• รบเถิดอรชุน

    นั่งดูข่าวสารบ้านเมืองแล้ว อยู่ๆผมก็นึกถึงเนื้อหาเล็กๆในตอนหนึ่งของ “ภควัทคีตา” ในมหากาพย์มหาภารตะครับ

    สำหรับท่านที่ไม่รู้จักภควัทคีตา ก็ขออธิบายสั้นๆว่าเป็นบทคำพูดโต้ตอบระหว่างเจ้าชายอรชุนกับกฤษณะในสงครามที่ทุ่งกุรุเกษตร อันเป็นสงครามใหญ่ระหว่างกองทัพสองฝ่ายคือฝ่ายเการพและฝ่ายปาณฑพ

    และผู้นำนักรบของทั้งสองฝ่ายนั้นล้วนเป็นพี่น้องเครือญาติกันทั้งสิ้น

    เจ้าชายอรชุนนั้นเป็นนักรบที่มีฝีมือยิงธนูเป็นเลิศของฝ่ายปาณฑพ (อ่านว่า ปาน-ดบ)

    ส่วนกฤษณะนั้น คือ สารถีคนขับรถม้าให้อรชุนในสนามรบ ซึ่งอันที่จริงกฤษณะนั้นคือพระนารายณ์อวตารลงมาบนโลกมนุษย์อีกทีครับ

    เหตุที่สองคนนี้เขาต้องโต้เถียงพูดคุยกันยาวเหยียดนั้น ก็เพราะเจ้าชายอรชุนเกิดความเวทนาและหดหู่ใจที่เห็นญาติพี่น้องทั้งกษัตริย์และเจ้าชายทั้งหลายยกทัพมาเข่นฆ่ากันเองจนเลือดนองแผ่นดินเพื่อแย่งชิงอำนาจ

    อรชุนตัดสินใจผละออกจากการรบ กฤษณะจึงได้เข้าทัดทาน พร้อมกับยกหลักเหตุผลต่างๆนานาเพื่อให้อรชุนกลับเข้าสู่สนามรบ

    กฤษณะได้สอนอรชุนว่า “การหลีกเลี่ยงหน้าที่นั้นเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เกิดในวรรณะกษัตริย์และนักรบเช่นอรชุน“

    ”หากท่านละทิ้งการรบแล้ว นอกจากจะเสียชื่อเสื่อมเกียรติแล้ว ยังถือเป็นการทำผิดต่อหน้าที่ของตนเอง“

    ”เมื่อท่านกลับเข้าสนามรบ ก็ขอให้ทำหน้าที่นักรบโดยไม่ยึดติดกับความสำเร็จหรือความล้มเหลว จะแพ้หรือชนะนั้นไม่สำคัญ เพราะเมื่อท่านได้ทำหน้าที่นักรบของตนเองอย่างเต็มที่และไม่คิดถึงผลประโยชน์ส่วนตนแล้ว นั่นแหละคือหนทางสู่ความสงบอย่างแท้จริง“

    ผมชอบตรงที่พระกฤษณะบอกว่า ”ชนะก็ได้เป็นใหญ่ในปฐพี แต่ถ้าแพ้ก็ได้ขึ้นสวรรค์เพราะได้ทำหน้าที่ของตนแล้ว“

    ด้วยคำว่า “ธรรมะ” ของพระกฤษณะคือ “หน้าที่”

    เช่นเดียวกับหลักการบูชิโดของซามูไร ที่ยึดถือในคุณธรรมสองประการ คือ จิริกิ (ความยุติธรรม) และกิริ (ความรับผิดชอบในหน้าที่)

    คนเราต้องรู้จักหน้าที่

    เมื่อเกิดมาชาติหนึ่งแล้ว เมื่อได้อยู่ฐานะหรือตำแหน่งอะไร ก็ต้องทำหน้าที่ของตนเองให้สุดความสามารถ

    เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องทำหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี

    เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ก็ต้องทำหน้าที่ผู้ว่าราชการจังหวัด

    อะไรที่ไม่ใช่หน้าที่ เช่น จัดสัมมนาหรือไปออกงานอีเว้นท์น่ะ ไม่ต้องไปทำ

    หวังว่าคงจะเตือนสติใครได้บ้าง เพราะถ้าท่านทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถแล้ว ชาวบ้านเขาจะรู้เองแหละ

    …รบเถิดอรชุน…


    นัทแนะ
    รบเถิดอรชุน นั่งดูข่าวสารบ้านเมืองแล้ว อยู่ๆผมก็นึกถึงเนื้อหาเล็กๆในตอนหนึ่งของ “ภควัทคีตา” ในมหากาพย์มหาภารตะครับ สำหรับท่านที่ไม่รู้จักภควัทคีตา ก็ขออธิบายสั้นๆว่าเป็นบทคำพูดโต้ตอบระหว่างเจ้าชายอรชุนกับกฤษณะในสงครามที่ทุ่งกุรุเกษตร อันเป็นสงครามใหญ่ระหว่างกองทัพสองฝ่ายคือฝ่ายเการพและฝ่ายปาณฑพ และผู้นำนักรบของทั้งสองฝ่ายนั้นล้วนเป็นพี่น้องเครือญาติกันทั้งสิ้น เจ้าชายอรชุนนั้นเป็นนักรบที่มีฝีมือยิงธนูเป็นเลิศของฝ่ายปาณฑพ (อ่านว่า ปาน-ดบ) ส่วนกฤษณะนั้น คือ สารถีคนขับรถม้าให้อรชุนในสนามรบ ซึ่งอันที่จริงกฤษณะนั้นคือพระนารายณ์อวตารลงมาบนโลกมนุษย์อีกทีครับ เหตุที่สองคนนี้เขาต้องโต้เถียงพูดคุยกันยาวเหยียดนั้น ก็เพราะเจ้าชายอรชุนเกิดความเวทนาและหดหู่ใจที่เห็นญาติพี่น้องทั้งกษัตริย์และเจ้าชายทั้งหลายยกทัพมาเข่นฆ่ากันเองจนเลือดนองแผ่นดินเพื่อแย่งชิงอำนาจ อรชุนตัดสินใจผละออกจากการรบ กฤษณะจึงได้เข้าทัดทาน พร้อมกับยกหลักเหตุผลต่างๆนานาเพื่อให้อรชุนกลับเข้าสู่สนามรบ กฤษณะได้สอนอรชุนว่า “การหลีกเลี่ยงหน้าที่นั้นเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เกิดในวรรณะกษัตริย์และนักรบเช่นอรชุน“ ”หากท่านละทิ้งการรบแล้ว นอกจากจะเสียชื่อเสื่อมเกียรติแล้ว ยังถือเป็นการทำผิดต่อหน้าที่ของตนเอง“ ”เมื่อท่านกลับเข้าสนามรบ ก็ขอให้ทำหน้าที่นักรบโดยไม่ยึดติดกับความสำเร็จหรือความล้มเหลว จะแพ้หรือชนะนั้นไม่สำคัญ เพราะเมื่อท่านได้ทำหน้าที่นักรบของตนเองอย่างเต็มที่และไม่คิดถึงผลประโยชน์ส่วนตนแล้ว นั่นแหละคือหนทางสู่ความสงบอย่างแท้จริง“ ผมชอบตรงที่พระกฤษณะบอกว่า ”ชนะก็ได้เป็นใหญ่ในปฐพี แต่ถ้าแพ้ก็ได้ขึ้นสวรรค์เพราะได้ทำหน้าที่ของตนแล้ว“ ด้วยคำว่า “ธรรมะ” ของพระกฤษณะคือ “หน้าที่” เช่นเดียวกับหลักการบูชิโดของซามูไร ที่ยึดถือในคุณธรรมสองประการ คือ จิริกิ (ความยุติธรรม) และกิริ (ความรับผิดชอบในหน้าที่) คนเราต้องรู้จักหน้าที่ เมื่อเกิดมาชาติหนึ่งแล้ว เมื่อได้อยู่ฐานะหรือตำแหน่งอะไร ก็ต้องทำหน้าที่ของตนเองให้สุดความสามารถ เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องทำหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ก็ต้องทำหน้าที่ผู้ว่าราชการจังหวัด อะไรที่ไม่ใช่หน้าที่ เช่น จัดสัมมนาหรือไปออกงานอีเว้นท์น่ะ ไม่ต้องไปทำ หวังว่าคงจะเตือนสติใครได้บ้าง เพราะถ้าท่านทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถแล้ว ชาวบ้านเขาจะรู้เองแหละ …รบเถิดอรชุน… นัทแนะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 250 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/f7uL9CzK18Y?si=z7sK41udK48Bvo9R
    https://youtu.be/f7uL9CzK18Y?si=z7sK41udK48Bvo9R
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำความรู้จัก "ออย แสงศิลป์" ราชารถแห่ 200 ล้านวิวก่อนถูกจับ
    ทำความรู้จัก "ออย แสงศิลป์" ราชารถแห่ 200 ล้านวิวก่อนถูกจับ
    Like
    Love
    Wow
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 809 มุมมอง 41 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัสเซียเปิดตัวสื่อการสอนเล่มใหม่ด้านประวัติศาสตร์การทหาร ซึ่งรวมถึงเหตุการณ์ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนด้วย

    สื่อการสอนชุดใหม่นี้ จะช่วยให้เด็กนักเรียนเข้าใจอดีตได้ดีขึ้นเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การทหารของรัสเซีย ซึ่งประกอบไปด้วยหนังสือ 3 เล่ม เริ่มเรียนตั้งแต่เกรด 6 จนถึงเกรด 11

    หนังสือ "ประวัติศาสตร์ด้านการทหารของรัสเซีย" ทั้ง 3 เล่มได้รับการแก้ไขโดยวลาดิเมียร์ เมดินสกี (Vladimir Medinsky) ผู้ช่วยของปูติน และยังเป็นผู้ร่วมเขียนตำราประวัติศาสตร์หลักของรัสเซียอีกด้วย

    บางส่วนของหนังสือเรียนทั้งสามเล่มนี้ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนด้วย ซึ่งรัสเซียถูกกดดันให้เข้าสู่ปฏิบัติการครั้งนี้ โดยกล่าวถึงสาเหตุของการต่อสู้ ว่าเกิดขึ้นอย่างไร ความกล้าหาญในสนามรบของทหารรัสเซีย และกลยุทธของกองทัพรัสเซียสมัยใหม่ที่บางครั้งนำวิธีการในยุคกองทัพโซเวียตในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองมาประยุกต์ใช้

    ในหนังสือยังได้อ้างถึงประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย โดยกล่าวว่า สงครามครั้งนี้ซึ่งรัสเซียเรียกอย่างเป็นทางการว่าเป็น "ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร" เป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากแต่มีความจำเป็นต้องเปิดศึกกับยูเครน ที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตกและองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต สงครามครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้เพื่อขยายอิทธิพลของชาติตะวันตกที่กำลังเสื่อมโทรม ซึ่งพยายามทำลายและแบ่งแยกรัสเซียออกเป็นชิ้น

    นอกจากนี้ ในหนังสือยังบรรยายถึงวิธีการโค่นล้มประธานาธิบดีของยูเครนที่เป็นมิตรกับรัสเซียโดยได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตกในปี 2557 ซึ่งส่งผลให้ยูเครนกลายเป็นที่มั่นของยุโรปเพื่อต่อต้านรัสเซียอย่างรุนแรง
    รัสเซียเปิดตัวสื่อการสอนเล่มใหม่ด้านประวัติศาสตร์การทหาร ซึ่งรวมถึงเหตุการณ์ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนด้วย สื่อการสอนชุดใหม่นี้ จะช่วยให้เด็กนักเรียนเข้าใจอดีตได้ดีขึ้นเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การทหารของรัสเซีย ซึ่งประกอบไปด้วยหนังสือ 3 เล่ม เริ่มเรียนตั้งแต่เกรด 6 จนถึงเกรด 11 หนังสือ "ประวัติศาสตร์ด้านการทหารของรัสเซีย" ทั้ง 3 เล่มได้รับการแก้ไขโดยวลาดิเมียร์ เมดินสกี (Vladimir Medinsky) ผู้ช่วยของปูติน และยังเป็นผู้ร่วมเขียนตำราประวัติศาสตร์หลักของรัสเซียอีกด้วย บางส่วนของหนังสือเรียนทั้งสามเล่มนี้ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนด้วย ซึ่งรัสเซียถูกกดดันให้เข้าสู่ปฏิบัติการครั้งนี้ โดยกล่าวถึงสาเหตุของการต่อสู้ ว่าเกิดขึ้นอย่างไร ความกล้าหาญในสนามรบของทหารรัสเซีย และกลยุทธของกองทัพรัสเซียสมัยใหม่ที่บางครั้งนำวิธีการในยุคกองทัพโซเวียตในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองมาประยุกต์ใช้ ในหนังสือยังได้อ้างถึงประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย โดยกล่าวว่า สงครามครั้งนี้ซึ่งรัสเซียเรียกอย่างเป็นทางการว่าเป็น "ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร" เป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากแต่มีความจำเป็นต้องเปิดศึกกับยูเครน ที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตกและองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต สงครามครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้เพื่อขยายอิทธิพลของชาติตะวันตกที่กำลังเสื่อมโทรม ซึ่งพยายามทำลายและแบ่งแยกรัสเซียออกเป็นชิ้น นอกจากนี้ ในหนังสือยังบรรยายถึงวิธีการโค่นล้มประธานาธิบดีของยูเครนที่เป็นมิตรกับรัสเซียโดยได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตกในปี 2557 ซึ่งส่งผลให้ยูเครนกลายเป็นที่มั่นของยุโรปเพื่อต่อต้านรัสเซียอย่างรุนแรง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 292 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 46 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 167 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 166 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/oVp4YgVjs7I?si=0_w7YofJ5x_APknW
    https://youtu.be/oVp4YgVjs7I?si=0_w7YofJ5x_APknW
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • 1/
    ด่วน! เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 28 มกราคม 2568 เครื่องบินแอร์บัส A321 ของแอร์ปูซาน (AIR BUSAN) เกิดเพลิงไหม้ที่ส่วนท้ายของเครื่องหลังจากนั้นลุกลามไปทั่วทั้งลำ

    เหตุการณ์เกิดขึ้นที่สนามบินนานาชาติกิมแฮ (PUS) ขณะกำลังจะบินไปปลายทางที่ฮ่องกง

    มีรายงานว่าผู้โดยสารและลูกเรือรวมทั้งหมด 170 คน (ผู้โดยสาร 169 ราย ลูกเรือ 7 ราย) ได้รับการอพยพโดยใช้สไลด์อพยพฉุกเฉิน และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

    เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังลงพื้นที่เพื่อทำการดับไฟ
    1/ ด่วน! เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 28 มกราคม 2568 เครื่องบินแอร์บัส A321 ของแอร์ปูซาน (AIR BUSAN) เกิดเพลิงไหม้ที่ส่วนท้ายของเครื่องหลังจากนั้นลุกลามไปทั่วทั้งลำ เหตุการณ์เกิดขึ้นที่สนามบินนานาชาติกิมแฮ (PUS) ขณะกำลังจะบินไปปลายทางที่ฮ่องกง มีรายงานว่าผู้โดยสารและลูกเรือรวมทั้งหมด 170 คน (ผู้โดยสาร 169 ราย ลูกเรือ 7 ราย) ได้รับการอพยพโดยใช้สไลด์อพยพฉุกเฉิน และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังลงพื้นที่เพื่อทำการดับไฟ
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 204 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2/
    ด่วน! เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 28 มกราคม 2568 เครื่องบินแอร์บัส A321 ของแอร์ปูซาน (AIR BUSAN) เกิดเพลิงไหม้ที่ส่วนท้ายของเครื่องหลังจากนั้นลุกลามไปทั่วทั้งลำ

    เหตุการณ์เกิดขึ้นที่สนามบินนานาชาติกิมแฮ (PUS) ขณะกำลังจะบินไปปลายทางที่ฮ่องกง

    มีรายงานว่าผู้โดยสารและลูกเรือรวมทั้งหมด 170 คน (ผู้โดยสาร 169 ราย ลูกเรือ 7 ราย) ได้รับการอพยพโดยใช้สไลด์อพยพฉุกเฉิน และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

    เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังลงพื้นที่เพื่อทำการดับไฟ
    2/ ด่วน! เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 28 มกราคม 2568 เครื่องบินแอร์บัส A321 ของแอร์ปูซาน (AIR BUSAN) เกิดเพลิงไหม้ที่ส่วนท้ายของเครื่องหลังจากนั้นลุกลามไปทั่วทั้งลำ เหตุการณ์เกิดขึ้นที่สนามบินนานาชาติกิมแฮ (PUS) ขณะกำลังจะบินไปปลายทางที่ฮ่องกง มีรายงานว่าผู้โดยสารและลูกเรือรวมทั้งหมด 170 คน (ผู้โดยสาร 169 ราย ลูกเรือ 7 ราย) ได้รับการอพยพโดยใช้สไลด์อพยพฉุกเฉิน และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังลงพื้นที่เพื่อทำการดับไฟ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 323 มุมมอง 17 0 รีวิว
  • 3/
    ด่วน! เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 28 มกราคม 2568 เครื่องบินแอร์บัส A321 ของแอร์ปูซาน (AIR BUSAN) เกิดเพลิงไหม้ที่ส่วนท้ายของเครื่องหลังจากนั้นลุกลามไปทั่วทั้งลำ

    เหตุการณ์เกิดขึ้นที่สนามบินนานาชาติกิมแฮ (PUS) ขณะกำลังจะบินไปปลายทางที่ฮ่องกง

    มีรายงานว่าผู้โดยสารและลูกเรือรวมทั้งหมด 170 คน (ผู้โดยสาร 169 ราย ลูกเรือ 7 ราย) ได้รับการอพยพโดยใช้สไลด์อพยพฉุกเฉิน และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

    เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังลงพื้นที่เพื่อทำการดับไฟ
    3/ ด่วน! เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 28 มกราคม 2568 เครื่องบินแอร์บัส A321 ของแอร์ปูซาน (AIR BUSAN) เกิดเพลิงไหม้ที่ส่วนท้ายของเครื่องหลังจากนั้นลุกลามไปทั่วทั้งลำ เหตุการณ์เกิดขึ้นที่สนามบินนานาชาติกิมแฮ (PUS) ขณะกำลังจะบินไปปลายทางที่ฮ่องกง มีรายงานว่าผู้โดยสารและลูกเรือรวมทั้งหมด 170 คน (ผู้โดยสาร 169 ราย ลูกเรือ 7 ราย) ได้รับการอพยพโดยใช้สไลด์อพยพฉุกเฉิน และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังลงพื้นที่เพื่อทำการดับไฟ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 325 มุมมอง 29 0 รีวิว
  • https://youtu.be/82skcu0MwlU?si=PHPcKwt8u0RC2xOD
    https://youtu.be/82skcu0MwlU?si=PHPcKwt8u0RC2xOD
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • 4/
    ด่วน! เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 28 มกราคม 2568 เครื่องบินแอร์บัส A321 ของแอร์ปูซาน (AIR BUSAN) เกิดเพลิงไหม้ที่ส่วนท้ายของเครื่องหลังจากนั้นลุกลามไปทั่วทั้งลำ

    เหตุการณ์เกิดขึ้นที่สนามบินนานาชาติกิมแฮ (PUS) ขณะกำลังจะบินไปปลายทางที่ฮ่องกง

    มีรายงานว่าผู้โดยสารและลูกเรือรวมทั้งหมด 170 คน (ผู้โดยสาร 169 ราย ลูกเรือ 7 ราย) ได้รับการอพยพโดยใช้สไลด์อพยพฉุกเฉิน และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

    เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังลงพื้นที่เพื่อทำการดับไฟ
    4/ ด่วน! เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 28 มกราคม 2568 เครื่องบินแอร์บัส A321 ของแอร์ปูซาน (AIR BUSAN) เกิดเพลิงไหม้ที่ส่วนท้ายของเครื่องหลังจากนั้นลุกลามไปทั่วทั้งลำ เหตุการณ์เกิดขึ้นที่สนามบินนานาชาติกิมแฮ (PUS) ขณะกำลังจะบินไปปลายทางที่ฮ่องกง มีรายงานว่าผู้โดยสารและลูกเรือรวมทั้งหมด 170 คน (ผู้โดยสาร 169 ราย ลูกเรือ 7 ราย) ได้รับการอพยพโดยใช้สไลด์อพยพฉุกเฉิน และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังลงพื้นที่เพื่อทำการดับไฟ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 218 มุมมอง 0 รีวิว
  • กำลังนั่งแชทกับ DeepSeek ไม่ธรรมดาจริงๆ....
    นั่งถกกันเรื่อง Smart City สามารถบอกได้ว่า Smart City ในจีนมีกี่ที่ แต่ละที่ใช้ระบบอะไร เน้นหนักในด้านไหน คุยกันความเป็นไปได้ ข้อจำกัดต่างๆในไทย ปัญหาที่ไทยมี.....เจ๋งจริงครับ ยังสามารถคุยเกี่ยวกับเรื่องกลุ่มอีลิทได้ระดับนึงด้วย ซูฮกเลยครับ
    กำลังนั่งแชทกับ DeepSeek ไม่ธรรมดาจริงๆ.... นั่งถกกันเรื่อง Smart City สามารถบอกได้ว่า Smart City ในจีนมีกี่ที่ แต่ละที่ใช้ระบบอะไร เน้นหนักในด้านไหน คุยกันความเป็นไปได้ ข้อจำกัดต่างๆในไทย ปัญหาที่ไทยมี.....เจ๋งจริงครับ ยังสามารถคุยเกี่ยวกับเรื่องกลุ่มอีลิทได้ระดับนึงด้วย ซูฮกเลยครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/taRntw2QN_w?si=wilKSBklHI29Ggc5
    https://youtu.be/taRntw2QN_w?si=wilKSBklHI29Ggc5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • Ep. 21) Happy Chainese New Year 2025 . SONDHI.AI
    Ep. 21) Happy Chainese New Year 2025 . SONDHI.AI
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 4 1 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว