https://youtube.com/@amorntongsuk?si=L3ofWiiEOyFaLc0z

🇹🇭แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง🇹🇭

สองคำนี้เป็นภาพแห่งความใฝ่ฝันที่อยากเจอ

คือภาพของทุ่งนาสีทองอันสงบ พระอาทิตย์ส่องแสงทองในยามเช้า
หมอกน้ำค้างลอยเอื่อยๆอยู่บนสายธาร
แมงปอและหมู่นกโบยบินอย่างอิสระ
ท่ามกลางบรรยากาศสังคมที่ใสซื่อบริสุทธิ์
มีแต่น้ำใจเอื้อเฟื้ออารีย์
ภายใต้การปกครองของในหลวงรัชกาลที่ ๙ มหาราชผู้ทรงธรรมที่ข้าพเจ้ารักและเทิดทูนอย่างสุดหัวใจ
ภาพแผ่นหลังสะพายกล้องถือแผนที่ ที่ทรงย่างก้าวทั่วแผ่นดินไทย ยังคงประทับจิตประทับใจไม่รู้ลืม

และภาพฝันนี้ก็คือบทสรุปของคำว่าแผ่นดินธรรม แผ่นดินทองในจินตนาการของข้าพเจ้า

คลิปต่างๆที่จัดทำขึ้น ก็เพียงเพราะอยากเห็นแผ่นดินธรรมแผ่นดินทองบันดาลดลเกิดขึ้นบนแผ่นดินไทย
อัปเดตล่าสุด
  • สัจธรรมแห่งธรรมชาติ

    คุณเห็นภูเขานั่นไหม ภูเขาบอกแก่เราว่า เขาสูงใหญ่ เริ่มจากหนึ่งเม็ดทราย ดังนั้น ต้องเล็กก่อนแล้วจึงใหญ่

    คุณเห็นป่าไม้นั่นไหม ป่าไม้บอกแก่เราว่า ป่าดงพงไพร เริ่มต้นจากหนึ่งต้นกล้า ดังนั้น ต้องง่ายก่อนแล้วจึงจะยาก

    คุณเห็นหนังสือนั่นไหม หนังสือบอกแก่เราว่า หนังสือหนึ่งเล่ม เริ่มจากกระดาษที่ว่างเปล่า ดังนั้นต้องว่างก่อนแล้วจึงจะมีความรอบรู้

    ดังนั้น
    หากคิดแต่ใหญ่โดยไม่ยอมเล็ก ไม่มีวันที่จะเป็นใหญ่ได้จริง
    หากคิดแต่ยากโดยไม่ยอมง่าย ไม่มีวันที่จะทำเรื่องยากให้สำเร็จ
    หากคิดแต่จะรู้โดยไม่ว่างเปล่า ไม่มีวันที่จะรอบรู้ในทุกสิ่ง
    (เต๋าเต็กเก็ง)
    สัจธรรมแห่งธรรมชาติ คุณเห็นภูเขานั่นไหม ภูเขาบอกแก่เราว่า เขาสูงใหญ่ เริ่มจากหนึ่งเม็ดทราย ดังนั้น ต้องเล็กก่อนแล้วจึงใหญ่ คุณเห็นป่าไม้นั่นไหม ป่าไม้บอกแก่เราว่า ป่าดงพงไพร เริ่มต้นจากหนึ่งต้นกล้า ดังนั้น ต้องง่ายก่อนแล้วจึงจะยาก คุณเห็นหนังสือนั่นไหม หนังสือบอกแก่เราว่า หนังสือหนึ่งเล่ม เริ่มจากกระดาษที่ว่างเปล่า ดังนั้นต้องว่างก่อนแล้วจึงจะมีความรอบรู้ ดังนั้น หากคิดแต่ใหญ่โดยไม่ยอมเล็ก ไม่มีวันที่จะเป็นใหญ่ได้จริง หากคิดแต่ยากโดยไม่ยอมง่าย ไม่มีวันที่จะทำเรื่องยากให้สำเร็จ หากคิดแต่จะรู้โดยไม่ว่างเปล่า ไม่มีวันที่จะรอบรู้ในทุกสิ่ง (เต๋าเต็กเก็ง)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/c47MI5lGd9Q?si=MGgiQ-lXZsrsGNG1
    https://youtu.be/c47MI5lGd9Q?si=MGgiQ-lXZsrsGNG1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหลาจื่อกล่าวว่า "ความสงบยังใต้หล้าเที่ยง (清靜為天下正)"
    ความสงบยังใต้หล้าเที่ยงได้อย่างไร

    เพราะเบื้องหลังแห่งคมดาบอันแข็งแกร่ง ย่อมต้องมีสันดาบที่อ่อนนุ่มคอยประคองมิใช่หรือ
    หาไม่แล้ว คมดาบที่แข็งแกร่งย่อมหักสะบั้นในไม่ช้า

    เพราะเบื้องหลังแห่งเสียงกัมปนาทอันกึกก้อง ย่อมต้องมีความเงียบเป็นฉากหลังมิใช่หรือ
    หาไม่แล้ว เสียงกัมปนาทนี้มิอาจได้กังวาน

    เพราะเบื้องหลังแห่งศิลปะที่มีสีสันอันสวยสด ย่อมต้องมีความขาวเป็นพื้นหลังมิใช่หรือ
    หาไม่แล้ว สีสันแห่งงานศิลป์จะมิสามารถได้เฉิดฉาย

    เพราะเบื้องหลังแห่งปัญญาอันแหลมคม ย่อมต้องมีความว่างเปล่าคอยผลักดันมิใช่หรือ
    หาไม่แล้ว ปัญญาญาณจะไม่สามารถหลั่งไหลไม่ขาดสาย
    เหลาจื่อกล่าวว่า "ความสงบยังใต้หล้าเที่ยง (清靜為天下正)" ความสงบยังใต้หล้าเที่ยงได้อย่างไร เพราะเบื้องหลังแห่งคมดาบอันแข็งแกร่ง ย่อมต้องมีสันดาบที่อ่อนนุ่มคอยประคองมิใช่หรือ หาไม่แล้ว คมดาบที่แข็งแกร่งย่อมหักสะบั้นในไม่ช้า เพราะเบื้องหลังแห่งเสียงกัมปนาทอันกึกก้อง ย่อมต้องมีความเงียบเป็นฉากหลังมิใช่หรือ หาไม่แล้ว เสียงกัมปนาทนี้มิอาจได้กังวาน เพราะเบื้องหลังแห่งศิลปะที่มีสีสันอันสวยสด ย่อมต้องมีความขาวเป็นพื้นหลังมิใช่หรือ หาไม่แล้ว สีสันแห่งงานศิลป์จะมิสามารถได้เฉิดฉาย เพราะเบื้องหลังแห่งปัญญาอันแหลมคม ย่อมต้องมีความว่างเปล่าคอยผลักดันมิใช่หรือ หาไม่แล้ว ปัญญาญาณจะไม่สามารถหลั่งไหลไม่ขาดสาย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/On4RAEz84rk
    https://youtu.be/On4RAEz84rk
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/iLG7KVfcJ3M
    https://youtu.be/iLG7KVfcJ3M
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/iLYxTUSidGA
    https://youtu.be/iLYxTUSidGA
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/sm9eZFgB4fg
    https://youtu.be/sm9eZFgB4fg
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 68 มุมมอง 0 รีวิว
  • ว่าด้วยชี่ (氣)

    ชี่มีความหมายที่หลากหลาย ขอสรุปสังเขปดังนี้ คือ
    ๑.ลม
    ๒.อารมณ์โกรธ
    ๓.พลัง แรง
    ๔.ลมปราณ
    ๕.บรรยากาศ
    ๖.เทวโลก

    และเราสามารถกำหนดคำนิยามชี่ ได้สามประการคือ

    ๑.แบ่งตามห้วงเวลาการกำเนิด
    ๑.๑ก่อนกำเนิด (先天)
    ๑.๒หลังกำเนิด (後天)

    ๒.แบ่งตามแหล่งกำเนิด
    ๒.๑เอวี๋ยนชี่ (元氣 ; พลังต้นกำเนิด)
    ๒.๒จงชี่ (宗氣)
    ๒.๓อิ๋งชี่ (營氣 ; พลังสารอาหาร)
    ๒.๔เว่ยชี่ (衛氣 ; พลังปกป้อง)

    ๓.แบ่งตามหน้าที่ เช่น
    ชี่หัวใจหรือพลังหัวใจ (心氣)
    ชี่ตับหรือพลังตับ (肝氣)
    ชี่ปอดหรือพลังปอด (肺氣)
    ชี่ม้ามหรือพลังม้าม (脾氣)
    ชี่เส้นลมปราณหรือพลังเส้นลมปราณ (經氣)
    และอื่นๆๆ

    และมีหน้าที่ดังนี้
    ๑.หน้าที่ในการผลักดัน (推動作用)
    ๒.หน้าที่ในการอบอุ่น (溫煦作用)
    ๓.หน้าที่ในการป้องกัน (防禦作用)
    ๔.หน้าที่ในการเหนี่ยวรัด (固攝作用)
    ๕.หน้าที่ในการแปรสภาพ (氣化作用)
    ๖.หน้าที่ในการหล่อเลี้ยง (營養作用)
    ว่าด้วยชี่ (氣) ชี่มีความหมายที่หลากหลาย ขอสรุปสังเขปดังนี้ คือ ๑.ลม ๒.อารมณ์โกรธ ๓.พลัง แรง ๔.ลมปราณ ๕.บรรยากาศ ๖.เทวโลก และเราสามารถกำหนดคำนิยามชี่ ได้สามประการคือ ๑.แบ่งตามห้วงเวลาการกำเนิด ๑.๑ก่อนกำเนิด (先天) ๑.๒หลังกำเนิด (後天) ๒.แบ่งตามแหล่งกำเนิด ๒.๑เอวี๋ยนชี่ (元氣 ; พลังต้นกำเนิด) ๒.๒จงชี่ (宗氣) ๒.๓อิ๋งชี่ (營氣 ; พลังสารอาหาร) ๒.๔เว่ยชี่ (衛氣 ; พลังปกป้อง) ๓.แบ่งตามหน้าที่ เช่น ชี่หัวใจหรือพลังหัวใจ (心氣) ชี่ตับหรือพลังตับ (肝氣) ชี่ปอดหรือพลังปอด (肺氣) ชี่ม้ามหรือพลังม้าม (脾氣) ชี่เส้นลมปราณหรือพลังเส้นลมปราณ (經氣) และอื่นๆๆ และมีหน้าที่ดังนี้ ๑.หน้าที่ในการผลักดัน (推動作用) ๒.หน้าที่ในการอบอุ่น (溫煦作用) ๓.หน้าที่ในการป้องกัน (防禦作用) ๔.หน้าที่ในการเหนี่ยวรัด (固攝作用) ๕.หน้าที่ในการแปรสภาพ (氣化作用) ๖.หน้าที่ในการหล่อเลี้ยง (營養作用)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว
  • ว่าด้วยความโลภ

    ท้องพระคลังแม้จะยิ่งใหญ่ สามารถจุทรัพย์ศฤงคารได้มากมาย แต่ก็ยังหาได้ใหญ่เท่ากระเพาะแห่งความอยากที่กัดกินสิ่งของลงไปอย่างไม่มีวันเต็มไม่

    หุบเหวแม้จะยิ่งใหญ่ สามารถบรรจุน้ำในสาครได้อย่างมากมาย แต่ความยิ่งใหญ่ของหุบเหวก็ยังหาเทียบได้กับความลึกแห่งความอยากของคนเราไม่

    โลกนี้แม้จะยิ่งใหญ่ สามารถจุสรรพสิ่งนานาได้มากมาย แต่ก็ยังหาได้ใหญ่เท่าจิตใจดวงน้อยที่มีความละโมบไม่รู้พอดวงนี้ไม่
    ว่าด้วยความโลภ ท้องพระคลังแม้จะยิ่งใหญ่ สามารถจุทรัพย์ศฤงคารได้มากมาย แต่ก็ยังหาได้ใหญ่เท่ากระเพาะแห่งความอยากที่กัดกินสิ่งของลงไปอย่างไม่มีวันเต็มไม่ หุบเหวแม้จะยิ่งใหญ่ สามารถบรรจุน้ำในสาครได้อย่างมากมาย แต่ความยิ่งใหญ่ของหุบเหวก็ยังหาเทียบได้กับความลึกแห่งความอยากของคนเราไม่ โลกนี้แม้จะยิ่งใหญ่ สามารถจุสรรพสิ่งนานาได้มากมาย แต่ก็ยังหาได้ใหญ่เท่าจิตใจดวงน้อยที่มีความละโมบไม่รู้พอดวงนี้ไม่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/UAvMe3hEiow?si=1SyqFfF-8l5KA_IQ
    https://youtu.be/UAvMe3hEiow?si=1SyqFfF-8l5KA_IQ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • 塵緣
    โลกมายา
    作詞:娃娃
    作曲:徐日勤
    ทำนอง : หวาวา
    เนื้อร้อง : สวียื่อฉวิน

    塵緣如夢 幾番起伏總不平
    โลกดุจความฝัน ผันผวนปรวนแปรแต่ไหนมา
    到如今都成煙雲
    บัดนี้เป็นเพียงหมอกเมฆา
    情也成空 宛如揮手袖底風
    รักหายลับตา ดุจลมมือโบกปัดไปมา
    幽幽一縷香 飄在深深舊夢中
    หอมหวนสุคนธา ลอยสู่ฝันเก่าแต่นานมา
    繁花落盡 一身憔悴在風裡
    มาลีร่วงลา เหนื่อยล้ากลางสายลมเอกา
    回頭時無晴也無雨
    เหลียวมองไปไร้สุขไร้โศกา
    明月小樓 孤獨無人訴情衷
    เรือนใต้จันทรา ไร้คนฟังคำเปลี่ยวเหว่ว้า
    人間有我殘夢未醒
    มีเพียงฉันไม่ตื่นฝันมายา
    漫漫長路起伏不能由我
    ยาวไกลมรรคา ลุ่มดอนเกินแรงไขว่คว้า
    人海漂泊 嚐盡人情淡泊
    คลื่นคนลอยวน ลองสิ้นน้ำใจเฉยชา
    熱情熱心 換冷淡冷漠
    ไออุ่นกลับได้ ความเย็นชาแลกมา
    任多少深情獨向寂寞
    แม้รักเท่าไหร่ก็หันสู่เอกา
    人隨風過 自在花開花又落
    คนไหลตามลม ดุจมาลาบานแล้วโรยรา
    不管世間滄桑如何
    ช่างโลกที่ผกผันอนาถา
    一城風絮 滿腹相思都沉默
    ดอกหญ้าลอยมา แรงคนึงกลายเป็นเฉยชา
    只有桂花香暗飄過
    มีเพียงหมื่นลี้หอมพัดผ่านมา

    https://youtu.be/RsT5ZUzncg0?si=LHOndBqH59NysPUM


    cr. https://www.youtube.com/results?search_query=%E9%99%B3%E6%95%8F
    塵緣 โลกมายา 作詞:娃娃 作曲:徐日勤 ทำนอง : หวาวา เนื้อร้อง : สวียื่อฉวิน 塵緣如夢 幾番起伏總不平 โลกดุจความฝัน ผันผวนปรวนแปรแต่ไหนมา 到如今都成煙雲 บัดนี้เป็นเพียงหมอกเมฆา 情也成空 宛如揮手袖底風 รักหายลับตา ดุจลมมือโบกปัดไปมา 幽幽一縷香 飄在深深舊夢中 หอมหวนสุคนธา ลอยสู่ฝันเก่าแต่นานมา 繁花落盡 一身憔悴在風裡 มาลีร่วงลา เหนื่อยล้ากลางสายลมเอกา 回頭時無晴也無雨 เหลียวมองไปไร้สุขไร้โศกา 明月小樓 孤獨無人訴情衷 เรือนใต้จันทรา ไร้คนฟังคำเปลี่ยวเหว่ว้า 人間有我殘夢未醒 มีเพียงฉันไม่ตื่นฝันมายา 漫漫長路起伏不能由我 ยาวไกลมรรคา ลุ่มดอนเกินแรงไขว่คว้า 人海漂泊 嚐盡人情淡泊 คลื่นคนลอยวน ลองสิ้นน้ำใจเฉยชา 熱情熱心 換冷淡冷漠 ไออุ่นกลับได้ ความเย็นชาแลกมา 任多少深情獨向寂寞 แม้รักเท่าไหร่ก็หันสู่เอกา 人隨風過 自在花開花又落 คนไหลตามลม ดุจมาลาบานแล้วโรยรา 不管世間滄桑如何 ช่างโลกที่ผกผันอนาถา 一城風絮 滿腹相思都沉默 ดอกหญ้าลอยมา แรงคนึงกลายเป็นเฉยชา 只有桂花香暗飄過 มีเพียงหมื่นลี้หอมพัดผ่านมา https://youtu.be/RsT5ZUzncg0?si=LHOndBqH59NysPUM cr. https://www.youtube.com/results?search_query=%E9%99%B3%E6%95%8F
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 154 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้ทรงปัญญาไม่พูด (知者不言)

    เหตุใดเหลาจื่อจึงกล่าวว่า "ผู้ทรงปัญญาไม่พูด"

    เพราะ...

    ถังน้ำที่กลวงเปล่า ย่อมจะเคาะส่งเสียงดังกังวานกว่าถังน้ำที่มีน้ำเต็มเป็นฉันใด

    อันผู้ไร้ปัญญา ก็ย่อมจะชอบพูดจาโอ้อวดมากกว่าผู้ทรงปัญญา ฉันนั้น
    ผู้ทรงปัญญาไม่พูด (知者不言) เหตุใดเหลาจื่อจึงกล่าวว่า "ผู้ทรงปัญญาไม่พูด" เพราะ... ถังน้ำที่กลวงเปล่า ย่อมจะเคาะส่งเสียงดังกังวานกว่าถังน้ำที่มีน้ำเต็มเป็นฉันใด อันผู้ไร้ปัญญา ก็ย่อมจะชอบพูดจาโอ้อวดมากกว่าผู้ทรงปัญญา ฉันนั้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 รีวิว
  • 憶江南
    คิดถึงเจียงหนัน
    白居易、辛曉娟作詞,劉卓作曲,沈忱編曲
    ป๋ายจวีอี้
    ปรับเนื้อร้อง : ซินเสี่ยวเจวียน
    ทำนอง : หลิวจั๋ว
    แต่งทำนอง : เสิ่นเฉิน

    江南好 風景舊曾諳
    เจียงหนันงาม งดงามภาพทรงจำ
    日出江花紅勝火 春來江水綠如藍
    จาวน้ำยามเช้าแดงยิ่งไฟ วสันต์ธารใสดุจครามไหล
    能不憶江南
    ไม่คิดถึงได้ไย
    最悠閒系舟古渡口
    สุดสำราญผูกเรือเทียบท่าเก่า
    最灑脫騎鶴下揚州
    สุดเริงเร้าลอยล่องลงหยางโจว
    人若問江南何所有
    หากใครถามเจียงหนันไยเฉิดโฉม
    小橋流水船家櫓聲幽幽
    สะพานธารใสชาวเรือเสียงพายเบาเบา
    江南憶 最憶是杭州
    คิดเจียงหนัน มากสุดคือหังโจว
    山寺月中尋桂子 郡亭枕上看潮頭
    วัดดอยจันทร์ลอยหมื่นลี้หอม ขึ้นจวนหนุนหมอนชมคลื่นโหม
    何日更重遊
    วันใดได้เยือนโฉม
    最得意是畫舫載酒
    สุดวิลาสเรือศิลป์ปิ่นสุรา
    最傷懷是獨上層樓
    ทุกข์อุราเอกาขึ้นหอคอย
    你問我為何事勾留
    หากเธอถามเรื่องใดเหนี่ยวใจลอย
    湖光山色微雨一船菱藕
    ผิวธารบรรพตฝนโปรยดารณีน้อย
    江南憶 其次憶吳宮
    คิดเจียงหนัน ยิ่งนึกถึงวังอู๋
    吳酒一杯春竹葉 吳娃雙舞醉芙蓉
    หนึ่งจอกไผ่เขียวสุราอู๋ รำร่ายพริ้มพรายสุดาคู่
    早晚復相逢
    เช้าค่ำพบโฉมตรู
    最流連是秉燭夜遊
    สุดคะนึงถือเทียนท่องราตรี
    最銷魂她眼波含秋
    หลุดฤดีแววตาเธอหยาดเยิ้ม
    別夢中似風景依舊
    แม้หลับฝันยังซึ้งทรวงดังเดิม
    花橋水閣月照半城煙柳
    เรือนน้ำสะพานจันทร์ฉายเมืองหมอกหลิวพราย

    https://youtu.be/WUUYAumzvvE?si=YmOgjxHlcZek-85P
    憶江南 คิดถึงเจียงหนัน 白居易、辛曉娟作詞,劉卓作曲,沈忱編曲 ป๋ายจวีอี้ ปรับเนื้อร้อง : ซินเสี่ยวเจวียน ทำนอง : หลิวจั๋ว แต่งทำนอง : เสิ่นเฉิน 江南好 風景舊曾諳 เจียงหนันงาม งดงามภาพทรงจำ 日出江花紅勝火 春來江水綠如藍 จาวน้ำยามเช้าแดงยิ่งไฟ วสันต์ธารใสดุจครามไหล 能不憶江南 ไม่คิดถึงได้ไย 最悠閒系舟古渡口 สุดสำราญผูกเรือเทียบท่าเก่า 最灑脫騎鶴下揚州 สุดเริงเร้าลอยล่องลงหยางโจว 人若問江南何所有 หากใครถามเจียงหนันไยเฉิดโฉม 小橋流水船家櫓聲幽幽 สะพานธารใสชาวเรือเสียงพายเบาเบา 江南憶 最憶是杭州 คิดเจียงหนัน มากสุดคือหังโจว 山寺月中尋桂子 郡亭枕上看潮頭 วัดดอยจันทร์ลอยหมื่นลี้หอม ขึ้นจวนหนุนหมอนชมคลื่นโหม 何日更重遊 วันใดได้เยือนโฉม 最得意是畫舫載酒 สุดวิลาสเรือศิลป์ปิ่นสุรา 最傷懷是獨上層樓 ทุกข์อุราเอกาขึ้นหอคอย 你問我為何事勾留 หากเธอถามเรื่องใดเหนี่ยวใจลอย 湖光山色微雨一船菱藕 ผิวธารบรรพตฝนโปรยดารณีน้อย 江南憶 其次憶吳宮 คิดเจียงหนัน ยิ่งนึกถึงวังอู๋ 吳酒一杯春竹葉 吳娃雙舞醉芙蓉 หนึ่งจอกไผ่เขียวสุราอู๋ รำร่ายพริ้มพรายสุดาคู่ 早晚復相逢 เช้าค่ำพบโฉมตรู 最流連是秉燭夜遊 สุดคะนึงถือเทียนท่องราตรี 最銷魂她眼波含秋 หลุดฤดีแววตาเธอหยาดเยิ้ม 別夢中似風景依舊 แม้หลับฝันยังซึ้งทรวงดังเดิม 花橋水閣月照半城煙柳 เรือนน้ำสะพานจันทร์ฉายเมืองหมอกหลิวพราย https://youtu.be/WUUYAumzvvE?si=YmOgjxHlcZek-85P
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • ใจอริยา (聖人心)

    ใจแห่งพระอริยเจ้าจะนิจครองมั่นในสุญตา ตราบแม้ฟ้าดินพังทลายอยู่ตรงหน้า ใจแห่งพระอริยเจ้าก็จะยังคงนิ่งสงบอยู่เช่นนั้น หรือต่อแม้สัปตรัตนะดารดาษทั่วดินฟ้า ใจของพระอริยเจ้าก็จะยังคงเป็นอยู่เช่นนั้น

    แม้นใจแห่งพระอริยเจ้าจะดำรงมั่นในสุญตาอย่างหนักแน่น จนเสมือนว่าเป็นก้อนดินหินกรวดที่ไร้ชีวิตจิตใจก็จริง แต่ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่

    ดังเหลาจื่อที่กล่าวว่า “เต๋านั้นนิจอกรรม หากแต่ไม่มีสิ่งที่ไม่กระทำ” ดังนั้นแม้นเต๋าจะว่างเปล่า หากแต่เต๋าก็สร้างสรรค์สรรพสิ่งนานา แม้นนภากาศจะว่างเปล่า แต่นภากาศก็โอบอุ้มสุริยันจันทรา แม้นแผ่นดินจะว่างเปล่า แต่แผ่นดินก็แบกรับภูผาธารา แม้นแก้วน้ำจะว่างเปล่า แต่แก้วน้ำก็ยังทำหน้าที่บรรจุสิ่งของโดยไม่เคยอิดเอื้อน

    สิ่งเหล่านี้เป็นฉันใด ใจอันว่างเปล่าแห่งพระอริยเจ้าก็เป็นฉันนั้น

    ใจอริยา (聖人心) ใจแห่งพระอริยเจ้าจะนิจครองมั่นในสุญตา ตราบแม้ฟ้าดินพังทลายอยู่ตรงหน้า ใจแห่งพระอริยเจ้าก็จะยังคงนิ่งสงบอยู่เช่นนั้น หรือต่อแม้สัปตรัตนะดารดาษทั่วดินฟ้า ใจของพระอริยเจ้าก็จะยังคงเป็นอยู่เช่นนั้น แม้นใจแห่งพระอริยเจ้าจะดำรงมั่นในสุญตาอย่างหนักแน่น จนเสมือนว่าเป็นก้อนดินหินกรวดที่ไร้ชีวิตจิตใจก็จริง แต่ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ ดังเหลาจื่อที่กล่าวว่า “เต๋านั้นนิจอกรรม หากแต่ไม่มีสิ่งที่ไม่กระทำ” ดังนั้นแม้นเต๋าจะว่างเปล่า หากแต่เต๋าก็สร้างสรรค์สรรพสิ่งนานา แม้นนภากาศจะว่างเปล่า แต่นภากาศก็โอบอุ้มสุริยันจันทรา แม้นแผ่นดินจะว่างเปล่า แต่แผ่นดินก็แบกรับภูผาธารา แม้นแก้วน้ำจะว่างเปล่า แต่แก้วน้ำก็ยังทำหน้าที่บรรจุสิ่งของโดยไม่เคยอิดเอื้อน สิ่งเหล่านี้เป็นฉันใด ใจอันว่างเปล่าแห่งพระอริยเจ้าก็เป็นฉันนั้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 0 รีวิว
  • หากกฎบัญญัติยิ่งมากมาย
    โจรผู้ร้ายจักยิ่งชุกชุม
    (法令滋彰,盜賊多有。)


    จรรยาเสื่อมกฎหมายจึงเกิด จรรยามีกฎหมายก็ไม่มี
    ดังนั้น หากบ้านใดเมืองใดที่ผู้ปกครองบัญญัติข้อกฎหมายไว้มากมาย โดยหาได้มุ่งประศาสน์ปวงชนด้วยคุณธรรมความดีแล้วไซร้ นี่คือการแก้ไขที่ปลายเหตุ โดยหาได้ปรับปรุงแก้ไขที่ต้นเหตุแห่งปัญหาเลยไม่ หากยังกระทำเช่นนี้อยู่ต่อไป ยามนั้นประชาชนจะขาดความละอายที่จะรู้ยั้งคิดไม่ทำความผิด หากจะมีแต่ใจที่เปี่ยมด้วยทิฐิไม่ยอมรับผิดและมุ่งแต่แหกกฎไม่เคารพกฎหมาย สังคมยามนั้นก็จะมีแต่โจรผู้ร้าย ทั้งโจรที่ประกาศตัวเป็นโจรอย่างเปิดเผย หรือโจรที่แฝงเร้นไม่ประกาศตัวเป็นโจรและอาศัยอยู่ตามชุมชนอีกมากมาย สังคมเช่นนี้จึงเป็นสังคมที่เห็นแก่ตัวและแก่งแย่งชิงดี ด้วยแม้นจะพยายามยกระดับกฎหมายให้มากขึ้นเท่าไหร่ แต่สุดท้ายก็จะยิ่งมีแต่โจรผู้ร้ายเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น

    อุปมาดั่งมนุษย์ที่พยายามอุดกั้นน้ำ แลมนุษย์ก็หาได้เคยเอาชนะน้ำแต่อย่างใดไม่ เป็นฉันใด การปกครองที่มุ่งแต่สร้างกฎหมายข้อบังคับอันมากมาย ก็มิอาจปิดกั้นโจรผู้ร้ายที่มีใจมุ่งคิดแต่จะก่ออกุศลได้ฉันนั้นดุจเดียวกัน

    นับหลายพันปีล่วงมา กฎหมายตราตั้งมีมากมายสุดประมาณ แต่หลายพันปีมานี้ หาได้เห็นโจรผู้ร้ายลดลงแต่อย่างใดไม่

    แก้ปลายเหตุ จึงหาได้มีประสิทธิภาพเท่าการแก้ไขที่ต้นเหตุไม่

    (เต๋าเต็กเก็ง)
    หากกฎบัญญัติยิ่งมากมาย โจรผู้ร้ายจักยิ่งชุกชุม (法令滋彰,盜賊多有。) จรรยาเสื่อมกฎหมายจึงเกิด จรรยามีกฎหมายก็ไม่มี ดังนั้น หากบ้านใดเมืองใดที่ผู้ปกครองบัญญัติข้อกฎหมายไว้มากมาย โดยหาได้มุ่งประศาสน์ปวงชนด้วยคุณธรรมความดีแล้วไซร้ นี่คือการแก้ไขที่ปลายเหตุ โดยหาได้ปรับปรุงแก้ไขที่ต้นเหตุแห่งปัญหาเลยไม่ หากยังกระทำเช่นนี้อยู่ต่อไป ยามนั้นประชาชนจะขาดความละอายที่จะรู้ยั้งคิดไม่ทำความผิด หากจะมีแต่ใจที่เปี่ยมด้วยทิฐิไม่ยอมรับผิดและมุ่งแต่แหกกฎไม่เคารพกฎหมาย สังคมยามนั้นก็จะมีแต่โจรผู้ร้าย ทั้งโจรที่ประกาศตัวเป็นโจรอย่างเปิดเผย หรือโจรที่แฝงเร้นไม่ประกาศตัวเป็นโจรและอาศัยอยู่ตามชุมชนอีกมากมาย สังคมเช่นนี้จึงเป็นสังคมที่เห็นแก่ตัวและแก่งแย่งชิงดี ด้วยแม้นจะพยายามยกระดับกฎหมายให้มากขึ้นเท่าไหร่ แต่สุดท้ายก็จะยิ่งมีแต่โจรผู้ร้ายเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น อุปมาดั่งมนุษย์ที่พยายามอุดกั้นน้ำ แลมนุษย์ก็หาได้เคยเอาชนะน้ำแต่อย่างใดไม่ เป็นฉันใด การปกครองที่มุ่งแต่สร้างกฎหมายข้อบังคับอันมากมาย ก็มิอาจปิดกั้นโจรผู้ร้ายที่มีใจมุ่งคิดแต่จะก่ออกุศลได้ฉันนั้นดุจเดียวกัน นับหลายพันปีล่วงมา กฎหมายตราตั้งมีมากมายสุดประมาณ แต่หลายพันปีมานี้ หาได้เห็นโจรผู้ร้ายลดลงแต่อย่างใดไม่ แก้ปลายเหตุ จึงหาได้มีประสิทธิภาพเท่าการแก้ไขที่ต้นเหตุไม่ (เต๋าเต็กเก็ง)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 161 มุมมอง 0 รีวิว
  • พลังแห่งเต๋า

    เหลาจื่อกล่าวว่า เต๋าไร้รูปลักษณ์ ดูอ่อนด้อย เสมือนว่าไร้พลัง หากแต่โคจรสรรพสิ่ง
    เต๋าทำได้อย่างไร นั่นเพราะเต๋ามีพลังอย่างหนึ่งที่เรียกว่า "คุณธรรม"

    ในบทที่ ๕๑ ได้เขียนไว้อย่างนี้

    เต๋าให้กำเนิด คุณธรรมให้การหล่อเลี้ยง (道生之 德畜之)
    หมายความไฉน

    สรรพสิ่งในใต้หล้าจะต้องประกอบด้วยสองคุณลักษณะ คุณลักษณะหนึ่งคือแก่น อีกคุณลักษณะหนึ่งคืออานุภาพ แก่นคือประธาน อานุภาพคือพลังที่แสดงออกแห่งประธานนั้น แก่นคือส่วนใน อานุภาพคือส่วนนอก แก่นคือหลักของอานุภาพ อานุภาพคือการแสดงออกของแก่น ไร้แก่นมิอาจมีอานุภาพ ไร้อานุภาพก็มิอาจเห็นซึ่งประโยชน์ของแก่น
    แก่นและอานุภาพเป็นสองสิ่งในสิ่งเดียว แยกจากกันไม่ได้ อยู่อย่างเป็นเอกเทศก็ไม่ได้ สองสิ่งจะเอื้อซึ่งกันและกัน และกระทบซึ่งกันและกัน ยกตัวอย่างเช่น แก้วน้ำคือแก่น การใส่น้ำคืออานุภาพของแก้ว ดินคือแก่น การให้ผลผลิต การเก็บกักน้ำ การสร้างอาคารบ้านอาศัยคืออานุภาพของดิน ไฟคือแก่น แสงที่เกิดจากไฟคืออานุภาพ เป็นต้น

    สรรพสิ่งในโลกย่อมเป็นไปเช่นนี้ ทุกสิ่งเกิดมาจะต้องมีอานุภาพ มีประโยชน์ ต่อให้เป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ในสายตาของชาวโลก สุดท้ายก็ย่อมจะต้องมีประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งในวงจรแห่งธรรมชาติอยู่ดี นี่ก็คือความสัมพันธ์ระหว่างแก่นและอานุภาพ

    สรรพสิ่งที่มีความสัมพันธ์ของแก่นและอานุภาพเป็นฉันใด เต๋าที่เป็นเอกแห่งสากล เป็นต้นกำเนิดแห่งสรรพสิ่ง ก็ย่อมเป็นฉันนั้นดุจเดียวกัน

    กล่าวคือ เต๋าเป็นแก่น คุณธรรมเป็นอานุภาพแห่งเต๋า เต๋าให้กำเนิดสรรพสิ่ง เป็นหลักของสรรพสิ่ง ส่วนคุณธรรมก็ทำหน้าที่ในการหล่อเลี้ยงสรรพสิ่งให้เติบใหญ่ บำรุงสรรพสิ่งให้มีชีวิตชีวา

    คุณธรรมคืออานุภาพแห่งเต๋า เต๋าเป็นแก่นแห่งคุณธรรม คุณธรรมนั้นไร้รูปลักษณ์ คือพลานุภาพที่แสดงออกแห่งเต๋า เป็นพลังที่บำรุงสรรพสิ่ง ผลักดันสิ่งเลวร้ายให้มลาย เป็นพลังที่จับต้องได้ยาก แต่จะแสดงออกให้เราเห็นในรูปของความกตัญญู ความจงรักภักดี ความมีสัจจะ ความสุจริตยุติธรรม และอื่นๆ อีกมากมายสุดที่จะพรรณนาสิ้น ดังนั้นผู้ที่เข้าถึงเต๋า จึงพึงบำเพ็ญคุณธรรมทั้งปวงให้ถึงพร้อม ปฏิบัติคุณธรรมทั้งปวงให้สมบูรณ์ เช่นนี้จึงจะเข้าถึงเต๋าได้

    คุณธรรมที่เป็นอานุภาพแห่งเต๋ามีอยู่ทั่วไปในธรรมชาติ ผู้คนไม่รู้จักพลังที่คอยหนุนนำสรรพสิ่งในโลกหล้านี้ เหลาจื่อจึงเรียกพลังที่เป็นอานุภาพแห่งเต๋านี้ว่า “คุณธรรม”

    คุณธรรมทำหน้าที่ในการทำนุบำรุงสรรพสิ่ง หล่อเลี้ยงสรรพสิ่ง เป็นพลังที่มิอาจจับต้องมองเห็น หากแต่สามารถสัมผัสได้ด้วยใจ

    ในสมัยราชวงศ์ซ้อง มีขุนนางผู้มีใจอาจหาญท่านหนึ่งนามว่า “เหวินเทียนเสียง (文天祥)” ก็เป็นผู้หนึ่งที่สามารถสัมผัสถึงการคงอยู่ของพลังแห่งคุณธรรมนี้

    ในสมัยนั้น เหวินเทียนเสียงเป็นขุนนางตงฉินที่ถูกขังในคุกใต้ดินเป็นเวลานานถึงห้าปี หลายคนมิอาจทนอยู่กับสภาพอันโหดร้ายภายในคุกจนเจ็บป่วยล้มตายไปเป็นจำนวนมาก สาเหตุเพราะต้องทนทุกข์ทรมานกับพลังร้ายในคุกใต้ดินถึงเจ็ดอย่าง เหวินเทียนเสียงเรียกพลังทั้งเจ็ดนี้ว่าเจ็ดพิษร้าย ประกอบด้วยพิษน้ำ (水氣) พิษดิน (土氣) พิษแดด (日氣) พิษไฟ (火氣) พิษข้าว (米氣) พิษไคล (人氣) พิษโสโครก (穢氣) ทุกคนต่างมิอาจทนอยู่กับสภาพของพิษร้ายทั้งเจ็ดนี้ได้ หากจะมีเหวินเทียนเสียงเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยังสามารถหยัดยืนมั่นคงในท่ามกลางพิษทั้งเจ็ดนี้อย่างไม่สะทกสะท้าน

    เหวินเทียนเสียงสันนิษฐานว่าต้องมีพลังอยู่อย่างหนึ่งที่คอยทานพิษทั้งเจ็ดนี้ไว้ ท่านไม่รู้ว่าพลังในท่ามกลางฟ้าดินนี้คือสิ่งใด จึงเรียกพลังนี้ว่าเจิ้งชี่ (正氣) หรือก็คือพลังเที่ยงธรรม เรียกสั้นๆ ว่าพลังธรรม

    พลังธรรมที่เหวินเทียนเสียงพบคือรูปแบบหนึ่งของพลังคุณธรรมแห่งเต๋านี้ คุณธรรมนี้เป็นพลังที่คอยหล่อเลี้ยงสรรพสิ่ง ไร้รูปไร้ลักษณ์ มีอยู่ทุกแห่งหน เป็นพลังที่ต่อต้านสิ่งเลวร้ายทั้งหลาย ยามที่จิตใจของผู้คนมีความเมตตาอันสูงส่ง มีความกตัญญูอันยิ่งใหญ่ มีสัจจะวาจาที่เข้มแข็ง มีความจงรักภักดีอย่างไม่ห่วงกายา มีจิตกรุณาอารียิ่งเทียมฟ้า ยามนั้น คนผู้นี้ก็จะเป็นผู้ที่เข้าถึงเต๋า ด้วยเพราะคุณธรรมต่างๆ ที่เขาได้บำเพ็ญเพียรมา แท้ก็คือพลังคุณธรรมที่เป็นอานุภาพแห่งเต๋านี้นั่นแล
    พลังแห่งเต๋า เหลาจื่อกล่าวว่า เต๋าไร้รูปลักษณ์ ดูอ่อนด้อย เสมือนว่าไร้พลัง หากแต่โคจรสรรพสิ่ง เต๋าทำได้อย่างไร นั่นเพราะเต๋ามีพลังอย่างหนึ่งที่เรียกว่า "คุณธรรม" ในบทที่ ๕๑ ได้เขียนไว้อย่างนี้ เต๋าให้กำเนิด คุณธรรมให้การหล่อเลี้ยง (道生之 德畜之) หมายความไฉน สรรพสิ่งในใต้หล้าจะต้องประกอบด้วยสองคุณลักษณะ คุณลักษณะหนึ่งคือแก่น อีกคุณลักษณะหนึ่งคืออานุภาพ แก่นคือประธาน อานุภาพคือพลังที่แสดงออกแห่งประธานนั้น แก่นคือส่วนใน อานุภาพคือส่วนนอก แก่นคือหลักของอานุภาพ อานุภาพคือการแสดงออกของแก่น ไร้แก่นมิอาจมีอานุภาพ ไร้อานุภาพก็มิอาจเห็นซึ่งประโยชน์ของแก่น แก่นและอานุภาพเป็นสองสิ่งในสิ่งเดียว แยกจากกันไม่ได้ อยู่อย่างเป็นเอกเทศก็ไม่ได้ สองสิ่งจะเอื้อซึ่งกันและกัน และกระทบซึ่งกันและกัน ยกตัวอย่างเช่น แก้วน้ำคือแก่น การใส่น้ำคืออานุภาพของแก้ว ดินคือแก่น การให้ผลผลิต การเก็บกักน้ำ การสร้างอาคารบ้านอาศัยคืออานุภาพของดิน ไฟคือแก่น แสงที่เกิดจากไฟคืออานุภาพ เป็นต้น สรรพสิ่งในโลกย่อมเป็นไปเช่นนี้ ทุกสิ่งเกิดมาจะต้องมีอานุภาพ มีประโยชน์ ต่อให้เป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ในสายตาของชาวโลก สุดท้ายก็ย่อมจะต้องมีประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งในวงจรแห่งธรรมชาติอยู่ดี นี่ก็คือความสัมพันธ์ระหว่างแก่นและอานุภาพ สรรพสิ่งที่มีความสัมพันธ์ของแก่นและอานุภาพเป็นฉันใด เต๋าที่เป็นเอกแห่งสากล เป็นต้นกำเนิดแห่งสรรพสิ่ง ก็ย่อมเป็นฉันนั้นดุจเดียวกัน กล่าวคือ เต๋าเป็นแก่น คุณธรรมเป็นอานุภาพแห่งเต๋า เต๋าให้กำเนิดสรรพสิ่ง เป็นหลักของสรรพสิ่ง ส่วนคุณธรรมก็ทำหน้าที่ในการหล่อเลี้ยงสรรพสิ่งให้เติบใหญ่ บำรุงสรรพสิ่งให้มีชีวิตชีวา คุณธรรมคืออานุภาพแห่งเต๋า เต๋าเป็นแก่นแห่งคุณธรรม คุณธรรมนั้นไร้รูปลักษณ์ คือพลานุภาพที่แสดงออกแห่งเต๋า เป็นพลังที่บำรุงสรรพสิ่ง ผลักดันสิ่งเลวร้ายให้มลาย เป็นพลังที่จับต้องได้ยาก แต่จะแสดงออกให้เราเห็นในรูปของความกตัญญู ความจงรักภักดี ความมีสัจจะ ความสุจริตยุติธรรม และอื่นๆ อีกมากมายสุดที่จะพรรณนาสิ้น ดังนั้นผู้ที่เข้าถึงเต๋า จึงพึงบำเพ็ญคุณธรรมทั้งปวงให้ถึงพร้อม ปฏิบัติคุณธรรมทั้งปวงให้สมบูรณ์ เช่นนี้จึงจะเข้าถึงเต๋าได้ คุณธรรมที่เป็นอานุภาพแห่งเต๋ามีอยู่ทั่วไปในธรรมชาติ ผู้คนไม่รู้จักพลังที่คอยหนุนนำสรรพสิ่งในโลกหล้านี้ เหลาจื่อจึงเรียกพลังที่เป็นอานุภาพแห่งเต๋านี้ว่า “คุณธรรม” คุณธรรมทำหน้าที่ในการทำนุบำรุงสรรพสิ่ง หล่อเลี้ยงสรรพสิ่ง เป็นพลังที่มิอาจจับต้องมองเห็น หากแต่สามารถสัมผัสได้ด้วยใจ ในสมัยราชวงศ์ซ้อง มีขุนนางผู้มีใจอาจหาญท่านหนึ่งนามว่า “เหวินเทียนเสียง (文天祥)” ก็เป็นผู้หนึ่งที่สามารถสัมผัสถึงการคงอยู่ของพลังแห่งคุณธรรมนี้ ในสมัยนั้น เหวินเทียนเสียงเป็นขุนนางตงฉินที่ถูกขังในคุกใต้ดินเป็นเวลานานถึงห้าปี หลายคนมิอาจทนอยู่กับสภาพอันโหดร้ายภายในคุกจนเจ็บป่วยล้มตายไปเป็นจำนวนมาก สาเหตุเพราะต้องทนทุกข์ทรมานกับพลังร้ายในคุกใต้ดินถึงเจ็ดอย่าง เหวินเทียนเสียงเรียกพลังทั้งเจ็ดนี้ว่าเจ็ดพิษร้าย ประกอบด้วยพิษน้ำ (水氣) พิษดิน (土氣) พิษแดด (日氣) พิษไฟ (火氣) พิษข้าว (米氣) พิษไคล (人氣) พิษโสโครก (穢氣) ทุกคนต่างมิอาจทนอยู่กับสภาพของพิษร้ายทั้งเจ็ดนี้ได้ หากจะมีเหวินเทียนเสียงเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยังสามารถหยัดยืนมั่นคงในท่ามกลางพิษทั้งเจ็ดนี้อย่างไม่สะทกสะท้าน เหวินเทียนเสียงสันนิษฐานว่าต้องมีพลังอยู่อย่างหนึ่งที่คอยทานพิษทั้งเจ็ดนี้ไว้ ท่านไม่รู้ว่าพลังในท่ามกลางฟ้าดินนี้คือสิ่งใด จึงเรียกพลังนี้ว่าเจิ้งชี่ (正氣) หรือก็คือพลังเที่ยงธรรม เรียกสั้นๆ ว่าพลังธรรม พลังธรรมที่เหวินเทียนเสียงพบคือรูปแบบหนึ่งของพลังคุณธรรมแห่งเต๋านี้ คุณธรรมนี้เป็นพลังที่คอยหล่อเลี้ยงสรรพสิ่ง ไร้รูปไร้ลักษณ์ มีอยู่ทุกแห่งหน เป็นพลังที่ต่อต้านสิ่งเลวร้ายทั้งหลาย ยามที่จิตใจของผู้คนมีความเมตตาอันสูงส่ง มีความกตัญญูอันยิ่งใหญ่ มีสัจจะวาจาที่เข้มแข็ง มีความจงรักภักดีอย่างไม่ห่วงกายา มีจิตกรุณาอารียิ่งเทียมฟ้า ยามนั้น คนผู้นี้ก็จะเป็นผู้ที่เข้าถึงเต๋า ด้วยเพราะคุณธรรมต่างๆ ที่เขาได้บำเพ็ญเพียรมา แท้ก็คือพลังคุณธรรมที่เป็นอานุภาพแห่งเต๋านี้นั่นแล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 183 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
เรื่องราวเพิ่มเติม