล็ดลับความงาม # รีวิวสกินแคร์ #ช้อปปิ้งออนไลน์ #ซับมัน
    ยิ่งซับมันหน้ายิ่งมันจริงหรือ?? #look@me #lookatmebyBP #serum #glow&smootheningantiagingserum #facial #serum #skincare #glow #dayserum #glassskin #ผิวโกลว์ #ผิวชุ่มชื้น #สกินแคร์ #ผิวกระจ่างใส #รูขุมขนกระชับ #รูขุมขนเล็กลง #ริ้วรอยตื้นขึ้น #คุมมัน #ลดการเกิดสิว #ลดการระคายเคือง #สารต้านอนุมูลอิสระ #nightcream #nightboosterintensivebrighteningskincream #คุมมัน #ผลัดเซลล์ผิว #กระตุ้นการสร้างคลอลาเจน #สร้างสารต้านอนุมูลอิสระ #รีวิวบิ้วตี้ #ดูแลผิว #ความงาม #บำรุงผิว #ดูแลผิวหน้า #เคล็ดลับความงาม # รีวิวสกินแคร์ #ช้อปปิ้งออนไลน์ #ซับมัน
    0 Comments 0 Shares 34 Views 0 0 Reviews
  • ยิ่งซับมันหน้ายิ่งมันจริงหรือ?? #look@me #lookatmebyBP #serum #glow&smootheningantiagingserum #facial #serum #skincare #glow #dayserum #glassskin #ผิวโกลว์ #ผิวชุ่มชื้น #สกินแคร์ #ผิวกระจ่างใส #รูขุมขนกระชับ #รูขุมขนเล็กลง
    ยิ่งซับมันหน้ายิ่งมันจริงหรือ?? #look@me #lookatmebyBP #serum #glow&smootheningantiagingserum #facial #serum #skincare #glow #dayserum #glassskin #ผิวโกลว์ #ผิวชุ่มชื้น #สกินแคร์ #ผิวกระจ่างใส #รูขุมขนกระชับ #รูขุมขนเล็กลง
    0 Comments 0 Shares 28 Views 0 0 Reviews
  • ยิ่งซับมันหน้ายิ่งมันจริงหรือ??
    #look@me #lookatmebyBP #serum #glow&smootheningantiagingserum #facial #serum
    ยิ่งซับมันหน้ายิ่งมันจริงหรือ?? #look@me #lookatmebyBP #serum #glow&smootheningantiagingserum #facial #serum
    0 Comments 0 Shares 25 Views 0 0 Reviews
  • ยิ่งซับมันหน้ายิ่งมันจริงหรือ??
    #look@me #lookatmebyBP
    ยิ่งซับมันหน้ายิ่งมันจริงหรือ?? #look@me #lookatmebyBP
    0 Comments 0 Shares 19 Views 1 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 17 Views 0 Reviews
  • Like
    1
    0 Comments 0 Shares 14 Views 0 Reviews
  • https://youtu.be/N0KJRZ4ijoc?si=PrWF0hGHS59axl2H
    https://youtu.be/N0KJRZ4ijoc?si=PrWF0hGHS59axl2H
    0 Comments 0 Shares 15 Views 0 Reviews
  • ดีเอสไอพบหลักฐานเด็ด! ขบวนการ “ฮั้วเลือก ส.ว.” 🚨 อั้งยี่-ซ่องโจร-ฟอกเงิน โพยลับทำที่อยุธยา-ปทุมธานี-นครนายก

    📌 ดีเอสไอเปิดโปงขบวนการฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) พบหลักฐานโยงข้อหาอั้งยี่ ซ่องโจร ฟอกเงิน จัดทำโพยลับที่อยุธยา ปทุมธานี นครนายก พร้อมแฉพฤติกรรมการกระทำที่ซับซ้อน มีหลักฐานชัดเจน!

    🔎 เปิดโปงขบวนการฮั้วเลือก ส.ว. DSI ส่งเอกสารลับถึง กกต. กลายเป็นคดีใหญ่สะเทือนวงการเมือง เมื่อมีเอกสารลับระดับ "ด่วนที่สุด" หลุดออกมาจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ที่ส่งถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ลงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งเอกสารดังกล่าว ระบุถึงผลการพิจารณาสืบสวน ตามคำร้องที่เกี่ยวข้องกับกรณีฮั้วเลือก ส.ว.

    จากการสอบสวน DSI พบว่ามีมูลความผิดตามข้อกล่าวหาอั้งยี่ ซ่องโจร ฟอกเงิน โดยเป็นการกระทำเป็นขบวนการ วางแผนล่วงหน้า เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจนิติบัญญัติ อย่างไม่ชอบธรรม ซึ่งขัดต่อกฎหมายหลายฉบับ มีความซับซ้อน และเกี่ยวข้องกับบุคคลจำนวนมาก

    📌 สาระสำคัญของเอกสารลับ ดีเอสไอขอให้ กกต. พิจารณาว่า จะรับดำเนินคดีเองในส่วนใดบ้าง และให้ตอบกลับภายในวันที่ 10 ก.พ. 2568

    แต่จนถึงปัจจุบัน กกต. ยังไม่มีการตอบกลับ

    🚨 เผยขบวนการฮั้วเลือก ส.ว. อั้งยี่ระดับชาติ วางแผนล่วงหน้า จากผลสอบสวน DSI มีพยานหลักฐานเพียงพอ ที่จะเชื่อได้ว่า ขบวนการอั้งยี่นี้มีอยู่จริง และมีการฟอกเงิน เพื่อสนับสนุนการดำเนินการ โดยพบว่า มีการจัดทำโพยฮั้วเลือก ส.ว. เป็นจำนวน 2 ชุด แต่ละชุดประกอบไปด้วย 7 คน

    📌 โพยฮั้วเลือก ส.ว. มีอะไรบ้าง?
    สมาชิกวุฒิสภาที่ได้รับเลือก 138 คน มีรายชื่ออยู่ในโพย อีก 2 คน อยู่ในลำดับสำรอง ทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการวางแผน เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจนิติบัญญัติโดยมิชอบ

    📌 ความผิดที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย
    - พ.ร.ป. ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2563 มาตรา 977 (3)
    - ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 (ความผิดฐานอั้งยี่)
    - พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542

    💰 เป้าหมายของขบวนการนี้
    ขบวนการนี้มีเป้าหมายชัดเจนคือ การแทรกแซงการเลือก ส.ว. เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจนิติบัญญัติ ซึ่งมีการวางแผนอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง ส.ว. เริ่มต้น

    🔥 วิธีการดำเนินงาน ซับซ้อนแ ละเป็นองค์กรอาชญากรรม
    จากการสอบสวน DSI พบว่าขบวนการนี้ ดำเนินงานเป็นระบบ และมีการแบ่งหน้าที่อย่างชัดเจน

    🕵️‍♂️ ลักษณะการดำเนินงานของขบวนการฮั้วเลือก ส.ว.
    ✅ มีโครงสร้างแบบองค์กรอาชญากรรม มีลำดับชั้น และการแบ่งหน้าที่อย่างเป็นระบบ
    ✅ ฝ่ายไอทีเตรียมโปรแกรมคำนวณคะแนน เพื่อกำหนดผลลัพธ์ของการลงคะแนน ให้เป็นไปตามแผน
    ✅ จัดทำโพยฮั้วเลือก ส.ว. เพื่อกำหนดรายชื่อ ผู้ที่จะได้รับเลือกตามแผน
    ✅ เตรียมบุคคลที่เรียกว่า "พลีชีพ" ทำหน้าที่ลงคะแนนให้ตรงตามโพย
    ✅ วางแผนซับซ้อนและอุกอาจ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย
    ✅ เชื่อมโยงกับบุคคล ที่ยังไม่สามารถระบุตัวได้ทั้งหมด

    📌 สถานที่จัดทำโพยฮั้ว
    ดีเอสไอพบว่า ขบวนการฮั้วเลือก ส.ว. จัดทำโพยใน 3 จังหวัดหลัก ได้แก่
    - พระนครศรีอยุธยา
    - ปทุมธานี
    - นครนายก

    💰 ค่าตอบแทน เงินหมุนเวียนในขบวนการฮั้วเลือก ส.ว.
    ดีเอสไอพบว่าขบวนการนี้ มีการ จ่ายค่าตอบแทน ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องในระดับต่างๆ

    📌 อัตราค่าตอบแทน:
    🏛️ ระดับอำเภอ 5,000 บาท
    🏛️ ระดับจังหวัด 10,000 บาท
    🏛️ ระดับประเทศ 40,000 - 100,000 บาท

    📌 โบนัสพิเศษ:
    💰 100,000 บาท หากสามารถทำให้ผู้สมัคร ได้รับเลือกเกิน 120 คน
    💰 มัดจำล่วงหน้า 20,000 บาท และจ่ายส่วนที่เหลือหลัง กกต. รับรองผล

    🔎 DSI พบหลักฐานเด็ด! ขบวนการฮั้วเลือก ส.ว.
    📌 หลักฐานสำคัญที่พบ
    ✔️ ผลการเลือก ส.ว. ตรงกับโพยฮั้ว 100%
    ✔️ สมาชิกวุฒิสภาที่ได้รับเลือก 138 คน มีชื่ออยู่ในโพย
    ✔️ 2 คน อยู่ในลำดับสำรอง รวมทั้งหมด 140 คน ตรงตามโพย
    ✔️ พบ การแจกเสื้อสีเหลือง และการจัดรถตู้ไปรวมตัวที่เมืองทองธานี

    📢 DSI พร้อมเดินหน้าคดีพิเศษ
    📌 คดีฮั้วเลือก ส.ว. ครั้งนี้ถือเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากเป็นการกระทำที่ซับซ้อน มีขบวนการวางแผนที่ชัดเจน และมีบุคคลเกี่ยวข้องจำนวนมาก

    📌 ดีเอสไอได้ขอให้ กกต. ตอบกลับภายในวันที่ 10 ก.พ. 68 ว่าจะดำเนินการในส่วนใดบ้าง แต่จนถึงปัจจุบัน ยังไม่ได้รับคำตอบ

    ⚖️ ความคืบหน้าของคดีนี้จะเป็นอย่างไร? ใครอยู่เบื้องหลัง? และสุดท้ายจะมีการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องหรือไม่? ติดตามต่อไป! 📌

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 252327 ก.พ. 2568

    #ฮั้วเลือกสว #DSI #อั้งยี่ #ซ่องโจร #ฟอกเงิน #เลือกตั้ง #การเมืองไทย #คดีพิเศษ #ข่าวด่วน #ข่าวใหญ่
    ดีเอสไอพบหลักฐานเด็ด! ขบวนการ “ฮั้วเลือก ส.ว.” 🚨 อั้งยี่-ซ่องโจร-ฟอกเงิน โพยลับทำที่อยุธยา-ปทุมธานี-นครนายก 📌 ดีเอสไอเปิดโปงขบวนการฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) พบหลักฐานโยงข้อหาอั้งยี่ ซ่องโจร ฟอกเงิน จัดทำโพยลับที่อยุธยา ปทุมธานี นครนายก พร้อมแฉพฤติกรรมการกระทำที่ซับซ้อน มีหลักฐานชัดเจน! 🔎 เปิดโปงขบวนการฮั้วเลือก ส.ว. DSI ส่งเอกสารลับถึง กกต. กลายเป็นคดีใหญ่สะเทือนวงการเมือง เมื่อมีเอกสารลับระดับ "ด่วนที่สุด" หลุดออกมาจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ที่ส่งถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ลงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งเอกสารดังกล่าว ระบุถึงผลการพิจารณาสืบสวน ตามคำร้องที่เกี่ยวข้องกับกรณีฮั้วเลือก ส.ว. จากการสอบสวน DSI พบว่ามีมูลความผิดตามข้อกล่าวหาอั้งยี่ ซ่องโจร ฟอกเงิน โดยเป็นการกระทำเป็นขบวนการ วางแผนล่วงหน้า เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจนิติบัญญัติ อย่างไม่ชอบธรรม ซึ่งขัดต่อกฎหมายหลายฉบับ มีความซับซ้อน และเกี่ยวข้องกับบุคคลจำนวนมาก 📌 สาระสำคัญของเอกสารลับ ดีเอสไอขอให้ กกต. พิจารณาว่า จะรับดำเนินคดีเองในส่วนใดบ้าง และให้ตอบกลับภายในวันที่ 10 ก.พ. 2568 แต่จนถึงปัจจุบัน กกต. ยังไม่มีการตอบกลับ 🚨 เผยขบวนการฮั้วเลือก ส.ว. อั้งยี่ระดับชาติ วางแผนล่วงหน้า จากผลสอบสวน DSI มีพยานหลักฐานเพียงพอ ที่จะเชื่อได้ว่า ขบวนการอั้งยี่นี้มีอยู่จริง และมีการฟอกเงิน เพื่อสนับสนุนการดำเนินการ โดยพบว่า มีการจัดทำโพยฮั้วเลือก ส.ว. เป็นจำนวน 2 ชุด แต่ละชุดประกอบไปด้วย 7 คน 📌 โพยฮั้วเลือก ส.ว. มีอะไรบ้าง? สมาชิกวุฒิสภาที่ได้รับเลือก 138 คน มีรายชื่ออยู่ในโพย อีก 2 คน อยู่ในลำดับสำรอง ทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการวางแผน เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจนิติบัญญัติโดยมิชอบ 📌 ความผิดที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย - พ.ร.ป. ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2563 มาตรา 977 (3) - ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 (ความผิดฐานอั้งยี่) - พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 💰 เป้าหมายของขบวนการนี้ ขบวนการนี้มีเป้าหมายชัดเจนคือ การแทรกแซงการเลือก ส.ว. เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจนิติบัญญัติ ซึ่งมีการวางแผนอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง ส.ว. เริ่มต้น 🔥 วิธีการดำเนินงาน ซับซ้อนแ ละเป็นองค์กรอาชญากรรม จากการสอบสวน DSI พบว่าขบวนการนี้ ดำเนินงานเป็นระบบ และมีการแบ่งหน้าที่อย่างชัดเจน 🕵️‍♂️ ลักษณะการดำเนินงานของขบวนการฮั้วเลือก ส.ว. ✅ มีโครงสร้างแบบองค์กรอาชญากรรม มีลำดับชั้น และการแบ่งหน้าที่อย่างเป็นระบบ ✅ ฝ่ายไอทีเตรียมโปรแกรมคำนวณคะแนน เพื่อกำหนดผลลัพธ์ของการลงคะแนน ให้เป็นไปตามแผน ✅ จัดทำโพยฮั้วเลือก ส.ว. เพื่อกำหนดรายชื่อ ผู้ที่จะได้รับเลือกตามแผน ✅ เตรียมบุคคลที่เรียกว่า "พลีชีพ" ทำหน้าที่ลงคะแนนให้ตรงตามโพย ✅ วางแผนซับซ้อนและอุกอาจ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ✅ เชื่อมโยงกับบุคคล ที่ยังไม่สามารถระบุตัวได้ทั้งหมด 📌 สถานที่จัดทำโพยฮั้ว ดีเอสไอพบว่า ขบวนการฮั้วเลือก ส.ว. จัดทำโพยใน 3 จังหวัดหลัก ได้แก่ - พระนครศรีอยุธยา - ปทุมธานี - นครนายก 💰 ค่าตอบแทน เงินหมุนเวียนในขบวนการฮั้วเลือก ส.ว. ดีเอสไอพบว่าขบวนการนี้ มีการ จ่ายค่าตอบแทน ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องในระดับต่างๆ 📌 อัตราค่าตอบแทน: 🏛️ ระดับอำเภอ 5,000 บาท 🏛️ ระดับจังหวัด 10,000 บาท 🏛️ ระดับประเทศ 40,000 - 100,000 บาท 📌 โบนัสพิเศษ: 💰 100,000 บาท หากสามารถทำให้ผู้สมัคร ได้รับเลือกเกิน 120 คน 💰 มัดจำล่วงหน้า 20,000 บาท และจ่ายส่วนที่เหลือหลัง กกต. รับรองผล 🔎 DSI พบหลักฐานเด็ด! ขบวนการฮั้วเลือก ส.ว. 📌 หลักฐานสำคัญที่พบ ✔️ ผลการเลือก ส.ว. ตรงกับโพยฮั้ว 100% ✔️ สมาชิกวุฒิสภาที่ได้รับเลือก 138 คน มีชื่ออยู่ในโพย ✔️ 2 คน อยู่ในลำดับสำรอง รวมทั้งหมด 140 คน ตรงตามโพย ✔️ พบ การแจกเสื้อสีเหลือง และการจัดรถตู้ไปรวมตัวที่เมืองทองธานี 📢 DSI พร้อมเดินหน้าคดีพิเศษ 📌 คดีฮั้วเลือก ส.ว. ครั้งนี้ถือเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากเป็นการกระทำที่ซับซ้อน มีขบวนการวางแผนที่ชัดเจน และมีบุคคลเกี่ยวข้องจำนวนมาก 📌 ดีเอสไอได้ขอให้ กกต. ตอบกลับภายในวันที่ 10 ก.พ. 68 ว่าจะดำเนินการในส่วนใดบ้าง แต่จนถึงปัจจุบัน ยังไม่ได้รับคำตอบ ⚖️ ความคืบหน้าของคดีนี้จะเป็นอย่างไร? ใครอยู่เบื้องหลัง? และสุดท้ายจะมีการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องหรือไม่? ติดตามต่อไป! 📌 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 252327 ก.พ. 2568 #ฮั้วเลือกสว #DSI #อั้งยี่ #ซ่องโจร #ฟอกเงิน #เลือกตั้ง #การเมืองไทย #คดีพิเศษ #ข่าวด่วน #ข่าวใหญ่
    0 Comments 0 Shares 36 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 12 Views 0 Reviews
  • https://youtu.be/vPClGsVLQEQ?si=VmEl35edrQvCvKma
    https://youtu.be/vPClGsVLQEQ?si=VmEl35edrQvCvKma
    0 Comments 0 Shares 15 Views 0 Reviews
  • "บิ๊กต๋อง" งัดยุทธวิธี “สตอป แอนด์ ดีสทรอย” ล้างอาชญากรอีสานใต้ เช็กรูรั่วแนวชายแดน

    “บิ๊กต๋อง” หรือ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) ได้ประกาศใช้ยุทธวิธี "สตอป แอนด์ ดีสทรอย" (Stop & Destroy) เป็นแนวทางหลัก ในการปราบปรามอาชญากรรมใน 8 จังหวัดอีสานใต้ ได้แก่

    - นครราชสีมา
    - ชัยภูมิ
    - บุรีรัมย์
    - สุรินทร์
    - ศรีสะเกษ
    - อุบลราชธานี
    - อำนาจเจริญ
    - ยโสธร

    กลยุทธ์นี้ถูกออกแบบมา เพื่อสกัดและทำลายภัยคุกคามร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มค้ายาเสพติดข้ามชาติ อาชญากรติดอาวุธหนัก หรือกลุ่มที่กระทำผิดรุนแรงต่อสังคม แนวทางนี้จะช่วยให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และเด็ดขาดมากขึ้น พร้อมกันนี้ยังมีการ ไล่เช็กรูรั่วตามแนวชายแดน เพื่อป้องกันการลักลอบกระทำผิดข้ามแดน

    ทำความเข้าใจยุทธวิธี “สตอป แอนด์ ดีสทรอย” คืออะไร?
    ยุทธวิธี "สตอป แอนด์ ดีสทรอย" (Stop & Destroy) มีเป้าหมายหลักคือ การยับยั้ง และทำลายภัยคุกคามที่เป็นอันตรายต่อประชาชน และความมั่นคง โดยมี 2 ขั้นตอนสำคัญ ได้แก่

    1️⃣ "สตอป" (Stop) คือ หยุดยั้ง
    เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามสกัด และควบคุมเป้าหมาย โดยใช้วิธีการเจรจา วางกำลังปิดล้อม หรือบีบให้เป้าหมาย เข้าสู่สถานการณ์ที่ตำรวจสามารถควบคุมได้ หากเป้าหมายให้ความร่วมมือ อาจไม่จำเป็นต้องเข้าสู่ขั้นตอน “ดีสทรอย”

    2️⃣ "ดีสทรอย" (Destroy) ทำลาย
    หากเป้าหมายไม่ยอมจำนน หรือมีพฤติกรรมคุกคามรุนแรง เจ้าหน้าที่สามารถใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด
    การใช้อาวุธเป็นทางเลือกสุดท้าย เพื่อลดความเสี่ยงต่อชีวิตของประชาชน และเจ้าหน้าที่

    ยุทธวิธีนี้เน้นความรอบคอบและรัดกุม เพื่อให้แน่ใจว่า ทุกปฏิบัติการเป็นไปตามกฎหมาย และหลักสิทธิมนุษยชน

    สถานการณ์ที่ตำรวจอีสานใต้ ใช้ยุทธวิธี "สตอป แอนด์ ดีสทรอย"
    ✅ ปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติด ใช้เมื่อเผชิญกับ เครือข่ายค้ายาเสพติดที่ติดอาวุธ และพร้อมปะทะ ปฏิบัติการมักเกิดขึ้นในพื้นที่ แนวชายแดนไทย-กัมพูชา และไทย-ลาว หรือกรณีที่พบการลักลอบขนยาเสพติด ผ่านช่องทางธรรมชาติ เช่น แนวป่าชายแดน หรือแม่น้ำโขง

    ✅ รับมือกับกลุ่มติดอาวุธ หรือกลุ่มก่อการร้าย เมื่อเผชิญกับผู้ก่ออาชญากรรมที่มีอาวุธหนัก และปฏิเสธการมอบตัว รวมถึงกรณีที่ต้องเข้าจู่โจม แหล่งกบดานของอาชญากรข้ามชาติ

    ✅ ไล่ล่าคนร้ายที่พยายามหลบหนี ใช้เมื่อคนร้ายขับรถแหกด่าน หรือมีแนวโน้มใช้อาวุธทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีมาตรการในการ ปิดล้อมสกัดจับ เพื่อไม่ให้คนร้ายสร้างอันตรายต่อประชาชน

    ✅ รับมือเหตุฉุกเฉินที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ใช้ในสถานการณ์เหตุกราดยิง หรือเหตุรุนแรงที่กระทบต่อสาธารณชน มุ่งเน้นการระงับเหตุโดยเร็ว เพื่อลดการสูญเสีย

    แนวทางปฏิบัติของยุทธวิธี "สตอป แอนด์ ดีสทรอย"
    📌 ขั้ยตอนแรก วิเคราะห์สถานการณ์ก่อนดำเนินการ
    เจ้าหน้าที่ต้องประเมินระดับภัยคุกคาม ก่อนเลือกใช้กำลัง โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่

    📌 ขั้นตอนที่สอง ใช้มาตรการป้องกันก่อนใช้กำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้วิธีสั่งให้หยุด หรือเจรจาต่อรอง ก่อนใช้อาวุธ หากคนร้ายให้ความร่วมมือ อาจไม่มีความจำเป็นต้องใช้กำลังรุนแรง

    📌 ขั้นตอนที่สาม ใช้กำลังเฉพาะเมื่อจำเป็น หากเป้าหมายมีพฤติกรรมรุนแรง เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถใช้อาวุธ ตามหลักยุทธวิธี โดยเน้นการยิงเพื่อหยุดภัยคุกคาม ไม่ใช่การสังหารโดยไม่มีเหตุอันควร

    📌 ขั้นตอนสุดท้าย. ควบคุมสถานการณ์หลังปฏิบัติการ ตรวจสอบพื้นที่ และให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ และรายงานผลการปฏิบัติ เพื่อความโปร่งใส

    ข้อถกเถียงเกี่ยวกับยุทธวิธี "สตอป แอนด์ ดีสทรอย"
    แม้ว่ายุทธวิธีนี้จะช่วยให้การปฏิบัติงานของตำรวจ มีประสิทธิภาพในการปราบปรามอาชญากรรมร้ายแรง แต่ก็ยังมีประเด็นที่ต้องพิจารณา ได้แก่

    🔹 สิทธิของผู้ต้องหา การใช้กำลังเกินกว่าเหตุ อาจละเมิดสิทธิมนุษยชน
    🔹 ความเสี่ยงต่อประชาชน หากปฏิบัติการเกิดขึ้นในพื้นที่สาธารณะ อาจมีประชาชนได้รับผลกระทบ
    🔹 ความโปร่งใสของการปฏิบัติ ต้องมีมาตรการตรวจสอบให้แน่ใจว่า เจ้าหน้าที่ดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมาย

    ตัวอย่างการใช้ยุทธวิธี "สตอป แอนด์ ดีสทรอย" ในพื้นที่อีสานใต้
    🔴 ปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดชายแดน
    ตำรวจภูธรภาค 3 ใช้ยุทธวิธีนี้ จับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติ พบการยิงปะทะในบางกรณี ที่คนร้ายพยายามหลบหนี และใช้กำลังตอบโต้

    🔴 กรณีเหตุกราดยิงในโคราช
    เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ยุทธวิธีนี้ ในการยุติเหตุรุนแรง และป้องกันการสูญเสียเพิ่มเติม

    ยุทธวิธี "สตอป แอนด์ ดีสทรอย" เป็นแนวทางสำคัญ ที่ตำรวจภูธรภาค 3 นำมาใช้เพื่อลดภัยคุกคามร้ายแรง และรักษาความปลอดภัยของประชาชน แม้ว่าจะมีข้อถกเถียงเกี่ยวกับการใช้กำลัง แต่หากดำเนินการอย่างโปร่งใส มีมาตรฐาน และอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย ยุทธวิธีนี้ก็จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการรักษาความสงบเรียบร้อย ในพื้นที่อีสานใต้

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 252337 ก.พ. 2568

    #StopAndDestroy #บิ๊กต๋อง #ยุทธวิธีตำรวจ #ปราบปรามยาเสพติด #อาชญากรรมอีสานใต้ #แนวชายแดน #ตำรวจภูธรภาค3 #CrimeControl #SouthIsaan #BorderSecurity
    "บิ๊กต๋อง" งัดยุทธวิธี “สตอป แอนด์ ดีสทรอย” ล้างอาชญากรอีสานใต้ เช็กรูรั่วแนวชายแดน “บิ๊กต๋อง” หรือ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) ได้ประกาศใช้ยุทธวิธี "สตอป แอนด์ ดีสทรอย" (Stop & Destroy) เป็นแนวทางหลัก ในการปราบปรามอาชญากรรมใน 8 จังหวัดอีสานใต้ ได้แก่ - นครราชสีมา - ชัยภูมิ - บุรีรัมย์ - สุรินทร์ - ศรีสะเกษ - อุบลราชธานี - อำนาจเจริญ - ยโสธร กลยุทธ์นี้ถูกออกแบบมา เพื่อสกัดและทำลายภัยคุกคามร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มค้ายาเสพติดข้ามชาติ อาชญากรติดอาวุธหนัก หรือกลุ่มที่กระทำผิดรุนแรงต่อสังคม แนวทางนี้จะช่วยให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และเด็ดขาดมากขึ้น พร้อมกันนี้ยังมีการ ไล่เช็กรูรั่วตามแนวชายแดน เพื่อป้องกันการลักลอบกระทำผิดข้ามแดน ทำความเข้าใจยุทธวิธี “สตอป แอนด์ ดีสทรอย” คืออะไร? ยุทธวิธี "สตอป แอนด์ ดีสทรอย" (Stop & Destroy) มีเป้าหมายหลักคือ การยับยั้ง และทำลายภัยคุกคามที่เป็นอันตรายต่อประชาชน และความมั่นคง โดยมี 2 ขั้นตอนสำคัญ ได้แก่ 1️⃣ "สตอป" (Stop) คือ หยุดยั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามสกัด และควบคุมเป้าหมาย โดยใช้วิธีการเจรจา วางกำลังปิดล้อม หรือบีบให้เป้าหมาย เข้าสู่สถานการณ์ที่ตำรวจสามารถควบคุมได้ หากเป้าหมายให้ความร่วมมือ อาจไม่จำเป็นต้องเข้าสู่ขั้นตอน “ดีสทรอย” 2️⃣ "ดีสทรอย" (Destroy) ทำลาย หากเป้าหมายไม่ยอมจำนน หรือมีพฤติกรรมคุกคามรุนแรง เจ้าหน้าที่สามารถใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด การใช้อาวุธเป็นทางเลือกสุดท้าย เพื่อลดความเสี่ยงต่อชีวิตของประชาชน และเจ้าหน้าที่ ยุทธวิธีนี้เน้นความรอบคอบและรัดกุม เพื่อให้แน่ใจว่า ทุกปฏิบัติการเป็นไปตามกฎหมาย และหลักสิทธิมนุษยชน สถานการณ์ที่ตำรวจอีสานใต้ ใช้ยุทธวิธี "สตอป แอนด์ ดีสทรอย" ✅ ปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติด ใช้เมื่อเผชิญกับ เครือข่ายค้ายาเสพติดที่ติดอาวุธ และพร้อมปะทะ ปฏิบัติการมักเกิดขึ้นในพื้นที่ แนวชายแดนไทย-กัมพูชา และไทย-ลาว หรือกรณีที่พบการลักลอบขนยาเสพติด ผ่านช่องทางธรรมชาติ เช่น แนวป่าชายแดน หรือแม่น้ำโขง ✅ รับมือกับกลุ่มติดอาวุธ หรือกลุ่มก่อการร้าย เมื่อเผชิญกับผู้ก่ออาชญากรรมที่มีอาวุธหนัก และปฏิเสธการมอบตัว รวมถึงกรณีที่ต้องเข้าจู่โจม แหล่งกบดานของอาชญากรข้ามชาติ ✅ ไล่ล่าคนร้ายที่พยายามหลบหนี ใช้เมื่อคนร้ายขับรถแหกด่าน หรือมีแนวโน้มใช้อาวุธทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีมาตรการในการ ปิดล้อมสกัดจับ เพื่อไม่ให้คนร้ายสร้างอันตรายต่อประชาชน ✅ รับมือเหตุฉุกเฉินที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ใช้ในสถานการณ์เหตุกราดยิง หรือเหตุรุนแรงที่กระทบต่อสาธารณชน มุ่งเน้นการระงับเหตุโดยเร็ว เพื่อลดการสูญเสีย แนวทางปฏิบัติของยุทธวิธี "สตอป แอนด์ ดีสทรอย" 📌 ขั้ยตอนแรก วิเคราะห์สถานการณ์ก่อนดำเนินการ เจ้าหน้าที่ต้องประเมินระดับภัยคุกคาม ก่อนเลือกใช้กำลัง โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ 📌 ขั้นตอนที่สอง ใช้มาตรการป้องกันก่อนใช้กำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้วิธีสั่งให้หยุด หรือเจรจาต่อรอง ก่อนใช้อาวุธ หากคนร้ายให้ความร่วมมือ อาจไม่มีความจำเป็นต้องใช้กำลังรุนแรง 📌 ขั้นตอนที่สาม ใช้กำลังเฉพาะเมื่อจำเป็น หากเป้าหมายมีพฤติกรรมรุนแรง เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถใช้อาวุธ ตามหลักยุทธวิธี โดยเน้นการยิงเพื่อหยุดภัยคุกคาม ไม่ใช่การสังหารโดยไม่มีเหตุอันควร 📌 ขั้นตอนสุดท้าย. ควบคุมสถานการณ์หลังปฏิบัติการ ตรวจสอบพื้นที่ และให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ และรายงานผลการปฏิบัติ เพื่อความโปร่งใส ข้อถกเถียงเกี่ยวกับยุทธวิธี "สตอป แอนด์ ดีสทรอย" แม้ว่ายุทธวิธีนี้จะช่วยให้การปฏิบัติงานของตำรวจ มีประสิทธิภาพในการปราบปรามอาชญากรรมร้ายแรง แต่ก็ยังมีประเด็นที่ต้องพิจารณา ได้แก่ 🔹 สิทธิของผู้ต้องหา การใช้กำลังเกินกว่าเหตุ อาจละเมิดสิทธิมนุษยชน 🔹 ความเสี่ยงต่อประชาชน หากปฏิบัติการเกิดขึ้นในพื้นที่สาธารณะ อาจมีประชาชนได้รับผลกระทบ 🔹 ความโปร่งใสของการปฏิบัติ ต้องมีมาตรการตรวจสอบให้แน่ใจว่า เจ้าหน้าที่ดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมาย ตัวอย่างการใช้ยุทธวิธี "สตอป แอนด์ ดีสทรอย" ในพื้นที่อีสานใต้ 🔴 ปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดชายแดน ตำรวจภูธรภาค 3 ใช้ยุทธวิธีนี้ จับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติ พบการยิงปะทะในบางกรณี ที่คนร้ายพยายามหลบหนี และใช้กำลังตอบโต้ 🔴 กรณีเหตุกราดยิงในโคราช เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ยุทธวิธีนี้ ในการยุติเหตุรุนแรง และป้องกันการสูญเสียเพิ่มเติม ยุทธวิธี "สตอป แอนด์ ดีสทรอย" เป็นแนวทางสำคัญ ที่ตำรวจภูธรภาค 3 นำมาใช้เพื่อลดภัยคุกคามร้ายแรง และรักษาความปลอดภัยของประชาชน แม้ว่าจะมีข้อถกเถียงเกี่ยวกับการใช้กำลัง แต่หากดำเนินการอย่างโปร่งใส มีมาตรฐาน และอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย ยุทธวิธีนี้ก็จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการรักษาความสงบเรียบร้อย ในพื้นที่อีสานใต้ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 252337 ก.พ. 2568 #StopAndDestroy #บิ๊กต๋อง #ยุทธวิธีตำรวจ #ปราบปรามยาเสพติด #อาชญากรรมอีสานใต้ #แนวชายแดน #ตำรวจภูธรภาค3 #CrimeControl #SouthIsaan #BorderSecurity
    0 Comments 0 Shares 31 Views 0 Reviews
  • ตั้งแต่ 4 ทุ่ม ถึง เกือบเที่ยงคืน .. อุณหภูมิ 24 องศา ออกไปข้างนอกเย็นสบายสุด มีกลิ่นธรรมชาติ คล้ายเหมือนฝนพึ่งหยุด ทั้งที่ไม่มีฝนเลย

    พอเข้ามาในบ้านไม่ร้อนนะ สบายๆ ชอบอากาศแบบนี้สุดๆๆ

    #บันทึกไว้ในความทรงจำ
    #บันทึกความเย็นของปี
    ตั้งแต่ 4 ทุ่ม ถึง เกือบเที่ยงคืน .. อุณหภูมิ 24 องศา ออกไปข้างนอกเย็นสบายสุด มีกลิ่นธรรมชาติ คล้ายเหมือนฝนพึ่งหยุด ทั้งที่ไม่มีฝนเลย พอเข้ามาในบ้านไม่ร้อนนะ สบายๆ ชอบอากาศแบบนี้สุดๆๆ #บันทึกไว้ในความทรงจำ #บันทึกความเย็นของปี
    0 Comments 0 Shares 13 Views 0 Reviews
  • Rosy maple moth
    #AiImage #IamAmatureAiCreator #ตามหากลุ่มAiCreator
    Rosy maple moth #AiImage #IamAmatureAiCreator #ตามหากลุ่มAiCreator
    0 Comments 0 Shares 15 Views 0 Reviews
  • เยาวชนค้านแก้ พรบ.ไม่เอาพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย

    กลุ่มเครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน นำโดย น.ส.วศิณี สนแสบ ยื่นหนังสือถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล เมื่อวันที่ 25 ก.พ. เพื่อขอให้ทบทวนนโยบายการพนันออนไลน์ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเตรียมเสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.การพนัน ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา เพื่ออนุญาตให้การพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย

    เนื่องจากมีความห่วงใยต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้น รวมถึงผลกระทบที่จะมีตามมาหากนโยบายนี้มีผลปฏิบัติจริง เพราะปัจจุบันเด็กและเยาวชนเข้าถึงการพนันจำนวนมาก ข้อมูลจากศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน ปี 2566 ที่พบว่ากลุ่มเด็ก เยาวชนอายุ 15-25 ปี เล่นพนันออนไลน์ 32.3% หรือ 2.9 ล้านคน ในจำนวนนี้ 1 ใน 4 เสี่ยงเป็นนักพนันหน้าใหม่ประมาณ 739,000 คน นี่คือตัวเลขข้อเท็จจริงที่ยังไม่ได้รับการป้องกันแก้ไขใดๆ จากรัฐบาลเลย จึงขอแสดงความไม่เห็นด้วย เพราะ

    1. แนวนโยบายการนำสิ่งที่เคยเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เช่น การพนันออนไลน์ มาทำให้เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย ด้วยการใช้กระบวนการทางการเมืองแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายเพื่ออนุญาตให้ทำได้ โดยหวังสร้างรายได้ไห้แก่รัฐ เป็นความคิดแก่ได้และน่าละอาย เพราะเห็นชัดเจนในเจตนาว่าต้องการเพียงแค่ผลประโยชน์ระยะสั้น โดยผลเสียทางสังคมที่จะเกิดตามมาในระยะยาว

    2. การอ้างว่าเมื่อรัฐมีรายได้จากกิจการพนันบนดินดังกล่าว แล้วจะนำรายได้มาใช้จ่ายในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำมาส่งเสริมสนับสนุนการศึกษาแก่เด็กและเยาวชน เช่น เป็นทุนการศึกษาแก่นักเรียนผู้ยากไร้ ความคิดเช่นนี้เปรียบเสมือนการเอาอนาคตของเด็กเยาวชนมาเป็นนเครื่องต่อรองอย่างไร้ความรับผิดชอบ และไร้แนวทางที่สร้างสรรค์

    3. การอ้างว่าการแก้ไขกฎหมายในครั้งนี้มีการเพิ่มโทษผู้กระทำผิด ที่เปรียบเสมือนการใช้ยาแรงเพื่อจัดการโรคร้าย แต่การพนันออนไลน์แพร่ระบาดอย่างมากในปัจจุบัน มีต้นเหตุหนึ่งที่สำคัญมาจากการทุจริตและประพฤติมิชอบของเจ้าพนักงาน ดังนั้น การเพิ่มโทษดังกล่าว จึงอาจเปรียบเสมือนแรงให้แก่หมอเถื่อนที่อาจจะนำยานี้ไปใช้อย่างมิชอบ

    ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ร่างแก้ไข พ.ร.บ.การพนัน ยังไม่ได้นำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม ครม. ขณะที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลฯ ระบุว่า พ.ร.บ.การพนัน ของกระทรวงมหาดไทย อยู่ระหว่างการรับฟังความเห็น ส่วนกฎหมายการพนันออนไลน์ของกระทรวงดิจิทัลฯ ตอนนี้อยู่ระหว่างการทำงานร่วมกันของ 2 กระทรวง คือ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงดิจิทัลฯ ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุป แต่เชื่อว่าน่าจะเร็วๆ นี้

    #Newskit
    เยาวชนค้านแก้ พรบ.ไม่เอาพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย กลุ่มเครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน นำโดย น.ส.วศิณี สนแสบ ยื่นหนังสือถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล เมื่อวันที่ 25 ก.พ. เพื่อขอให้ทบทวนนโยบายการพนันออนไลน์ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเตรียมเสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.การพนัน ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา เพื่ออนุญาตให้การพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย เนื่องจากมีความห่วงใยต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้น รวมถึงผลกระทบที่จะมีตามมาหากนโยบายนี้มีผลปฏิบัติจริง เพราะปัจจุบันเด็กและเยาวชนเข้าถึงการพนันจำนวนมาก ข้อมูลจากศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน ปี 2566 ที่พบว่ากลุ่มเด็ก เยาวชนอายุ 15-25 ปี เล่นพนันออนไลน์ 32.3% หรือ 2.9 ล้านคน ในจำนวนนี้ 1 ใน 4 เสี่ยงเป็นนักพนันหน้าใหม่ประมาณ 739,000 คน นี่คือตัวเลขข้อเท็จจริงที่ยังไม่ได้รับการป้องกันแก้ไขใดๆ จากรัฐบาลเลย จึงขอแสดงความไม่เห็นด้วย เพราะ 1. แนวนโยบายการนำสิ่งที่เคยเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เช่น การพนันออนไลน์ มาทำให้เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย ด้วยการใช้กระบวนการทางการเมืองแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายเพื่ออนุญาตให้ทำได้ โดยหวังสร้างรายได้ไห้แก่รัฐ เป็นความคิดแก่ได้และน่าละอาย เพราะเห็นชัดเจนในเจตนาว่าต้องการเพียงแค่ผลประโยชน์ระยะสั้น โดยผลเสียทางสังคมที่จะเกิดตามมาในระยะยาว 2. การอ้างว่าเมื่อรัฐมีรายได้จากกิจการพนันบนดินดังกล่าว แล้วจะนำรายได้มาใช้จ่ายในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำมาส่งเสริมสนับสนุนการศึกษาแก่เด็กและเยาวชน เช่น เป็นทุนการศึกษาแก่นักเรียนผู้ยากไร้ ความคิดเช่นนี้เปรียบเสมือนการเอาอนาคตของเด็กเยาวชนมาเป็นนเครื่องต่อรองอย่างไร้ความรับผิดชอบ และไร้แนวทางที่สร้างสรรค์ 3. การอ้างว่าการแก้ไขกฎหมายในครั้งนี้มีการเพิ่มโทษผู้กระทำผิด ที่เปรียบเสมือนการใช้ยาแรงเพื่อจัดการโรคร้าย แต่การพนันออนไลน์แพร่ระบาดอย่างมากในปัจจุบัน มีต้นเหตุหนึ่งที่สำคัญมาจากการทุจริตและประพฤติมิชอบของเจ้าพนักงาน ดังนั้น การเพิ่มโทษดังกล่าว จึงอาจเปรียบเสมือนแรงให้แก่หมอเถื่อนที่อาจจะนำยานี้ไปใช้อย่างมิชอบ ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ร่างแก้ไข พ.ร.บ.การพนัน ยังไม่ได้นำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม ครม. ขณะที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลฯ ระบุว่า พ.ร.บ.การพนัน ของกระทรวงมหาดไทย อยู่ระหว่างการรับฟังความเห็น ส่วนกฎหมายการพนันออนไลน์ของกระทรวงดิจิทัลฯ ตอนนี้อยู่ระหว่างการทำงานร่วมกันของ 2 กระทรวง คือ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงดิจิทัลฯ ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุป แต่เชื่อว่าน่าจะเร็วๆ นี้ #Newskit
    0 Comments 0 Shares 21 Views 0 Reviews
  • https://youtu.be/GK4siwS0q9M?si=tbWRtK3KTKEHRQaw
    https://youtu.be/GK4siwS0q9M?si=tbWRtK3KTKEHRQaw
    0 Comments 0 Shares 10 Views 0 Reviews
  • https://www.youtube.com/live/SSiJB3yA3QQ?si=nBPKigjIVnRv6Ew1
    https://www.youtube.com/live/SSiJB3yA3QQ?si=nBPKigjIVnRv6Ew1
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 Comments 0 Shares 9 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 6 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 6 Views 0 Reviews