• 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • เป้าหมายการพัฒนาภายใน ในทางปฏิบัติ (IDG in ACTION)

    "เรามองว่ากรอบงาน IDG เกือบจะเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องยนต์ใต้ฝากระโปรงรถ"

    Selina Waddington Millstam อดีตหัวหน้าฝ่ายความสามารถระดับโลกของ Ericsson กล่าว นอกจาก Ikea และ Google แล้ว Ericsson ยังเป็นหนึ่งในองค์กรประมาณ 100 แห่งที่เริ่มทํางานด้วย IDG ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
    หลายคนใน Google ได้เริ่มต้นจากเล็ก ๆ โดยรวม 1 - 2 เป้าหมายไว้ในแผนกหรือทีมเดียวในขณะที่คนอื่น ๆ ได้พยายามนําไปใช้อย่างกว้างขวางมากขึ้นตั้งแต่กลุ่มบริษัท Stena ของสวีเดนไปจนถึงแบรนด์รองเท้า Icebug

    เอกสารฉบับแรกของ IDG ซึ่งตีพิมพ์ในเดือนกันยายนรวบรวมชัยชนะและความท้าทายบางอย่างจนถึงตอนนี้ ทําให้การอ่านสนุก คุณจะพบกับ Michiel Bakker รองประธานฝ่ายของ Google ที่ใคร่ครวญว่าความ "เปราะบาง" กับเพื่อนร่วมงานสร้างสิ่งที่ทรงพลังในการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร

    Ikea และ Google เป็นหนึ่งในบริษัทที่ยอมรับเป้าหมายการพัฒนาภายใน
    เหตุใด Google ซึ่งมีรายได้ใกล้ 300,000 ล้านดอลลาร์ (239 พันล้านปอนด์) โดยมีพนักงาน 170,000 คนใน 55+ ประเทศ และต้องการมีส่วนร่วม ในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ มันชัดเจนมากว่าสิ่งที่ทําให้ Google ประสบความสําเร็จจนถึงตอนนี้ จะไม่ทําให้เราประสบความสําเร็จในอนาคต "โลกกําลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว"

    แผนกของ Bakker ที่ Google ได้จัดเวิร์กช็อป 3 วัน ซึ่งเรียกว่า "ประสบการณ์ทางอารมณ์" โดยตัดสินใจทํางานกับความสามารถ 3 – 4 อย่างที่ "มีความสําคัญทางธุรกิจ"

    ทีมชั้นนําของ Tina Molund ที่ Ikea ตั้งข้อสังเกตถึงแรงจูงใจในการเข้าร่วม: "เวลาที่ทําให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นและสามารถสร้างความพึงพอใจได้ด้วย IDG ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการท้าทายความคิด"

    พนักงานเริ่มต้นด้วยการประเมินการกระทําและพฤติกรรมของตนเองที่เกี่ยวข้องกับทักษะการเปลี่ยนแปลงทั้ง 5 ทักษะ ของ IDG ความท้าทายประการหนึ่งที่พบจากการประเมิน IDG คือการจัดลําดับความสําคัญของงานเมื่อผลกำไรอันเป็น Bottom Line ตะโกนดังที่สุด

    นับว่าเป็นเรื่องยากสําหรับผู้นําอาวุโสหลายคนที่จะให้ "เวลาและความสนใจ" กับคําถามต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมและการพัฒนาภายใน"

    Waddington Millstam จาก Ericsson ยอมรับในเรื่องนี้และเธอยังกล่าวว่าผู้นําอาวุโสต้องมีความเชื่อในคุณค่าที่แท้จริงของ IDG

    Ikea, Google, Ericsson และองค์กรประมาณ 100 แห่งที่เริ่มทํางานด้วย IDG กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า "โลกกําลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว" ทําให้การนําพลังของการพัฒนาภายใน (IDG) มาสู่ผู้นํา 7,000 คนทั่วโลก มีความสําคัญมากขึ้น แม้ว่าจะเป็นการเดินทางที่ต้องใช้เวลาก็ตาม

    ในประเทศไทยเรื่องนี้ยังใหม่แต่อีกไม่นานก็ได้เผชิญกับสิ่งที่องค์กรต่างๆเผชิญมาก่อน หนึ่งสิ่งในฐานะผู้นำต้องทำคืออะไรร่วมหาโซลูชั่นได้ที่ www.10-xconsulting.com
    เป้าหมายการพัฒนาภายใน ในทางปฏิบัติ (IDG in ACTION) "เรามองว่ากรอบงาน IDG เกือบจะเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องยนต์ใต้ฝากระโปรงรถ" Selina Waddington Millstam อดีตหัวหน้าฝ่ายความสามารถระดับโลกของ Ericsson กล่าว นอกจาก Ikea และ Google แล้ว Ericsson ยังเป็นหนึ่งในองค์กรประมาณ 100 แห่งที่เริ่มทํางานด้วย IDG ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หลายคนใน Google ได้เริ่มต้นจากเล็ก ๆ โดยรวม 1 - 2 เป้าหมายไว้ในแผนกหรือทีมเดียวในขณะที่คนอื่น ๆ ได้พยายามนําไปใช้อย่างกว้างขวางมากขึ้นตั้งแต่กลุ่มบริษัท Stena ของสวีเดนไปจนถึงแบรนด์รองเท้า Icebug เอกสารฉบับแรกของ IDG ซึ่งตีพิมพ์ในเดือนกันยายนรวบรวมชัยชนะและความท้าทายบางอย่างจนถึงตอนนี้ ทําให้การอ่านสนุก คุณจะพบกับ Michiel Bakker รองประธานฝ่ายของ Google ที่ใคร่ครวญว่าความ "เปราะบาง" กับเพื่อนร่วมงานสร้างสิ่งที่ทรงพลังในการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร Ikea และ Google เป็นหนึ่งในบริษัทที่ยอมรับเป้าหมายการพัฒนาภายใน เหตุใด Google ซึ่งมีรายได้ใกล้ 300,000 ล้านดอลลาร์ (239 พันล้านปอนด์) โดยมีพนักงาน 170,000 คนใน 55+ ประเทศ และต้องการมีส่วนร่วม ในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ มันชัดเจนมากว่าสิ่งที่ทําให้ Google ประสบความสําเร็จจนถึงตอนนี้ จะไม่ทําให้เราประสบความสําเร็จในอนาคต "โลกกําลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว" แผนกของ Bakker ที่ Google ได้จัดเวิร์กช็อป 3 วัน ซึ่งเรียกว่า "ประสบการณ์ทางอารมณ์" โดยตัดสินใจทํางานกับความสามารถ 3 – 4 อย่างที่ "มีความสําคัญทางธุรกิจ" ทีมชั้นนําของ Tina Molund ที่ Ikea ตั้งข้อสังเกตถึงแรงจูงใจในการเข้าร่วม: "เวลาที่ทําให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นและสามารถสร้างความพึงพอใจได้ด้วย IDG ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการท้าทายความคิด" พนักงานเริ่มต้นด้วยการประเมินการกระทําและพฤติกรรมของตนเองที่เกี่ยวข้องกับทักษะการเปลี่ยนแปลงทั้ง 5 ทักษะ ของ IDG ความท้าทายประการหนึ่งที่พบจากการประเมิน IDG คือการจัดลําดับความสําคัญของงานเมื่อผลกำไรอันเป็น Bottom Line ตะโกนดังที่สุด นับว่าเป็นเรื่องยากสําหรับผู้นําอาวุโสหลายคนที่จะให้ "เวลาและความสนใจ" กับคําถามต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมและการพัฒนาภายใน" Waddington Millstam จาก Ericsson ยอมรับในเรื่องนี้และเธอยังกล่าวว่าผู้นําอาวุโสต้องมีความเชื่อในคุณค่าที่แท้จริงของ IDG Ikea, Google, Ericsson และองค์กรประมาณ 100 แห่งที่เริ่มทํางานด้วย IDG กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า "โลกกําลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว" ทําให้การนําพลังของการพัฒนาภายใน (IDG) มาสู่ผู้นํา 7,000 คนทั่วโลก มีความสําคัญมากขึ้น แม้ว่าจะเป็นการเดินทางที่ต้องใช้เวลาก็ตาม ในประเทศไทยเรื่องนี้ยังใหม่แต่อีกไม่นานก็ได้เผชิญกับสิ่งที่องค์กรต่างๆเผชิญมาก่อน หนึ่งสิ่งในฐานะผู้นำต้องทำคืออะไรร่วมหาโซลูชั่นได้ที่ www.10-xconsulting.com
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 46 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • มายังไง!!!
    มีรายงานว่าหน่วยลาดตระเวนจู่โจมของรัสเซีย บุกเข้าสู่ดินแดนยูเครนในทิศทางภูมิภาค Chernigov (Chernihiv)

    โดยข้ามมาทางแม่น้ำ Sudost และสามารถเข้ายึดครองหมู่บ้าน Gremyach และ Muravy

    สะพานข้ามแม่น้ำ Sudost ไปยังหมู่บ้านชายแดน Gremyach ซึ่งกลุ่มก่อวินาศกรรมและลาดตระเวนของเรากำลังเคลื่อนตัวไปตามสะพาน โดยได้ปักธงทั้งใน Gremyach และหมู่บ้าน Muravi'i ที่อยู่ใกล้เคียง
    มายังไง!!! มีรายงานว่าหน่วยลาดตระเวนจู่โจมของรัสเซีย บุกเข้าสู่ดินแดนยูเครนในทิศทางภูมิภาค Chernigov (Chernihiv) โดยข้ามมาทางแม่น้ำ Sudost และสามารถเข้ายึดครองหมู่บ้าน Gremyach และ Muravy สะพานข้ามแม่น้ำ Sudost ไปยังหมู่บ้านชายแดน Gremyach ซึ่งกลุ่มก่อวินาศกรรมและลาดตระเวนของเรากำลังเคลื่อนตัวไปตามสะพาน โดยได้ปักธงทั้งใน Gremyach และหมู่บ้าน Muravi'i ที่อยู่ใกล้เคียง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 67 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
  • บูรพาไม่แพ้ Ep.95 : “กัมพูชา” ฐานการลงทุนใหม่แห่งอาเซียน ?
    .
    ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เราก็ได้เห็นการย้ายฐานการผลิตของบริษัทข้ามชาติออกจากเมืองไทยอยู่ไม่น้อย โดยนักลงทุนต่างชาติบางส่วนได้ย้ายฐานจากประเทศไทยไปยังมาเลเซีย อินโดนีเซีย และ เวียดนาม ยกตัวอย่างเช่น พานาโซนิก ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชื่อดัง ที่ปิดโรงงานและศูนย์วิจัยในประเทศไทย ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564 โดยย้ายไปตั้งที่เวียดนามแทน จนมีความกังวลกันว่า ญี่ปุ่นจะทิ้งเมืองไทย
    .
    แม้นักธุรกิจชาวญี่ปุ่นหลายคนที่ต่างยืนยันว่า จะยังไม่ทิ้งประเทศไทย...แต่ก็ต้องยอมรับว่า สภาวะเศรษฐกิจไทยที่เติบโตต่ำ และศักยภาพการแข่งขันของไทยที่ด้อยลง ทำให้ธุรกิจญี่ปุ่นก็จำเป็นต้อง ขยายการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้แนวคิดที่เรียกว่า Thailand+1 ...... โดยประเทศหนึ่งที่ธุรกิจญี่ปุ่น ให้ความสนใจมากก็คือ “กัมพูชา”
    .
    คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=hH9jo-vt0Ns
    บูรพาไม่แพ้ Ep.95 : “กัมพูชา” ฐานการลงทุนใหม่แห่งอาเซียน ? . ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เราก็ได้เห็นการย้ายฐานการผลิตของบริษัทข้ามชาติออกจากเมืองไทยอยู่ไม่น้อย โดยนักลงทุนต่างชาติบางส่วนได้ย้ายฐานจากประเทศไทยไปยังมาเลเซีย อินโดนีเซีย และ เวียดนาม ยกตัวอย่างเช่น พานาโซนิก ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชื่อดัง ที่ปิดโรงงานและศูนย์วิจัยในประเทศไทย ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564 โดยย้ายไปตั้งที่เวียดนามแทน จนมีความกังวลกันว่า ญี่ปุ่นจะทิ้งเมืองไทย . แม้นักธุรกิจชาวญี่ปุ่นหลายคนที่ต่างยืนยันว่า จะยังไม่ทิ้งประเทศไทย...แต่ก็ต้องยอมรับว่า สภาวะเศรษฐกิจไทยที่เติบโตต่ำ และศักยภาพการแข่งขันของไทยที่ด้อยลง ทำให้ธุรกิจญี่ปุ่นก็จำเป็นต้อง ขยายการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้แนวคิดที่เรียกว่า Thailand+1 ...... โดยประเทศหนึ่งที่ธุรกิจญี่ปุ่น ให้ความสนใจมากก็คือ “กัมพูชา” . คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=hH9jo-vt0Ns
    Like
    Sad
    3
    0 ความคิดเห็น 3 การแบ่งปัน 197 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • ** #หน้าใส​ ไม่=​ #เซลล์ผิวหน้าแข็งแรง ! **

    ในบางครั้ง แม้ผิวของเราจะดูใส ดูสุขภาพดีเมื่อมอง จากภายนอก แต่ลึกๆแล้ว ผิวอาจกำลังเผชิญปัญหาความอ่อนแออยู่ก็เป็นได้ โดยที่เรามองไม่เห็นหรือไม่ทันสังเกต

    >>> นี่คือ​ 3 สัญญาณ​สำคัญ‼️ ที่บ่งบอกว่าผิวของคุณ "อาจจะ" ไม่ได้แข็งแรง​ อย่างที่เห็น

    1. ผิว #ระคายเคืองง่าย และ #มีรอยแดง

    หากผิวของคุณมีแนวโน้มที่จะระคายเคืองง่าย เช่น รู้สึกแสบ คัน มีรอยแดง หรือแม้กระทั่งมีผดเล็กๆ ขึ้นหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หรือสัมผัสกับอากาศที่เปลี่ยนแปลง ผิวของคุณอาจจะอ่อนแอกว่าที่คิด อาการระคายเคืองง่ายนี้เกิดขึ้นจากการที่เกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) เสื่อมสภาพ ทำให้ผิวไวต่อสิ่งเร้าจากภายนอก เช่น มลภาวะ ฝุ่น หรือสารเคมีในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ (Purnamawati et al., 2017)

    2. ผิว #แห้ง หรือ #ขาดความชุ่มชื้นอย่างรวดเร็ว

    อีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่าผิวของคุณกำลังอ่อนแอ คือ การที่ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย แม้จะใช้ครีมบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ หากผิวแห้งหรือขาดน้ำบ่อยๆ นั่นอาจแปลว่าผิวไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการที่ผิวสูญเสียไขมันตามธรรมชาติหรือโครงสร้างผิวไม่แข็งแรงพอ การที่ผิวแห้งกร้านง่ายทำให้เกิดริ้วรอยและผิวที่หมองคล้ำเร็วกว่าปกติ (Proksch et al., 2008).

    3. ผิว #ฟื้นตัวช้า หลัง #โดนแสงแดด หรือ #ทำความสะอาด

    ผิวที่อ่อนแอมักจะฟื้นตัวได้ช้าหลังจากเจอความรุนแรงจากภายนอก เช่น การโดนแสงแดดแรงๆ หรือการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึก หากหลังจากออกแดดแล้วผิวมีรอยแดง นานกว่าปกติ หรือรู้สึกแห้งตึงหลังล้างหน้าโดยที่ผิวไม่คืนสภาพได้รวดเร็ว ผิวของคุณอาจกำลังส่งสัญญาณว่าต้องการการดูแลเป็นพิเศษ และอาจต้องหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีแรงๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวอ่อนแอลงไปอีก (Krutmann et al., 2014).

    การดูแลผิวให้แข็งแรงจากภายในจึงเป็นเรื่องสำคัญ แม้ผิวจะดูใสแต่ก็ไม่ควรละเลยสัญญาณเหล่านี้ที่บ่งบอกว่าผิวของคุณอาจจะไม่ได้แข็งแรงอย่างที่เห็น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ สารให้ความชุ่มชื้นอย่างเข้มข้น และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดหรือมลภาวะโดยตรง จะช่วยให้ผิวของคุณกลับมาแข็งแรง สดใส และสุขภาพดีอย่างแท้จริง

    -------

    ทำไม " #สารอาหารผิวในรูปแป้ง #COCON " จึงเหมาะสมต่อการ "ฟื้นฟูผิวอ่อนแอ" และ "ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวแข็งแรงกลายเป็นผิวอ่อนแอ" ?

    COCON คือ #สารอาหารผิว ที่ประกอบด้วย โปรตีนจาก #PureCocoon 100% ไม่มีสารสังเคราะห์ ไม่มีสารคงตัวเจือปน ที่ผ่านกรรมวิธีเทคโนโลยีขั้นสูง จากแลปที่เชี่ยวชาญทางด้าน #TissueEngineering อันดับต้นๆของโลกที่ประเทศญี่ปุ่น ที่ทำให้โมเลกุลของสารอาหาร "เป็นทรงกลม" จึงไม่บาดเซลลผิว ในตอนทา และ สามารถซึมลงไปให้เซลล์ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่มีอะไรตกค้าง ไม่ระคายเคืองเซลล์ผิวเลย จึงเป็นแบรนด์ที่ใช้ในวงการแพทย์ของญี่ปุ่น

    ซึ่ง มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูและป้องกันผิว จากความอ่อนแอ ดังนี้

    1. ฟื้นฟูผิวอ่อนแอด้วยการซ่อมแซมเซลล์จากภายใน
    COCON เป็น สารอาหารผิวในรูปแป้งที่มี Silk Protein บริสุทธิ์ 100% ซึ่งประกอบด้วยกรดอะมิโนจำเป็นที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหายได้ลึกถึงระดับ DNA ทำให้โครงสร้างผิวที่เคยถูกทำลายจากมลภาวะ แสงแดด หรือการใช้งานหนักกลับมาแข็งแรงขึ้น ผิวที่เคยอ่อนแอจึงสามารถฟื้นตัวและกลับมาดูสุขภาพดีได้อย่างเป็นธรรมชาติ

    2. ป้องกันการสูญเสียเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier)
    ด้วยคุณสมบัติของ Silk Protein ที่ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ COCON ช่วยลดการสูญเสียความชุ่มชื้นและปกป้องผิวจากสิ่งเร้าภายนอก เช่น ฝุ่น มลภาวะ และสารเคมี ทำให้ผิวที่ยังแข็งแรงไม่ถูกทำลายง่าย และลดโอกาสที่ผิวจะกลายเป็นผิวอ่อนแอในอนาคต

    3. ป้องกันและลดการอักเสบขนาดเล็ก (Micro-Inflammation)
    การอักเสบขนาดเล็กที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวแข็งแรงกลายเป็นผิวอ่อนแอ COCON มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบ ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับเซลล์ผิว และลดความเสี่ยงที่ผิวจะเกิดปัญหาระยะยาว เช่น การเสื่อมสภาพหรือการเกิดริ้วรอยก่อนวัย

    4. เหมาะกับทุกสภาพผิว ปลอดภัย ไร้สารสังเคราะห์
    COCON เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100% ไม่มีสารสังเคราะห์เจือปน จึงเหมาะกับทุกสภาพผิว แม้กระทั่งผิวแพ้ง่ายหรือผิวที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ การใช้สารอาหารผิวที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับผิวจะช่วยลดโอกาสเกิดอาการระคายเคืองและส่งเสริมสุขภาพผิวในระยะยาว

    5. ช่วยรักษาสมดุลของผิวอย่างยั่งยืน
    การใช้ COCON อย่างสม่ำเสมอช่วยให้ผิวได้รับสารอาหารที่จำเป็นในปริมาณที่เหมาะสม ช่วยรักษาความสมดุลของผิว ไม่เพียงแต่ช่วยฟื้นฟูผิวที่อ่อนแอเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิวที่ดีอยู่แล้วคงความสุขภาพดีไว้ได้อย่างยาวนาน

    ไม่ว่าคุณจะมีผิวที่อ่อนแอหรือผิวที่ต้องการการป้องกันไม่ให้เสื่อมสภาพ COCON คือคำตอบที่ช่วยเติมเต็มความต้องการของผิวคุณ ด้วย Silk Protein บริสุทธิ์ 100% ที่ผ่านกระบวนการเทคโนโลยีขั้นสูง ที่อ่อนโยนและทรงประสิทธิภาพในการดูแลผิวจากภายในสู่ภายนอก

    -------

    **สำหรับผู้ที่ใช้ COCON อยู่แล้ว** หากคุณใช้ COCON แล้วพบว่ามีอาการผื่นแดงขึ้น นั่นแปลว่า เซลล์ผิวของคุณอ่อนแอจากเคมีในผลิตภัณฑ์อื่นที่คุณใช้ หรือ มลภาวะที่คุณต้องเผชิญในแต่ละวัน

    ดังนั้น แนะนำให้ลองใช้ COCON เฉพาะตอนกลางคืนเพียงอย่างเดียวก่อน เพื่อให้ผิวได้พักและฟื้นฟูตัวเองอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสารเคมีจากครีมหรือเครื่องสำอางตัวอื่นที่อาจปิดกั้นการทำงานของ COCON

    การใช้สารอาหารผิว COCON เพียงตัวเดียวก่อนนอน จะช่วยให้เซลล์ผิวได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ และลดความเสี่ยงจากสารเคมีที่อาจทำลายเซลล์ผิวในระยะยาว เมื่อผิวกลับมาแข็งแรงแล้ว ค่อยเริ่มใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นในช่วงกลางวัน

    #TheSignature #BangkokCraftmanship #skincare #สกินแคร์ #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    ** #หน้าใส​ ไม่=​ #เซลล์ผิวหน้าแข็งแรง ! ** ในบางครั้ง แม้ผิวของเราจะดูใส ดูสุขภาพดีเมื่อมอง จากภายนอก แต่ลึกๆแล้ว ผิวอาจกำลังเผชิญปัญหาความอ่อนแออยู่ก็เป็นได้ โดยที่เรามองไม่เห็นหรือไม่ทันสังเกต >>> นี่คือ​ 3 สัญญาณ​สำคัญ‼️ ที่บ่งบอกว่าผิวของคุณ "อาจจะ" ไม่ได้แข็งแรง​ อย่างที่เห็น 1. ผิว #ระคายเคืองง่าย และ #มีรอยแดง หากผิวของคุณมีแนวโน้มที่จะระคายเคืองง่าย เช่น รู้สึกแสบ คัน มีรอยแดง หรือแม้กระทั่งมีผดเล็กๆ ขึ้นหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หรือสัมผัสกับอากาศที่เปลี่ยนแปลง ผิวของคุณอาจจะอ่อนแอกว่าที่คิด อาการระคายเคืองง่ายนี้เกิดขึ้นจากการที่เกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) เสื่อมสภาพ ทำให้ผิวไวต่อสิ่งเร้าจากภายนอก เช่น มลภาวะ ฝุ่น หรือสารเคมีในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ (Purnamawati et al., 2017) 2. ผิว #แห้ง หรือ #ขาดความชุ่มชื้นอย่างรวดเร็ว อีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่าผิวของคุณกำลังอ่อนแอ คือ การที่ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย แม้จะใช้ครีมบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ หากผิวแห้งหรือขาดน้ำบ่อยๆ นั่นอาจแปลว่าผิวไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการที่ผิวสูญเสียไขมันตามธรรมชาติหรือโครงสร้างผิวไม่แข็งแรงพอ การที่ผิวแห้งกร้านง่ายทำให้เกิดริ้วรอยและผิวที่หมองคล้ำเร็วกว่าปกติ (Proksch et al., 2008). 3. ผิว #ฟื้นตัวช้า หลัง #โดนแสงแดด หรือ #ทำความสะอาด ผิวที่อ่อนแอมักจะฟื้นตัวได้ช้าหลังจากเจอความรุนแรงจากภายนอก เช่น การโดนแสงแดดแรงๆ หรือการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึก หากหลังจากออกแดดแล้วผิวมีรอยแดง นานกว่าปกติ หรือรู้สึกแห้งตึงหลังล้างหน้าโดยที่ผิวไม่คืนสภาพได้รวดเร็ว ผิวของคุณอาจกำลังส่งสัญญาณว่าต้องการการดูแลเป็นพิเศษ และอาจต้องหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีแรงๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวอ่อนแอลงไปอีก (Krutmann et al., 2014). การดูแลผิวให้แข็งแรงจากภายในจึงเป็นเรื่องสำคัญ แม้ผิวจะดูใสแต่ก็ไม่ควรละเลยสัญญาณเหล่านี้ที่บ่งบอกว่าผิวของคุณอาจจะไม่ได้แข็งแรงอย่างที่เห็น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ สารให้ความชุ่มชื้นอย่างเข้มข้น และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดหรือมลภาวะโดยตรง จะช่วยให้ผิวของคุณกลับมาแข็งแรง สดใส และสุขภาพดีอย่างแท้จริง ------- ทำไม " #สารอาหารผิวในรูปแป้ง #COCON " จึงเหมาะสมต่อการ "ฟื้นฟูผิวอ่อนแอ" และ "ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวแข็งแรงกลายเป็นผิวอ่อนแอ" ? COCON คือ #สารอาหารผิว ที่ประกอบด้วย โปรตีนจาก #PureCocoon 100% ไม่มีสารสังเคราะห์ ไม่มีสารคงตัวเจือปน ที่ผ่านกรรมวิธีเทคโนโลยีขั้นสูง จากแลปที่เชี่ยวชาญทางด้าน #TissueEngineering อันดับต้นๆของโลกที่ประเทศญี่ปุ่น ที่ทำให้โมเลกุลของสารอาหาร "เป็นทรงกลม" จึงไม่บาดเซลลผิว ในตอนทา และ สามารถซึมลงไปให้เซลล์ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่มีอะไรตกค้าง ไม่ระคายเคืองเซลล์ผิวเลย จึงเป็นแบรนด์ที่ใช้ในวงการแพทย์ของญี่ปุ่น ซึ่ง มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูและป้องกันผิว จากความอ่อนแอ ดังนี้ 1. ฟื้นฟูผิวอ่อนแอด้วยการซ่อมแซมเซลล์จากภายใน COCON เป็น สารอาหารผิวในรูปแป้งที่มี Silk Protein บริสุทธิ์ 100% ซึ่งประกอบด้วยกรดอะมิโนจำเป็นที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหายได้ลึกถึงระดับ DNA ทำให้โครงสร้างผิวที่เคยถูกทำลายจากมลภาวะ แสงแดด หรือการใช้งานหนักกลับมาแข็งแรงขึ้น ผิวที่เคยอ่อนแอจึงสามารถฟื้นตัวและกลับมาดูสุขภาพดีได้อย่างเป็นธรรมชาติ 2. ป้องกันการสูญเสียเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ด้วยคุณสมบัติของ Silk Protein ที่ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ COCON ช่วยลดการสูญเสียความชุ่มชื้นและปกป้องผิวจากสิ่งเร้าภายนอก เช่น ฝุ่น มลภาวะ และสารเคมี ทำให้ผิวที่ยังแข็งแรงไม่ถูกทำลายง่าย และลดโอกาสที่ผิวจะกลายเป็นผิวอ่อนแอในอนาคต 3. ป้องกันและลดการอักเสบขนาดเล็ก (Micro-Inflammation) การอักเสบขนาดเล็กที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวแข็งแรงกลายเป็นผิวอ่อนแอ COCON มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบ ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับเซลล์ผิว และลดความเสี่ยงที่ผิวจะเกิดปัญหาระยะยาว เช่น การเสื่อมสภาพหรือการเกิดริ้วรอยก่อนวัย 4. เหมาะกับทุกสภาพผิว ปลอดภัย ไร้สารสังเคราะห์ COCON เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100% ไม่มีสารสังเคราะห์เจือปน จึงเหมาะกับทุกสภาพผิว แม้กระทั่งผิวแพ้ง่ายหรือผิวที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ การใช้สารอาหารผิวที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับผิวจะช่วยลดโอกาสเกิดอาการระคายเคืองและส่งเสริมสุขภาพผิวในระยะยาว 5. ช่วยรักษาสมดุลของผิวอย่างยั่งยืน การใช้ COCON อย่างสม่ำเสมอช่วยให้ผิวได้รับสารอาหารที่จำเป็นในปริมาณที่เหมาะสม ช่วยรักษาความสมดุลของผิว ไม่เพียงแต่ช่วยฟื้นฟูผิวที่อ่อนแอเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิวที่ดีอยู่แล้วคงความสุขภาพดีไว้ได้อย่างยาวนาน ไม่ว่าคุณจะมีผิวที่อ่อนแอหรือผิวที่ต้องการการป้องกันไม่ให้เสื่อมสภาพ COCON คือคำตอบที่ช่วยเติมเต็มความต้องการของผิวคุณ ด้วย Silk Protein บริสุทธิ์ 100% ที่ผ่านกระบวนการเทคโนโลยีขั้นสูง ที่อ่อนโยนและทรงประสิทธิภาพในการดูแลผิวจากภายในสู่ภายนอก ------- **สำหรับผู้ที่ใช้ COCON อยู่แล้ว** หากคุณใช้ COCON แล้วพบว่ามีอาการผื่นแดงขึ้น นั่นแปลว่า เซลล์ผิวของคุณอ่อนแอจากเคมีในผลิตภัณฑ์อื่นที่คุณใช้ หรือ มลภาวะที่คุณต้องเผชิญในแต่ละวัน ดังนั้น แนะนำให้ลองใช้ COCON เฉพาะตอนกลางคืนเพียงอย่างเดียวก่อน เพื่อให้ผิวได้พักและฟื้นฟูตัวเองอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสารเคมีจากครีมหรือเครื่องสำอางตัวอื่นที่อาจปิดกั้นการทำงานของ COCON การใช้สารอาหารผิว COCON เพียงตัวเดียวก่อนนอน จะช่วยให้เซลล์ผิวได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ และลดความเสี่ยงจากสารเคมีที่อาจทำลายเซลล์ผิวในระยะยาว เมื่อผิวกลับมาแข็งแรงแล้ว ค่อยเริ่มใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นในช่วงกลางวัน #TheSignature #BangkokCraftmanship #skincare #สกินแคร์ #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 120 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อวานคุณไปลอยกระทงที่ไหนกันบ้างคะเห็นบางที่ฝนตกหนักคงจะลอยไม่ได้ยังไงก็ขอให้พี่น้อง"Thaitimes..ทุกท่านโชคดี..."ระบบไม่เสถียรเข้าแอปยากขึ้นคงจะหายไปสักพักนะคะ🙇‍♀️#เจอกันที่ธรรมศาสตร์คะ 11242024👋
    เมื่อวานคุณไปลอยกระทงที่ไหนกันบ้างคะเห็นบางที่ฝนตกหนักคงจะลอยไม่ได้ยังไงก็ขอให้พี่น้อง"Thaitimes..ทุกท่านโชคดี..."ระบบไม่เสถียรเข้าแอปยากขึ้นคงจะหายไปสักพักนะคะ🙇‍♀️#เจอกันที่ธรรมศาสตร์คะ 11242024👋
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • บูรพาไม่แพ้ Ep.95 : “กัมพูชา” ฐานการลงทุนใหม่แห่งอาเซียน ?
    .
    ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เราก็ได้เห็นการย้ายฐานการผลิตของบริษัทข้ามชาติออกจากเมืองไทยอยู่ไม่น้อย โดยนักลงทุนต่างชาติบางส่วนได้ย้ายฐานจากประเทศไทยไปยังมาเลเซีย อินโดนีเซีย และ เวียดนาม ยกตัวอย่างเช่น พานาโซนิก ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชื่อดัง ที่ปิดโรงงานและศูนย์วิจัยในประเทศไทย ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564 โดยย้ายไปตั้งที่เวียดนามแทน จนมีความกังวลกันว่า ญี่ปุ่นจะทิ้งเมืองไทย
    .
    แม้นักธุรกิจชาวญี่ปุ่นหลายคนที่ต่างยืนยันว่า จะยังไม่ทิ้งประเทศไทย...แต่ก็ต้องยอมรับว่า สภาวะเศรษฐกิจไทยที่เติบโตต่ำ และศักยภาพการแข่งขันของไทยที่ด้อยลง ทำให้ธุรกิจญี่ปุ่นก็จำเป็นต้อง ขยายการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้แนวคิดที่เรียกว่า Thailand+1 ...... โดยประเทศหนึ่งที่ธุรกิจญี่ปุ่น ให้ความสนใจมากก็คือ “กัมพูชา”
    .
    คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=hH9jo-vt0Ns
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว