0 Comments
0 Shares
28 Views
0 Reviews
Directory
Discover new people, create new connections and make new friends
- Please log in to like, share and comment!
- 0 Comments 0 Shares 30 Views 0 Reviews
- USAID จัดสรรเงิน 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับสื่อเพื่อรายงานเนื้อหาต่อต้านรัสเซีย และ 98 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับ ฮวน กุยโด อดีตผู้นำฝ่ายค้านของเวเนซุเอลา:
นี่เป็นเพียงสองตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด:
สำหรับรัสเซีย USAID ได้มอบเงินสนับสนุนประมาณ 598 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2020 เพียงปีเดียว เพื่อจ่ายให้กับ "สื่อ" เพื่อรายงานข่าวต่อต้านรัสเซียและสนับสนุนอเมริกา
เพื่อโค่นล้มประธานาธิบดีมาดูโรของเวเนซุเอลา และหวังผลประโยชน์จากแหล่งน้ำมันสำรอง USAID ได้ลงนามในข้อตกลงกับกุยโด ผู้นำฝ่ายค้านที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ เมื่อเดือนตุลาคม 2019 โดย USAID จะสนับสนุนกุยโดในการโค่นล้มรัฐบาลของมาดูโรด้วยเงิน 98 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
RT News รายงานUSAID จัดสรรเงิน 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับสื่อเพื่อรายงานเนื้อหาต่อต้านรัสเซีย และ 98 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับ ฮวน กุยโด อดีตผู้นำฝ่ายค้านของเวเนซุเอลา: นี่เป็นเพียงสองตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด: สำหรับรัสเซีย USAID ได้มอบเงินสนับสนุนประมาณ 598 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2020 เพียงปีเดียว เพื่อจ่ายให้กับ "สื่อ" เพื่อรายงานข่าวต่อต้านรัสเซียและสนับสนุนอเมริกา เพื่อโค่นล้มประธานาธิบดีมาดูโรของเวเนซุเอลา และหวังผลประโยชน์จากแหล่งน้ำมันสำรอง USAID ได้ลงนามในข้อตกลงกับกุยโด ผู้นำฝ่ายค้านที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ เมื่อเดือนตุลาคม 2019 โดย USAID จะสนับสนุนกุยโดในการโค่นล้มรัฐบาลของมาดูโรด้วยเงิน 98 ล้านดอลลาร์สหรัฐ RT News รายงาน0 Comments 0 Shares 42 Views 0 Reviews - Rock Mountain 2025Rock Mountain 2025
- Pino Latte ☕️good morningPino Latte ☕️good morning
- 🌈☀️เช้าๆรับวิตามินดี🌈☀️เช้าๆรับวิตามินดี
- หนุ่มอังกฤษอายุ 18 ปี ถูกโดรนรัสเซียสังหารตั้งแต่ภารกิจแรกในยูเครน
"เขาไม่มีโอกาสรอดเลย" เพื่อนร่วมรบชาวอเมริกันที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าวินาทีที่เกิดขึ้น ชาวอเมริกันรอดโดรนรัสเซียมาได้แต่เสียขาไปข้างนึงในเวลาต่อมา - สำนักข่าว The Sun รายงานข่าวเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2025
เจมส์ หนุ่มอังกฤษจากเมืองแมนเชสเตอร์บินมายูเครนเมื่อ 4 เดือนก่อน อายุ แค่ 17 ปีเท่านั้น เพื่อเข้าร่วมกับกองทัพยูเครนเพื่อรบกับรัสเซีย เขาไม่เคยมีประสบการณ์ทางทหารมาก่อน
เขาตายในภารกิจแรกจากโดรนทิ้งระเบิดของรัสเซีย
ภารกิจแรกของเขาคือไปส่งเสบียงให้แก่ทหารทหารที่อยู่ในแนวหน้า
เจสัน— นักรบชาวอเมริกันที่อยู่กับเจมส์ในช่วงที่เขาเสียชีวิต และต่อมาเสียเท้าซ้ายระหว่างการสู้รบ — บอกกับ The Sun ว่า
"ภารกิจนั้นเป็นภารกิจแรกและสุดท้ายของเจมส์"
"พวกเราต้องข้ามทุ่งโล่งที่ไม่มีต้นไม้ ไม่มีที่กำบัง ไม่มีอะไรเลย เพื่อส่งเสบียงให้ทหารคนอื่น"
"ผมเป็นหัวหน้าทีม และพวกเรามีกันหกคน เคลื่อนที่เป็นกลุ่มละสองคน โดยเว้นระยะห่างกัน 20 เมตร ผมกับเจมส์เป็นคู่สุดท้าย"
"ผมเป็นคนสุดท้ายของกลุ่ม ผมบอกเขาให้รักษาระยะห่าง 20 เมตรจากผม ผมเห็นว่าเขากลัว และผมก็กลัวเหมือนกัน แต่ผมบอกเขาว่าเขาจะไม่เป็นไร"
"พวกเรามีกระเป๋าหนักถึง 60 กิโลกรัม เมื่อเราข้ามทุ่งไปได้ครึ่งทาง เขาก็หยุดกะทันหัน"
"ผมตะโกนเรียกเขาว่า ‘ทำไมถึงหยุด? นายกำลังทำอะไร?’ แต่เขาไม่ตอบ"
"แล้วผมก็ได้ยินเสียงมัน—เสียงหึ่งๆ ในอากาศเหนือเรา—และคิดในใจว่า ‘บ้าเอ้ย’ ผมใช้เวลาสองถึงสามวินาทีมองหามัน แล้วก็เห็นมัน และตระหนักว่าเรากำลังอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด—กลางทุ่งโล่ง ไม่มีที่ให้เราหนี"
"ผมตะโกนบอกเขาว่า ‘เราต้องขยับแล้ว! เราต้องไปเดี๋ยวนี้!’ แล้วโดรนก็เคลื่อนเข้ามาและเริ่มลอยอยู่เหนือผมที่ระยะ 20 เมตร"
"ผมรู้ทันทีว่ามันเป็น ‘โดรนทิ้งระเบิด’ และนักบินของมันกำลังตัดสินใจว่าจะฆ่าใคร—ผมหรือเจมส์"
"มันต้องการให้เราขยับเข้ามาใกล้กัน เพื่อที่จะฆ่าทั้งคู่ด้วยระเบิดลูกเดียว แล้วจู่ๆ ก็มีโดรนอีกตัวปรากฏขึ้น ผมบอกเขาว่าผมจะเริ่มยิง แล้วเขาหันมาพูดว่า ‘ฉันจะวิ่งแล้ว’"
"เราทั้งคู่เริ่มออกวิ่ง โดยมีโดรนสองตัวตามอยู่เหนือหัว—แล้วก็มีตัวที่สามโผล่มาอีก"
"พอโดรนจับเป้าหมายที่เจมส์ได้แล้ว เขาก็ไม่มีโอกาสรอดเลย"
"เขาอยู่ห่างจากแนวสนามเพียงประมาณ 30 เมตร ตอนที่ผมเห็นโดรนระเบิด"
"ขณะที่ผมก้มลงไปคว้าตัวเขา โดรนอีกตัวก็ปรากฏขึ้น ห่างจากหัวผมแค่สิบเมตร ผมหลับตาแล้วคิดในใจว่า ‘บ้าเอ้ย! นี่ฉันต้องตายแล้วสินะ’"
"ผมรู้สึกสงบนิ่งไปชั่วขณะเหมือนทำใจยอมรับแล้ว ผมกอดเพื่อนเอาไว้ รอให้มันเกิดขึ้น"
"แต่ผ่านไปห้าวินาที โดรนรัสเซียกลับพุ่งออกไปและทิ้งผมไว้ตรงนั้น—จนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่รู้เลยว่าทำไม"
หลังจากเห็นเจมส์เสียชีวิต เขายังคงสู้ต่อไป และสามารถอพยพทหารที่บาดเจ็บได้อีกสามคน ซึ่งทั้งหมดรอดชีวิต
แต่สี่วันต่อมา เขาเหยียบกับระเบิดและเสียเท้าซ้ายตั้งแต่ใต้เข่าลงไป
เจสันกล่าวว่า "ผมพาเพื่อนของผม เจมส์ ออกจากสนามรบ แต่เขาก็จากไป มันยากที่จะไม่รู้สึกสะเทือนใจ แต่การได้เห็นสิ่งนั้นทำให้ผมอยากพยายามให้มากขึ้นเพื่อช่วยคนอื่น"
"เขาเป็นน้องเล็กสุดในกลุ่ม และพวกเราทุกคนก็รู้สึกอยากปกป้องเขา สำหรับผม เขากลายเป็นเหมือนน้องชายคนหนึ่ง"
.
https://www.facebook.com/share/p/19mBeAksJc/หนุ่มอังกฤษอายุ 18 ปี ถูกโดรนรัสเซียสังหารตั้งแต่ภารกิจแรกในยูเครน "เขาไม่มีโอกาสรอดเลย" เพื่อนร่วมรบชาวอเมริกันที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าวินาทีที่เกิดขึ้น ชาวอเมริกันรอดโดรนรัสเซียมาได้แต่เสียขาไปข้างนึงในเวลาต่อมา - สำนักข่าว The Sun รายงานข่าวเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2025 เจมส์ หนุ่มอังกฤษจากเมืองแมนเชสเตอร์บินมายูเครนเมื่อ 4 เดือนก่อน อายุ แค่ 17 ปีเท่านั้น เพื่อเข้าร่วมกับกองทัพยูเครนเพื่อรบกับรัสเซีย เขาไม่เคยมีประสบการณ์ทางทหารมาก่อน เขาตายในภารกิจแรกจากโดรนทิ้งระเบิดของรัสเซีย ภารกิจแรกของเขาคือไปส่งเสบียงให้แก่ทหารทหารที่อยู่ในแนวหน้า เจสัน— นักรบชาวอเมริกันที่อยู่กับเจมส์ในช่วงที่เขาเสียชีวิต และต่อมาเสียเท้าซ้ายระหว่างการสู้รบ — บอกกับ The Sun ว่า "ภารกิจนั้นเป็นภารกิจแรกและสุดท้ายของเจมส์" "พวกเราต้องข้ามทุ่งโล่งที่ไม่มีต้นไม้ ไม่มีที่กำบัง ไม่มีอะไรเลย เพื่อส่งเสบียงให้ทหารคนอื่น" "ผมเป็นหัวหน้าทีม และพวกเรามีกันหกคน เคลื่อนที่เป็นกลุ่มละสองคน โดยเว้นระยะห่างกัน 20 เมตร ผมกับเจมส์เป็นคู่สุดท้าย" "ผมเป็นคนสุดท้ายของกลุ่ม ผมบอกเขาให้รักษาระยะห่าง 20 เมตรจากผม ผมเห็นว่าเขากลัว และผมก็กลัวเหมือนกัน แต่ผมบอกเขาว่าเขาจะไม่เป็นไร" "พวกเรามีกระเป๋าหนักถึง 60 กิโลกรัม เมื่อเราข้ามทุ่งไปได้ครึ่งทาง เขาก็หยุดกะทันหัน" "ผมตะโกนเรียกเขาว่า ‘ทำไมถึงหยุด? นายกำลังทำอะไร?’ แต่เขาไม่ตอบ" "แล้วผมก็ได้ยินเสียงมัน—เสียงหึ่งๆ ในอากาศเหนือเรา—และคิดในใจว่า ‘บ้าเอ้ย’ ผมใช้เวลาสองถึงสามวินาทีมองหามัน แล้วก็เห็นมัน และตระหนักว่าเรากำลังอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด—กลางทุ่งโล่ง ไม่มีที่ให้เราหนี" "ผมตะโกนบอกเขาว่า ‘เราต้องขยับแล้ว! เราต้องไปเดี๋ยวนี้!’ แล้วโดรนก็เคลื่อนเข้ามาและเริ่มลอยอยู่เหนือผมที่ระยะ 20 เมตร" "ผมรู้ทันทีว่ามันเป็น ‘โดรนทิ้งระเบิด’ และนักบินของมันกำลังตัดสินใจว่าจะฆ่าใคร—ผมหรือเจมส์" "มันต้องการให้เราขยับเข้ามาใกล้กัน เพื่อที่จะฆ่าทั้งคู่ด้วยระเบิดลูกเดียว แล้วจู่ๆ ก็มีโดรนอีกตัวปรากฏขึ้น ผมบอกเขาว่าผมจะเริ่มยิง แล้วเขาหันมาพูดว่า ‘ฉันจะวิ่งแล้ว’" "เราทั้งคู่เริ่มออกวิ่ง โดยมีโดรนสองตัวตามอยู่เหนือหัว—แล้วก็มีตัวที่สามโผล่มาอีก" "พอโดรนจับเป้าหมายที่เจมส์ได้แล้ว เขาก็ไม่มีโอกาสรอดเลย" "เขาอยู่ห่างจากแนวสนามเพียงประมาณ 30 เมตร ตอนที่ผมเห็นโดรนระเบิด" "ขณะที่ผมก้มลงไปคว้าตัวเขา โดรนอีกตัวก็ปรากฏขึ้น ห่างจากหัวผมแค่สิบเมตร ผมหลับตาแล้วคิดในใจว่า ‘บ้าเอ้ย! นี่ฉันต้องตายแล้วสินะ’" "ผมรู้สึกสงบนิ่งไปชั่วขณะเหมือนทำใจยอมรับแล้ว ผมกอดเพื่อนเอาไว้ รอให้มันเกิดขึ้น" "แต่ผ่านไปห้าวินาที โดรนรัสเซียกลับพุ่งออกไปและทิ้งผมไว้ตรงนั้น—จนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่รู้เลยว่าทำไม" หลังจากเห็นเจมส์เสียชีวิต เขายังคงสู้ต่อไป และสามารถอพยพทหารที่บาดเจ็บได้อีกสามคน ซึ่งทั้งหมดรอดชีวิต แต่สี่วันต่อมา เขาเหยียบกับระเบิดและเสียเท้าซ้ายตั้งแต่ใต้เข่าลงไป เจสันกล่าวว่า "ผมพาเพื่อนของผม เจมส์ ออกจากสนามรบ แต่เขาก็จากไป มันยากที่จะไม่รู้สึกสะเทือนใจ แต่การได้เห็นสิ่งนั้นทำให้ผมอยากพยายามให้มากขึ้นเพื่อช่วยคนอื่น" "เขาเป็นน้องเล็กสุดในกลุ่ม และพวกเราทุกคนก็รู้สึกอยากปกป้องเขา สำหรับผม เขากลายเป็นเหมือนน้องชายคนหนึ่ง" . https://www.facebook.com/share/p/19mBeAksJc/0 Comments 0 Shares 44 Views 0 Reviews - ทำไมธนาคารกล้าให้วงเงินบัตรเครดิตสูงกว่าเงินเดือน ?ทำไมธนาคารกล้าให้วงเงินบัตรเครดิตสูงกว่าเงินเดือน ?0 Comments 0 Shares 33 Views 0 0 Reviews
- 😎😎
- จากนักท่องเที่ยว สู่ผู้ประสบภัยจากนักท่องเที่ยว สู่ผู้ประสบภัย
-
-
-
- เจ้าสัว 85 ปี ยังแจ๋ว "ชัยยุทธ กิติธีระกุล" แนะรัฐสร้างบ้านเมือง เปลี่ยนอยุธยาเป็นเมืองสายมู : คนเคาะข่าว 03-02-68
: ชัยยุทธ กิติธีระกุล ประธานกรรมการบริหาร Royal Bang Pa-In Golf Club
ดำเนินรายการโดย นพรัฐ พรวนสุข0 Comments 0 Shares 29 Views 3 0 Reviews - จนท.รัฐสังกัด USAID โดนสั่งไม่ต้องมาทำงานหลังข่าว 'ทรัมป์' ไฟเขียวสั่งปิด
เจ้าหน้าที่องค์กรเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ หรือ USAID (U.S. Agency for International Development) ถูกสั่งว่าไม่ต้องเข้าตึกทำงานในวันจันทร์ ที่สำนักงานใหญ่กรุงวอชิงตัน
สำนักข่าวเอพีรายงานข่าวนี้โดยอ้างเอกสารเเจ้งต่อเจ้าหน้าที่ USAID หลังจากที่มหาเศรษฐีอิลอน มัสก์ ที่ทำงานให้กับรัฐบาลในโครงการประหยัดงบประมาณกล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ตกลงกับเขาว่าสามารถปิดองค์กรดังกล่าวได้
USAID พบว่าพนักงานกว่า 600 คนระบุว่าไม่สามารถเข้าระบบคอมพิวเตอร์ขององค์กรได้ตั้งแต่ช่วงข้ามคืน
ส่วนผู้ที่สามารถเข้าระบบได้ กล่าวว่ามีอีเมลที่ส่งถึงพวกตนที่ระบุว่า "ตามเเนวทางของผู้นำองค์กร" ตึกสำนักงานใหญ่จะถูกปิดลงในวันที่ 3 กุมภาพันธ์
ข่าวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่มัสก์ กล่าวเช้าวันจันทร์ว่า เขาได้คุยกับประธานาธิบดีทรัมป์แล้ว และว่าผู้นำสหรัฐฯ "ตกลงว่าเราสามารถปิดมันลงได้" โดย USAID เป็นองค์กรอายุ 60 ปีที่ทำงานด้านความช่วยเหลือและการพัฒนา
มัสก์กล่าวผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า “เป็นที่เห็นได้ว่า มันไม่ใช้แอปเปิลที่มีหนอนหนึ่งตัวอยู่ข้างใน…ที่เรามีอยู่ตอนนี้มันคือหนอนทั้งลูกเลย คุณจึงต้องกำจัดทั้งหมดไป มันเกินกว่าที่จะแก้ไขได้”
“เรากำลังปิดมันลง” มัสก์กล่าว
USAID เป็นที่หมายตาของผู้ที่ต้องการตัดลดงบประมาณมาระยะหนึ่งเเล้ว องค์กรนี้ดูเเลเรื่องโครงการพัฒนา งานด้านความมั่นคง และความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ในประเทศต่าง ๆ รวมแล้ว 120 ประเทศ
ประธานาธิบดีทรัมป์ อิลอน มัสก์ ตลอดจนนักการเมืองจากพรรครีพับลิกันในสภา ยังได้เคยวิจารณ์ USAID ว่าส่งเสริมงานที่มีเเนวคิดเสรีนิยม
สำนักข่าวเอพีอ้างแหล่งข่าวที่เป็นอดีตเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รายหนึ่งและเจ้าหน้าที่ปัจจุบันอีกรายหนึ่ง ซึ่งบอกว่าในช่วงสุดสัปดาห์ รัฐบาลทรัมป์สั่งพักงานเจ้าหน้าที่สูงสุดด้านความปลอดภัยของ USAID สองราย หลังจากที่พวกเขาไม่ส่งมอบข้อมูลชั้นความลับในพื้นที่หวงห้าม ให้กับคณะทำงานตรวจสอบรัฐบาลของมัสก์
ทั้งนี้ เว็บไซต์ของ USAID หายไปจากอินเตอร์เน็ตในวันเสาร์โดยไม่มีคำอธิบาย
ทรัมป์บอกกับผู้สื่อข่าวคืนวันอาทิตย์ว่าองค์กรดังกล่าวบริหารงานโดย “คนบ้าหัวรุนเเรง” และว่า “เราจะเอาพวกเขาออกไป”
รัฐบาลอเมริกันภายใต้ทรัมป์ ได้ใช้มาตรการระงับความช่วยเหลือต่างชาติครั้งใหญ่ และปิดโครงการจำนวนมากของ USAID ส่งผลให้หน่วยงานที่ทำงานรูปแบบเดียวกันต้องปลดคนออกจากงาน หรือพักงานจำนวนมากจนท.รัฐสังกัด USAID โดนสั่งไม่ต้องมาทำงานหลังข่าว 'ทรัมป์' ไฟเขียวสั่งปิด เจ้าหน้าที่องค์กรเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ หรือ USAID (U.S. Agency for International Development) ถูกสั่งว่าไม่ต้องเข้าตึกทำงานในวันจันทร์ ที่สำนักงานใหญ่กรุงวอชิงตัน สำนักข่าวเอพีรายงานข่าวนี้โดยอ้างเอกสารเเจ้งต่อเจ้าหน้าที่ USAID หลังจากที่มหาเศรษฐีอิลอน มัสก์ ที่ทำงานให้กับรัฐบาลในโครงการประหยัดงบประมาณกล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ตกลงกับเขาว่าสามารถปิดองค์กรดังกล่าวได้ USAID พบว่าพนักงานกว่า 600 คนระบุว่าไม่สามารถเข้าระบบคอมพิวเตอร์ขององค์กรได้ตั้งแต่ช่วงข้ามคืน ส่วนผู้ที่สามารถเข้าระบบได้ กล่าวว่ามีอีเมลที่ส่งถึงพวกตนที่ระบุว่า "ตามเเนวทางของผู้นำองค์กร" ตึกสำนักงานใหญ่จะถูกปิดลงในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ข่าวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่มัสก์ กล่าวเช้าวันจันทร์ว่า เขาได้คุยกับประธานาธิบดีทรัมป์แล้ว และว่าผู้นำสหรัฐฯ "ตกลงว่าเราสามารถปิดมันลงได้" โดย USAID เป็นองค์กรอายุ 60 ปีที่ทำงานด้านความช่วยเหลือและการพัฒนา มัสก์กล่าวผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า “เป็นที่เห็นได้ว่า มันไม่ใช้แอปเปิลที่มีหนอนหนึ่งตัวอยู่ข้างใน…ที่เรามีอยู่ตอนนี้มันคือหนอนทั้งลูกเลย คุณจึงต้องกำจัดทั้งหมดไป มันเกินกว่าที่จะแก้ไขได้” “เรากำลังปิดมันลง” มัสก์กล่าว USAID เป็นที่หมายตาของผู้ที่ต้องการตัดลดงบประมาณมาระยะหนึ่งเเล้ว องค์กรนี้ดูเเลเรื่องโครงการพัฒนา งานด้านความมั่นคง และความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ในประเทศต่าง ๆ รวมแล้ว 120 ประเทศ ประธานาธิบดีทรัมป์ อิลอน มัสก์ ตลอดจนนักการเมืองจากพรรครีพับลิกันในสภา ยังได้เคยวิจารณ์ USAID ว่าส่งเสริมงานที่มีเเนวคิดเสรีนิยม สำนักข่าวเอพีอ้างแหล่งข่าวที่เป็นอดีตเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รายหนึ่งและเจ้าหน้าที่ปัจจุบันอีกรายหนึ่ง ซึ่งบอกว่าในช่วงสุดสัปดาห์ รัฐบาลทรัมป์สั่งพักงานเจ้าหน้าที่สูงสุดด้านความปลอดภัยของ USAID สองราย หลังจากที่พวกเขาไม่ส่งมอบข้อมูลชั้นความลับในพื้นที่หวงห้าม ให้กับคณะทำงานตรวจสอบรัฐบาลของมัสก์ ทั้งนี้ เว็บไซต์ของ USAID หายไปจากอินเตอร์เน็ตในวันเสาร์โดยไม่มีคำอธิบาย ทรัมป์บอกกับผู้สื่อข่าวคืนวันอาทิตย์ว่าองค์กรดังกล่าวบริหารงานโดย “คนบ้าหัวรุนเเรง” และว่า “เราจะเอาพวกเขาออกไป” รัฐบาลอเมริกันภายใต้ทรัมป์ ได้ใช้มาตรการระงับความช่วยเหลือต่างชาติครั้งใหญ่ และปิดโครงการจำนวนมากของ USAID ส่งผลให้หน่วยงานที่ทำงานรูปแบบเดียวกันต้องปลดคนออกจากงาน หรือพักงานจำนวนมาก0 Comments 0 Shares 45 Views 0 Reviews - โลกที่กว้างใหญ่ ไม่ใช่ พื้นที่ที่เราเห็น
แต่มันคือโลก แห่งความคิด ที่เราออกมาค้นพบ แล้วคือความสุขที่แท้จริงโลกที่กว้างใหญ่ ไม่ใช่ พื้นที่ที่เราเห็น แต่มันคือโลก แห่งความคิด ที่เราออกมาค้นพบ แล้วคือความสุขที่แท้จริง0 Comments 0 Shares 35 Views 0 Reviews - Long Live the King 🙏🏻🙏🏻🙏🏻💛💛💛Long Live the King 🙏🏻🙏🏻🙏🏻💛💛💛0 Comments 0 Shares 35 Views 0 Reviews
- 0 Comments 0 Shares 31 Views 0 Reviews
- 0 Comments 0 Shares 31 Views 0 Reviews
- 0 Comments 0 Shares 28 Views 0 Reviews
- World Military and Political (การทหารและการเมืองโลก) added video News and Politics"ตอนแรก (ปาก)เก่งกว่านี้นะ!!"
ประธานาธิบดีไต้หวัน ไล่ ชิง เต๋อ ของไต้หวัน กล่าวว่า ไต้หวันและจีนจำเป็นต้องพูดคุยกันเพื่อบรรลุสันติภาพ โดยคำนึงถึง "การเปลี่ยนแปลงหลายด้าน" ในสถานการณ์ระหว่างประเทศ พร้อมเรียกร้องให้มีการเจรจาแทนที่จะเผชิญหน้ากัน
นับเป็นครั้งแรกที่นายไล่ แสดงออกอย่างชัดเจนในการยอมอ่อนข้อให้กับจีน
“ช่วงเวลาที่สถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและซับซ้อน เราทั้งสองควรที่จะหันาพูดคุยและแลกเปลี่ยนกันด้วยดี เพื่อให้เกิดสันติภาพ” นายไล่ กล่าว"ตอนแรก (ปาก)เก่งกว่านี้นะ!!" ประธานาธิบดีไต้หวัน ไล่ ชิง เต๋อ ของไต้หวัน กล่าวว่า ไต้หวันและจีนจำเป็นต้องพูดคุยกันเพื่อบรรลุสันติภาพ โดยคำนึงถึง "การเปลี่ยนแปลงหลายด้าน" ในสถานการณ์ระหว่างประเทศ พร้อมเรียกร้องให้มีการเจรจาแทนที่จะเผชิญหน้ากัน นับเป็นครั้งแรกที่นายไล่ แสดงออกอย่างชัดเจนในการยอมอ่อนข้อให้กับจีน “ช่วงเวลาที่สถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและซับซ้อน เราทั้งสองควรที่จะหันาพูดคุยและแลกเปลี่ยนกันด้วยดี เพื่อให้เกิดสันติภาพ” นายไล่ กล่าว0 Comments 0 Shares 31 Views 5 0 Reviews - เต่าไข่ เราดีใจ😄😄 หลุมที่ 4 ของคุณแม่มหาสนุกมาแล้วค่ะ รอบนี้นางไม่ยอมขุดหลุมเลยทำให้ไข่แตกเสียหายไป 3 ฟอง โชคดีที่เจอก่อนไม่งั้นเสียดายไข่เต่ามากกว่านี้แน่ๆเลย #รอบนี้ก็ทำคลอดโดยพี่ปิ่นมุกอีกแล้วค่ะ👍❤️เต่าไข่ เราดีใจ😄😄 หลุมที่ 4 ของคุณแม่มหาสนุกมาแล้วค่ะ รอบนี้นางไม่ยอมขุดหลุมเลยทำให้ไข่แตกเสียหายไป 3 ฟอง โชคดีที่เจอก่อนไม่งั้นเสียดายไข่เต่ามากกว่านี้แน่ๆเลย #รอบนี้ก็ทำคลอดโดยพี่ปิ่นมุกอีกแล้วค่ะ👍❤️0 Comments 0 Shares 28 Views 0 Reviews
- โคราชแชมป์บัตรโหวตโน ตรังเทียบผู้มาใช้สิทธิสูงสุด
การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) 47 จังหวัด และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 16,362,185 คน คิดเป็น 58.45% ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 27,991,587 คน และเป็นที่น่าสังเกตว่ามีบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด หรือโหวตโน 1,158,201 ใบ คิดเป็น 7.08% ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งประเทศ สาเหตุหลักคือ ไม่มีผู้สมัครรายใดโดนใจประชาชน
จากการรวบรวมข้อมูลผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 47 จังหวัด พบว่ามี 4 จังหวัดที่ไม่เปิดเผยคะแนนโหวตโนต่อสาธารณะ ได้แก่ พิจิตร บึงกาฬ นครนายก และกระบี่ ส่วนจังหวัดหนองบัวลำภูมีเฉพาะข้อมูลดิบ ไม่มีการรวมจำนวนมาให้ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้อยู่ในประกาศ กกต.จังหวัด เรื่อง ผลการนับคะแนนเลือกตั้ง หรือแบบฟอร์ม ส.ถ./ผ.ถ. 5/8 ที่ประธานและกรรมการ กกต.จังหวัดลงนามก่อนส่งไปยัง กกต.กลางเพื่อพิจารณารับรองผลการเลือกตั้ง ซึ่งมีหลายจังหวัดเผยแพร่เอกสารนี้
ส่วน 43 จังหวัดที่เหลือ จากการจัดอันดับพบว่า นครราชสีมา เป็นจังหวัดที่มีบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดสูงสุด 110,934 ใบ หรือคิดเป็น 9.58% ของจำนวนบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดทั้งประเทศ รองลงมาคือ สงขลา 86,855 ใบ คิดเป็น 7.50% อันดับสาม ตรัง 63,333 ใบ คิดเป็น 5.47% อันดับสี่ เชียงใหม่ 57,625 ใบ คิดเป็น 4.98% อันดับห้า บุรีรัมย์ 51,525 ใบ คิดเป็น 4.45% อันดับหก นครปฐม 49,395 ใบ คิดเป็น 4.26% อันดับเจ็ด เชียงราย 43,406 ใบ คิดเป็น 3.75% อันดับแปด สมุทรปราการ 42,142 ใบ คิดเป็น 3.64% อันดับเก้า สระบุรี 39,017 ใบ คิดเป็น 3.37% และอันดับสิบ นนทบุรี 37,562 ใบ คิดเป็น 3.24%
แต่หากเปรียบเทียบกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง พบว่า ตรัง เป็นจังหวัดที่มีร้อยละของบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดสูงสุด 21.30% รองลงมาคือ ยะลา 13.05% (29,334 ใบ) อันดับสาม นครปฐม 12.90% อันดับสี่ สิงห์บุรี 12.76% (12,741 ใบ) อันดับห้า สงขลา 12.63% อันดับหก สระบุรี 12.31% อันดับเจ็ด ฉะเชิงเทรา 10.20% (34,612 ใบ) อันดับแปด นครราชสีมา 9.60% อันดับเก้า สตูล 9.56% (14,659 ใบ) และอันดับสิบ น่าน 9.12% (22,872 ใบ)
สำหรับจังหวัดที่มีจำนวนบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดน้อยที่สุด (ไม่รวมจังหวัดที่ไม่เปิดเผยตัวเลข) ได้แก่ ตราด 3,003 ใบ คิดเป็น 2.86% ของจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งทั้งจังหวัด ส่วนจังหวัดที่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดน้อยที่สุด เมื่อเทียบกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งทั้งจังหวัด ได้แก่ มหาสารคาม 4,526 ใบ คิดเป็น 2.41%
#Newskitโคราชแชมป์บัตรโหวตโน ตรังเทียบผู้มาใช้สิทธิสูงสุด การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) 47 จังหวัด และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 16,362,185 คน คิดเป็น 58.45% ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 27,991,587 คน และเป็นที่น่าสังเกตว่ามีบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด หรือโหวตโน 1,158,201 ใบ คิดเป็น 7.08% ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งประเทศ สาเหตุหลักคือ ไม่มีผู้สมัครรายใดโดนใจประชาชน จากการรวบรวมข้อมูลผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 47 จังหวัด พบว่ามี 4 จังหวัดที่ไม่เปิดเผยคะแนนโหวตโนต่อสาธารณะ ได้แก่ พิจิตร บึงกาฬ นครนายก และกระบี่ ส่วนจังหวัดหนองบัวลำภูมีเฉพาะข้อมูลดิบ ไม่มีการรวมจำนวนมาให้ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้อยู่ในประกาศ กกต.จังหวัด เรื่อง ผลการนับคะแนนเลือกตั้ง หรือแบบฟอร์ม ส.ถ./ผ.ถ. 5/8 ที่ประธานและกรรมการ กกต.จังหวัดลงนามก่อนส่งไปยัง กกต.กลางเพื่อพิจารณารับรองผลการเลือกตั้ง ซึ่งมีหลายจังหวัดเผยแพร่เอกสารนี้ ส่วน 43 จังหวัดที่เหลือ จากการจัดอันดับพบว่า นครราชสีมา เป็นจังหวัดที่มีบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดสูงสุด 110,934 ใบ หรือคิดเป็น 9.58% ของจำนวนบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดทั้งประเทศ รองลงมาคือ สงขลา 86,855 ใบ คิดเป็น 7.50% อันดับสาม ตรัง 63,333 ใบ คิดเป็น 5.47% อันดับสี่ เชียงใหม่ 57,625 ใบ คิดเป็น 4.98% อันดับห้า บุรีรัมย์ 51,525 ใบ คิดเป็น 4.45% อันดับหก นครปฐม 49,395 ใบ คิดเป็น 4.26% อันดับเจ็ด เชียงราย 43,406 ใบ คิดเป็น 3.75% อันดับแปด สมุทรปราการ 42,142 ใบ คิดเป็น 3.64% อันดับเก้า สระบุรี 39,017 ใบ คิดเป็น 3.37% และอันดับสิบ นนทบุรี 37,562 ใบ คิดเป็น 3.24% แต่หากเปรียบเทียบกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง พบว่า ตรัง เป็นจังหวัดที่มีร้อยละของบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดสูงสุด 21.30% รองลงมาคือ ยะลา 13.05% (29,334 ใบ) อันดับสาม นครปฐม 12.90% อันดับสี่ สิงห์บุรี 12.76% (12,741 ใบ) อันดับห้า สงขลา 12.63% อันดับหก สระบุรี 12.31% อันดับเจ็ด ฉะเชิงเทรา 10.20% (34,612 ใบ) อันดับแปด นครราชสีมา 9.60% อันดับเก้า สตูล 9.56% (14,659 ใบ) และอันดับสิบ น่าน 9.12% (22,872 ใบ) สำหรับจังหวัดที่มีจำนวนบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดน้อยที่สุด (ไม่รวมจังหวัดที่ไม่เปิดเผยตัวเลข) ได้แก่ ตราด 3,003 ใบ คิดเป็น 2.86% ของจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งทั้งจังหวัด ส่วนจังหวัดที่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดน้อยที่สุด เมื่อเทียบกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งทั้งจังหวัด ได้แก่ มหาสารคาม 4,526 ใบ คิดเป็น 2.41% #Newskit0 Comments 0 Shares 33 Views 0 Reviews - 0 Comments 0 Shares 21 Views 0 Reviews
- https://youtu.be/ob67y2AxyrU?si=JbmtztmlwGOmj3B70 Comments 0 Shares 17 Views 0 Reviews