• 0 Comments 0 Shares 39 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 31 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 31 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 36 Views 0 Reviews
  • Love
    1
    0 Comments 0 Shares 95 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 42 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 101 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 42 Views 0 Reviews
  • เผย"ทนายตั้ม"โยกย้ายทรัพย์สินออกจากบ้านก่อนถูกจับ พบเพียงตู้เซฟว่างเปล่า ซ้ำเปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่ ทำลายข้อมูลจนยากแก่การแกะรอย เชื่อมีพรายกระซิบคอยบอกความเคลื่อนไหวเจ้าหน้าที่

    วันนี้ ( 8 พ.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า จากแนวทางสืบสวน เจ้าหน้าที่พบหลักฐานสำคัญหลายอย่างที่ทำให้เชื่อว่า นายษิทรา มีพฤติกรรมตั้งใจที่จะฉ้อโกงเงินจากพี่อ้อยจริง โดยเฉพาะหลักฐานเอกสารซื้อรถเบนซ์มูลค่า 13 ล้านบาท หลังพบว่ามีการจัดทำใบเสร็จซื้อรถจำนวน 2 ชุด โดยชุดแรกเป็นใบเสร็จซื้อรถจากโชว์รูมที่มีการระบุราคาจริง คือ 11.5 ล้านบาท ส่วนใบเสร็จอีกชุดที่นายษิทรา นำไปแสดงให้กับ พี่อ้อย ดูนั้นเป็นใบเสร็จที่ทำขึ้นมาใหม่ ซึ่งมีการระบุตัวเลขราคารถให้สูงขึ้นจากราคาจริง คือ 13 ล้านบาท เพื่อจะนำเอาเงินส่วนต่าง 1.5 ล้านบาท เข้ากระเป๋าตนเอง ซึ่งข้อเท็จจริงในส่วนนี้ทางพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. ได้ทำการสอบปากคำพนักงานขายของโชว์รูมและพยานบุคคลต่าง ๆ ไว้หมดแล้ว ซึ่งคำให้การของพยานเหล่านี้ก็สอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบ

    ขณะเดียวกันจากแนวทางสืบสวน เจ้าหน้าที่ยังเชื่อว่า ก่อนหน้าที่นายษิทรา และ ภรรยา จะถูกจับกุมตัว น่าจะมีการเตรียมการไว้เป็นอย่างดี มีการโยกย้ายทรัพย์สินมีค่าออกจากบ้านพัก และ ตู้เซฟ จนหมดเกลี้ยง คงเหลือทรัพย์บางส่วนทิ้งไว้ อีกทั้งโทรศัพท์มือถือที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดไว้นั้น ยังเป็นโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ ภายในเครื่องไม่มีข้อมูลใด ๆ บันทึกไว้ ผิดแปลกจากคนปกติทั่วไป รวมถึงเชื่อว่ามีสายข่าวคอยส่งสัญญาณแจ้งความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา นอกจากนี้จากการสอบปากคำพยานบุคคลฝั่งของ นายษิทรา บางราย ยังยอมรับว่า มีการเตรียมคำให้การ หรือ ให้พูดตามสคริปที่เตรียมมา เพื่อปิดบังข้อเท็จจริง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าบุคคลใดเป็นผู้บงการ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000107762

    #MGROnline #ทนายตั้ม
    เผย"ทนายตั้ม"โยกย้ายทรัพย์สินออกจากบ้านก่อนถูกจับ พบเพียงตู้เซฟว่างเปล่า ซ้ำเปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่ ทำลายข้อมูลจนยากแก่การแกะรอย เชื่อมีพรายกระซิบคอยบอกความเคลื่อนไหวเจ้าหน้าที่ • วันนี้ ( 8 พ.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า จากแนวทางสืบสวน เจ้าหน้าที่พบหลักฐานสำคัญหลายอย่างที่ทำให้เชื่อว่า นายษิทรา มีพฤติกรรมตั้งใจที่จะฉ้อโกงเงินจากพี่อ้อยจริง โดยเฉพาะหลักฐานเอกสารซื้อรถเบนซ์มูลค่า 13 ล้านบาท หลังพบว่ามีการจัดทำใบเสร็จซื้อรถจำนวน 2 ชุด โดยชุดแรกเป็นใบเสร็จซื้อรถจากโชว์รูมที่มีการระบุราคาจริง คือ 11.5 ล้านบาท ส่วนใบเสร็จอีกชุดที่นายษิทรา นำไปแสดงให้กับ พี่อ้อย ดูนั้นเป็นใบเสร็จที่ทำขึ้นมาใหม่ ซึ่งมีการระบุตัวเลขราคารถให้สูงขึ้นจากราคาจริง คือ 13 ล้านบาท เพื่อจะนำเอาเงินส่วนต่าง 1.5 ล้านบาท เข้ากระเป๋าตนเอง ซึ่งข้อเท็จจริงในส่วนนี้ทางพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. ได้ทำการสอบปากคำพนักงานขายของโชว์รูมและพยานบุคคลต่าง ๆ ไว้หมดแล้ว ซึ่งคำให้การของพยานเหล่านี้ก็สอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบ • ขณะเดียวกันจากแนวทางสืบสวน เจ้าหน้าที่ยังเชื่อว่า ก่อนหน้าที่นายษิทรา และ ภรรยา จะถูกจับกุมตัว น่าจะมีการเตรียมการไว้เป็นอย่างดี มีการโยกย้ายทรัพย์สินมีค่าออกจากบ้านพัก และ ตู้เซฟ จนหมดเกลี้ยง คงเหลือทรัพย์บางส่วนทิ้งไว้ อีกทั้งโทรศัพท์มือถือที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดไว้นั้น ยังเป็นโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ ภายในเครื่องไม่มีข้อมูลใด ๆ บันทึกไว้ ผิดแปลกจากคนปกติทั่วไป รวมถึงเชื่อว่ามีสายข่าวคอยส่งสัญญาณแจ้งความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา นอกจากนี้จากการสอบปากคำพยานบุคคลฝั่งของ นายษิทรา บางราย ยังยอมรับว่า มีการเตรียมคำให้การ หรือ ให้พูดตามสคริปที่เตรียมมา เพื่อปิดบังข้อเท็จจริง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าบุคคลใดเป็นผู้บงการ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000107762 • #MGROnline #ทนายตั้ม
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 504 Views 0 Reviews
  • รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” ทำประวัติผู้ต้องขังใหม่ คุมแดนกักโรค 5 วัน มื้อเย็นต้อนรับ คุกชาย "ข้าวสวย-ไก่ต้มขมิ้น-ไข่ต้ม" ส่วนคุกหญิง “ข้าวสวย-หลนปลาร้า/ผักสด-ผัดพริกแกงผักบุ้งลูกชิ้น“

    จากกรณีศาลอาญา รัชดาภิเษก ฝากขังผัดแรก โดยชั้นพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวชั่วคราว นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ในคดีฉ้อโกงเงินของ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย ตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.5337/2567 ลงวันที่ 7 พ.ย.67 ข้อหา ฉ้อโกง , ฟอกเงิน , ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และ นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยาของนายษิทรา ตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.5338/2567 ลงวันที่ 7 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน ก่อนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวส่งฝากขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลาง

    วันนี้ (8 พ.ย.) นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผอ.กองทัณฑวิทยา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยว่า ขั้นตอนหลังเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัว นายษิทรา หรือ ทนายตั้ม และ นางปทิตตา มายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครและทัณฑสถานหญิงกลาง ทั้งคู่ต้องทำประวัติผู้ต้องขังใหม่ อาทิ ตรวจสุขภาพร่างกาย พิมพ์ลายนิ้วมือ จากนั้นเข้าสู่กระบวนการอยู่แดนกักโรค 5 วันตามมาตรการป้องกันโควิด-19 และจะมีการปฐมนิเทศอีก 1 สัปดาห์ ซึ่งอยู่ในแดนกักโรคตามเดิม แต่มีการแบ่งโซนออกจากกัน ก่อนจะพิจารณาส่งผู้ต้องหาไปควบคุมต่อยังแดนปกติภายในเรือนจำ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000107789

    #MGROnline #ทนายตั้ม #กรมราชทัณฑ์
    รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” ทำประวัติผู้ต้องขังใหม่ คุมแดนกักโรค 5 วัน มื้อเย็นต้อนรับ คุกชาย "ข้าวสวย-ไก่ต้มขมิ้น-ไข่ต้ม" ส่วนคุกหญิง “ข้าวสวย-หลนปลาร้า/ผักสด-ผัดพริกแกงผักบุ้งลูกชิ้น“ • จากกรณีศาลอาญา รัชดาภิเษก ฝากขังผัดแรก โดยชั้นพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวชั่วคราว นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ในคดีฉ้อโกงเงินของ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย ตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.5337/2567 ลงวันที่ 7 พ.ย.67 ข้อหา ฉ้อโกง , ฟอกเงิน , ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และ นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยาของนายษิทรา ตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.5338/2567 ลงวันที่ 7 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน ก่อนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวส่งฝากขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลาง • วันนี้ (8 พ.ย.) นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผอ.กองทัณฑวิทยา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยว่า ขั้นตอนหลังเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัว นายษิทรา หรือ ทนายตั้ม และ นางปทิตตา มายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครและทัณฑสถานหญิงกลาง ทั้งคู่ต้องทำประวัติผู้ต้องขังใหม่ อาทิ ตรวจสุขภาพร่างกาย พิมพ์ลายนิ้วมือ จากนั้นเข้าสู่กระบวนการอยู่แดนกักโรค 5 วันตามมาตรการป้องกันโควิด-19 และจะมีการปฐมนิเทศอีก 1 สัปดาห์ ซึ่งอยู่ในแดนกักโรคตามเดิม แต่มีการแบ่งโซนออกจากกัน ก่อนจะพิจารณาส่งผู้ต้องหาไปควบคุมต่อยังแดนปกติภายในเรือนจำ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000107789 • #MGROnline #ทนายตั้ม #กรมราชทัณฑ์
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 1239 Views 0 Reviews
  • ภาวะเงินฝืดหลังสงคราม (Deflation)
    ภาวะเงินฝืดหลังสงคราม (Deflation)
    0 Comments 0 Shares 110 Views 46 0 Reviews
  • รถถัง จิตรเมืองนนท์ ตกตาชั่ง เสียแชมป์โลก One Championship (08/11/67) #news1 #รถถังจิตรเมืองนนท์
    รถถัง จิตรเมืองนนท์ ตกตาชั่ง เสียแชมป์โลก One Championship (08/11/67) #news1 #รถถังจิตรเมืองนนท์
    Like
    Haha
    18
    0 Comments 0 Shares 1849 Views 1076 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 26 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 84 Views 0 Reviews
  • ถ้า…กระทรวงยุติธรรม และ หน่วยงานของรัฐ ที่ต้องผดุงไว้ซึ่งความยุติธรรม
    “กระทำผิด หรือ ร่วมกันกระทำความผิด”
    ต่อความยุติธรรมเสียเอง
    แล้วประเทศชาติ จะปกครองกันด้วยหลักการใด
    ???
    0 Comments 0 Shares 267 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 34 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 43 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 24 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 98 Views 0 Reviews
  • ว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ประกาศแผนในการทำลายกลุ่มรัฐลึก (Deep State) ที่เป็นอุปสรรคต่ออเมริกามาตลอด วิดีโอความยาว 3 นาทีนี้จึงถือเป็นวิดีโอที่สำคัญที่สุดบนอินเทอร์เน็ตในขณะนี้

    1. “ออกคำสั่งฝ่ายบริหารปี 2020 ของเขาใหม่ทันที เพื่อคืนอำนาจของประธานาธิบดีในการปลดข้าราชการที่ทุจริต”

    2. “กำจัดผู้ทุจริตทั้งหมดในหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติและหน่วยข่าวกรองของอเมริกา”

    3. “ปฏิรูปศาล FISA ให้สิ้นซาก ซึ่งทุจริตมากจนผู้พิพากษาไม่สนใจเลยเมื่อถูกโกหกในคำร้องขอหมายจับ”
    (FISA - Foreign Intelligence Surveillance Act เป็นกฎหมายของรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกาที่กำหนดขั้นตอนสำหรับการเฝ้าระวังและรวบรวมข่าวกรองต่างประเทศเพื่อจัดเก็บไว้ภายในประเทศ)

    4. “เปิดโปงการหลอกลวงและการใช้อำนาจในทางที่ผิดซึ่งกำลังทำให้ประเทศอเมริกาแตกแยก”

    5. “การปราบปรามอย่างจริงจังต่อบุคคลที่พยายามปล่อยข้อมูลบิดเบือนของรัฐบาลเพื่อสร้างเป็นทฤษฎีสมคบคิดร่วมกับข่าวปลอม เพื่อจงใจสร้างข้อเท็จและโค่นล้มรัฐบาลและประชาธิปไตยของอเมริกา”

    6. “ให้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินทุกแห่งเป็นอิสระ และแยกออกจากหน่วยงานที่พวกเขากำกับดูแล เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่ผลประโยชน์จากรัฐลึก(deep state)”

    7. “จะขอให้รัฐสภาจัดตั้งระบบการตรวจสอบที่เป็นอิสระ เพื่อเฝ้าติดตามหน่วยข่าวกรองของอเมริกาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ใช้อำนาจของตัวเองสอดส่องพลเมืองของอเมริกา และป้อนข้อมูลข่าวปลอมต่อชาวอเมริกัน หรือไปแอบสอดส่องบุคคลสำคัญใดๆก็ตาม เช่นเดียวกับที่ตัวของทรัมป์เคยโดนมาแล้ว”

    8. “สานต่อความพยายามที่ริเริ่มโดยรัฐบาลทรัมป์ในสมัยแรก เพื่อย้ายบางส่วนของระบบราชการของรัฐบาลกลางออกไป เพื่อป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์จากใครบางคน หรือจากบางหน่วยงาน”

    9. “จะสั่งห้ามไม่ให้ข้าราชการของรัฐบาลกลางเข้าทำงานในบริษัทที่พวกเขาติดต่อด้วยและบริษัทที่พวกเขากำกับดูแล เพื่อตัดเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน”

    10. “ผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อคัดค้านการจำกัดวาระการดำรงตำแหน่งของสมาชิกรัฐสภา”
    ว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ประกาศแผนในการทำลายกลุ่มรัฐลึก (Deep State) ที่เป็นอุปสรรคต่ออเมริกามาตลอด วิดีโอความยาว 3 นาทีนี้จึงถือเป็นวิดีโอที่สำคัญที่สุดบนอินเทอร์เน็ตในขณะนี้ 1. “ออกคำสั่งฝ่ายบริหารปี 2020 ของเขาใหม่ทันที เพื่อคืนอำนาจของประธานาธิบดีในการปลดข้าราชการที่ทุจริต” 2. “กำจัดผู้ทุจริตทั้งหมดในหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติและหน่วยข่าวกรองของอเมริกา” 3. “ปฏิรูปศาล FISA ให้สิ้นซาก ซึ่งทุจริตมากจนผู้พิพากษาไม่สนใจเลยเมื่อถูกโกหกในคำร้องขอหมายจับ” (FISA - Foreign Intelligence Surveillance Act เป็นกฎหมายของรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกาที่กำหนดขั้นตอนสำหรับการเฝ้าระวังและรวบรวมข่าวกรองต่างประเทศเพื่อจัดเก็บไว้ภายในประเทศ) 4. “เปิดโปงการหลอกลวงและการใช้อำนาจในทางที่ผิดซึ่งกำลังทำให้ประเทศอเมริกาแตกแยก” 5. “การปราบปรามอย่างจริงจังต่อบุคคลที่พยายามปล่อยข้อมูลบิดเบือนของรัฐบาลเพื่อสร้างเป็นทฤษฎีสมคบคิดร่วมกับข่าวปลอม เพื่อจงใจสร้างข้อเท็จและโค่นล้มรัฐบาลและประชาธิปไตยของอเมริกา” 6. “ให้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินทุกแห่งเป็นอิสระ และแยกออกจากหน่วยงานที่พวกเขากำกับดูแล เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่ผลประโยชน์จากรัฐลึก(deep state)” 7. “จะขอให้รัฐสภาจัดตั้งระบบการตรวจสอบที่เป็นอิสระ เพื่อเฝ้าติดตามหน่วยข่าวกรองของอเมริกาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ใช้อำนาจของตัวเองสอดส่องพลเมืองของอเมริกา และป้อนข้อมูลข่าวปลอมต่อชาวอเมริกัน หรือไปแอบสอดส่องบุคคลสำคัญใดๆก็ตาม เช่นเดียวกับที่ตัวของทรัมป์เคยโดนมาแล้ว” 8. “สานต่อความพยายามที่ริเริ่มโดยรัฐบาลทรัมป์ในสมัยแรก เพื่อย้ายบางส่วนของระบบราชการของรัฐบาลกลางออกไป เพื่อป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์จากใครบางคน หรือจากบางหน่วยงาน” 9. “จะสั่งห้ามไม่ให้ข้าราชการของรัฐบาลกลางเข้าทำงานในบริษัทที่พวกเขาติดต่อด้วยและบริษัทที่พวกเขากำกับดูแล เพื่อตัดเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน” 10. “ผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อคัดค้านการจำกัดวาระการดำรงตำแหน่งของสมาชิกรัฐสภา”
    Like
    Yay
    3
    0 Comments 0 Shares 650 Views 68 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 40 Views 0 Reviews
  • Love
    1
    0 Comments 0 Shares 91 Views 0 Reviews
  • Love
    1
    0 Comments 0 Shares 96 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 46 Views 0 Reviews
  • เฮงๆรวยๆ
    เฮงๆรวยๆ
    0 Comments 0 Shares 38 Views 0 Reviews