• 5 ปี โศกนาฏกรรมโคราช จ่าสรรพาวุธคลั่ง กราดยิงเสียชีวิต 31 ศพ บาดเจ็บ 58 คน

    📅 ย้อนรอยเหตุการณ์ โศกนาฏกรรมกราดยิงโคราช ที่เกิดขึ้นเมื่อ 5 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ สะเทือนขวัญที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย จ่าสิบเอกจักรพันธ์ ถมมา ทหารสังกัดกองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ ได้ก่อเหตุกราดยิงผู้บริสุทธิ์ ในตัวเมืองนครราชสีมา มีผู้เสียชีวิตรวม 31 ศพ รวมตัวผู้ก่อเหตุ และบาดเจ็บ 58 ราย

    เหตุการณ์นี้ ไม่เพียงสร้างความสูญเสีย ให้กับครอบครัวผู้เคราะห์ร้ายเท่านั้น แต่ยังนำไปสู่คำถาม เกี่ยวกับระบบสวัสดิการทหาร ความโปร่งใสของกองทัพ และการควบคุมอาวุธ ของเจ้าหน้าที่รัฐ 🔥

    📌 สาเหตุที่นำไปสู่โศกนาฏกรรม
    จากการสอบสวน พบว่าสาเหตุหลักที่ทำให้ จ.ส.อ. จักรพันธ์ ก่อเหตุในครั้งนี้ เกิดจากปัญหาการเงิน และความขัดแย้ง ในการซื้อบ้านสวัสดิการทหาร 🚪🏡

    🔹 ปมปัญหาซื้อบ้านสวัสดิการ
    จ.ส.อ. จักรพันธ์ ซื้อบ้านจากโครงการสวัสดิการทหาร ในราคา 1,500,000 บาท และมอบหมายให้ นางอนงค์ มิตรจันทร์ ภรรยาของ พ.อ. อนันต์ฐโรจน์ กระแสร์ ผู้บังคับบัญชาของเขา เป็นผู้จัดการเรื่องการตกแต่งบ้าน และเอกสารการซื้อขาย

    🔹 ความขัดแย้งเรื่องเงินส่วนต่าง
    เมื่อดำเนินเรื่องเสร็จสิ้น พบว่ามีเงินเหลือ 50,000 บาท ซึ่งถูกส่งไปให้นายหน้าที่ชื่อ นายพิทยา จ.ส.อ. จักรพันธ์ จึงเรียกร้องขอเงินคืน แต่กลับพบว่าเงินก้อนนี้หมดไปแล้ว โดยก่อนหน้านี้เขาเข้าใจว่า ตนเองจะได้เงินคืนสูงถึง 400,000 บาท

    🔹 การพูดคุยที่ล้มเหลว
    เมื่อมีการนัดเจรจากัน นายพิทยา ขอเวลาเพื่อหาเงินคืน แต่จำนวนเงินที่ตกลงกัน ไม่ได้เป็นไปตามที่ จ.ส.อ. จักรพันธ์ คาดหวัง ทำให้เขารู้สึกว่า ตนเองถูกโกง และไม่ได้รับความเป็นธรรม

    นี่เป็นจุดเริ่มต้น ที่นำไปสู่การสังหารโหด... 🔫

    ⏳ จากปมปัญหา สู่โศกนาฏกรรม
    🔴 จุดเริ่มต้น ก่อเหตุที่บ้านพัก
    📍 เวลา 15.30 น. จ.ส.อ. จักรพันธ์ เดินทางไปบ้านของ พ.อ. อนันต์ฐโรจน์ และใช้อาวุธปืนยิง พ.อ. อนันต์ฐโรจน์ และนางอนงค์ มิตรจันทร์ จนเสียชีวิต จากนั้นไล่ยิงนายพิทยา (นายหน้า) แต่เขาหลบหนีไปได้

    🔴 จุดที่สอง ค่ายทหารสุรธรรมพิทักษ์
    📍 เวลา 16.00 น. จ.ส.อ. จักรพันธ์ เดินทางไปที่ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ และชิงอาวุธสงคราม จากคลังแสง ซึ่งรวมถึงปืน HK33, ปืนกล M60 และกระสุนจำนวนมาก โดยในระหว่างนี้ มีการยิงทหารเวร และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บอีก 1 นาย

    🔴 จุดที่สาม กราดยิงตามถนนโคราช
    📍 ระหว่างทางจากค่ายทหาร ไปยังห้างเทอร์มินอล 21
    จ.ส.อ. จักรพันธ์ ขับรถฮัมวี ออกจากค่ายทหาร กราดยิงผู้คนตามทาง เสียชีวิต 9 ศพ มีผู้ที่ถูกยิงขณะอยู่บนรถ และมีนักเรียนที่ขับจักรยานยนต์ถูกยิงซ้ำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ถูกยิงเสียชีวิต ขณะกำลังเข้าควบคุมสถานการณ์

    🔴 จุดสุดท้าย ห้างเทอร์มินอล 21 โคราช
    📍 เวลา 17.30 น. จ.ส.อ. จักรพันธ์ เข้าไปภายในห้าง และเริ่มกราดยิงผู้คน
    📍 จับตัวประกันกว่า 16 คน และถ่ายทอดสดเหตุการณ์ ลงบนเฟซบุ๊กของตัวเอง 😨
    📍 เกิดเหตุระเบิด และไฟไหม้ภายในห้าง เนื่องจากเขายิงถังแก๊ส
    📍 เวลา 09.14 น. เช้าวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563 หน่วยอรินทราช 26 วิสามัญฆาตกรรม จ.ส.อ. จักรพันธ์ ที่ ชั้นใต้ดินของห้าง

    ⚖️ บทเรียนจากเหตุการณ์กราดยิงโคราช
    เหตุการณ์นี้นำไปสู่คำถามสำคัญเกี่ยวกับ...
    🔹 การจัดการอาวุธของกองทัพ เหตุใดทหารชั้นผู้น้อย สามารถเข้าถึงอาวุธสงคราม ได้ง่ายขนาดนี้?
    🔹 สวัสดิการทหาร และความโปร่งใสของกองทัพ มีปัญหาเรื่อง "เงินทอน" จริงหรือไม่?
    🔹 บทบาทของสื่อมวลชน การรายงานข่าว ในลักษณะที่เปิดเผยข้อมูล การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ส่งผลกระทบต่อการควบคุมสถานการณ์
    🔹 ผลกระทบทางจิตวิทยาต่อสังคม เหตุการณ์นี้ สร้างความหวาดกลัว และกระตุ้นให้เกิดคำถาม เกี่ยวกับความปลอดภัย ในที่สาธารณะ

    📍 สรุปเหตุการณ์ และจำนวนผู้เสียชีวิต
    📌 ผู้เสียชีวิตทั้งหมด 31 ศพ รวมผู้ก่อเหตุ
    📌 ผู้บาดเจ็บ 58 ราย

    🔸 พื้นที่ที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด
    ห้างเทอร์มินอล 21
    เส้นทางจากค่ายทหาร ไปยังตัวเมือง

    🔗 มาตรการ และการเปลี่ยนแปลงหลังเหตุการณ์
    📌 กองทัพบกได้ประกาศมาตรการใหม่
    - ควบคุมการเข้าถึงอาวุธของทหาร
    - ทบทวนโครงการสวัสดิการทหาร
    - สอบสวนขบวนการ "เงินทอน" ที่เกี่ยวข้อง

    📌 รัฐบาลและสื่อมวลชน
    - กสทช. สั่งปรับสถานีโทรทัศน์ 3 ช่อง ฐานละเมิดข้อกำหนดการรายงานข่าว
    - เฟซบุ๊กลบวิดีโอถ่ายทอดสด และโพสต์ของผู้ก่อเหตุ

    📍 ครบ 5 ปี ของเหตุการณ์นี้ ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจ ถึงปัญหาหลายประเด็น ที่ต้องได้รับการแก้ไข ทั้งในเรื่องความโปร่งใสของกองทัพ ระบบสวัสดิการของทหาร และบทบาทของสื่อมวลชน

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 082315ก.พ. 2568

    📢 #กราดยิงโคราช #KoratShooting #โศกนาฏกรรมโคราช #ความปลอดภัยในที่สาธารณะ #บทเรียนจากอดีต
    5 ปี โศกนาฏกรรมโคราช จ่าสรรพาวุธคลั่ง กราดยิงเสียชีวิต 31 ศพ บาดเจ็บ 58 คน 📅 ย้อนรอยเหตุการณ์ โศกนาฏกรรมกราดยิงโคราช ที่เกิดขึ้นเมื่อ 5 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ สะเทือนขวัญที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย จ่าสิบเอกจักรพันธ์ ถมมา ทหารสังกัดกองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ ได้ก่อเหตุกราดยิงผู้บริสุทธิ์ ในตัวเมืองนครราชสีมา มีผู้เสียชีวิตรวม 31 ศพ รวมตัวผู้ก่อเหตุ และบาดเจ็บ 58 ราย เหตุการณ์นี้ ไม่เพียงสร้างความสูญเสีย ให้กับครอบครัวผู้เคราะห์ร้ายเท่านั้น แต่ยังนำไปสู่คำถาม เกี่ยวกับระบบสวัสดิการทหาร ความโปร่งใสของกองทัพ และการควบคุมอาวุธ ของเจ้าหน้าที่รัฐ 🔥 📌 สาเหตุที่นำไปสู่โศกนาฏกรรม จากการสอบสวน พบว่าสาเหตุหลักที่ทำให้ จ.ส.อ. จักรพันธ์ ก่อเหตุในครั้งนี้ เกิดจากปัญหาการเงิน และความขัดแย้ง ในการซื้อบ้านสวัสดิการทหาร 🚪🏡 🔹 ปมปัญหาซื้อบ้านสวัสดิการ จ.ส.อ. จักรพันธ์ ซื้อบ้านจากโครงการสวัสดิการทหาร ในราคา 1,500,000 บาท และมอบหมายให้ นางอนงค์ มิตรจันทร์ ภรรยาของ พ.อ. อนันต์ฐโรจน์ กระแสร์ ผู้บังคับบัญชาของเขา เป็นผู้จัดการเรื่องการตกแต่งบ้าน และเอกสารการซื้อขาย 🔹 ความขัดแย้งเรื่องเงินส่วนต่าง เมื่อดำเนินเรื่องเสร็จสิ้น พบว่ามีเงินเหลือ 50,000 บาท ซึ่งถูกส่งไปให้นายหน้าที่ชื่อ นายพิทยา จ.ส.อ. จักรพันธ์ จึงเรียกร้องขอเงินคืน แต่กลับพบว่าเงินก้อนนี้หมดไปแล้ว โดยก่อนหน้านี้เขาเข้าใจว่า ตนเองจะได้เงินคืนสูงถึง 400,000 บาท 🔹 การพูดคุยที่ล้มเหลว เมื่อมีการนัดเจรจากัน นายพิทยา ขอเวลาเพื่อหาเงินคืน แต่จำนวนเงินที่ตกลงกัน ไม่ได้เป็นไปตามที่ จ.ส.อ. จักรพันธ์ คาดหวัง ทำให้เขารู้สึกว่า ตนเองถูกโกง และไม่ได้รับความเป็นธรรม นี่เป็นจุดเริ่มต้น ที่นำไปสู่การสังหารโหด... 🔫 ⏳ จากปมปัญหา สู่โศกนาฏกรรม 🔴 จุดเริ่มต้น ก่อเหตุที่บ้านพัก 📍 เวลา 15.30 น. จ.ส.อ. จักรพันธ์ เดินทางไปบ้านของ พ.อ. อนันต์ฐโรจน์ และใช้อาวุธปืนยิง พ.อ. อนันต์ฐโรจน์ และนางอนงค์ มิตรจันทร์ จนเสียชีวิต จากนั้นไล่ยิงนายพิทยา (นายหน้า) แต่เขาหลบหนีไปได้ 🔴 จุดที่สอง ค่ายทหารสุรธรรมพิทักษ์ 📍 เวลา 16.00 น. จ.ส.อ. จักรพันธ์ เดินทางไปที่ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ และชิงอาวุธสงคราม จากคลังแสง ซึ่งรวมถึงปืน HK33, ปืนกล M60 และกระสุนจำนวนมาก โดยในระหว่างนี้ มีการยิงทหารเวร และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บอีก 1 นาย 🔴 จุดที่สาม กราดยิงตามถนนโคราช 📍 ระหว่างทางจากค่ายทหาร ไปยังห้างเทอร์มินอล 21 จ.ส.อ. จักรพันธ์ ขับรถฮัมวี ออกจากค่ายทหาร กราดยิงผู้คนตามทาง เสียชีวิต 9 ศพ มีผู้ที่ถูกยิงขณะอยู่บนรถ และมีนักเรียนที่ขับจักรยานยนต์ถูกยิงซ้ำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ถูกยิงเสียชีวิต ขณะกำลังเข้าควบคุมสถานการณ์ 🔴 จุดสุดท้าย ห้างเทอร์มินอล 21 โคราช 📍 เวลา 17.30 น. จ.ส.อ. จักรพันธ์ เข้าไปภายในห้าง และเริ่มกราดยิงผู้คน 📍 จับตัวประกันกว่า 16 คน และถ่ายทอดสดเหตุการณ์ ลงบนเฟซบุ๊กของตัวเอง 😨 📍 เกิดเหตุระเบิด และไฟไหม้ภายในห้าง เนื่องจากเขายิงถังแก๊ส 📍 เวลา 09.14 น. เช้าวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563 หน่วยอรินทราช 26 วิสามัญฆาตกรรม จ.ส.อ. จักรพันธ์ ที่ ชั้นใต้ดินของห้าง ⚖️ บทเรียนจากเหตุการณ์กราดยิงโคราช เหตุการณ์นี้นำไปสู่คำถามสำคัญเกี่ยวกับ... 🔹 การจัดการอาวุธของกองทัพ เหตุใดทหารชั้นผู้น้อย สามารถเข้าถึงอาวุธสงคราม ได้ง่ายขนาดนี้? 🔹 สวัสดิการทหาร และความโปร่งใสของกองทัพ มีปัญหาเรื่อง "เงินทอน" จริงหรือไม่? 🔹 บทบาทของสื่อมวลชน การรายงานข่าว ในลักษณะที่เปิดเผยข้อมูล การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ส่งผลกระทบต่อการควบคุมสถานการณ์ 🔹 ผลกระทบทางจิตวิทยาต่อสังคม เหตุการณ์นี้ สร้างความหวาดกลัว และกระตุ้นให้เกิดคำถาม เกี่ยวกับความปลอดภัย ในที่สาธารณะ 📍 สรุปเหตุการณ์ และจำนวนผู้เสียชีวิต 📌 ผู้เสียชีวิตทั้งหมด 31 ศพ รวมผู้ก่อเหตุ 📌 ผู้บาดเจ็บ 58 ราย 🔸 พื้นที่ที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด ห้างเทอร์มินอล 21 เส้นทางจากค่ายทหาร ไปยังตัวเมือง 🔗 มาตรการ และการเปลี่ยนแปลงหลังเหตุการณ์ 📌 กองทัพบกได้ประกาศมาตรการใหม่ - ควบคุมการเข้าถึงอาวุธของทหาร - ทบทวนโครงการสวัสดิการทหาร - สอบสวนขบวนการ "เงินทอน" ที่เกี่ยวข้อง 📌 รัฐบาลและสื่อมวลชน - กสทช. สั่งปรับสถานีโทรทัศน์ 3 ช่อง ฐานละเมิดข้อกำหนดการรายงานข่าว - เฟซบุ๊กลบวิดีโอถ่ายทอดสด และโพสต์ของผู้ก่อเหตุ 📍 ครบ 5 ปี ของเหตุการณ์นี้ ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจ ถึงปัญหาหลายประเด็น ที่ต้องได้รับการแก้ไข ทั้งในเรื่องความโปร่งใสของกองทัพ ระบบสวัสดิการของทหาร และบทบาทของสื่อมวลชน ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 082315ก.พ. 2568 📢 #กราดยิงโคราช #KoratShooting #โศกนาฏกรรมโคราช #ความปลอดภัยในที่สาธารณะ #บทเรียนจากอดีต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/Wxgxl1y4pqA?si=EkV4BsJBqbqsSIRS
    https://youtu.be/Wxgxl1y4pqA?si=EkV4BsJBqbqsSIRS
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพเหตุการณ์จากกล้องของฝ่ายยูเครน ขณะโจมตีเครื่องบิน Su-25 ของรัสเซียจนตกใกล้กับเมืองโทเรตสค์ (Toretsk) จากระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบประทับบ่ายิงของยูเครน (MANPADS: Man-Portable Air-Defence System)

    เหตุการณ์ต่อมา ทีมค้นหาและกู้ภัยของรัสเซียเดินทางมาด้วยเฮลิคอปเตอร์ Mi-8 แต่ถูกโจมตีโดยโดรน FPV ทำให้ต้องถอนตัวออกจากเขตอันตราย

    ต่อมาได้กลับเข้ามาอีกครั้งเพื่อนำเจ้าหน้าที่กองกำลังพิเศษและนักบิน Su-25 ออกมา จากรายงานระบุว่านักบินสามารถดีดตัวออกมาได้และได้รับบาดเจ็บ
    ภาพเหตุการณ์จากกล้องของฝ่ายยูเครน ขณะโจมตีเครื่องบิน Su-25 ของรัสเซียจนตกใกล้กับเมืองโทเรตสค์ (Toretsk) จากระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบประทับบ่ายิงของยูเครน (MANPADS: Man-Portable Air-Defence System) เหตุการณ์ต่อมา ทีมค้นหาและกู้ภัยของรัสเซียเดินทางมาด้วยเฮลิคอปเตอร์ Mi-8 แต่ถูกโจมตีโดยโดรน FPV ทำให้ต้องถอนตัวออกจากเขตอันตราย ต่อมาได้กลับเข้ามาอีกครั้งเพื่อนำเจ้าหน้าที่กองกำลังพิเศษและนักบิน Su-25 ออกมา จากรายงานระบุว่านักบินสามารถดีดตัวออกมาได้และได้รับบาดเจ็บ
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 5 0 รีวิว
  • นักวิจัยได้พัฒนายางมะตอยที่สามารถซ่อมแซมรอยแตกและป้องกันการเกิดหลุมบ่อได้ด้วยตัวเอง ผลิตภัณฑ์นี้มีแรงบันดาลใจจากความสามารถในการฟื้นฟูของต้นไม้และสัตว์บางชนิด การวิจัยครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาหลุมบ่อในสหราชอาณาจักรที่ต้องการการซ่อมแซมมูลค่าหลายล้านปอนด์ในแต่ละปี

    รอยแตกในยางมะตอยมักเกิดจากการแข็งตัวของบิทูเมนเนื่องจากออกซิเดชัน ทางนักวิทยาศาสตร์จาก King's College London และ Swansea University ได้ร่วมมือกับนักวิจัยในประเทศชิลีเพื่อหาวิธีการย้อนกระบวนการนี้

    ยางมะตอยซ่อมแซมตนเองนี้ได้ถูกพัฒนาโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ โดยนำความสามารถของ Google Cloud AI มาใช้ในการพัฒนาวัสดุศาสตร์และเทคนิคการจำลองที่ทันสมัย ในห้องปฏิบัติการพบว่าวัสดุยางมะตอยใหม่นี้สามารถซ่อมแซมรอยแตกขนาดเล็กในเวลาน้อยกว่าหนึ่งชั่วโมง โดยผสมสปอร์พืชขนาดเล็กที่บรรจุน้ำมันรีไซเคิล ซึ่งจะปล่อยน้ำมันออกมาเมื่อยางมะตอยแตก ทำให้บิทูเมนสามารถไหลกลับมารวมกันได้

    นักวิจัยยังได้ใช้แมชชีนเลิร์นนิงในการวิเคราะห์โมเลกุลอินทรีย์ในบิทูเมนเพื่อเข้าใจโครงสร้างและพฤติกรรมของวัสดุยางมะตอย รวมถึงค้นหาคุณสมบัติทางเคมีที่ช่วยในการซ่อมแซมตนเอง

    ผลิตภัณฑ์นี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา แต่มีศักยภาพในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและส่งเสริมความยั่งยืนทั่วโลก

    https://www.techspot.com/news/106684-researchers-develop-self-healing-asphalt-repairs-cracks-stops.html
    นักวิจัยได้พัฒนายางมะตอยที่สามารถซ่อมแซมรอยแตกและป้องกันการเกิดหลุมบ่อได้ด้วยตัวเอง ผลิตภัณฑ์นี้มีแรงบันดาลใจจากความสามารถในการฟื้นฟูของต้นไม้และสัตว์บางชนิด การวิจัยครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาหลุมบ่อในสหราชอาณาจักรที่ต้องการการซ่อมแซมมูลค่าหลายล้านปอนด์ในแต่ละปี รอยแตกในยางมะตอยมักเกิดจากการแข็งตัวของบิทูเมนเนื่องจากออกซิเดชัน ทางนักวิทยาศาสตร์จาก King's College London และ Swansea University ได้ร่วมมือกับนักวิจัยในประเทศชิลีเพื่อหาวิธีการย้อนกระบวนการนี้ ยางมะตอยซ่อมแซมตนเองนี้ได้ถูกพัฒนาโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ โดยนำความสามารถของ Google Cloud AI มาใช้ในการพัฒนาวัสดุศาสตร์และเทคนิคการจำลองที่ทันสมัย ในห้องปฏิบัติการพบว่าวัสดุยางมะตอยใหม่นี้สามารถซ่อมแซมรอยแตกขนาดเล็กในเวลาน้อยกว่าหนึ่งชั่วโมง โดยผสมสปอร์พืชขนาดเล็กที่บรรจุน้ำมันรีไซเคิล ซึ่งจะปล่อยน้ำมันออกมาเมื่อยางมะตอยแตก ทำให้บิทูเมนสามารถไหลกลับมารวมกันได้ นักวิจัยยังได้ใช้แมชชีนเลิร์นนิงในการวิเคราะห์โมเลกุลอินทรีย์ในบิทูเมนเพื่อเข้าใจโครงสร้างและพฤติกรรมของวัสดุยางมะตอย รวมถึงค้นหาคุณสมบัติทางเคมีที่ช่วยในการซ่อมแซมตนเอง ผลิตภัณฑ์นี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา แต่มีศักยภาพในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและส่งเสริมความยั่งยืนทั่วโลก https://www.techspot.com/news/106684-researchers-develop-self-healing-asphalt-repairs-cracks-stops.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Researchers develop self-healing asphalt that repairs cracks, stops potholes from forming
    The exact mechanisms of crack formation in asphalt are not fully understood, but they often originate from the hardening of bitumen due to oxidation. To tackle this...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
  • Openreach บริษัทที่รับผิดชอบการจัดการโครงสร้างพื้นฐานโทรศัพท์และไฟเบอร์ในสหราชอาณาจักร ได้ร่วมมือกับ Nokia ในการทดสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วสูงถึง 50Gbps การทดสอบนี้เกิดขึ้นที่เมือง Ipswich โดยใช้เทคโนโลยีจาก Nokia ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในบ้านที่อยู่อาศัยได้สำเร็จ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการทดสอบการเชื่อมต่อความเร็วสูงถึงระดับนี้ในสหราชอาณาจักร

    ปัจจุบัน Openreach ใช้เทคโนโลยี Gigabit Passive Optical Network (GPON) ในการให้บริการอินเทอร์เน็ตที่สามารถให้ความเร็วสูงสุดถึง 2.5Gbps ทาง Downstream และ 1.24Gbps ทาง Upstream แต่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่ถูกทดสอบในครั้งนี้ Openreach ได้ใช้ชุดอุปกรณ์ 50G PON จาก Nokia ที่เชื่อมต่อกับโครงข่ายไฟเบอร์ของ BT ซึ่งสามารถให้ความเร็วสูงถึง 41.9Gbps ทาง Downstream และ 20.6Gbps ทาง Upstream

    เทคโนโลยีใหม่นี้มีศักยภาพสูงในการเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตสำหรับผู้บริโภคในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในด้านความเป็นจริงเสมือนและความเป็นจริงเสมือนที่ผสมผสานกับการถ่ายทอดสดวิดีโอ 8K และการสนทนาทางไกลที่มีความคมชัดสูง นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในการประสานงานและฝึกอบรมปัญญาประดิษฐ์เจนเนอเรทีฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ทั้งนี้ นักวิเคราะห์โทรคมนาคมได้คาดการณ์ว่าแม้เทคโนโลยีนี้อาจยังต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่งก่อนที่จะสามารถนำมาใช้เชิงพาณิชย์ได้ แต่การเตรียมความพร้อมตั้งแต่วันนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะในอนาคตการบริโภคข้อมูลจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้ความต้องการเครือข่ายที่มีความสามารถสูงเป็นสิ่งจำเป็น

    https://www.techspot.com/news/106693-openreach-testing-50gbps-broadband-nokia-kits-uk.html
    Openreach บริษัทที่รับผิดชอบการจัดการโครงสร้างพื้นฐานโทรศัพท์และไฟเบอร์ในสหราชอาณาจักร ได้ร่วมมือกับ Nokia ในการทดสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วสูงถึง 50Gbps การทดสอบนี้เกิดขึ้นที่เมือง Ipswich โดยใช้เทคโนโลยีจาก Nokia ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในบ้านที่อยู่อาศัยได้สำเร็จ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการทดสอบการเชื่อมต่อความเร็วสูงถึงระดับนี้ในสหราชอาณาจักร ปัจจุบัน Openreach ใช้เทคโนโลยี Gigabit Passive Optical Network (GPON) ในการให้บริการอินเทอร์เน็ตที่สามารถให้ความเร็วสูงสุดถึง 2.5Gbps ทาง Downstream และ 1.24Gbps ทาง Upstream แต่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่ถูกทดสอบในครั้งนี้ Openreach ได้ใช้ชุดอุปกรณ์ 50G PON จาก Nokia ที่เชื่อมต่อกับโครงข่ายไฟเบอร์ของ BT ซึ่งสามารถให้ความเร็วสูงถึง 41.9Gbps ทาง Downstream และ 20.6Gbps ทาง Upstream เทคโนโลยีใหม่นี้มีศักยภาพสูงในการเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตสำหรับผู้บริโภคในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในด้านความเป็นจริงเสมือนและความเป็นจริงเสมือนที่ผสมผสานกับการถ่ายทอดสดวิดีโอ 8K และการสนทนาทางไกลที่มีความคมชัดสูง นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในการประสานงานและฝึกอบรมปัญญาประดิษฐ์เจนเนอเรทีฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ นักวิเคราะห์โทรคมนาคมได้คาดการณ์ว่าแม้เทคโนโลยีนี้อาจยังต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่งก่อนที่จะสามารถนำมาใช้เชิงพาณิชย์ได้ แต่การเตรียมความพร้อมตั้งแต่วันนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะในอนาคตการบริโภคข้อมูลจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้ความต้องการเครือข่ายที่มีความสามารถสูงเป็นสิ่งจำเป็น https://www.techspot.com/news/106693-openreach-testing-50gbps-broadband-nokia-kits-uk.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Openreach is testing 50Gbps broadband in the UK using Nokia kits
    Openreach and Nokia have successfully tested what the two companies call the first "live" 50Gbps-class broadband connection from a residential location in the UK. The test took...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
  • ค้นพบช่องทางการโจมตีผ่านแพ็กเกจ Go ที่ถูกซ่อนอยู่เป็นเวลาหลายปี ทีมวิจัยจาก Socket Inc. พบว่ามีการใช้บริการ proxy.golang.orgของ Google ในการทำให้ซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สที่แท้จริงกลายเป็นซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตราย

    เรื่องนี้เริ่มต้นจากการที่กลุ่มอาชญากรไซเบอร์สร้างที่เก็บใหม่ใน GitHub โดยใช้ชื่อที่ใกล้เคียงกับที่เก็บเดิมของแพ็กเกจ Go ที่ชื่อว่า boltdb ทำให้ผู้พัฒนาที่ต้องการใช้แพ็กเกจนี้ได้ดาวน์โหลดเวอร์ชันที่มีมัลแวร์แฝงอยู่ แพ็กเกจนี้มีรหัสที่ถูกตั้งค่าให้สร้างที่อยู่ IP และพอร์ตที่ซ่อนอยู่เพื่อเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมภายนอก (C2 server)

    ที่สำคัญคือแพ็กเกจที่ติดมัลแวร์นี้สามารถหลบซ่อนอยู่ในบริการ proxy ของ Google โดยไม่ถูกตรวจจับ เนื่องจากการใช้เทคนิคที่เรียกว่า typosquatting ที่ทำให้ URL ของที่เก็บใหม่ดูเหมือนกับที่เก็บเดิม

    การค้นพบนี้เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ และทีมวิจัยได้พยายามแจ้งให้ Google ลบแพ็กเกจที่ติดมัลแวร์ออกจากระบบ แต่ต้องใช้เวลาหลายวันกว่าที่ Google จะดำเนินการ

    https://www.techspot.com/news/106687-hidden-backdoor-go-package-remained-undetected-years.html
    ค้นพบช่องทางการโจมตีผ่านแพ็กเกจ Go ที่ถูกซ่อนอยู่เป็นเวลาหลายปี ทีมวิจัยจาก Socket Inc. พบว่ามีการใช้บริการ proxy.golang.orgของ Google ในการทำให้ซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สที่แท้จริงกลายเป็นซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตราย เรื่องนี้เริ่มต้นจากการที่กลุ่มอาชญากรไซเบอร์สร้างที่เก็บใหม่ใน GitHub โดยใช้ชื่อที่ใกล้เคียงกับที่เก็บเดิมของแพ็กเกจ Go ที่ชื่อว่า boltdb ทำให้ผู้พัฒนาที่ต้องการใช้แพ็กเกจนี้ได้ดาวน์โหลดเวอร์ชันที่มีมัลแวร์แฝงอยู่ แพ็กเกจนี้มีรหัสที่ถูกตั้งค่าให้สร้างที่อยู่ IP และพอร์ตที่ซ่อนอยู่เพื่อเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมภายนอก (C2 server) ที่สำคัญคือแพ็กเกจที่ติดมัลแวร์นี้สามารถหลบซ่อนอยู่ในบริการ proxy ของ Google โดยไม่ถูกตรวจจับ เนื่องจากการใช้เทคนิคที่เรียกว่า typosquatting ที่ทำให้ URL ของที่เก็บใหม่ดูเหมือนกับที่เก็บเดิม การค้นพบนี้เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ และทีมวิจัยได้พยายามแจ้งให้ Google ลบแพ็กเกจที่ติดมัลแวร์ออกจากระบบ แต่ต้องใช้เวลาหลายวันกว่าที่ Google จะดำเนินการ https://www.techspot.com/news/106687-hidden-backdoor-go-package-remained-undetected-years.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Hidden backdoor in Go package remained undetected for years
    Go, one of the most popular programming languages alongside "traditional" standards such as Python, C, and Visual Basic, was exploited to turn legitimate open-source projects into malicious...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เกี่ยวกับการสร้างระบบปฏิบัติการ Linux ที่สามารถรันภายในเอกสาร PDF ขนาด 6MB ที่เปิดด้วยเบราว์เซอร์ Chromium นวัตกรรมนี้ถูกพัฒนาโดยนักเรียนมัธยมปลายชื่อ Ading2210 ซึ่งเคยพัฒนา DoomPDF มาก่อนหน้าแล้ว ความคิดสร้างสรรค์นี้ใช้ TinyEMU RISC-V emulator ที่ถูกปรับแต่งให้ทำงานภายใน PDF และสามารถเรียกใช้เคอร์เนล Linux ที่เหมาะสมกับสถาปัตยกรรมนี้

    เมื่อเปิด PDF จะมีการแสดง UI ของ LinuxPDF และข้อความต้อนรับในมุมมองของ Linux ขณะที่คุณรอระบบปฏิบัติการบูตขึ้นมา ท่านที่เคยเล่นกับ DoomPDF มาก่อนน่าจะคุ้นเคยกับหน้าจอสีเทาความเข้มต่ำ และผลลัพธ์ที่ออกมาทีละบรรทัดใน ASCII

    แม้จะมีความช้าเนื่องจากเคอร์เนล Linux ใช้เวลาบูตประมาณ 30-60 วินาที ซึ่งถือว่าช้ากว่าปกติถึง 100 เท่า แต่ก็ยังถือว่าเป็นการทดลองที่น่าสนใจ Google PDF engine ใน Chrome ปัจจุบันปิดใช้งาน Just-in-Time (JIT) compiler ทำให้การปรับปรุงประสิทธิภาพทำได้ยาก

    การทำงานนี้ต้องใช้เบราว์เซอร์ที่ใช้ Chromium ถึงจะสามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นการนำไปใช้ที่ดีสำหรับผู้ที่สนใจการทดลองและทดสอบระบบปฏิบัติการในเอกสาร PDF เพื่อดูวิดีโอแสดงการทำงานของ LinuxPDF และดูรหัสโครงการที่เปิดเผยใน GitHub

    เราควรกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยเมื่อนำเทคโนโลยีเหล่านี้ไปใช้ในระบบที่ใช้งานทั่วไป การที่ระบบปฏิบัติการ Linux ถูกฝังในเอกสาร PDF แม้ว่าจะดูเป็นนวัตกรรมที่น่าทึ่งและน่าสนใจ แต่ก็เป็นการเปิดโอกาสให้อาชญากรไซเบอร์สามารถใช้ช่องโหว่ในเอกสาร PDF เพื่อโจมตีระบบได้

    การนำเสนอระบบปฏิบัติการในเอกสาร PDF อาจถูกใช้เป็นช่องทางสำหรับการฝังมัลแวร์หรือโค้ดอันตรายอื่นๆ นอกจากนี้ การทำงานของ emulator ที่อยู่ใน PDF อาจเป็นการใช้ทรัพยากรของเครื่องโดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของเครื่องหรือสร้างความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเพิ่มเติม

    เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ผู้ใช้งานควรหลีกเลี่ยงการเปิดเอกสาร PDF จากแหล่งที่ไม่เชื่อถือได้ และควรติดตั้งซอฟต์แวร์ป้องกันมัลแวร์ที่ทันสมัยไว้ในเครื่อง นอกจากนี้ การรักษาความปลอดภัยของเบราว์เซอร์และการติดตั้งปลั๊กอินที่เชื่อถือได้เป็นสิ่งสำคัญ

    https://www.tomshardware.com/software/linux/minimal-linux-os-runs-in-a-6mb-pdf-document-in-chrome-linuxpdf-leverages-risc-v-emulator
    ข่าวนี้เกี่ยวกับการสร้างระบบปฏิบัติการ Linux ที่สามารถรันภายในเอกสาร PDF ขนาด 6MB ที่เปิดด้วยเบราว์เซอร์ Chromium นวัตกรรมนี้ถูกพัฒนาโดยนักเรียนมัธยมปลายชื่อ Ading2210 ซึ่งเคยพัฒนา DoomPDF มาก่อนหน้าแล้ว ความคิดสร้างสรรค์นี้ใช้ TinyEMU RISC-V emulator ที่ถูกปรับแต่งให้ทำงานภายใน PDF และสามารถเรียกใช้เคอร์เนล Linux ที่เหมาะสมกับสถาปัตยกรรมนี้ เมื่อเปิด PDF จะมีการแสดง UI ของ LinuxPDF และข้อความต้อนรับในมุมมองของ Linux ขณะที่คุณรอระบบปฏิบัติการบูตขึ้นมา ท่านที่เคยเล่นกับ DoomPDF มาก่อนน่าจะคุ้นเคยกับหน้าจอสีเทาความเข้มต่ำ และผลลัพธ์ที่ออกมาทีละบรรทัดใน ASCII แม้จะมีความช้าเนื่องจากเคอร์เนล Linux ใช้เวลาบูตประมาณ 30-60 วินาที ซึ่งถือว่าช้ากว่าปกติถึง 100 เท่า แต่ก็ยังถือว่าเป็นการทดลองที่น่าสนใจ Google PDF engine ใน Chrome ปัจจุบันปิดใช้งาน Just-in-Time (JIT) compiler ทำให้การปรับปรุงประสิทธิภาพทำได้ยาก การทำงานนี้ต้องใช้เบราว์เซอร์ที่ใช้ Chromium ถึงจะสามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นการนำไปใช้ที่ดีสำหรับผู้ที่สนใจการทดลองและทดสอบระบบปฏิบัติการในเอกสาร PDF เพื่อดูวิดีโอแสดงการทำงานของ LinuxPDF และดูรหัสโครงการที่เปิดเผยใน GitHub เราควรกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยเมื่อนำเทคโนโลยีเหล่านี้ไปใช้ในระบบที่ใช้งานทั่วไป การที่ระบบปฏิบัติการ Linux ถูกฝังในเอกสาร PDF แม้ว่าจะดูเป็นนวัตกรรมที่น่าทึ่งและน่าสนใจ แต่ก็เป็นการเปิดโอกาสให้อาชญากรไซเบอร์สามารถใช้ช่องโหว่ในเอกสาร PDF เพื่อโจมตีระบบได้ การนำเสนอระบบปฏิบัติการในเอกสาร PDF อาจถูกใช้เป็นช่องทางสำหรับการฝังมัลแวร์หรือโค้ดอันตรายอื่นๆ นอกจากนี้ การทำงานของ emulator ที่อยู่ใน PDF อาจเป็นการใช้ทรัพยากรของเครื่องโดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของเครื่องหรือสร้างความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเพิ่มเติม เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ผู้ใช้งานควรหลีกเลี่ยงการเปิดเอกสาร PDF จากแหล่งที่ไม่เชื่อถือได้ และควรติดตั้งซอฟต์แวร์ป้องกันมัลแวร์ที่ทันสมัยไว้ในเครื่อง นอกจากนี้ การรักษาความปลอดภัยของเบราว์เซอร์และการติดตั้งปลั๊กอินที่เชื่อถือได้เป็นสิ่งสำคัญ https://www.tomshardware.com/software/linux/minimal-linux-os-runs-in-a-6mb-pdf-document-in-chrome-linuxpdf-leverages-risc-v-emulator
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • โปรเจกต์ที่น่าสนใจซึ่งรวมเอาความสามารถของ Raspberry Pi เข้าด้วยกันถึงสองเครื่องในหนึ่งอุปกรณ์ นี่คือการสร้างสรรค์ของผู้ใช้ที่ชื่อว่า John3dc บนอุปกรณ์ที่เรียกว่า "Cyberdeck" โดยมีขนาดเล็กและสามารถพกพาได้

    อุปกรณ์นี้ใช้ Raspberry Pi Zero เป็นบอร์ดหลักที่ทำหน้าที่จัดการระบบ และ Raspberry Pi Pico สำหรับการปรับแต่งคีย์บอร์ดให้สามารถทำงานได้ตามที่ต้องการ โดยคีย์บอร์ดที่ใช้คือ Rii X1 mini keyboard ซึ่งถูกปรับแต่งให้รองรับการกำหนดปุ่มพิเศษเพิ่มเติมด้วย Raspberry Pi Pico นอกจากนี้ยังมีการเชื่อมต่อกับหน้าจอเล็กๆ และช่องต่อ USB ที่ด้านข้างเพื่อรองรับการเชื่อมต่อกับเซ็นเซอร์ต่างๆ เช่น ความชื้น และอุณหภูมิ

    ที่น่าสนใจคือการที่ John3dc ใช้เครื่องพิมพ์ 3D ในการสร้างตัวเคสของอุปกรณ์นี้เพื่อให้พอดีกับฮาร์ดแวร์ทั้งหมด ทำให้อุปกรณ์มีรูปลักษณ์ที่สวยงามและใช้งานได้สะดวก

    สำหรับซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการทำงานของ Cyberdeck นี้ ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้ระบบปฏิบัติการใดก็ได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็น Raspberry Pi OS หรือแม้กระทั่ง Kali Linux สำหรับการทำงานด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์

    เพิ่มเติมที่น่าสนใจคือการใช้เทคนิคการคอมไพล์รหัสที่ทำให้ Raspberry Pi Zero และ Raspberry Pi Pico สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าจะมีข้อจำกัดด้านพลังงานและการประมวลผลที่จำกัด แต่การออกแบบที่ชาญฉลาดของ John3dc ทำให้อุปกรณ์นี้เป็นเครื่องมือที่น่าทึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการอุปกรณ์ที่พกพาง่ายและใช้งานได้หลากหลาย

    https://www.tomshardware.com/raspberry-pi/this-raspberry-pi-slim-cyberdeck-uses-two-raspberry-pis
    โปรเจกต์ที่น่าสนใจซึ่งรวมเอาความสามารถของ Raspberry Pi เข้าด้วยกันถึงสองเครื่องในหนึ่งอุปกรณ์ นี่คือการสร้างสรรค์ของผู้ใช้ที่ชื่อว่า John3dc บนอุปกรณ์ที่เรียกว่า "Cyberdeck" โดยมีขนาดเล็กและสามารถพกพาได้ อุปกรณ์นี้ใช้ Raspberry Pi Zero เป็นบอร์ดหลักที่ทำหน้าที่จัดการระบบ และ Raspberry Pi Pico สำหรับการปรับแต่งคีย์บอร์ดให้สามารถทำงานได้ตามที่ต้องการ โดยคีย์บอร์ดที่ใช้คือ Rii X1 mini keyboard ซึ่งถูกปรับแต่งให้รองรับการกำหนดปุ่มพิเศษเพิ่มเติมด้วย Raspberry Pi Pico นอกจากนี้ยังมีการเชื่อมต่อกับหน้าจอเล็กๆ และช่องต่อ USB ที่ด้านข้างเพื่อรองรับการเชื่อมต่อกับเซ็นเซอร์ต่างๆ เช่น ความชื้น และอุณหภูมิ ที่น่าสนใจคือการที่ John3dc ใช้เครื่องพิมพ์ 3D ในการสร้างตัวเคสของอุปกรณ์นี้เพื่อให้พอดีกับฮาร์ดแวร์ทั้งหมด ทำให้อุปกรณ์มีรูปลักษณ์ที่สวยงามและใช้งานได้สะดวก สำหรับซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการทำงานของ Cyberdeck นี้ ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้ระบบปฏิบัติการใดก็ได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็น Raspberry Pi OS หรือแม้กระทั่ง Kali Linux สำหรับการทำงานด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ เพิ่มเติมที่น่าสนใจคือการใช้เทคนิคการคอมไพล์รหัสที่ทำให้ Raspberry Pi Zero และ Raspberry Pi Pico สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าจะมีข้อจำกัดด้านพลังงานและการประมวลผลที่จำกัด แต่การออกแบบที่ชาญฉลาดของ John3dc ทำให้อุปกรณ์นี้เป็นเครื่องมือที่น่าทึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการอุปกรณ์ที่พกพาง่ายและใช้งานได้หลากหลาย https://www.tomshardware.com/raspberry-pi/this-raspberry-pi-slim-cyberdeck-uses-two-raspberry-pis
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • MediaTek บริษัทชิปรายใหญ่จากไต้หวันกำลังดำเนินการประเมินผลกระทบจากการกำหนดอัตราภาษีของสหรัฐอเมริกา ทางบริษัทใช้การจำลองผลกระทบเหล่านี้เพื่อเตรียมความพร้อมต่อสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการค้าและนโยบายการค้าที่กำลังเปลี่ยนแปลง

    Rick Tsai ซีอีโอของ MediaTek กล่าวถึงความไม่แน่นอนของอัตราภาษีและเน้นว่าสถานการณ์ยังคงมีความซับซ้อน เขายังมั่นใจว่าผลกระทบในปี 2025 จะสามารถจัดการได้ แต่ก็ยอมรับว่าสถานการณ์นี้มีความซับซ้อนมาก

    หากสหรัฐกำหนดอัตราภาษีใหม่ MediaTek อาจต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นเมื่อส่งออกชิปไปยังตลาดอเมริกา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อราคาสินค้า โซ่อุปทาน และกำไรของบริษัท ทั้งนี้ MediaTek อาจต้องพิจารณาปรับเปลี่ยนโซ่อุปทานและกลยุทธ์การกำหนดราคาเพื่อลดความเสี่ยง

    ในขณะที่บริษัทต้องเผชิญกับความท้าทายทางการค้า อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ยังต้องเผชิญกับแรงกดดันจากการแข่งขันใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกิดขึ้นของ DeepSeek บริษัทสตาร์ทอัพจากจีนที่เสนอทางแก้ไขปัญหาปัญญาประดิษฐ์ที่มีประสิทธิภาพและต้นทุนต่ำ ซึ่งทำให้หุ้นในตลาดเทคโนโลยีทั่วโลกตกลง

    นอกจากนี้ TSMC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่จากไต้หวันอีกแห่งกำลังพิจารณาการปรับราคาการผลิตชิปเพิ่มขึ้นถึง 15% เพื่อชดเชยการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นจากอัตราภาษีสหรัฐฯ ต่อการนำเข้าจากจีน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/mediatek-is-conducting-impact-simulations-to-prepare-for-u-s-tariffs
    MediaTek บริษัทชิปรายใหญ่จากไต้หวันกำลังดำเนินการประเมินผลกระทบจากการกำหนดอัตราภาษีของสหรัฐอเมริกา ทางบริษัทใช้การจำลองผลกระทบเหล่านี้เพื่อเตรียมความพร้อมต่อสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการค้าและนโยบายการค้าที่กำลังเปลี่ยนแปลง Rick Tsai ซีอีโอของ MediaTek กล่าวถึงความไม่แน่นอนของอัตราภาษีและเน้นว่าสถานการณ์ยังคงมีความซับซ้อน เขายังมั่นใจว่าผลกระทบในปี 2025 จะสามารถจัดการได้ แต่ก็ยอมรับว่าสถานการณ์นี้มีความซับซ้อนมาก หากสหรัฐกำหนดอัตราภาษีใหม่ MediaTek อาจต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นเมื่อส่งออกชิปไปยังตลาดอเมริกา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อราคาสินค้า โซ่อุปทาน และกำไรของบริษัท ทั้งนี้ MediaTek อาจต้องพิจารณาปรับเปลี่ยนโซ่อุปทานและกลยุทธ์การกำหนดราคาเพื่อลดความเสี่ยง ในขณะที่บริษัทต้องเผชิญกับความท้าทายทางการค้า อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ยังต้องเผชิญกับแรงกดดันจากการแข่งขันใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกิดขึ้นของ DeepSeek บริษัทสตาร์ทอัพจากจีนที่เสนอทางแก้ไขปัญหาปัญญาประดิษฐ์ที่มีประสิทธิภาพและต้นทุนต่ำ ซึ่งทำให้หุ้นในตลาดเทคโนโลยีทั่วโลกตกลง นอกจากนี้ TSMC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่จากไต้หวันอีกแห่งกำลังพิจารณาการปรับราคาการผลิตชิปเพิ่มขึ้นถึง 15% เพื่อชดเชยการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นจากอัตราภาษีสหรัฐฯ ต่อการนำเข้าจากจีน https://www.tomshardware.com/tech-industry/mediatek-is-conducting-impact-simulations-to-prepare-for-u-s-tariffs
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company) ได้เพิ่มข้อจำกัดในการขายชิปไปยังประเทศจีน เนื่องจากการเพิ่มความเข้มงวดในกฎการส่งออกของสหรัฐอเมริกา การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับกฎการส่งออกที่เข้มงวดขึ้นจากสหรัฐ ทำให้บริษัทหลายแห่งในจีนต้องย้ายการผลิตแพ็คเกจไปยังบริษัทที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลสหรัฐ

    ตามรายงานของ United Daily News TSMC จะไม่รับคำสั่งซื้อจากบริษัทออกแบบชิปในจีนสำหรับชิปที่ผลิตด้วยกระบวนการขนาด 16 นาโนเมตรและต่ำกว่า เว้นแต่จะใช้บริษัทแพ็คเกจที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลสหรัฐ การตั้งกฎนี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2025 โดยสินค้าที่ไม่ได้แพ็คเกจโดยบริษัทที่ได้รับการอนุมัติจะไม่ถูกจัดส่ง

    อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดนี้อาจมีผลกระทบต่อรายได้ของ TSMC เพียงเล็กน้อย เนื่องจากรายได้มากกว่า 70% มาจากเทคโนโลยีขั้นสูง การผลิตชิปขนาด 7 นาโนเมตรและต่ำกว่า และความต้องการชิป 16 นาโนเมตร FinFET ยังมีอยู่ในประเทศอื่น ๆ เช่น สหรัฐอเมริกาและยุโรป

    ที่สำคัญกว่านั้น กฎใหม่ของสหรัฐยังจำกัดการส่งออกชิปที่มีทรานซิสเตอร์ 30 พันล้านตัวหรือมากกว่า ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีขนาด 14 นาโนเมตร หรือ 16 นาโนเมตร หรือต่ำกว่าไปยังจีนและประเทศอื่น ๆ ที่ถูกจำกัด เว้นแต่ผู้พัฒนาจะได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ

    นอกจากนี้ รายงานระบุว่าหลายบริษัทในจีนเริ่มย้ายการผลิตแพ็คเกจเพื่อรักษาการเข้าถึงการผลิตของ TSMC

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/tsmc-bans-more-chip-sales-to-china-due-to-stricter-u-s-export-sanctions
    บริษัท TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company) ได้เพิ่มข้อจำกัดในการขายชิปไปยังประเทศจีน เนื่องจากการเพิ่มความเข้มงวดในกฎการส่งออกของสหรัฐอเมริกา การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับกฎการส่งออกที่เข้มงวดขึ้นจากสหรัฐ ทำให้บริษัทหลายแห่งในจีนต้องย้ายการผลิตแพ็คเกจไปยังบริษัทที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลสหรัฐ ตามรายงานของ United Daily News TSMC จะไม่รับคำสั่งซื้อจากบริษัทออกแบบชิปในจีนสำหรับชิปที่ผลิตด้วยกระบวนการขนาด 16 นาโนเมตรและต่ำกว่า เว้นแต่จะใช้บริษัทแพ็คเกจที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลสหรัฐ การตั้งกฎนี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2025 โดยสินค้าที่ไม่ได้แพ็คเกจโดยบริษัทที่ได้รับการอนุมัติจะไม่ถูกจัดส่ง อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดนี้อาจมีผลกระทบต่อรายได้ของ TSMC เพียงเล็กน้อย เนื่องจากรายได้มากกว่า 70% มาจากเทคโนโลยีขั้นสูง การผลิตชิปขนาด 7 นาโนเมตรและต่ำกว่า และความต้องการชิป 16 นาโนเมตร FinFET ยังมีอยู่ในประเทศอื่น ๆ เช่น สหรัฐอเมริกาและยุโรป ที่สำคัญกว่านั้น กฎใหม่ของสหรัฐยังจำกัดการส่งออกชิปที่มีทรานซิสเตอร์ 30 พันล้านตัวหรือมากกว่า ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีขนาด 14 นาโนเมตร หรือ 16 นาโนเมตร หรือต่ำกว่าไปยังจีนและประเทศอื่น ๆ ที่ถูกจำกัด เว้นแต่ผู้พัฒนาจะได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ นอกจากนี้ รายงานระบุว่าหลายบริษัทในจีนเริ่มย้ายการผลิตแพ็คเกจเพื่อรักษาการเข้าถึงการผลิตของ TSMC https://www.tomshardware.com/tech-industry/tsmc-bans-more-chip-sales-to-china-due-to-stricter-u-s-export-sanctions
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD ได้เปิดตัว Radeon RX 7650 GRE หรือ Golden Rabbit Edition เฉพาะสำหรับตลาดจีน GPU ใหม่นี้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่ต้องการประสิทธิภาพสูงกว่า RX 7600 แต่ไม่ต้องการจ่ายราคาสูงเท่ากับ RX 7600 XT

    RX 7650 GRE ใช้ชิป Navi 33 แบบเดียวกับ RX 7600 และ RX 7600 XT แต่มีการปรับเพิ่มความเร็วที่สูงขึ้นเล็กน้อย โดยมีความเร็ว boost clock ที่ 2695 MHz ซึ่งสูงกว่า RX 7600 ที่มีความเร็ว boost clock 2655 MHz แต่ยังต่ำกว่า RX 7600 XT ที่มีความเร็ว boost clock 2755 MHz

    นอกจากนี้ RX 7650 GRE ยังมีหน่วยความจำ GDDR6 ขนาด 8 GB แบบเดียวกับ RX 7600 และมีการออกแบบพลังงานที่ใช้พอร์ตเชื่อมต่อแบบ 8-pin เดียวกัน ด้วยการใช้พลังงานที่ประหยัดกว่า RX 7600 XT การเปิดตัวนี้ยังมาพร้อมกับการออกแบบต่างๆ จากคู่ค้าของ AMD เช่น ASRock และ PowerColor

    RX 7650 GRE ถูกตั้งราคาไว้ที่ประมาณ $280 หรือประมาณ 2,099 หยวน ซึ่งเป็นราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าการ์ดรุ่นอื่นๆ ในซีรีส์เดียวกัน นอกจากนี้ ยังมีการรายงานว่าเทคโนโลยี RDNA 3 ที่ใช้ใน GPU นี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการประมวลผลกราฟิกอย่างมีประสิทธิภาพ

    https://wccftech.com/amd-debuts-radeon-rx-7650-gre-as-a-china-exclusive/
    AMD ได้เปิดตัว Radeon RX 7650 GRE หรือ Golden Rabbit Edition เฉพาะสำหรับตลาดจีน GPU ใหม่นี้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่ต้องการประสิทธิภาพสูงกว่า RX 7600 แต่ไม่ต้องการจ่ายราคาสูงเท่ากับ RX 7600 XT RX 7650 GRE ใช้ชิป Navi 33 แบบเดียวกับ RX 7600 และ RX 7600 XT แต่มีการปรับเพิ่มความเร็วที่สูงขึ้นเล็กน้อย โดยมีความเร็ว boost clock ที่ 2695 MHz ซึ่งสูงกว่า RX 7600 ที่มีความเร็ว boost clock 2655 MHz แต่ยังต่ำกว่า RX 7600 XT ที่มีความเร็ว boost clock 2755 MHz นอกจากนี้ RX 7650 GRE ยังมีหน่วยความจำ GDDR6 ขนาด 8 GB แบบเดียวกับ RX 7600 และมีการออกแบบพลังงานที่ใช้พอร์ตเชื่อมต่อแบบ 8-pin เดียวกัน ด้วยการใช้พลังงานที่ประหยัดกว่า RX 7600 XT การเปิดตัวนี้ยังมาพร้อมกับการออกแบบต่างๆ จากคู่ค้าของ AMD เช่น ASRock และ PowerColor RX 7650 GRE ถูกตั้งราคาไว้ที่ประมาณ $280 หรือประมาณ 2,099 หยวน ซึ่งเป็นราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าการ์ดรุ่นอื่นๆ ในซีรีส์เดียวกัน นอกจากนี้ ยังมีการรายงานว่าเทคโนโลยี RDNA 3 ที่ใช้ใน GPU นี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการประมวลผลกราฟิกอย่างมีประสิทธิภาพ https://wccftech.com/amd-debuts-radeon-rx-7650-gre-as-a-china-exclusive/
    WCCFTECH.COM
    AMD Debuts Radeon RX 7650 GRE As A "China-Exclusive" RDNA 3 GPU, Featuring Navi 33 Die & $280 Price Tag
    AMD has launched a brand new RDNA 3 GPU called Radeon RX 7650 GRE for the Chinese market, featuring 8 GB VRAM and 32 Compute Units.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีรายงานความสำเร็จของ Samsung ในการทดสอบการผลิตชิป Exynos 2600 ด้วยกระบวนการ 2nm ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุด โดยในขั้นตอนการทดสอบนี้ Samsung ได้รับผลผลิตถึง 30% ซึ่งแม้ว่าจะน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของที่ TSMC ได้รับผลผลิตถึง 60% แต่ก็ถือว่าเป็นความก้าวหน้าที่ดีเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ของกระบวนการ 3nm ที่ผ่านมาของ Samsung ที่มีความยากลำบาก

    เทคโนโลยี 2nm GAA (Gate All Around) ของ Samsung นี้ใช้การออกแบบขั้นสูงที่สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพได้ถึง 12% เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้ 25% และลดพื้นที่ลง 5% เมื่อเทียบกับเทคโนโลยี 3nm ก่อนหน้านี้

    ผลลัพธ์นี้สำคัญต่อ Samsung เนื่องจากบริษัทยังคงต้องเผชิญกับการแข่งขันจาก TSMC ซึ่งเป็นผู้นำตลาดในด้านนี้ โดยในปัจจุบัน Samsung ต้องการเพิ่มผลผลิตให้มากขึ้นเพื่อรับคำสั่งซื้อจากลูกค้ารายใหญ่ เช่น Qualcomm และ MediaTek ในอนาคต

    อีกหนึ่งข้อมูลที่น่าสนใจคือ Samsung ได้พัฒนาชิป Exynos 2600 ภายใต้โค้ดเนม "Ulysses" และคาดว่าการผลิตชิปเหล่านี้จะเริ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ นอกจากนี้ การพัฒนาเทคโนโลยีนี้ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการผลิตชิปเซ็ตที่ใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ Samsung

    https://wccftech.com/exynos-2600-test-production-on-samsung-2nm-technology-with-30-percent-yield/
    มีรายงานความสำเร็จของ Samsung ในการทดสอบการผลิตชิป Exynos 2600 ด้วยกระบวนการ 2nm ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุด โดยในขั้นตอนการทดสอบนี้ Samsung ได้รับผลผลิตถึง 30% ซึ่งแม้ว่าจะน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของที่ TSMC ได้รับผลผลิตถึง 60% แต่ก็ถือว่าเป็นความก้าวหน้าที่ดีเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ของกระบวนการ 3nm ที่ผ่านมาของ Samsung ที่มีความยากลำบาก เทคโนโลยี 2nm GAA (Gate All Around) ของ Samsung นี้ใช้การออกแบบขั้นสูงที่สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพได้ถึง 12% เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้ 25% และลดพื้นที่ลง 5% เมื่อเทียบกับเทคโนโลยี 3nm ก่อนหน้านี้ ผลลัพธ์นี้สำคัญต่อ Samsung เนื่องจากบริษัทยังคงต้องเผชิญกับการแข่งขันจาก TSMC ซึ่งเป็นผู้นำตลาดในด้านนี้ โดยในปัจจุบัน Samsung ต้องการเพิ่มผลผลิตให้มากขึ้นเพื่อรับคำสั่งซื้อจากลูกค้ารายใหญ่ เช่น Qualcomm และ MediaTek ในอนาคต อีกหนึ่งข้อมูลที่น่าสนใจคือ Samsung ได้พัฒนาชิป Exynos 2600 ภายใต้โค้ดเนม "Ulysses" และคาดว่าการผลิตชิปเหล่านี้จะเริ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ นอกจากนี้ การพัฒนาเทคโนโลยีนี้ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการผลิตชิปเซ็ตที่ใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ Samsung https://wccftech.com/exynos-2600-test-production-on-samsung-2nm-technology-with-30-percent-yield/
    WCCFTECH.COM
    Exynos 2600 Test Production Run On Samsung’s 2nm Process Reportedly Achieves A Decent 30 Percent Yield, Half Of What TSMC Obtained, But It Is Still Healthy Progress
    A report claims that Samsung’s 2nm trial production for the Exynos 2600 obtained healthy yields, even if they are half of TSMC’s figure
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 5090 และ RTX 5090D ซึ่งมีผู้ใช้งานหลายคนรายงานว่าการ์ดจอของพวกเขาเกิดอาการ "brick" หรือไม่สามารถใช้งานได้หลังจากทำการอัปเดตไดรเวอร์ NVIDIA ได้รับรายงานเหล่านี้และกำลังดำเนินการสอบสวนปัญหาดังกล่าว

    เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อมีรายงานจากผู้ใช้งานที่พบว่าการ์ดจอ RTX 5090 และ RTX 5090D ของพวกเขาไม่สามารถเปิดหน้าจอได้ และแสดงเพียงหน้าจอดำหลังจากทำการอัปเดตไดรเวอร์ แม้จะพยายามแก้ไขด้วยวิธีต่าง ๆ แต่ปัญหายังคงอยู่ บางคนพบว่าการ์ดจอไม่ถูกตรวจพบใน Device Manager หรือ BIOS แม้แต่หลังจากทำการรีเซ็ต BIOS แล้ว

    สาเหตุของปัญหานี้ยังไม่เป็นที่ชัดเจน แต่มีการสันนิษฐานว่าอาจเกี่ยวข้องกับปัญหาด้านสถาปัตยกรรมหรือความเข้ากันได้ของไดรเวอร์มากกว่าปัญหาด้านฮาร์ดแวร์เอง NVIDIA ได้ตอบกลับว่าพวกเขากำลังสอบสวนเรื่องนี้ แต่ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมหรือวิธีการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจนในขณะนี้

    นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ASUS ได้เปิดตัวการ์ดจอรุ่นใหม่ที่ชื่อว่า ROG Astral GeForce RTX 5090 'Dhahab' OC Edition ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษสำหรับตลาดในตะวันออกกลาง ด้วยราคาที่สูงถึง $3409 ซึ่งเป็นราคาที่สูงขึ้นอย่างมากจากการ์ดจอ RTX 5090 รุ่นอื่น ๆ

    ในส่วนของการตอบรับตลาด ผู้ใช้งานหลายคนยังคงรอคอยการแก้ไขปัญหาจาก NVIDIA และคาดหวังว่าจะมีข้อมูลเพิ่มเติมหรือการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจนออกมาในเร็ว ๆ นี้

    https://wccftech.com/nvidia-responds-to-bricked-rtx-5090-5090d-gpus-says-it-is-investigating-issues/
    ข่าวนี้เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 5090 และ RTX 5090D ซึ่งมีผู้ใช้งานหลายคนรายงานว่าการ์ดจอของพวกเขาเกิดอาการ "brick" หรือไม่สามารถใช้งานได้หลังจากทำการอัปเดตไดรเวอร์ NVIDIA ได้รับรายงานเหล่านี้และกำลังดำเนินการสอบสวนปัญหาดังกล่าว เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อมีรายงานจากผู้ใช้งานที่พบว่าการ์ดจอ RTX 5090 และ RTX 5090D ของพวกเขาไม่สามารถเปิดหน้าจอได้ และแสดงเพียงหน้าจอดำหลังจากทำการอัปเดตไดรเวอร์ แม้จะพยายามแก้ไขด้วยวิธีต่าง ๆ แต่ปัญหายังคงอยู่ บางคนพบว่าการ์ดจอไม่ถูกตรวจพบใน Device Manager หรือ BIOS แม้แต่หลังจากทำการรีเซ็ต BIOS แล้ว สาเหตุของปัญหานี้ยังไม่เป็นที่ชัดเจน แต่มีการสันนิษฐานว่าอาจเกี่ยวข้องกับปัญหาด้านสถาปัตยกรรมหรือความเข้ากันได้ของไดรเวอร์มากกว่าปัญหาด้านฮาร์ดแวร์เอง NVIDIA ได้ตอบกลับว่าพวกเขากำลังสอบสวนเรื่องนี้ แต่ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมหรือวิธีการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจนในขณะนี้ นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ASUS ได้เปิดตัวการ์ดจอรุ่นใหม่ที่ชื่อว่า ROG Astral GeForce RTX 5090 'Dhahab' OC Edition ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษสำหรับตลาดในตะวันออกกลาง ด้วยราคาที่สูงถึง $3409 ซึ่งเป็นราคาที่สูงขึ้นอย่างมากจากการ์ดจอ RTX 5090 รุ่นอื่น ๆ ในส่วนของการตอบรับตลาด ผู้ใช้งานหลายคนยังคงรอคอยการแก้ไขปัญหาจาก NVIDIA และคาดหวังว่าจะมีข้อมูลเพิ่มเติมหรือการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจนออกมาในเร็ว ๆ นี้ https://wccftech.com/nvidia-responds-to-bricked-rtx-5090-5090d-gpus-says-it-is-investigating-issues/
    WCCFTECH.COM
    NVIDIA Responds To Bricked RTX 5090/5090D GPUs, Says It Is "Investigating" The Reported Issues
    After several reports of supposedly bricked GeForce RTX 5090 GPUs emerged, NVIDIA started investigating the matter.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว