• https://youtu.be/Jel9h2Y2Vns?si=yonBknscsTEeqpCJ
    https://youtu.be/Jel9h2Y2Vns?si=yonBknscsTEeqpCJ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 691 มุมมอง 6 0 รีวิว
  • ผลลัพธ์จากการโจมตีด้วยโดรน FPV ของรัสเซียในภูมิภาคเคิร์สต์ เป้าหมายยานเกราะของยูเครน
    ผลลัพธ์จากการโจมตีด้วยโดรน FPV ของรัสเซียในภูมิภาคเคิร์สต์ เป้าหมายยานเกราะของยูเครน
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1082 มุมมอง 30 0 รีวิว
  • 4/1/68

    ห่านป่า มาเยือนเมืองไทย !
    ปีนี้ซีกโลกเหนือคงจะหนาวจัด นกอพยพลงใต้หลายชนิด

    นักดูนกเมืองไทยสำรวจพบว่ามีห่านป่าที่ชื่อว่า ห่านหน้าผากขาวพันธ๋ใหญ่ บินเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทยและติดตามไปถ่ายภาพได้ที่บึงบอระเพ็ดจำนวน 6 ตัว

    ถือว่าเป็นนกหายาก และหาโอกาสยากมากที่จะเห็นตัวจริง
    ใครสนใจ ไปดูได้
    บึงบอระเพ็ดมีเรือชาวบ้านให้บริการ
    ขอบคึณ:เจ้าของภาพ
    4/1/68 ห่านป่า มาเยือนเมืองไทย ! ปีนี้ซีกโลกเหนือคงจะหนาวจัด นกอพยพลงใต้หลายชนิด นักดูนกเมืองไทยสำรวจพบว่ามีห่านป่าที่ชื่อว่า ห่านหน้าผากขาวพันธ๋ใหญ่ บินเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทยและติดตามไปถ่ายภาพได้ที่บึงบอระเพ็ดจำนวน 6 ตัว ถือว่าเป็นนกหายาก และหาโอกาสยากมากที่จะเห็นตัวจริง ใครสนใจ ไปดูได้ บึงบอระเพ็ดมีเรือชาวบ้านให้บริการ ขอบคึณ:เจ้าของภาพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 369 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงกลาโหมรัสเซีย:
    เมื่อวันที่ 3 มกราคม ยูเครนพยายามโจมตีด้วยขีปนาวุธ ATACMS จำนวน 8 ลูก ที่ผลิตโดยสหรัฐใส่เขตเบลโกรอดของรัสเซีย แต่ถูกยิงตกโดยระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 ของรัสเซียและ Pantsir-SM

    กองทัพรัสเซียจะตอบโต้โดยใช้มาตรการในระดับที่เหมาะสมต่อไป
    กระทรวงกลาโหมรัสเซีย: เมื่อวันที่ 3 มกราคม ยูเครนพยายามโจมตีด้วยขีปนาวุธ ATACMS จำนวน 8 ลูก ที่ผลิตโดยสหรัฐใส่เขตเบลโกรอดของรัสเซีย แต่ถูกยิงตกโดยระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 ของรัสเซียและ Pantsir-SM กองทัพรัสเซียจะตอบโต้โดยใช้มาตรการในระดับที่เหมาะสมต่อไป
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 828 มุมมอง 21 0 รีวิว
  • ภาพการทดสอบ "โดรนไฟเบอร์ออปติก" ของเจ้าหน้าที่ยูเครนซึ่ง ดำเนินการโดย Main Directorate of Defense Innovations ของกระทรวงกลาโหมของประเทศยูเครน

    จากข้อมูล มีการทดสอบโดรนต้นแบบมากกว่าสิบรุ่น และบางรุ่นสามารถบรรทุกน้ำหนักได้ถึง 3 กิโลกรัม

    หัวหน้าแผนกระบบอากาศยานไร้คนขับของกองทัพยูเครนกล่าวว่า โดรนจำนวนหนึ่งที่นำมาทดสอบครั้งนี้ บางส่วนอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการทดสอบแล้ว และจะถูกส่งเข้าสู่แนวหน้าเร็วๆนี้

    ยูเครนเริ่มทดสอบและพัฒนาโดรน FPV ที่เป็นไฟเบอร์ออปติกอย่างจริงจังมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2024 หลังจากรัสเซียเริ่มนำออกมาใช้ แม้ว่าในความเป็นจริงแล้วยูเครนเป็นฝ่ายเริ่มต้นแนวคิดนี้ แต่พับโครงการไปก่อน
    ภาพการทดสอบ "โดรนไฟเบอร์ออปติก" ของเจ้าหน้าที่ยูเครนซึ่ง ดำเนินการโดย Main Directorate of Defense Innovations ของกระทรวงกลาโหมของประเทศยูเครน จากข้อมูล มีการทดสอบโดรนต้นแบบมากกว่าสิบรุ่น และบางรุ่นสามารถบรรทุกน้ำหนักได้ถึง 3 กิโลกรัม หัวหน้าแผนกระบบอากาศยานไร้คนขับของกองทัพยูเครนกล่าวว่า โดรนจำนวนหนึ่งที่นำมาทดสอบครั้งนี้ บางส่วนอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการทดสอบแล้ว และจะถูกส่งเข้าสู่แนวหน้าเร็วๆนี้ ยูเครนเริ่มทดสอบและพัฒนาโดรน FPV ที่เป็นไฟเบอร์ออปติกอย่างจริงจังมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2024 หลังจากรัสเซียเริ่มนำออกมาใช้ แม้ว่าในความเป็นจริงแล้วยูเครนเป็นฝ่ายเริ่มต้นแนวคิดนี้ แต่พับโครงการไปก่อน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 455 มุมมอง 0 รีวิว
  • 4/1/68

    คนไทยว่าไง เยอรมันกับรัสเซียช่วยไทยแบบเหนือชั้นพร้อมหลักฐานว่าแคมโบเดียชี้เขตแดน

    cr:Trend World

    https://youtu.be/uEILOcuXSgI?si=ZRNewlODzi1iF7Py
    4/1/68 คนไทยว่าไง เยอรมันกับรัสเซียช่วยไทยแบบเหนือชั้นพร้อมหลักฐานว่าแคมโบเดียชี้เขตแดน cr:Trend World https://youtu.be/uEILOcuXSgI?si=ZRNewlODzi1iF7Py
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 240 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • IP Man
    IP Man
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 830 มุมมอง 29 1 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เราพยายามส่งอาวุธจำนวนมากให้กับยูเครนอย่างเงียบๆ"
    แอนโธนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยอมรับจากปากเป็นครั้งแรกในการให้สัมภาษณ์กับ NYT ว่า สหรัฐฯแอบส่งอาวุธให้ยูเครนอย่างลับๆล่วงหน้าหลายเดือนก่อนที่รัสเซียจะเปิดปฏิบัติการพิเศษทางทหาร (SMO)

    "เรามั่นใจว่า ... มันเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน (2021) และอีกครั้งในเดือนธันวาคม เพื่อส่งอาวุธจำนวนมากให้กับยูเครนอย่างลับๆ เพื่อให้แน่ใจว่ายูเครนมีทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับการป้องกัน

    จากคำพูดที่ยอมรับอย่างหน้าด้านของบลิงเคน นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมเซเลนสกีถึงกล้ายั่วยุรัสเซียมาตลอด
    "เราพยายามส่งอาวุธจำนวนมากให้กับยูเครนอย่างเงียบๆ" แอนโธนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยอมรับจากปากเป็นครั้งแรกในการให้สัมภาษณ์กับ NYT ว่า สหรัฐฯแอบส่งอาวุธให้ยูเครนอย่างลับๆล่วงหน้าหลายเดือนก่อนที่รัสเซียจะเปิดปฏิบัติการพิเศษทางทหาร (SMO) "เรามั่นใจว่า ... มันเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน (2021) และอีกครั้งในเดือนธันวาคม เพื่อส่งอาวุธจำนวนมากให้กับยูเครนอย่างลับๆ เพื่อให้แน่ใจว่ายูเครนมีทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับการป้องกัน จากคำพูดที่ยอมรับอย่างหน้าด้านของบลิงเคน นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมเซเลนสกีถึงกล้ายั่วยุรัสเซียมาตลอด
    Haha
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 240 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายเดวิด เบอร์ริตต์( David B. Burritt )ประธานและ CEO ของ U.S. Steel เดือดจัดออกหนังสือด่าไบเดนยับข้อหาล้มดีลยักษ์มูลค่า14,900 ดอลลาร์สหรัฐ(480,000 ล้านบาท) กับบริษัท นิปปอนสตีล ของญี่ปุ่น

    บริษัท Nippon Steel และ U.S. Steel กล่าวว่าการตัดสินใจของ Biden แสดงให้เห็นว่าการขัดขวางข้อตกลงดังกล่าวนั้นทำเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองที่ทุจริต
    นายเดวิด เบอร์ริตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ U.S. Steel เรียกการกระทำของนายไบเดนว่า "น่าละอายและฉ้อฉล" และเสริมว่า นายไบเดนได้ดูหมิ่นญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติที่สำคัญยิ่งของสหรัฐ และทำให้ความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐตกอยู่ในความเสี่ยง โดยแถลงการณ์ประณามไบเดน ข้อหาล้มดีลยักษ์กับบริษัทนิปปอน สตีล ของญี่ปุ่นว่า
    ”การกระทำของปธน.ไบเดนในวันนี้น่าละอายและฉ้อฉล เขาให้ผลตอบแทนทางการเมืองแก่หัวหน้าสหภาพแรงงาน ในขณะที่ทำร้ายอนาคตของบริษัท, คนงานของเราและความมั่นคงของชาติ เขาดูหมิ่นญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติที่สำคัญ และทำให้ความสามารถในการแข่งขันของอเมริกาตกอยู่ในความเสี่ยง ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนในปักกิ่งกำลังเต้นรำบนถนน และไบเดนทำทั้งหมดนี้โดยปฏิเสธที่จะพบกับเราเพื่อรับรู้ข้อเท็จจริง
    พนักงานและชุมชนของเราสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้ เราต้องการประธานาธิบดี. ซึ่งทำงานหนักและรู้วิธีทำข้อตกลงที่ดีที่สุดสำหรับอเมริกา อย่าเข้าใจผิด: การลงทุนนี้คือสิ่งที่รับประกันอนาคตที่ยิ่งใหญ่สำหรับ U. S. Steel พนักงานของเรา ชุมชนของเรา และประเทศของเรา เราตั้งใจที่จะต่อสู้กับการทุจริตทางการเมืองของประธานาธิบดีไบเดน“
    บริษัททั้งสองแห่งขู่ว่าจะฟ้องรัฐบาลหากข้อตกลงดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และได้กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่3มกราคมนี้ว่าจะ "ดำเนินการที่เหมาะสมเพื่อปกป้องสิทธิตามกฎหมายของพวกเขา" และระบุในแถลงการณ์ว่า "เราเชื่อว่าประธานาธิบดีไบเดนได้ทำลายอนาคตของคนงานโรงงานเหล็กชาวอเมริกันเพื่อวาระทางการเมืองของตัวเอง" และเสริมว่าการขัดขวางครั้งนี้ส่ง "ข้อความอันน่าสะพรึงกลัวไปยังบริษัทใดๆ ก็ตามที่มีฐานอยู่ในประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯ ที่กำลังพิจารณาลงทุนอย่างมีนัยสำคัญในสหรัฐฯ"
    ผลเสียหายที่ Nippon Steel อาจต้องเสียค่าธรรมเนียมการยกเลิกสัญญาจำนวน 565 ล้านดอลลาร์หรือราว 19,000 ล้านบาทให้กับ US Steel หากข้อตกลงดังกล่าวไม่ผ่าน นอกจากนี้ทางบริษัทยังต้องประเมินกลยุทธ์ในตลาดสหรัฐใหม่ ซึ่งคาดว่าอุปสงค์จะยังคงมีเสถียรภาพ
    เจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นกล่าวว่าพวกเขาผิดหวังกับการตัดสินใจครั้งนี้ “มีความกังวลอย่างมากจากวงการเศรษฐกิจทั้งของญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เกี่ยวกับการลงทุนในอนาคตระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา และรัฐบาลญี่ปุ่นไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง” โยจิ มูโตะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของญี่ปุ่น กล่าวในแถลงการณ์ถึงรอยเตอร์
    การตัดสินใจของประธานาธิบดี โจ ไบเดนเกิดขึ้นหนึ่งปีหลังจากที่Nippon Steel ประกาศข้อตกลงมูลค่า 14.9 พันล้านดอลลาร์ (12 พันล้านปอนด์)เพื่อซื้อบริษัทคู่แข่งUSS Steel ที่มีขนาดเล็กกว่าและมีฐานอยู่ในเพนซิลเวเนีย เป็นครั้งแรก
    สิ่งนี้ทำให้เกิดคำถามสำคัญๆ เกี่ยวกับเส้นทางข้างหน้าของบริษัทUSS Steel  ซึ่งมีชื่อเสียงกว่า 124 ปี และครั้งหนึ่งเคยเป็นสัญลักษณ์ของมหาอำนาจทางอุตสาหกรรมของอเมริกา แต่ปัจจุบันก็ความสำคัญลดน้อยลงไปมาก
    บริษัทUSS Steel ใช้เวลาหลายเดือนในการหาผู้ซื้อรายอื่นก่อนที่จะประกาศความร่วมมือกับบริษัท Nippon Steel ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ในเดือนธันวาคม 2023
    บริษัท US Steel ได้เตือนว่าบริษัทอาจจำเป็นต้องปิดโรงงานโดยไม่ได้ผู้ร่วมลงทุนเจ้าของใหม่ ความกังวลนี้ได้รับการสะท้อนจากพนักงานบางส่วนและนักการเมืองท้องถิ่น
    บริษัททั้งสองแห่งให้คำมั่นว่าจะไม่เลิกจ้างพนักงานและยอมประนีประนอมในประเด็นอื่น ๆ เพื่อพยายามหาเสียงสนับสนุนข้อตกลงดังกล่าว เมื่อสัปดาห์นี้เอง บริษัททั้งสองแห่งเสนอที่จะให้ทุนสนับสนุนศูนย์ฝึกอบรมแรงงาน และมีรายงานว่าให้สิทธิ์รัฐบาลในการยับยั้งการลดการผลิตที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
    แต่ข้อเสนอดังกล่าวไม่สามารถโน้มน้าวใจไบเดน ซึ่งออกมาคัดค้านข้อตกลงดังกล่าวเมื่อต้นปีที่แล้ว เนื่องจากอยู่ระหว่างฤดูกาลเลือกตั้งที่กำลังเข้มข้นขึ้นในรัฐเพนซิลเวเนียซึ่งเป็นรัฐสำคัญที่จะมีบทบาท 
    ธุรกรรมดังกล่าวยังได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากประธานาธิบดีคนใหม่ โดนัลด์ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดีคนใหม่ เจดี แวนซ์ ซึ่งการอุทธรณ์ต่อคนงานสหภาพแรงงานของเขาถือเป็นส่วนสำคัญของข้อความหาเสียงของพวกเขา
    คณะกรรมการรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ได้รับมอบหมายให้ทบทวนข้อตกลงและความเสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติ ไม่สามารถบรรลุฉันทามติได้ในช่วงปลายเดือนธันวาคม ส่งผลให้ไบเดนต้องตัดสินใจแทน โดยเขาต้องดำเนินการภายในระยะเวลา 15 วัน
    ในประกาศของประธานาธิบีไบเดนเมื่อวันศุกร์ที่ 3 มกราคมนี้  เขากล่าวว่าการเป็นเจ้าของUSS Steel โดยบริษัทชาวต่างชาตินั้นมีความเสี่ยงต่อความมั่นคง และสั่งให้บริษัททั้งสอง ยกเลิกข้อตกลงภายใน 30 วัน
    “อุตสาหกรรมเหล็กกล้าที่เป็นเจ้าของและดำเนินการในประเทศที่แข็งแกร่งถือเป็นสิ่งสำคัญลำดับแรกด้านความมั่นคงของชาติและมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อห่วงโซ่อุปทานที่มีความยืดหยุ่น” เขากล่าว
    “นั่นเป็นเพราะเหล็กกล้าเป็นกำลังขับเคลื่อนประเทศของเรา ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมยานยนต์ และฐานอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ หากไม่มีการผลิตเหล็กกล้าในประเทศและแรงงานจากเหล็กกล้าในประเทศ ประเทศของเราจะไม่แข็งแกร่งและปลอดภัย”
    สหภาพแรงงานคนงานเหล็กกล้าแห่งสหรัฐอเมริกา เรียกการตัดสินใจครั้งนี้ว่าเป็น "การตัดสินใจที่ถูกต้องสำหรับสมาชิกและความมั่นคงของชาติของเรา" และกล่าวว่าการคัดค้านของสหภาพฯ เกิดจากความกังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนในระยะยาวของอุตสาหกรรมนี้
    “เรารู้สึกขอบคุณประธานาธิบดีไบเดนที่เต็มใจดำเนินการอันกล้าหาญเพื่อรักษาอุตสาหกรรมเหล็กกล้าในประเทศให้แข็งแกร่ง และสำหรับความมุ่งมั่นตลอดชีวิตของเขาที่มีต่อคนงานชาวอเมริกัน” เดวิด แมคคอลล์ประธานสหภาพUnited Steelworkers กล่าว
    ศาสตราจารย์สตีเฟน นาจี จากภาควิชาการเมืองและการศึกษาระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยคริสเตียนนานาชาติแห่งโตเกียว เรียกการตัดสินใจของไบเดนว่าเป็น "เรื่องการเมือง" โดยระบุว่ารัฐบาลตั้งแต่แรกเริ่มได้สัญญาไว้ถึงนโยบายต่างประเทศ "สำหรับชนชั้นกลาง"
    “นี่คือการตอบสนองโดยตรงและสานต่อแผนงาน MAGA ของทรัมป์ในการทำให้ประเทศอเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง” เขากล่าว “รัฐบาลของไบเดนไม่สามารถแสดงท่าทีอ่อนแอต่อธุรกิจต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรหรือศัตรูก็ตาม”
    จอห์น เคอร์บี้ โฆษกทำเนียบขาว ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับพันธมิตรญี่ปุ่น โดยกล่าวว่าไบเดนได้ชี้แจงชัดเจนว่าการตัดสินใจครั้งนี้ "ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลญี่ปุ่น"
    “นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการผลิตเหล็กกล้าของสหรัฐฯ และการรักษาให้ผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ เป็นบริษัทที่เป็นเจ้าของโดยชาวอเมริกัน” เขากล่าวในการแถลงข่าว
    หุ้นของบริษัท US Steel ร่วงลงมากกว่า 5% ในวันศุกร์
    นักวิเคราะห์กล่าวว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจไม่ถือเป็นการสิ้นสุดข้อตกลง คำสั่งของไบเดนระบุว่าคณะกรรมการการลงทุนจากต่างประเทศในสหรัฐฯ สามารถขยายเวลา 30 วันในการยกเลิกธุรกรรมดังกล่าวได้
    ศาสตราจารย์ Nagy กล่าวว่าเขาคิดว่าบริษัทต่างๆ อาจตัดสินใจที่จะลองอีกครั้งภายใต้การนำของทรัมป์ โดยอาจเสนอเงื่อนไขที่แตกต่างออกไปซึ่งจะทำให้ประธานาธิบดีคนใหม่สามารถอ้างได้ว่าเขาเจรจาข้อตกลงที่ดีกว่าได้
    นักวิเคราะห์การเมือง Terry Haines จาก Pangaea Policy กล่าวด้วยเช่นกันว่า แม้ทรัมป์จะวิพากษ์วิจารณ์ข้อตกลงดังกล่าว แต่เขาอาจมีเหตุผลให้พิจารณาการตัดสินใจดังกล่าวอีกครั้ง
    “สิ่งหนึ่งที่ยากในการตัดสินใจครั้งนี้ก็คือ ญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับสหรัฐฯ” เขากล่าว “รัฐบาลมีภาระทางหลักฐานมากมายในการพิสูจน์สิ่งที่กำลังทำอยู่ในปัจจุบัน และสิ่งนี้ยังส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีกับญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ทรัมป์ต้องการหลีกเลี่ยง”

    นายเดวิด เบอร์ริตต์( David B. Burritt )ประธานและ CEO ของ U.S. Steel เดือดจัดออกหนังสือด่าไบเดนยับข้อหาล้มดีลยักษ์มูลค่า14,900 ดอลลาร์สหรัฐ(480,000 ล้านบาท) กับบริษัท นิปปอนสตีล ของญี่ปุ่น บริษัท Nippon Steel และ U.S. Steel กล่าวว่าการตัดสินใจของ Biden แสดงให้เห็นว่าการขัดขวางข้อตกลงดังกล่าวนั้นทำเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองที่ทุจริต นายเดวิด เบอร์ริตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ U.S. Steel เรียกการกระทำของนายไบเดนว่า "น่าละอายและฉ้อฉล" และเสริมว่า นายไบเดนได้ดูหมิ่นญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติที่สำคัญยิ่งของสหรัฐ และทำให้ความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐตกอยู่ในความเสี่ยง โดยแถลงการณ์ประณามไบเดน ข้อหาล้มดีลยักษ์กับบริษัทนิปปอน สตีล ของญี่ปุ่นว่า ”การกระทำของปธน.ไบเดนในวันนี้น่าละอายและฉ้อฉล เขาให้ผลตอบแทนทางการเมืองแก่หัวหน้าสหภาพแรงงาน ในขณะที่ทำร้ายอนาคตของบริษัท, คนงานของเราและความมั่นคงของชาติ เขาดูหมิ่นญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติที่สำคัญ และทำให้ความสามารถในการแข่งขันของอเมริกาตกอยู่ในความเสี่ยง ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนในปักกิ่งกำลังเต้นรำบนถนน และไบเดนทำทั้งหมดนี้โดยปฏิเสธที่จะพบกับเราเพื่อรับรู้ข้อเท็จจริง พนักงานและชุมชนของเราสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้ เราต้องการประธานาธิบดี. ซึ่งทำงานหนักและรู้วิธีทำข้อตกลงที่ดีที่สุดสำหรับอเมริกา อย่าเข้าใจผิด: การลงทุนนี้คือสิ่งที่รับประกันอนาคตที่ยิ่งใหญ่สำหรับ U. S. Steel พนักงานของเรา ชุมชนของเรา และประเทศของเรา เราตั้งใจที่จะต่อสู้กับการทุจริตทางการเมืองของประธานาธิบดีไบเดน“ บริษัททั้งสองแห่งขู่ว่าจะฟ้องรัฐบาลหากข้อตกลงดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และได้กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่3มกราคมนี้ว่าจะ "ดำเนินการที่เหมาะสมเพื่อปกป้องสิทธิตามกฎหมายของพวกเขา" และระบุในแถลงการณ์ว่า "เราเชื่อว่าประธานาธิบดีไบเดนได้ทำลายอนาคตของคนงานโรงงานเหล็กชาวอเมริกันเพื่อวาระทางการเมืองของตัวเอง" และเสริมว่าการขัดขวางครั้งนี้ส่ง "ข้อความอันน่าสะพรึงกลัวไปยังบริษัทใดๆ ก็ตามที่มีฐานอยู่ในประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯ ที่กำลังพิจารณาลงทุนอย่างมีนัยสำคัญในสหรัฐฯ" ผลเสียหายที่ Nippon Steel อาจต้องเสียค่าธรรมเนียมการยกเลิกสัญญาจำนวน 565 ล้านดอลลาร์หรือราว 19,000 ล้านบาทให้กับ US Steel หากข้อตกลงดังกล่าวไม่ผ่าน นอกจากนี้ทางบริษัทยังต้องประเมินกลยุทธ์ในตลาดสหรัฐใหม่ ซึ่งคาดว่าอุปสงค์จะยังคงมีเสถียรภาพ เจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นกล่าวว่าพวกเขาผิดหวังกับการตัดสินใจครั้งนี้ “มีความกังวลอย่างมากจากวงการเศรษฐกิจทั้งของญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เกี่ยวกับการลงทุนในอนาคตระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา และรัฐบาลญี่ปุ่นไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง” โยจิ มูโตะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของญี่ปุ่น กล่าวในแถลงการณ์ถึงรอยเตอร์ การตัดสินใจของประธานาธิบดี โจ ไบเดนเกิดขึ้นหนึ่งปีหลังจากที่Nippon Steel ประกาศข้อตกลงมูลค่า 14.9 พันล้านดอลลาร์ (12 พันล้านปอนด์)เพื่อซื้อบริษัทคู่แข่งUSS Steel ที่มีขนาดเล็กกว่าและมีฐานอยู่ในเพนซิลเวเนีย เป็นครั้งแรก สิ่งนี้ทำให้เกิดคำถามสำคัญๆ เกี่ยวกับเส้นทางข้างหน้าของบริษัทUSS Steel  ซึ่งมีชื่อเสียงกว่า 124 ปี และครั้งหนึ่งเคยเป็นสัญลักษณ์ของมหาอำนาจทางอุตสาหกรรมของอเมริกา แต่ปัจจุบันก็ความสำคัญลดน้อยลงไปมาก บริษัทUSS Steel ใช้เวลาหลายเดือนในการหาผู้ซื้อรายอื่นก่อนที่จะประกาศความร่วมมือกับบริษัท Nippon Steel ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ในเดือนธันวาคม 2023 บริษัท US Steel ได้เตือนว่าบริษัทอาจจำเป็นต้องปิดโรงงานโดยไม่ได้ผู้ร่วมลงทุนเจ้าของใหม่ ความกังวลนี้ได้รับการสะท้อนจากพนักงานบางส่วนและนักการเมืองท้องถิ่น บริษัททั้งสองแห่งให้คำมั่นว่าจะไม่เลิกจ้างพนักงานและยอมประนีประนอมในประเด็นอื่น ๆ เพื่อพยายามหาเสียงสนับสนุนข้อตกลงดังกล่าว เมื่อสัปดาห์นี้เอง บริษัททั้งสองแห่งเสนอที่จะให้ทุนสนับสนุนศูนย์ฝึกอบรมแรงงาน และมีรายงานว่าให้สิทธิ์รัฐบาลในการยับยั้งการลดการผลิตที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต แต่ข้อเสนอดังกล่าวไม่สามารถโน้มน้าวใจไบเดน ซึ่งออกมาคัดค้านข้อตกลงดังกล่าวเมื่อต้นปีที่แล้ว เนื่องจากอยู่ระหว่างฤดูกาลเลือกตั้งที่กำลังเข้มข้นขึ้นในรัฐเพนซิลเวเนียซึ่งเป็นรัฐสำคัญที่จะมีบทบาท  ธุรกรรมดังกล่าวยังได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากประธานาธิบดีคนใหม่ โดนัลด์ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดีคนใหม่ เจดี แวนซ์ ซึ่งการอุทธรณ์ต่อคนงานสหภาพแรงงานของเขาถือเป็นส่วนสำคัญของข้อความหาเสียงของพวกเขา คณะกรรมการรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ได้รับมอบหมายให้ทบทวนข้อตกลงและความเสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติ ไม่สามารถบรรลุฉันทามติได้ในช่วงปลายเดือนธันวาคม ส่งผลให้ไบเดนต้องตัดสินใจแทน โดยเขาต้องดำเนินการภายในระยะเวลา 15 วัน ในประกาศของประธานาธิบีไบเดนเมื่อวันศุกร์ที่ 3 มกราคมนี้  เขากล่าวว่าการเป็นเจ้าของUSS Steel โดยบริษัทชาวต่างชาตินั้นมีความเสี่ยงต่อความมั่นคง และสั่งให้บริษัททั้งสอง ยกเลิกข้อตกลงภายใน 30 วัน “อุตสาหกรรมเหล็กกล้าที่เป็นเจ้าของและดำเนินการในประเทศที่แข็งแกร่งถือเป็นสิ่งสำคัญลำดับแรกด้านความมั่นคงของชาติและมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อห่วงโซ่อุปทานที่มีความยืดหยุ่น” เขากล่าว “นั่นเป็นเพราะเหล็กกล้าเป็นกำลังขับเคลื่อนประเทศของเรา ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมยานยนต์ และฐานอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ หากไม่มีการผลิตเหล็กกล้าในประเทศและแรงงานจากเหล็กกล้าในประเทศ ประเทศของเราจะไม่แข็งแกร่งและปลอดภัย” สหภาพแรงงานคนงานเหล็กกล้าแห่งสหรัฐอเมริกา เรียกการตัดสินใจครั้งนี้ว่าเป็น "การตัดสินใจที่ถูกต้องสำหรับสมาชิกและความมั่นคงของชาติของเรา" และกล่าวว่าการคัดค้านของสหภาพฯ เกิดจากความกังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนในระยะยาวของอุตสาหกรรมนี้ “เรารู้สึกขอบคุณประธานาธิบดีไบเดนที่เต็มใจดำเนินการอันกล้าหาญเพื่อรักษาอุตสาหกรรมเหล็กกล้าในประเทศให้แข็งแกร่ง และสำหรับความมุ่งมั่นตลอดชีวิตของเขาที่มีต่อคนงานชาวอเมริกัน” เดวิด แมคคอลล์ประธานสหภาพUnited Steelworkers กล่าว ศาสตราจารย์สตีเฟน นาจี จากภาควิชาการเมืองและการศึกษาระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยคริสเตียนนานาชาติแห่งโตเกียว เรียกการตัดสินใจของไบเดนว่าเป็น "เรื่องการเมือง" โดยระบุว่ารัฐบาลตั้งแต่แรกเริ่มได้สัญญาไว้ถึงนโยบายต่างประเทศ "สำหรับชนชั้นกลาง" “นี่คือการตอบสนองโดยตรงและสานต่อแผนงาน MAGA ของทรัมป์ในการทำให้ประเทศอเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง” เขากล่าว “รัฐบาลของไบเดนไม่สามารถแสดงท่าทีอ่อนแอต่อธุรกิจต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรหรือศัตรูก็ตาม” จอห์น เคอร์บี้ โฆษกทำเนียบขาว ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับพันธมิตรญี่ปุ่น โดยกล่าวว่าไบเดนได้ชี้แจงชัดเจนว่าการตัดสินใจครั้งนี้ "ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลญี่ปุ่น" “นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการผลิตเหล็กกล้าของสหรัฐฯ และการรักษาให้ผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ เป็นบริษัทที่เป็นเจ้าของโดยชาวอเมริกัน” เขากล่าวในการแถลงข่าว หุ้นของบริษัท US Steel ร่วงลงมากกว่า 5% ในวันศุกร์ นักวิเคราะห์กล่าวว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจไม่ถือเป็นการสิ้นสุดข้อตกลง คำสั่งของไบเดนระบุว่าคณะกรรมการการลงทุนจากต่างประเทศในสหรัฐฯ สามารถขยายเวลา 30 วันในการยกเลิกธุรกรรมดังกล่าวได้ ศาสตราจารย์ Nagy กล่าวว่าเขาคิดว่าบริษัทต่างๆ อาจตัดสินใจที่จะลองอีกครั้งภายใต้การนำของทรัมป์ โดยอาจเสนอเงื่อนไขที่แตกต่างออกไปซึ่งจะทำให้ประธานาธิบดีคนใหม่สามารถอ้างได้ว่าเขาเจรจาข้อตกลงที่ดีกว่าได้ นักวิเคราะห์การเมือง Terry Haines จาก Pangaea Policy กล่าวด้วยเช่นกันว่า แม้ทรัมป์จะวิพากษ์วิจารณ์ข้อตกลงดังกล่าว แต่เขาอาจมีเหตุผลให้พิจารณาการตัดสินใจดังกล่าวอีกครั้ง “สิ่งหนึ่งที่ยากในการตัดสินใจครั้งนี้ก็คือ ญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับสหรัฐฯ” เขากล่าว “รัฐบาลมีภาระทางหลักฐานมากมายในการพิสูจน์สิ่งที่กำลังทำอยู่ในปัจจุบัน และสิ่งนี้ยังส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีกับญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ทรัมป์ต้องการหลีกเลี่ยง”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1184 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลุ่มฮูตีในเยเมนได้รับส่วนประกอบขั้นสูงสำหรับขีปนาวุธพิสัยไกลและขีปนาวุธร่อนจากจีน
    -i24 รายงาน
    กลุ่มฮูตีในเยเมนได้รับส่วนประกอบขั้นสูงสำหรับขีปนาวุธพิสัยไกลและขีปนาวุธร่อนจากจีน -i24 รายงาน
    Love
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 248 มุมมอง 0 รีวิว
  • คนยูเครนไม่ได้เลือกเซเลนสกีมาทำสงคราม

    ผมเห็นคลิปน่าสนใจใน X เข้าไปดูได้ตามบัญชีในภาพ เป็นคลิปเจ้าหน้าที่อุ้ม เอ้ย เกณฑ์ทหารของยูเครน บอกกับคนยูเครนที่มาประท้วงว่า ถ้าไม่เลือก "ตัวตลก" มาเป็นผู้นำ ก็คงไม่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เป็นการโยนความผิดให้คนยูเครนที่เลือกเซเลนสกีเป็นประธานาธิบดี แล้วเกิดสงครามขึ้น ส่วนเจ้าหน้าที่เกณฑ์ทหารถือว่าเขาแค่ทำตามหน้าที่

    ไม่ว่าทุกคนจะมีมุมมองเกี่ยวกับเซเลนสกีอย่างไร แต่ผมขอให้ความเป็นธรรมกับชาวยูเครนนะครับ ตอนเลือกตั้งประธานาธิบดียูเครนเมื่อปี 2019 นโยบายที่เซเลนสกีใช้หาเสียงคือ "ฟื้นสัมพันธ์กับรัสเซีย ยุติการสู้รบในดอนบาส" ส่วนคู่แข่งของเซเลนสกีคืออดีตประธานาธิบดีโปโรเชงโก ซึ่งเป็นสายตรงของตะวันตกเลย เมื่อตัวเลือกมีแค่นี้ การที่คนยูเครนเลือกเซเลนสกี ก็แสดงให้เห็นว่าในช่วงเวลานั้น คนยูเครนส่วนใหญ่ไม่ต้องการสงครามกับรัสเซียครับ แม้ว่าหลังจากนั้นเหตุการณ์จะเปลี่ยนไป แต่ถ้าใครจะวิจารณ์คนยูเครนว่าเลือกเซเลนสกีมาเอง เลยเกิดสงคราม ผมไม่เห็นด้วยครับ ตอนนั้นถ้าไม่เลือกเซเลนสกี ก็ได้โปโรเชงโกครับ ทีนี้เมื่อเซเลนสกีมาสารภาพภายหลังว่า เขาไม่คิดจะทำตามข้อตกลง Minsk II แต่แรก ก็คงต้องถือเป็นกรรมของคนยูเครนที่ไม่มีทางเลี่ยงสงครามได้ครับ

    สวัสดี

    การทูตและการทหาร
    Military and Diplomacy

    04.01.2025
    คนยูเครนไม่ได้เลือกเซเลนสกีมาทำสงคราม ผมเห็นคลิปน่าสนใจใน X เข้าไปดูได้ตามบัญชีในภาพ เป็นคลิปเจ้าหน้าที่อุ้ม เอ้ย เกณฑ์ทหารของยูเครน บอกกับคนยูเครนที่มาประท้วงว่า ถ้าไม่เลือก "ตัวตลก" มาเป็นผู้นำ ก็คงไม่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เป็นการโยนความผิดให้คนยูเครนที่เลือกเซเลนสกีเป็นประธานาธิบดี แล้วเกิดสงครามขึ้น ส่วนเจ้าหน้าที่เกณฑ์ทหารถือว่าเขาแค่ทำตามหน้าที่ ไม่ว่าทุกคนจะมีมุมมองเกี่ยวกับเซเลนสกีอย่างไร แต่ผมขอให้ความเป็นธรรมกับชาวยูเครนนะครับ ตอนเลือกตั้งประธานาธิบดียูเครนเมื่อปี 2019 นโยบายที่เซเลนสกีใช้หาเสียงคือ "ฟื้นสัมพันธ์กับรัสเซีย ยุติการสู้รบในดอนบาส" ส่วนคู่แข่งของเซเลนสกีคืออดีตประธานาธิบดีโปโรเชงโก ซึ่งเป็นสายตรงของตะวันตกเลย เมื่อตัวเลือกมีแค่นี้ การที่คนยูเครนเลือกเซเลนสกี ก็แสดงให้เห็นว่าในช่วงเวลานั้น คนยูเครนส่วนใหญ่ไม่ต้องการสงครามกับรัสเซียครับ แม้ว่าหลังจากนั้นเหตุการณ์จะเปลี่ยนไป แต่ถ้าใครจะวิจารณ์คนยูเครนว่าเลือกเซเลนสกีมาเอง เลยเกิดสงคราม ผมไม่เห็นด้วยครับ ตอนนั้นถ้าไม่เลือกเซเลนสกี ก็ได้โปโรเชงโกครับ ทีนี้เมื่อเซเลนสกีมาสารภาพภายหลังว่า เขาไม่คิดจะทำตามข้อตกลง Minsk II แต่แรก ก็คงต้องถือเป็นกรรมของคนยูเครนที่ไม่มีทางเลี่ยงสงครามได้ครับ สวัสดี การทูตและการทหาร Military and Diplomacy 04.01.2025
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 366 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 127 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความโลภต่างหากที่ทำให้เราเห็นกงจักรที่อเมริกายื่นมาให้เป็นดอกบัว #เปลือยธารินทร์ สถาบันต่าง ๆ รวมทั้งภาคเอกชน เริ่มเป็นประตูสวรรค์ของการยืมเงินถูกมาใช้ ถ้าเป็นธนาคารก็ยืมถูกมาปล่อยแพง ถ้าเป็นบริษัทก็ประหยัดต้นทุนเกือบ 10%
    https://youtu.be/xl3LMN8qEag
    ความโลภต่างหากที่ทำให้เราเห็นกงจักรที่อเมริกายื่นมาให้เป็นดอกบัว #เปลือยธารินทร์ สถาบันต่าง ๆ รวมทั้งภาคเอกชน เริ่มเป็นประตูสวรรค์ของการยืมเงินถูกมาใช้ ถ้าเป็นธนาคารก็ยืมถูกมาปล่อยแพง ถ้าเป็นบริษัทก็ประหยัดต้นทุนเกือบ 10% https://youtu.be/xl3LMN8qEag
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 476 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้เขียน #เปลือยธารินทร์ ถึงรู้สึกเห็นใจจีนมาก ในช่วงถึงเวลาที่พวกเขาจะต้องยึดเกาะฮ่องกงคืนในวันที่ 1 กรกฎาคม 1997(2540)ปีที่แล้ว ที่เขาโดนสื่อมวลชนต่างประเทศโจมตีมาตลอดว่า เมื่อจีนเข้ามาครองฮ่องกงแล้ว ฮ่องกงจะตกต่ำ ทั้งหมดนี้ไม่เคยมีใครย้อนประวัติศาสตร์ดูว่า ผู้นำจีนเขาคิดอย่างไรกับการที่ชาติเขาต้องรอถึง 99 ปี กว่าจะได้มีสิทธิกลับเข้ามายังดินแดนที่พวกคนอังกฤษ ที่ส่วนใหญ่ใช้มันสมองของพวกสะพานควาย(OX-BRIDGE) หรือพวก OX-FORD- CAMBRIDGE มาปล้นเขาไป
    https://youtu.be/LAMk4_0tKdE
    ผู้เขียน #เปลือยธารินทร์ ถึงรู้สึกเห็นใจจีนมาก ในช่วงถึงเวลาที่พวกเขาจะต้องยึดเกาะฮ่องกงคืนในวันที่ 1 กรกฎาคม 1997(2540)ปีที่แล้ว ที่เขาโดนสื่อมวลชนต่างประเทศโจมตีมาตลอดว่า เมื่อจีนเข้ามาครองฮ่องกงแล้ว ฮ่องกงจะตกต่ำ ทั้งหมดนี้ไม่เคยมีใครย้อนประวัติศาสตร์ดูว่า ผู้นำจีนเขาคิดอย่างไรกับการที่ชาติเขาต้องรอถึง 99 ปี กว่าจะได้มีสิทธิกลับเข้ามายังดินแดนที่พวกคนอังกฤษ ที่ส่วนใหญ่ใช้มันสมองของพวกสะพานควาย(OX-BRIDGE) หรือพวก OX-FORD- CAMBRIDGE มาปล้นเขาไป https://youtu.be/LAMk4_0tKdE
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 593 มุมมอง 0 รีวิว
  • จริง ๆ แล้วเป้าหมายของ IMF ของอเมริกและของไทยนั้น ไม่ได้ต่างอะไรกันเลยแม้แต่นิดเดียว ต่างกันแต่ที่วิธีการเท่านั้น IMF ต้องการที่จะให้เราปฏิรูประบบสถาบันการเงิน และบังคับให้เราปล่อยราคาทุกอย่างให้ลอยตัว โดยไม่คำนึงถึงปัญหาทางสังคม ซึ่งประเด็นนี้แม้แต่อเมริกาเองกยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ทำผิดพลาดของ IMF #เปลือยธารินทร์
    https://youtu.be/QixzsKjNgjs
    จริง ๆ แล้วเป้าหมายของ IMF ของอเมริกและของไทยนั้น ไม่ได้ต่างอะไรกันเลยแม้แต่นิดเดียว ต่างกันแต่ที่วิธีการเท่านั้น IMF ต้องการที่จะให้เราปฏิรูประบบสถาบันการเงิน และบังคับให้เราปล่อยราคาทุกอย่างให้ลอยตัว โดยไม่คำนึงถึงปัญหาทางสังคม ซึ่งประเด็นนี้แม้แต่อเมริกาเองกยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ทำผิดพลาดของ IMF #เปลือยธารินทร์ https://youtu.be/QixzsKjNgjs
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 431 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 292 มุมมอง 0 รีวิว