#ยิ่งปั่นยิ่งมัดตัวเอง การที่มีการขึ้นเทรน แบนแน็กชาลี ซึ่งเพจคิงส์โพธิ์แดงก็อธิบายถึงที่มา และกระบวนการในการปั๊มยูซผี และการสร้างเทรนทิพย์ ไปมากพอสมควร แต่ยิ่ง กรณีที่ฝั่งโจมณฑนีและเครือข่าย ยิ่งปั่น ยิ่งคอนเฟิร์มว่าเป็นของจริง มันจะเกิดคำถามสำคัญทันที เอาเพียงแค่ข่าวเบสิค ที่คนไทยส่วนใหญ่รู้ คือแน๊ก และกามิน เลิกคบกัน ซึ่งการขึ้นเทรนแบนแน็กชาลี แล้วยอดยิ่งอันดับหนึ่ง มันคือหลักฐานสำคัญ ที่จะมัดตัวโจ และเครือข่าย เพราะอยู่ดีๆ แค่แน๊ก เลิกกับกามิน มันก็เหมือนคู่รักทั่วไป ที่มาคนหนึ่งเป็นดารา อีกคนหนึ่งก็เป็นคนต่างชาติ แยกย้ายกันไปคือจบ แต่การที่มีเทรน เซฟกามิน และแบนชาลี มันคือต้องมีประเด็น มองง่ายๆคือ ชาลีต้องทำอะไรผิด และกามินคือคนที่ต้องปกป้อง คำถามเกิดทันที แล้วใคร เป็นคนที่สร้างข้อมูลนี้มันเกิดขึ้นเองไม่ได้ เพราะสิ่งที่โจและเครือข่ายลืมสนิทไปก็คือ ไม่มีสำนักข่าวไหนนำเสนอหลังจากที่ลงเรื่องแน๊กกับกามินเลิกกัน โผล่มาอีกที ก็ขึ้นเป็นเทรนในx ที่โจแจกสนข ต่างๆ มันจึงต้องมีที่มาที่ไป และต้องมีคนทำแน่นอน เกิดสูญญากาศไม่ได้ ขึ้นแฮชแท็คพร้อมกันจนขึ้นเทรน ใครสร้างแคมเปญ ใครนัด ใครชวน ทุกอย่างต้องมีที่มา ช่องวางตรงนี้แหละที่โจจะตอบไม่ได้ ดังนั้น ก็เป็นความชอบธรรม ที่แน๊ก และครอบครัว จะต้องตามหากลุ่มคนที่ปั่น ให้ชาลีต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง และยิ่งอ้างว่า คนเซฟกามินเป็นแสน แบนชาลีหลายหมื่น แปลว่า ทำคนเดียวปั่นคนเดียวไม่ได้ ยิ่งยืนยันถึงการมีขบก. แล้วสุดท้าย คนที่ออกหน้าออกตาที่สุด ก็คือ โจมณฑนี ปั่นยังไงให้เข้าตัว ยิ่งยืนยันว่าของจริง ยิ่งต้องหาถึงที่มา ว่าใครอยู่ในขบวนการ และเนื้อหาที่สร้างขึ้น ร้ายแรงขนาดไหน เป็นข้อความแบบใด จึงทำให้เกิดเทรนแบนได้ ซึ่งนี่ เป็นสิ่งที่ผิดต่อก-ฏ-ห-ม-า-ย อย่างมโหฬาร ทั้งผู้กระทำความผิด ทั้งจำนวนครั้งในการทำ นี่คือลูกศรที่ปล่อยออกไป จะกลับย้อนมาที่ขบก.เอง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ปลายทางจบไม่สวยแน่นอน #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง